กลับมาพบกันอีกครั้งครับสำหรับพรีเมียร์ลีกนัดที่ 3 กลายเป็นว่า 3 ตัวเต็งที่ได้รับการคาดการณ์ก่อนเปิดซีซั่นว่าจะเบียดกันแย่งแชมป์ชนะรวดมี 9 แต้มเต็มทั้ง 2 พี่น้องจากเมืองแมนเชสเตอร์และเชลซี ช่วงปีสองปีมานี่ผมเบื่อดูบอลแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวคือถ้าไม่ใช่ลิเวอร์พูลคู่อื่นผมก็ดูแบบขอไปที ดูแล้วก็เล่นมือถือถ้าเตะพร้อมกันก็เปิดช่องเดียวแต่เมื่อวันเสาร์ผมต้องดูคู่นี้ 5-10 นาทีแล้วขยับไปเปิดอีกช่องแล้วก็ไปอีกช่อง ดูรูปเกมรวมๆแม้ว่าอาจจะทำให้ไม่ได้ภาพรวมที่ 100 % ซักเท่าไหร่แต่ก็ดีกว่ายกเมฆดำน้ำ ขอพูดเชลซีก่อน ฤดูกาลที่แล้วถือเป็นปีวิบัติของ"สิงห์ไฮโซ"อย่างแท้จริงเพราะเจอทีมเป็นรองเก็บแต้มอย่างสนุกนานพร้อมกับปัญหาภายในทีมจนท้ายที่สุดโจเซ่ มูรินโญ่ต้องแยกทาง การได้การอันดับ 10 ไม่ได้ไปแม้กระทั่งยูโรป้าถือเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ในยุคของโรมัน อับราโมวิชดังนั้นการได้อันโตนิโอ คอนเต้มารับหัวเรือใหญ่ในช่วงที่ต้องถ่ายเลือดและปรับเปลี่ยนแท็คติกใหม่หมดจึงถือว่าถูกทาง ดังนั้นไม่แปลกใจเลยครับที่"คลีนชีต"หนแรกในรอบราว 7-8 นัดทำให้แฟนเชลซีดีใจพอๆกับ 3 แต้ม 
สำหรับรูปเกมกลางเชลซีเก็บเรียบครับ เบิร์นลีย์ที่ว่าเก่งกับ"หงส์แดง"วันนี้โงหัวไม่ขึ้น ยิ่งเรื่องคิดถึงการสวนกลับงามๆเลิกไปได้เลยเพราะแค่มีชื่ออย่างก็องเต้+มาติชก็กลับบ้านนอนเหอะครับ แล้วสิ่งที่เชลซีเริ่มกลับมามีเหมือนสมัยรุ่งๆคือยามที่ต้องการประตูจะมีลูกเบิกร่องกับความสามารถส่วนตัวจากอาซาร์แล้วก็วิลเลี่ยน แต่ละเม็ดแบบยิงมุมดิก ทำให้เกมมันเล่นง่ายขึ้นเยอะ ถ้าเป็นซีซั่นก่อนมันเกิดอะไรแบบนี้ยากครับ อาซาร์แกเพิ่งมาแรงเอาท้ายฤดูกาลหลังเปลี่ยนโค้ช ถ้ามีตัวผลิตสกอร์จากตำแหน่งอื่นๆเยอะขึ้นแล้วรอดิเอโก้ คอสต้าเริ่มรัวถึงตอนนั้นลูกทีมคอนเต้น่าจะเกาะกลุ่มนำได้ยาวๆครับ แล้วลูก 3 ทั้งคนยิงคนจ่ายมาจาก 2 ตัวสำรองก็บอกได้ชัดเจนแล้วว่ากุนซือยี่ห้อเลี่ยนตัวจริงเสียงจริง เหลือแค่จุดเดียวของออสการ์ที่แฟนๆเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนคนขี้ไม่สุดจนมีเสียงเรียกฟาเบรกัสกันแล้ว อันนี้ต้องถามคอนเต้ล่ะครับว่าจะดันลูกให้สุดๆไปเลยไหม ถ้าจะบอกว่าเบิร์นลีย์ยังห่างชั้นยังวัดอะไรไมได้แต่ต้องถามว่าฤดูกาลที่แล้วเสียแต้มเลอะเทอะให้ทีมรองบ่อนไปเท่าไหร่ ยิ่งในบ้านเล่นแล้วแฟนอึดอัด ดังนั้น 3 นัด 9 แต้มในขณะที่ลูกทีมยังซึมซับแท็คติกของคอนเต้ไปเรื่อยๆเป็น dream start อย่างแท้จริงแจ้ แล้วเจอทีมใหญ่ทรงบอลหรือการเล่นเป็นยังไงไว้มาว่ากันอีกที ถึงคิวของ"เต็ง 1"แมนเชสเตอร์ ซิตี้กันบ้างครับ เมื่อต้องเจอกับทีมเข้าหนักชวนทะเลาะอย่างเวสต์แฮมการได้ 2 ลูกหลังผ่าน 18 นาทีเท่ากับทำลายแผนของสลาเวน บิลิชไปในตัวครับ เพราะชั่วโมงนี้ใครมาเยือนซิตี้(หรือจะเล่นในบ้านตัวเองก็ตาม) ก็ต้องระวังหลังรับกันทั้งนั้นเพราะเอาจริงๆแข้งของเป๊ป กวาดิโอล่าเก็บและเล่นได้ทุกตัว มีผู้เล่นต่างสไตล์จนไม่รู้จะรับมือกับการเข้าทำแบบไหนดี
ลูกแรกนี่ชัดเจนมากครับมันเป็นการเล่นสไตล์บอลสเปนคือเค้าจะไม่ส่งบอลออกปีกเพื่อโยนเข้าในเขตโทษเพื่อรอชาร์ตแต่จะใช้การแทงตัดหลังแบ็ค คือเจอการเจาะแบบนี้พวกเล่นแบ็คจบเกมน่าจะไปให้หมอนวดหน่อยเพราะธรรมชาติต้องถ่างไปปิดตัวริมเส้นแต่พอถ่างก็เจอปีกวิ่งตัดหลัง แล้วซิลบาแกต้นตำรับแทงแบบนี้อยู่แล้วด้วย การเข้าทำแบบนี้เป็นหนึ่งในรูปแบบที่ไว้ใช้เจาะทีมที่รับเยอะๆ เหมือนที่บาร์เซโลน่าซ้อมกันเป็นขนม พอตัวที่วิ่งตัดหลังรับบอลแล้วปาดเข้าในส่วนใหญ่หวังผลได้ทันทีครับ คล้ายๆฟุตซอลที่ดึงโกล์ออกมาแล้วปาดให้ตัวข้างเสารอ tap in แต่ถ้ากรูกันไปปิดพวกยืนรอ tap in คุณก็อาจจะเจอตัวรอยิงตรงกลางอย่างที่ราฮีม สเตอร์ลิ่งทำได้(แข้งค้อนเทไปหากุน 2-3 ตัว) การเล่นแบบนี้ทีมในอังกฤษยังเล่นกันไม่เยอะครับนอกจาก"เรือใบ"แล้วอาร์เซนอลนี่ก็เล่นมานานเพียงแต่จังหวะตั้งเพื่อรอยิงยังไม่เฉียบขาดเท่านั้นเอง สมราคาเต็งหนึ่งครับ บอกตามตรงว่าชั่วโมงนี้ใครมีโปรแกรมเจอซิตี้คงหนาวๆร้อนๆ บอลเล่นได้ทุกตัว ขนาดกลางรับยังพลิ้วไม่ใช่แปะไปแปะมา
"ปีศาจแดง"เกือบไปนะครับ ก็เรียนตามตรงแบบไม่ต้องห่วงภาพพจน์ว่านั่งแช่งอยู่ เผลอสบถตอนนักเตะฮัลล์ ซิตี้ทำอะไรโง่ๆอยู่หลายครั้ง หงุดหงิดไม่สบอารมณ์ เกมนี้ผมบอกเลยว่าถ้าจบด้วยผลเสมอแฟนๆนาจะนอนไม่หลับเพราะฮัลล์นี่ไม่มีอะไรเลยครับ ตัวผู้ล่นไม่มีริมเส้นไวๆไว้กระชากตอนสวนกลับเลย แล้วแต่ละคนไม่มีใครสามารถพลิกบอลเพื่อทำให้เกมได้เปรียบ รูปเกมจึงออกมาเป็นวันเวย์ แต่อย่างที่บอกครับการเจอกับทีมที่ลงไปรับลงไปอุดการจ่ายบอลขวางไปขวางมันคือของหวานหลังกินข้าวเย็นเสร็จของฝ่ายตรงข้ามชัดๆ ขวางมากูก็ขยับไปประกบไอ้ตัวที่มันยืนรอบอลหรือรอรับลูกเปิดจากริมเส้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ยูไนเต็ดเจาะไม่เข้าซักที แล้วสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในช่วงหลังคือการทำประตูช่วงท้ายเกมหรือที่โจเซ่ มูรินโญ่ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าเป็น"fergie time"ที่ในยุคป๋าเรืองรองการยิงประตูท้ายเกมเกิดขึ้นบ่อยจนคู่ต่อสู้ขี้หดตดหายกันเป็นแถว ที่น่าเขกกะโหลกมากกว่าคือโมฮาเมนดี้ แกทำอะไรของแกที่ปล่อยให้เวย์น รูนี่ย์ที่ชั่วโมงนี้ความเร็วเหมือนปั่นจักรยานกระชากแบบไม่มีหลอกหรือสับขาใดๆ แถมมาเล่นดากลิเวอร์มอร์จนเกิดประตูชัยของเจ้าหนูแรชฟอร์ด เชื่อได้เลยว่าถ้าไม่มีช็อตนี้กระทู้หลังเกมเตรียมเทกระจาดไปที่เสียหมูแล้วก็เงินค่าเหนื่อย 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์แน่นอน ไม่มีอะไรที่แฟนผีระบายแล้วรู้สึกปลดปล่ยอมากไปกว่าการด่ารูนีย์อีกแล้วเพราะไอ้กระผมเห็นตอนบอลยัง 0-0 เจาะไม่เข้าแกลงมาล้วงบอลกลางสนามโดยที่ในระแวกนั้นเจ้าของสัมปทานอย่างป๊อกบาแล้วก็เฟลไลนี่ยืนมองกันปากห้อยว่าเสี่ยเขาจะทำะไร สรุปวางยาวข้ามฟากออก ฮา ถ้าเล่นแบบนี้มิดฟิลด์จะมีไว้ทำไมครับ แล้วหน้าลงมาล้วงในขณะที่มีเพื่อนในตำแหน่งนั้นก็เท่ากับตัวหายไปแล้วจะส่งให้ใคร แล้วที่ทำอยู่มันเปลี่ยนให้เกมดีขึ้นไหม อันนี้แฟน"ปีศาจแดง"คงอยากถาม เอาเถอะครับก็ถือว่าเดินทางไปเล่นทีมชาติได้อย่างสบายใจ วันที่ 10 กันยาไว้เจอของจริงกับแมนฯซิตี้ ไม่รู้ว่าจะต้องเก็บศพไหม
ที่ยังออกทะเลกลับเข้าฝั่งไม่ได้เห็นจะเป็น"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลเพราะเชื่อเลยว่าร้อยทั้งร้อยการนำคู่แข่งลูกเดียวมันไม่เคยพอ อย่าว่าแต่ลูกเดียวนำ 3 ลูกยังเกือบไม่พอ เพราะยุคนี้คำว่าคลีนชีตเดอะ ค็อปไม่รู้จัก พร้อมเสียทุกเกม ถ้าถามผมว่าเกมเสมอสเปอร์สพอใจไหม ถ้ามองรูปเกมและโอกาสที่จะบวกเม็ด 2 แล้วบอกเลยว่าโคตรเสียดาย ให้ความรู้สึกเสมอเหมือนแพ้ แต่ถ้ามาถามก่อนเปิดฤดูกาลว่าต้องออกมาเยือนอาร์เซนอลแล้วก็สเปอร์สใน 3 นัดแรกของซีซั่นแล้วได้ 4 แต้มนี่จะเอาไหม ก็ต้องบอกว่าเอาแน่นอนครับ ปัญหาที่เยอร์เก้น คล็อปป์แก้ไม่ได้และคิดว่าไม่น่าจะแก้ได้อย่างถาวร(ในเร็ววันนี้) ในเรื่องของการเสียประตูก็จงแก้ทางอ้อมด้วยการยิงให้ชัวร์ๆ ยิงช่วยกองหลัง ยิงเผื่อขาด คงน่าจะเป็นทางเดียวที่ช่วยได้แบบทันท่วงที แต่ด้วยความไม่แน่นอนว่าเกมไหนจะมีฮีโร่มายิงเบิกร่องให้ทีมขึ้นนำนี่แหละครับ การรอตัวเดิมๆหรือรอความมหัศจรรย์อย่างคูตินโญ่ผมว่าอันตราย เพราะคูตี้ผมว่าออกแนวดื้อ ยิง 10 เข้า 1 ยังไม่สามารถแบกภาระตรงนี้ได้ ยิ่งเห็นลูกที่ตั้งยิงเหน่งๆควรนำ 1-0 ตั้งแต่ต้นเกมแต่เบาก๋องไม่หนีตัว"ฟอร์ม"ซะอย่างนั้น ผมเห็นการยืนไลน์ของสเปอร์สแล้วชวนให้นึกถึงชุดที่เคยบุกมาถล่ม 5-0 เพราะวันนั้น"โบอาส"ก็ให้แนวรับดันมาถึงครึ่งสนามแล้วใช้การเพรสซิ่งแต่ตอนนั้นกลางหงส์เทพครับ ตาไวจ่ายไวแล้วซัวเรซ,ราฮีมวิ่งแหวกไลน์กันสนุกสนาน แล้วตอนวอล์กเกอร์เจ็บนี่ผมยิ่งมั่นใจเลยว่าถ้าเน้นๆหน่อย 3 แต้มแน่ๆเพราะสเปอร์สโหดตรงที่แบ็คสองข้ามเติมเกมบุกนี่แหละครับ การถ่างเอาดายเออร์มายืนนี่ทำให้มิลเนอร์เล่นง่ายขึ้นเยอะมาก การสวนของเจ้าถิ่นลดประสิทธิภาพลงชัดเจน ดังจะเห็นได้ว่าลูกที่สเปอร์สเสียจุดโทษถ้าเป็นวอล์กเกอร์ผมว่าฟิร์เมียโน่ไม่หลุดแน่ๆ สังเกตว่าทั้ง 2 ทีมเล่นคล้ายๆกันตรงให้แดนหน้าเพรสซิ่งสูงเพื่อให้อีกฝ่ายตั้งเกมไม่ได้โดยต้องเลือกสาดโด่งทิ้ง ไม่ค่อยมีใครกล้าเคาะสั้นหน้าประตูตัวเองถ้าไม่ใช่จังหวะที่ชัวร์จริงๆแต่กลายเป็น"หงส์แดง"ที่เก็บบอลจ้งหวะ 2 หลังสาดทิ้งมากกว่า อันนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกทีมของ JK มีตัวขยันมากกว่าเพราะพวกลาเมล่า,อีริคเซ่นก็ไล่ไม่ได้ตลอด เพียงแค่ตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าเฮนโด้กับไวนัลดุมยังทำอะไรแบบนั้นไม่ได้เลย ไวนัลดุมทำให้ผมเริ่มคิดมาก เหมือนแกไม่มีของ แล้วก็เล่นแบบเซฟตัวเอง จะบอกว่าผิดตำแหน่งเพราะแกถนัดรุกอันนี้เข้าใจแต่หลายๆครั้งเกมตื่นลนลานไม่กล้าเอาบอลไว้ทำอะไรกับตัวเองในขณะที่กำลังจะบุก ที่ดีหน่อยคือลูกยิงจากแถวสองนอกกรอบยังพอได้ลุ้นบ้าง ส่วนเฮนโด้ ไม่รู้ผมโรคจิตหรือเปล่าเพราะผมชอบแกตั้งแต่ย้ายมาใหม่ๆ ชอบนักบอลเล่นง่าย เพียงแต่ว่าเวลาทีมบุกไม่ขึ้นหรือต้องการที่พึ่งเฮนโด้มันทำไม่ได้ไง เฮนโด้เป็นตัวที่ว่าถ้าทีมเล่นดีเพื่อนเล่นดีเค้าจะกล้าเล่นจะช่วยซัพพอร์ตจะดีตามไปด้วย ถ้ากากทั้งทีม เป๋ไปเป๋มาหรือต้องการให้มีฮีโร่มาช่วยพลิกเกมอย่างที่สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดทำไว้เฮนโด้จะไม่ใช่คนๆนั้น ดังนั้นกลางที่จะมายืนคู่หรือช่วยกันเล่นกับเฮนโด้ต้องทำอะไรได้มากกว่าแปะให้กัน น่าสนใจว่าถ้าชานฟิตหายกลับมา"อาแปะ"จะได้ยืนคู่หรือไวนัลดุม ส่วนกรูยิชผมเห็นลงมาช่วงท้ายเกมนัดเจอเบิร์นลีย์เห็นแล้ววูบวาบดีนะครับ อยู่ที่คล็อปป์แล้วว่าแกจะเอายังไง ในขณะที่แบ็คซ้ายดูท่าแล้วไม่น่าจะเสริม ทั้งๆที่เป็นจุดอ่อนอย่างหนัก ระยะยาวจะไหวหรือเปล่าถ้าย้ายมาเดือนมกราคมจะพวกเป้าหมายจะถูกปล่อยออกมาไหม เหลือเวลาเดดไลน์ย้ายทีมอีกไม่กี่วันคงต้องภาวนาให้มีปาฏิหาริย์โดยด่วนครับ ส่วนตัวผมให้เวลาผู้จัดการทีมใหม่ทุกคน ไม่ค่อยเร่งรีบเพราะพวกนี้ก็ไม่ใช่เทวดา ฤดูกาลแรกคล็อปป์ไม่ได้ซื้อไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเลยยังเข้าชิง 2 ถ้วยแล้วซีซั่นนี้ผมก็ว่ายังไม่ใช่ทีมของ JK เหมือนที่แฟนบอลหลายคนว่ากัน เพราะว่าการจะปรับเปลี่ยนทีมรวดเดียวโป้งมันทำไม่ได้ในปีสองปีครับ ต้องมีตัวเก่าอยู่บ้างเพื่อคอยช่วยให้พวกต่างชาติปรับตัว ดังนั้นผมว่าจะเริ่มวิจารณ์คล็อปป์แบบเข้าเนื้อต้องฤดูกาลหน้าเป็นต้นไปครับเพราะซัมเมอร์ 2017 การซื้อตัวจะใช่ทีมของเขาเกือบเต็มเม็ดเต็มหน่วยดังประโยคที่ว่า 1 ปีซ่อม 1 ปีสร้าง 1 ปีซิ่ง ดังนั้นเมื่อซีซั่นก่อนใช้ตัวเดิมๆทั้งหมด ผมจึงนับซีซั่นนี้เป็น 1 ปีซ่อมครับผม
อาร์เซนอลกับ 3 แต้มแรก ถือว่าลดความกดดันไปเยอะเลย ที่เห็นกระแสเยอะหน่อยคือเสียงชื่นชมของเดอะ กูนเนอร์ต่อ"ชาก้า" ที่ผมบอกได้เลยว่าตอนมีข่าวก็อยากให้มาลิเวอร์พูลเหมือนกันเพราะนี่คือร่างทรงชาบี้ อลอนโซ่จริงๆครับ วางยาวแม่นระยำ ซึ่งผมว่าเป็นอีกอาวุธที่ดีของ"ปืนใหญ่"เพื่อให้มันหลากหลายหนีสไตล์การต่อบอลสั้นบ้างเวลาคิดอะไรไม่ออก ใช้วิธี short cut ลดระยะเวลาของการขึ้นบอลเพื่อให้แนวรับฝ่ายตรงข้ามเปิดช่องบ้าง ไม่งั้นเข้าทำสไตล์เดียวมันน่าอึดอัด อย่างใช้ลูกเปิดครอสของอเล็กซิส ซานเชสให้โอซิล แอสซิสต์ของแข้งทีมชาติชิลีบอกกลายๆแล้วนะครับว่าตำแหน่งที่เค้าถนัดที่สุดคือริมเส้นเพราะตัวเล็กแล้วมีทักษะในการพลิกบอล เปิดบอล เลี้ยงกินตัว การเอาไปยืนหน้าเสียของเปล่าๆ ผมว่าที่โอลิวิเยร์ ชิรูด์เล่นไม่ค่อยดีในสีเสื้ออาร์เซนอลเพราะระบบการชิ่งบอลมากครั้งเกินไป แกก็ไม่ได้คล่องถึงขนาดจะตามทันเพื่อนทุกจังหวะ การเล่นแนวๆนี้พวกหน้าเป้าส่วนใหญ่จะดับครับ ดูอย่างบาร์เซโลน่ามีหน้าเป้าตัวใหญ่ๆมากี่ตัวดับหมด มันต้องแนวๆ false9 ซึ่งซานเชสเหมือนจะเหมาะแต่ผมว่าระยะยาวอาจไม่ไหว แล้วตัวอย่างอ็อกเลดนี่เหมือนแกะดำเพราะเซนส์ยังไม่ทันเพื่อน ติดเลี้ยง ไม่รู้ว่าจังหวะไหนควรจ่ายหรือควรไปเอง ผมว่าถ้าอาร์แซน เวนเกอร์ปิดดีลเปเรซยืนหน้าได้เมื่อไหร่ผมว่าน่ากลัว มีลุ้นได้ที่ 4 (เป็นอย่างน้อย แฟนปืนว่าเอาไว้ ฮา) บอลเยอะผมดูไม่หมดนะครับจะเขียนถึงทีมอื่นๆก็ลำบากแต่เอฟเวอร์ตันนี่แอบแรงชนะ 2 เสมอ 1 เรียกว่าโรนัลด์ คูมันน์ไม่ธรรมดาแม้ว่าประตูชัยอาจจะมีโชคเต็มๆจากลูกโทษของเลจ์ตัน เบนส์ที่ยิงไปชนเสาแล้วไปกระเด้งกิฟเว่นเข้าไปอีกที การเล่นก็ยังอาศัยทีมเวิร์คต่อบอลเหมือนที่ทำเซาแธมป์ตันโดยใช้ทักษะของบาร์คลีย์กับลูกากูคอยเก็บคอยเชื่อมแล้วจ่ายให้ตัวอื่นๆ นัดต่อไปเตะมันเดย์ไนท์คงได้ดูเต็มๆแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังให้มากกว่านี้ครับ อ้อผมดูไฮท์ไลท์คริสตัล พาเลซ ต้องบอกเลยว่าคริสเตียน เบนเทเก้ย้ายมาถูกทีมแล้วครับเพราะเปิดครอสเยอะมากกก เรียกว่าอลัน พาร์ดิวซื้อมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะน่าเสียดายตอนต้นเกมอดีตหอก"หงส์แดง"เรียกจุดโทษ(แบบงงๆ)แต่โยฮัน กาบายดันยิงไปติดเซฟ ทำให้ตอนนี้"ปราสาทเรือนแก้ว"เพิ่งมีแต้มเดียวอยู่ที่ 3 จากท้ายตาราง ผมว่าถ้าไม่เร่งเครื่องเกรงว่าพาร์ดิวอาจจะไม่ได้ใช้งานกองหน้าค่าตัวแพงระยิบกว่า 30 ล้านปอนด์นะเนี่ย ปิดท้ายที่"แชมป์เก่า"เลสเตอร์ปลดล็อก 3 แต้มได้ซักทีครับและสิ่งที่แฟนๆอยากเห็นคือเจมี่ วาร์ดี้ยิงลูกเก่งกดเต็มเท้าเป็นลูกแรกของซีซั่นได้ซักที(จัดตัวแฟนตาซี 2 นัดไม่ยิงพอถอดออกยิง เอาเดโฟที่้เหมือนจะยิงเยอะแต่พอจัดไม่ยิง สาด) เรียกว่าทั้งทีมและตัววาร์ดี้เองเหมือนยกภูเขาออกจากอกเนื่องจากนัดหน้ามีคิวไปเยือนแอนฟิลด์ที่บรรยากาศน่าจะอลังการกับการเปิดใช้อัฒจันทร์ใหม่ทีจุแฟนบอลเพิ่มอีก 8,500 คนรวมแล้วก็กว่า 54,000 คน จะงานกร่อยหรือเปล่าคงต้องว่ากันอีกทีหลังเบรกทีมชาติ แล้วมาลุ้นบอลวันเสาร์ที่ 10 กันยายนกันครับ วันนี้สวัสดี
