วันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2559


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เลสเตอร์ ซิตี้ ( 18:30 น. )
เจอกันในลีกซีซั่นก่อนเสมอ 1-1 ทั้งเหย้า-เยือนแต่ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ปีนี้ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ 2-1 คว้าโล่ไปครอง

"ปีศาจแดง" ต้องขาด อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ปีกซ้ายหน้าตายเจ็บหนักที่น่องกับข้อเท้าและ ฟิล โจนส์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟหน้าเหวอเดี้ยงอยู่อีกคน

อย่างไรก็ดีริมเส้นได้ ลุค ชอว์ หายเจ็บโคนขาหนีบและ เฮ็นริค มคิทาร์ยาน สลัดอาการเจ็บต้นขากลับมาฟิตพร้อมเป็นตัวเลือก

"จิ้งจอกสยาม" อาจส่ง รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ เฝ้าเสาต่อแม้ แคสเปอร์ ชไมเคิล หายจากอาการกระทบกระเทือนแต่ดันมีปัญหากล้ามเนื้อแทน

เกมรับไร้ มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ ติดโทษแบนและจะไม่เสี่ยงส่ง น็อมปาลิส เมนดี้ ที่ยังไม่หายเจ็บดีลงสนาม

เกร็ดน่าสนใจ
- ยูไนเต็ด ไม่แพ้ เลสเตอร์ ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ใน พรีเมียร์ลีก 7 นัดติดต่อกัน
- โจเซ่ มูรินโญ่ มีสิทธิ์แพ้คาบ้านเกมในลีก 3 ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นกับ เชลซี ซีซั่นก่อน
- มูรินโญ่ แพ้ในลีก 12 จาก 23 นัดหลังสุดทั้งที่ก่อนหน้านั้นกว่าจะแพ้ในลีก 12 นัดต้องใช้เวลาถึง 110 นัด
- ตั้งแต่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซีซั่นก่อนถึง ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงในบ้านเกมในลีก 6 นัดติดต่อกันรวม 12 ตุง
- ลากยาวจากซีซั่นที่แล้ว เลสเตอร์ ไม่ชนะเกมเยือนใน พรีเมียร์ลีก 4 นัดติดต่อกันและมีสิทธิ์แพ้เกมเยือนในลีก 3 นัดซ้อนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ธันวาคม 2014
- เคลาดิโอ รานิเอรี่ คุมทีมไม่แพ้ มูรินโญ่ มาแล้ว 4 นัดติดต่อกัน ( ชนะ 2 เสมอ 2 )
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : แมนยู ชนะ 2-1
เบน ฟรีคิก ฟันธง : เสมอ 1-1


บอร์นมัธ - เอฟเวอร์ตัน ( 21:00 น. )
เจอกันซีซั่นก่อนในลีก เอฟเวอร์ตัน ทำได้ดีกว่า ( เหย้า 2-1 , เยือน 3-3 ) ส่วนใน เอฟเอ คัพ ก็บุกชนะ 2-0

"เดอะ เชอร์รี่ส์" อาจส่ง แดน กอสลิ่ง ลงตัวจริงแผงกลางหลังโชว์ฟอร์มน่าประทับใจในเกมแพ้ เปรสตัน นอร์ธ เอ็นด์ ตกรอบ อีเอฟแอล คัพ เมื่อกลางสัปดาห์

ก่อนเกมกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว เปิดเผยว่ามีลูกทีม 2-3 ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ยอมบอกชื่อ

"ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน" เตรียมส่ง โรเมลู ลูกากู กลับมาล่าตาข่ายหลังเจ็บนิ้วเท้าจนพลาดเกมแพ้ นอริช ซิตี้ คาบ้านตกรอบ อีเอฟแอล คัพ เมื่อกลางสัปดาห์

แผงกลาง เจมส์ แม็คคาร์ธี่ กับ ดาร์รอน กิ๊บสัน อยู่ระหว่างฟื้นตัวจากโรคเดี้ยงยังไม่พร้อมกลับมาลงสนามส่วน มูฮาเหม็ด เบซิช เจ็บยาว
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : เสมอ 1-1
เบน ฟรีคิก ฟันธง : เสมอ 2-2


ลิเวอร์พูล - ฮัลล์ ซิตี้ ( 21:00 น. )
"หงส์แดง" เตรียมเรียก อดัม ลัลลาน่า และ จอร์จินิโอ ไวนัลดุม กลับมาเป็นตัวจริงแผงกลางหลังได้พักในเกม อีเอฟแอล คัพ กลางสัปดาห์ที่ถล่ม ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 3-0

แดนหน้าต้องลุ้น แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่มีปัญหาความฟิตจนพลาดเกมกับ "แกะเขาเหล็ก" เช่นกัน

"เดอะ ไทเกอร์ส" ได้ เจค ลิเวอร์มอร์ กองกลางสารพัดประโยชน์พ้นโทษแบนกลับมา

ไรอัน เมสัน คือหนึ่งใน 6 นักเตะใหม่ตลาดซัมเมอร์ปีนี้ที่ลุ้นสตาร์ทตัวจริงครั้งแรกใน พรีเมียร์ลีกหลังลงพร้อมหน้าในศึก อีเอฟแอล คัพ ที่บุกชนะ สโต๊ค ซิตี้ กลางสัปดาห์
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 3-0
เบน ฟรีคิก ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1


มิดเดิลสโบรห์ - ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ( 21:00 น. )
"สิงห์แดง" ได้ คริสเตียน สตูอานี่ หายเจ็บโคนขาหนีบและ จอร์แดน โร้ดส์ สลัดปัญหาเข่าเดี้ยงพร้อมเป็นตัวเลือกในแดนหน้า

กระนั้นเกมนี้ยังขาด ฟาบิโอ ดา ซิลวา ฟูลแบ็คแซมบ้าและ แกรนท์ ลีดบิตเตอร์ กองกลางจอมเก๋าเจ็บอยู่ทั้งคู่

"ไก่เดือยทอง" ไม่มี แฮร์รี่ เคน ดาวยิงตัวเก่งข้อเท้าพังพัก 6-8 สัปดาห์เสียสถิติสตาร์ทตัวจริงใน พรีเมียร์ลีก 71 นัดติดต่อกันเรียบร้อย

แผงหลังคงไม่เสี่ยงส่ง แดนนี่ โรส ที่มีอาการเจ็บแฮมสตริง( กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง )รบกวนลงสนามเช่นเดียวกับแผงกลางต้องลุ้น เอริค ไดเออร์ กับ มูซ่า เด็มเบเล่ ที่มีปัญหากล้ามเนื้อจากเกมเฉือนชนะ ซันเดอร์แลนด์ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : สเปอร์ส ชนะ 2-0
เบน ฟรีคิก ฟันธง : สเปอร์ส ชนะ 2-0


สโต๊ค ซิตี้ - เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ( 21:00 น. )
เจอกันซีซั่นก่อน เวสต์บรอมฯ ชนะทั้งเหย้า ( 2-1 ) เยือน ( 1-0 )

"ช่างปั้นหม้อ" น่าจะได้ เซอร์ดาน ชาคิรี่ ปีกสวิสที่ไม่ได้ลงสนาม 6 นัดติดต่อกันคัมแบ็คเสียทีหลังหายเจ็บน่องกลับมาซ้อมได้แล้ว

แดนหน้าต้องเช็กฟิต โจนาธาน วอลเตอร์ส มีอาการเจ็บข้อเท้ารบกวนจนพลาดเกมแพ้ ฮัลล์ คาบ้านในศึก อีเอฟแอล คัพ เมื่อกลางสัปดาห์

"มวยโลก" แทบไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บสำหรับการกลับมาเยือนทีมเก่าของกุนซือ โทนี่ พูลิส

คริส บรันท์ ปีกซ้ายไอริชคือคนเดียวที่เจ็บเข่าลงสนามไม่ได้
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : เสมอ 1-1
เบน ฟรีคิก ฟันธง : เวสต์บรอมฯ ชนะ 3-1


ซันเดอร์แลนด์ - คริสตัล พาเลซ ( 21:00 น. )
เจอกันซีซั่นก่อน ซันเดอร์แลนด์ ทำได้ดีกว่า ( เหย้า 2-2 , เยือน 1-0 )

"แมวดำ" น่าจะได้ เจอร์เมน เดโฟ ฟิตกลับมาล่าตาข่ายหลังเจ็บน่องจนพลาดเกม อีเอฟแอล คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่บุกชนะ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส

กระนั้นเกมนี้ยังขาดตัวเจ็บยาว 3 คนๆละตำแหน่งคือผู้รักษาประตู วีโต้ มานโนเน่, เซบาสเตียน ลาร์สสัน กองกลาง และ ฟาบิโอ บอรินี่ กองหน้า

"ปราสาทเรือนแก้ว" ต้องขาด สก็อตต์ แดนน์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมและดาวซัลโวสูงสุดของทีมในเวลานี้( 2 ประตู )แฮมสตริงพัง

อย่างไรก็ดีแผงหลังได้ เจมส์ ทอมกิ้นส์ ฟิตพร้อมลงสนามหลังเจ็บเข่าจนถูกเปลี่ยนออกในเกมเปิดบ้านถล่ม สโต๊ค 4-1 สุดสัปดาห์ก่อน
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : ซันเดอร์แลนด์ ชนะ 2-1
เบน ฟรีคิก ฟันธง : พาเลซ ชนะ 2-1


สวอนซี ซิตี้ - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ( 21:00 น. )
เจอกันซีซั่นก่อน แมนซิ ทำได้ดีกว่า ( เหย้า 2-1 , เยือน 1-1 ) และซีซั่นนี้เจอกันหมาดๆใน อีเอฟแอล คัพ แมนซิ ก็บุกชนะ 2-1

"หงส์ขาว" ไม่มี เนธาน ดายเออร์ ปีกร่างเล็กผ่าตัดกระดูกงอกในข้อเท้าพักยาวถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

แดนหน้า บอร์ฆา บาสตอน เตรียมสตาร์ทตัวจริงครั้งแรกใน พรีเมียร์ลีก หลังชิมลางไปแล้วในบอลถ้วยเมื่อกลางสัปดาห์

"เรือใบสีฟ้า" ได้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงมหาประลัยพ้นโทษแบน 3 นัดกลับมาแถม ดาบิด ซิลบา จอมทัพสแปนิชอาจจะฟิตทันด้วย

แผงหลังไม่มี แว็งซองต์ กอมปานี เจ็บโคนขาหนีบจากเกมกลางสัปดาห์หลังลงสนามนัดแรกในรอบ 5 เดือน
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : แมนซิ ชนะ 2-0
เบน ฟรีคิก ฟันธง : แมนซิ ชนะ 3-0


อาร์เซน่อล - เชลซี ( 23:30 น. )
เจอกันในลีกซีซั่นก่อน เชลซี ชนะทั้งเหย้า ( 2-0 ) เยือน ( 1-0 )

"ไอ้ปืนใหญ่" อาจได้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ดาวยิงเฟรนช์แมนกลับมาเป็นตัวเลือกหลังเจ็บนิ้วเท้าจนพลาดลงสนาม 2 นัดหลังสุด

แผงกลางยังขาด อารอน แรมซี่ย์ เจ็บแฮมสตริงอยู่คงพักอีก 3 สัปดาห์

"สิงห์ไฮโซ" จะขาด จอห์น เทอร์รี่ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันหลังยังไม่หายเจ็บเท้า

ขณะที่ เคิร์ท ซูม่า กองหลังดาวรุ่งหายเจ็บเข่ากลับมาซ้อมแล้วแต่ยังไม่ฟิตพร้อมลงสนามอีกครั้ง

เกร็ดน่าสนใจ
- เชลซี ไม่แพ้ อาร์เซน่อล ใน พรีเมียร์ลีก 9 นัดติดต่อกัน ( ชนะ 6 เสมอ 3 ) และเป็นเกมเยือน 5 นัด ( ชนะ 2 เสมอ 3 , เสียลูกเดียว )
- อาร์เซน่อล ยิง เชลซี ไม่ได้ใน พรีเมียร์ลีก 6 นัดติดต่อกัน
- อาร์เซน่อล โดนใบแดงจากการเจอ เชลซี เยอะสุดใน พรีเมียร์ลีก ( 7 ใบ )
- อาร์เซน่อล ลุ้นชนะใน พรีเมียร์ลีก 4 นัดติดต่อกันซึ่งครั้งสุดท้ายที่ทำได้ต้องย้อนไป ตุลาคม 2015
- อเล็กซิส ซานเชซ ยิงในบ้านใน พรีเมียร์ลีก ไม่ได้มา 4 นัดซ้อน
- อันโตนิโอ คอนเต้ มีสิทธิ์ไม่ชนะในลีก 3 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ มีนาคม 2012 สมัยคุม ยูเวนตุส ( เสมอ 4 เกมรวด )
- ลากยาวตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว เชลซี เสียประตูนอกบ้านใน พรีเมียร์ลีก 6 นัดติดต่อกัน
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : เสมอ 1-1
เบน ฟรีคิก ฟันธง : อาร์เซน่อล ชนะ 2-1

MK มาแล้ว แต่เกมนี้อย่าพึ่งลงเลย มีลางว่าศพจะไม่สวย

ดูกันยาว ๆ