ซ้อมเยอะก็เจ็บเปนธรรมดาแหละ

แต่ถ้าแลกมาด้วยความฟิตที่ดี ก็ยอมรับได้อะนะ

แสดงว่าไม่ได้ซึมซับ ปรัชญา จาก จานหลุยส์ ฟาน กัล เลยที่เน้นซ้อมหนักมากๆ เข้า 8 เลิก ดึก

ปีที่แล้วโปรแกรมเยอะด้วยนะแต่การซ้อมก็มีส่วนจริงๆแหละ

รอดูว่า จะเป็นยังไง

ผมจะจำข่าวนี้ไว้ แล้วค่อยมาดูกันอีกที

โค้ชมาจากลีคฮอลแลนด์มาคุมทีมในอิตาลี แต่ลากไปถึงคล็อปที่อังกฤษได้เฉย

ออกตัวแบบนี้ ต้องติดตามดูกัลโช่บ่อยๆแล้ว

เดอบัวก็แค่โคชเกรด b ต่อให้เลียนแบบก็ทำไม่ได้อย่างคล๊อปหรอก

มั่นใจแท้

คล็อปชอบปั้นนักเตะสไตล์ อันเดอร์ด๊อก
เมื่อเทคนิค ทักษะ สู้ไม่ได้ ก็ต้องใช้ความฟิตเข้าสู้
บางทีมันก็ได้ผล บางทีมันก็ไม่ได้ผล

รอดูตอนท้ายฤดูกาลดีกว่า ว่าของใครคือทางไปสู่ความสำเร็จ

เรื่องแนวทางแตกต่างมันก็พอเข้าใจต่างคน ต่างคิด
แต่บอกว่าเดอบัวร์เกรดบีมันก็เกินไปม้างงง
แกเป็นคนแรกที่ทำทีมคว้าแชมป์ลีคสูงสุดของฮอลแลนด์ 4 ปีติด
ปั้นดาวรุ่งประดับวงการมาก็ไม่น้อยดังๆหน่อยก็ อิริคเซ่น บลินด์ เป็นต้น
แต่มาคุมลีคที่ไม่คุ้นเคยอย่างกัลโช่ก็ต้องรอชมผลงานก่อนค่อยตัดสินกันอีกทีก็ไม่สาย

ค่อยๆ ดูกันไปครับ อีกอย่างมันคนละลีก อิตาลีเน้นแทคติค อังกฤษ วิ่งสู้ฟัด ถ้าไม่ซ้อมหนักก็แผ่วปลายล่ะครับ

อ่อนแอ ก็อดลงไงครับ
มีแต่คนที่แข็งแกร่งเท่านั้นแหละครับที่เหมาะลงสนาม

ไม่ซ้อมกันให้หนักก็แพ้อยู่ดีครับ สไตล์เพลสซิ่ง
เหมือนวิ่งพล่านไม่มีระบบน่ะแหละ

ยกเว้นว่า เดอบัว เล่นสไตล์อื่นที่ไม่เพลส
ซึ่งนั่น มันก็เรื่องของเดอบัว แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเปรียบเทียบแบบนั้น แค่บอกว่า

เอ้อ ผมจะไม่ซ้อมหนักมาก เพราะที่ผ่านมานักเตะเรามีอาการบาดเจ็บค่อนข้างบ่อย _ ก็ว่าไป

เจ็บมันหายได้ครับ ไม่นาน คนเราเยอะ เยาวชนก็มีแวว
กองหน้ามีตั้งห้าหกตัว

แต่เล่นไม่เป็นระบบ แบบที่เรียกว่า อ่อนซ้อม
เล่นไปทั้งปี ไม่มีทรงอะไร
สู้ซ้อมให้มันกรอบไปเหอะครับ

ผมติ่งคล้อบ

ผมติ่งคลอปนะ และเห็นด้วยกับสไตล์คลอป ซ้อมไม่หนักก็เน่าสิครับ ระดับฝีเท้านักเตะอ่อนกว่าทีมคู่แข่งหัวตาราง การใช้เกเก้นเพรสซิ่งนี่แหละช่วยได้ เพื่อไปสู่ความสำเร็จ เดอบัวพูดหยั่งกะคุมบาซ่า ขนาดบาซ่าสไตล์เปปยังเน้นเพรสซิ่งเลย เพียงแต่บาซ่าเพรสโดยที่ใช้แรงไม่เยอะเพราะทั้งเกมส์จะครองบอลตลอดให้คู่แข่งไล่จนหมดแรง นานๆจะใช้แรงบีบกลับคู่แข่งทีเลยทำให้บีบพื้นที่ได้ดุดันกว่าคู่แข่ง แย่งกลับได้เร็ว

ตกลงชม หรือ ด่า ครับเนี่ย

ถ้าวิ่งไล่เพรสซิ่งแบบนี้ได้ทั้งฤดูกาลนี่โหดแน่ๆ

คอยมาดูกัน แล้วเราจะได้รู้

ตอบยากนะ...........ถ้าอย่างนั้น เจ๊ แวนเกอร์ ก็ซ้อมหนักกว่า คล็อปดิ......เหมือนตัวเจ็บจะเยอะกว่าอีก....ฤดูกาลที่แล้วแมนยูฯก็เจ็บเยอะพอๆกับหงส์นี่แหละ......

แล้วท่านไปมีผลได้เสียอะไรกับเขา
มีหลายอย่างให้อ้างถึงได้แต่พูดเหมือนเป็นคู่อริกัน
พวกโค้ชนี่แปลกๆ
วันก่อนคลอปป์ไซโคเวงเกอร์ แต่เจ๊มาพูดถึงจ่ามูเฉย
แล้วก็โดนไปนัดเปิดสนามเป็นทีมระดับจักรวาลไป
เราจะจับตาดูท่านไว้
คุณเดอ บัวร์

ปีนี้ ซ้อมหนักๆไปเลยคับ เพราะไม่ได้เตะถ้วยยุโรป นักเตะจะได้เข้าขากันเต็มๆ

อย่าทะเลาะกันครับ ใจเย็นๆ อย่าพึ่งเดือดนะ

ประเด็นที่สำคัญที่สุดที่เดอบัว ไม่สามารถทำได้อย่างคลอปก็คือ "ขนาดทีมครับ"

ลิเวอร์พูลมีผู้เล่นมากมาย ต่างสามารถผลัดกันเป็นตัวจริงได้เยอะถ้าหากฟิตพอ แต่อินเตอร์นั้นขนาดทีมเล็กมากๆ เสียตัวจริงไปซักคนนี่เครียดหนักมากนะครับ เพราะไม่สามารถทดแทน 11 ตัวจริงได้ทันที

ดังนั้นแล้ว การเล่นเพรสซิ่งและซ้อมหนัก ไม่สามารถทำได้อย่างลิเวอร์พูลแน่นอนครับ

โอเคนะครับ :)

ก่อนหน้านี้เคยมีผู้เชี่ยวชาญออกมาบอกว่า คล้อปป์ ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับฟิตเนส ทำให้ออกแบบโปรแกรมซ้อมมาแล้วนักบอลเจ็บเยอะ ผมว่าประเด็นนี้มีส่วนถูกเหมือนกันนะ เขามีทีมงาน มีความรู้เรื่องนี้ แต่การพยายามออกแบบโปรแกรมอย่างนี้ มันก็เห็นๆ กันอยู่ว่าเจ็บกันเยอะจริงๆ อย่าก้มหน้าก้มตาติ่งกันมากเลย แล้วในโลกความเป็นจริง นักบอลบ้าไรจะวิ่งเพรสซิ่งได้ทั้งเกมและทุกเกม มันเป็นไปไม่ได้ ถึงจะต้องมีขนาดทีมที่ใหญ่ โรเตชันกันได้ แต่มันก็จะเจอกับเรื่องคุณภาพนักเตะตัวจริงตัวสำรองทดแทนคุณภาพได้ต่อเนื่องหรือเปล่า รอดูไปทั้งปีดีกว่ามั้ง เตะกัน 8-9 เดือน เดี๋ยวก็รู้ว่าประเด็นนี้จะส่งผลกับทีมในช่วงกลาง-ปลายซีซั่นไหม

ถ้าคล้อปคุมทีมในกัลโช่อาจจะไม่ต้องซ้อมหนักขนาดนี้ก็ได้ แต่อังกฤษถ้าไม่ฟิตจริง เจอบี้แหลกทุกนัดแน่ เด๋วนี้ทีมกลางๆ เล็กๆ ก้อไล่เพรสกันมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะทีมใหญ่ ถ้าอยากเก็บแต้มกับทีมเหล่านั้นได้คงต้องเล่นเหมือนบิ๊กแมทช์ทุดนัดจริงๆ เห็นได้จากฤดูกาลที่แล้ว กลับมาจากบอลยุโรปทีไร

แบบไหนก็ช่างเหอะ

แต่นักข่าวมันไปถามหรืออะไรยังไง เดอ บัวร์ถึงยกตัวอย่างมาถึงอังกฤษได้ไงว่ะ คนละลีคเลย

เดอบัวร์ไปแล้ว