21 September 2016 03:04 PM by jedi
บทสรุปโทษ “กิเลน-เจ้าท่า”


บทสรุปการลงโทษกรณีแฟนบอลบางส่วนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ การท่าเรือ ก่อเหตุวิวาทถึงขั้นตะลุมบอลกันจนมีผู้คนบาดเจ็บถึงขั้น “ปางตาย” ได้ข้อสรุปออกมาเรียบร้อยแล้ว บางคนบอกว่า “แฟร์” แต่บางคนบอก “ไม่โอเค”

ตรงนี้คงเป็นมุมมองและทัศนคติที่แตกต่างกันไป คนเราคิดไม่เหมือนกันอยู่แล้ว นอกเหนือจากคำว่า “เหตุ” และ “ผล” ยังมีเรื่องของ “อคติ” และคำว่า “ผลประโยชน์” มาเกี่ยวข้องจึงทำให้เกิดผลตอบรับที่แตกต่างกันไป

แต่ส่วนตัวแล้วมองว่าแฟร์และน่าจะโอเคเลยทีเดียว ถือว่าสมควรแก่เหตุ บทลงโทษว่ากันตามระเบียบข้อบังคับ รวมถึงอ้างอิงระเบียบของ “ฟีฟ่า” และ “เอเอฟซี” ไม่ใช่คิดลงโทษแบบตามอำเภอใจ สั่งแบนหรือปรับแบบเอาสะใจ

ฟุตบอลไทยสมควรหมดยุค “ไม่ใช่พวกกูพลาด ต้องกระทืบซ้ำ” แล้วครับ บทลงโทษที่ออกมาถือว่าสมน้ำสมเนื้อ ไม่ได้มีความรู้สึกว่าไปกลั่นแกล้งใคร หรือจะปกป้องและเอื้อประโยชน์ให้ใคร

แฟนบอลเป็นคนก่อเรื่อง ดังนั้นบทลงโทษจึงต้องจัดการที่แฟนบอล นักฟุตบอลหรือทีมไม่ได้เกี่ยวข้องในความผิดนี้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุที่จะต้อง “ตัดแต้ม” หรือ “ปรับแพ้” แบบที่หลายคน “ออกตัว” อย่างน่าเกลียด กลัวนักกลัวหนาว่าจะโดน !!!

ไม่มีระเบียบข้อบังคับที่ไหนที่มีบทลงโทษระบุว่าแฟนบอลตีกันแล้วให้ปรับแพ้หรือตัดแต้ม โดยเฉพาะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในฟุตบอลถ้วย “โตโยต้า ลีกคัพ” ด้วย แล้วจะไปสั่งตัดแต้มใน “โตโยต้า ไทยลีก” ได้อย่างไร ตรงนี้คนละเรื่องกันชัดเจน

แฟนบอลต้องเข้าใจตรงนี้และทำใจให้กว้าง ไม่ใช่ไม่ชอบ “กิเลนผยอง” หรือ “สิงห์เจ้าท่า” เลยมองว่าการไม่ตัดแต้มถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากคิดแบบนั้นเข้าข่าย “อคติ” ชัดๆ

ดังนั้นการสั่งแบนกองเชียร์ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ ห้ามเข้าดูทั้งนัดเหย้า-เยือนจนจบฤดูกาลนี้ รวมถึงปีหน้าหากเจอกันอีกจะห้ามแฟนทั้ง 2 ทีมเข้าดูจึงน่าจะถือว่าสมควรแก่เหตุและเป็นการป้องกันปัญหาไปในตัวด้วย

ปัญหาเกิดจากแฟนบอลดังนั้นแฟนบอลจึงต้องรับผลกรรมไป แต่กรณีที่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดนโทษแบนห้ามเล่นในบ้านถึง 5 เกมเป็นสิ่งที่สโมสรคงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ตรงนี้คนละเรื่องเดียวกัน

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ถูกลงโทษในฐานะ “ทีมเหย้า” เพราะเหตุเกิดตอนเป็น “เจ้าบ้าน” แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกสนาม แต่ คณะกรรมพิจาณามารยาท วินัยฯ มองว่าอยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบ

ว่ากันด้วยเหตุและผลคงเถียงไม่ได้ เพราะย้อนกลับไปครั้งเหตุวิวาทกัน 2 ปีที่แล้ว ณ สถานที่เดียวกันนี้ก็ตีความกันว่าเป็นเขตความรับผิดชอบของ “กิเลนผยอง” จนนำมาที่บทลงโทษสถานหนักทั้งตัดแต้มและห้ามแฟนบอลเข้าดู

เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นในสถานที่เดียวกันอีกครั้งจะบอกว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของสโมสรคงไม่ได้ ตรงนี้กันว่าด้วยเหตุและผลแบบแฟร์ๆจากบทลงโทษเก่าที่เคยมีมาแล้ว ไม่ได้มีอะไรลึกลับซับซ้อน

น่าแปลกใจก็ตรงที่พวกคนที่เคยเห็นดีเห็นงามกับบทลงโทษจากเหตุคล้ายๆกันนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่มาครั้งนี้ดันหาเหตุผลสารพัดมาอ้างนู้นอ้างนี่เพื่อจะปัดความรับผิดชอบ !!!

แต่ประเด็น “ขอบเขตรับผิดชอบของเจ้าบ้าน” ก็ควรจะคุยกันให้ชัดเจนไปเลย สนามของแต่ละสโมสรตั้งอยู่บนพื้นที่ที่แตกต่างกัน ปัจจัยแวดล้อมถนนหนทางต่างกัน ดังนั้นควรจะระบุให้ชัดๆว่าเจ้าบ้านต้องรับผิดชอบถึงตรงไหนจะได้ไม่มาเถียงกันอีก

ทุกสโมสรควรจะต้องมาคุยกันแล้วระดมความคิดไปว่าตรงไหนที่เป็นสุดเขตความรับผิดชอบของเจ้าบ้าน อย่างตรงลานจอดรถ ถนนทางออกจากเขตชุมชน พื้นที่รัศมีเท่าไร เพื่อที่จะเป็นข้อกำหนดที่ชัดเจนจะได้ไม่ต้องมาคาใจกัน

อย่างกรณีที่แฟนบางส่วนของ “กิเลนผยอง” และ “เจ้าท่า” ซัดกันล่าสุด ถ้าตีกันตรงถนนแจ้งวัฒนะหรือหลุดจากแยกเดาใจขึ้นทางด่วนไปแล้วยังไล่ตีกันอีกคงจะโทษสโมสรไม่ได้ ถือเป็นเรื่องกฏหมายบ้านเมืองล้วนๆที่จะเอาผิดกัน

แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ห่างจากสนามแข่งขันนักจึงต้องถือเป็นความรับผิดชอบของสโมสรเจ้าบ้าน ตรงนี้จึงเป็นสิ่งที่ควรจะมาคุยกันเพื่อจำกัดความของคำว่า “ขอบเขตรับผิดชอบของเจ้าบ้าน” เพื่อเป็นบรรทัดฐานของฟุตบอลไทยต่อไป

แน่นอนครับว่าไม่มีใครอยากให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมา แต่เมื่อเกิดไปแล้วต้อง “เรียนรู้ เพื่อแก้ไข” บทลงโทษต้องชัดเจนและบังคับใช้ให้เท่าเทียมกัน หมดยุค “พวกมึง พวกกู” เสียทีเพื่อให้ฟุตบอลไทยเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงแข็งแรงมากขึ้น

บทลงโทษและการควบคุมถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ “ทัศนคติ” ของทั้งคนทำทีม แฟนบอล เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ทำกีฬา ดูกีฬา ต้องรู้จัก “สปีริต” รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ไม่ใช่จ้อง “เอาแต่ได้” หรือ “แพ้ไม่เป็น”

ยิ่งพวกที่มีทัศนคติแง่ลบจัดๆยิ่งน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะยุคที่ “สังคมออนไลน์” มีบทบาทต่อชีวิตมากอย่างทุกวันนี้ทำให้บางครั้งบางทีความรุนแรงในสนามฟุตบอลเริ่มต้นที่ “แป้นคีย์บอร์ด” นี่ละครับ

คนทำบอล ดูบอล ที่รู้จักคำว่า “ชนะได้ แพ้เป็น” เท่กว่าพวกกากๆที่คอยแต่สร้างปัญหาทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังฟุตบอลไทยเยอะเลย ดูบอลให้สนุก ดูให้เป็นกีฬา แล้วจะมีความสุขนะครับพี่น้อง

“บับเบิ้ล”
เข้าร่วม: 22 Aug 2008
ตอบ: 4272
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 21, 2016 3:16 pm
[RE: บทสรุปโทษ “กิเลน-เจ้าท่า”]
บับเบิล กับ บี คนละโลกจริงๆวะ
ไม่มีจดหมายจากแฟนคอลัมน์หรอครับคุณบับเบิล 555

ถึงจะรวมไปกันเล่น ทรานฟอร์มเมอร์ เป็น บับเบิล บี ก็ตาม ตึ๊งโป๊ะ
0
0
เข้าร่วม: 09 Apr 2007
ตอบ: 1076
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 21, 2016 3:38 pm
[RE: บทสรุปโทษ “กิเลน-เจ้าท่า”]

อ้างอิงจาก:

แฟนบอลเป็นคนก่อเรื่อง ดังนั้นบทลงโทษจึงต้องจัดการที่แฟนบอล นักฟุตบอลหรือทีมไม่ได้เกี่ยวข้องในความผิดนี้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุที่จะต้อง “ตัดแต้ม” หรือ “ปรับแพ้” แบบที่หลายคน “ออกตัว” อย่างน่าเกลียด กลัวนักกลัวหนาว่าจะโดน !!!  





เขียนงี้ ... สะดุ้งไปหลายคน
กรู ดู บอล ไทย นะ จ๊ะ ฮี่ ๆ
เข้าร่วม: 01 Dec 2005
ตอบ: 5356
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 21, 2016 3:41 pm
[RE: บทสรุปโทษ “กิเลน-เจ้าท่า”]
jiw17 พิมพ์ว่า:

อ้างอิงจาก:

แฟนบอลเป็นคนก่อเรื่อง ดังนั้นบทลงโทษจึงต้องจัดการที่แฟนบอล นักฟุตบอลหรือทีมไม่ได้เกี่ยวข้องในความผิดนี้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุที่จะต้อง “ตัดแต้ม” หรือ “ปรับแพ้” แบบที่หลายคน “ออกตัว” อย่างน่าเกลียด กลัวนักกลัวหนาว่าจะโดน !!!  





เขียนงี้ ... สะดุ้งไปหลายคน  


สะดุ้งทั้งบริษัท (และบริษัทในเครือ)
เข้าร่วม: 16 Nov 2009
ตอบ: 1789
ที่อยู่: Anywhere The Heart Goes
โพสเมื่อ: Wed Sep 21, 2016 4:00 pm
[RE: บทสรุปโทษ “กิเลน-เจ้าท่า”]
jiw17 พิมพ์ว่า:

อ้างอิงจาก:

แฟนบอลเป็นคนก่อเรื่อง ดังนั้นบทลงโทษจึงต้องจัดการที่แฟนบอล นักฟุตบอลหรือทีมไม่ได้เกี่ยวข้องในความผิดนี้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุที่จะต้อง “ตัดแต้ม” หรือ “ปรับแพ้” แบบที่หลายคน “ออกตัว” อย่างน่าเกลียด กลัวนักกลัวหนาว่าจะโดน !!!  





เขียนงี้ ... สะดุ้งไปหลายคน  


ฮ่า ๆๆๆ สะดุ้งจริง ๆ จนบางคนออกมาแก้เขินโดยบอกว่า ดีนะที่ดักคอไว้ก่อน ด้วย ฮ่า ๆๆ


ส่วนขอบเขตความรับผิดชอบอันนี้มันกำหนดเป้นพื้นที่ยากแฮะ ต้องวิเคราะห์ไปตามแต่ละสถานการณ์ แบบสถานการณ์นี้ผมมองว่าทางฝั่งเจ้าบ้านยังเคลียร์ กองเชียร์ทีมเยือนไม่หมด
ฝั่งเจ้าบ้านก็ตามมาทันแล้ว ทำให้เกิดเหตุการณ์ได้
เข้าร่วม: 03 Oct 2007
ตอบ: 27351
ที่อยู่: แขนของทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Wed Sep 21, 2016 4:29 pm
[RE: บทสรุปโทษ “กิเลน-เจ้าท่า”]
แหม่พี่บับเบิ้ลเขียนได้ตรงใจครับ

ผมมองว่าอยู่ในเขตรับผิดชอบของสโมสรเช่นกันนะ แบบถ้ามันขับรถไปตีกันที่อื่นมันก็โอเค แต่ถ้ายังเดินเท้าตีกันระยะสนามกับลานจอดรถไรงี้ผมว่าอยู่ในข่ายนะ เพราะทีมเจ้าบ้านทางที่ดีควรจัดโซนจอดรถแยก จัดสัดส่วนรักษาความปลอดภัยนอกสนามชัดเจน ผมว่าตรงนี้สำคัญไม่แพ้ในสนามเลย
0
0
เข้าร่วม: 09 Apr 2007
ตอบ: 1076
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 21, 2016 4:36 pm
[RE: บทสรุปโทษ “กิเลน-เจ้าท่า”]
Silence พิมพ์ว่า:
jiw17 พิมพ์ว่า:

อ้างอิงจาก:

แฟนบอลเป็นคนก่อเรื่อง ดังนั้นบทลงโทษจึงต้องจัดการที่แฟนบอล นักฟุตบอลหรือทีมไม่ได้เกี่ยวข้องในความผิดนี้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุที่จะต้อง “ตัดแต้ม” หรือ “ปรับแพ้” แบบที่หลายคน “ออกตัว” อย่างน่าเกลียด กลัวนักกลัวหนาว่าจะโดน !!!  





เขียนงี้ ... สะดุ้งไปหลายคน  


สะดุ้งทั้งบริษัท (และบริษัทในเครือ)  


จะตอบแบบนี้แหละ แต่กลัวจะตรงไป 555

กรู ดู บอล ไทย นะ จ๊ะ ฮี่ ๆ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 731
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 21, 2016 10:18 pm
[RE: บทสรุปโทษ “กิเลน-เจ้าท่า”]
ถั่วต้มครับ..
0
0
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 4507
ที่อยู่: ที่เฉอะแฉะน้ำขัง
โพสเมื่อ: Thu Sep 22, 2016 1:35 am
[RE: บทสรุปโทษ “กิเลน-เจ้าท่า”]
ไอ้เรื่องขอบเขตความรับผิดชอบ สำหรับผมผมมองว่า ควรจะอ้างอิงจากขอบเขตรับผิดชอบของสถานีตำรวจนะ แต่มันคงจะกว้างไป ถ้าเป็นสโมสรฟุตบอล เอาเปนว่า ถ้าในรัศมี 2 KM รอบสนามฟุตบอลล่ะ จะโอเคมั๊ยที่จะให้เป็นเขตรับผิดชอบของสโมสร อันนี้คหสต.นะ แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ครับ
0
0