เปิดชีวิต”สาวไซด์ไลน์กลับใจ” ขอไปทำงานออฟฟิศ เผยเคยทำรายได้สูงสุดเดือนละ 5 แสน-แต่ต้องเลิก!
https://www.yaklai.com/lifestyle/special-article/reform/
http://pantip.com/topic/35312244
สวัสดีค่ะ พ่อแม่พี่น้องชาวพันทิป
วันนี้มีเรื่องจริงของตัวเองมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังคิดที่จะเข้าวงการนี้ และที่กำลังทำอยู่แล้วคิดจะออก อีกทั้งยังจะเป็นประสบการณืของสาวไซด์ไลน์โดยตรงที่คนภายนอกไม่รู้เลยค่ะ
เล่าเลยแล้วกันนะคะ ไม่ต้องเกริ่นไรมากมาย จขกท เองเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ เรียนจบม ปลายที่บ้านเกิด แล้วโดนแฟนคนแรกที่คบกันมาเกือบ4ปี ทิ้งไปมีผญคนใหม่ ทำใจไม่ได้ค่ะ อยากออกไปให้ไกลจากตรงนั้น แล้วเผอิญมีเพื่อนชวนมาเรียนกรุงเทพด้วยกัน เลยตัวสินใจหนีออกจากบ้านมาเลย โดยในขณะเดียวกันเพื่อนที่สนิทกันก็มาชวนเราไปทำงานเป็นสาวไซด์ไลน์ค่ะ (เพื่อนแอบไปทำมาก่อนหน้านี้ละ แต่พึ่งมาบอกกับเราทีหลัง) ย้ำนะคะว่าสาวไซไลน์ไม่ใช่หมอนวด แต่เดี๋ยวจะมาอธิบายอีกที ว่าต่างกันยังไง หลังจากที่เพื่อนชวน เราก็คิดอยู่นานก็คิดไม่ตก แต่เผอิญช่วงนั้น ไปทำของมีค่าของเพื่อนอีกคนนึงหาย จะไปบอกที่บ้านก็ไม่ใช่ คงไม่มีตังให้เราหรอกค่ะ เพราะราคาก็หลายตังเลยสมัยนั้น ก็เลยตัดสินใจไปบอกเพื่อนคนที่ทำไซไลน์อยู่แล้วว่าจะขอไปทำด้วย คือตอนนั้นคิดแค่ว่าทำงาน ได้เงินมาซื้อของคืนเพื่อนที่หายไป แล้วจะเลิกทำเลย
เริ่มจากไปสมัคร เป็นอาบอบนวดค่ะ ไปถึงเราจะไปเจอ ผจก เค้าจะเราแก้ผ้าค่ะ ถอดออกให้หมด ตอนนั้นคือ อายมากค่ะเขินด้วย เกิดมาพึ่งเคยมาแก้ผ้าให้กับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน แต่ก็ทนค่ะ แต่ที่ต้องทำอย่างนั้นคือเค้าจะดูว่าสัดส่วนเราเท่าไร ข้างในเป็นยังไง เคยมีลูกมาแล้วหรือเปล่า ถ้ามีลูกก็จะโดนกดราคาไปอีกค่ะ เนื่องจากท้องลายหรือมีรอยผ่าอะไรก็ว่ากันไป พอดูตัวเราเสร็จเค้าก็จะบอกราคาค่ะ ว่าเราได้ราคาเท่าไร ตอนนั้นคือไม่รู้ว่าข้างในนั้นราคาเป็นยังไง ถูกหรือแพง ก็ทำตามเค้าไป ค่าตัวเราได้อยู่ในเรทของไซด์ไลน์ค่ะ คือที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งแรกจะเป็นหมอนวด อันนี้คือหมอนวดของจริง คือมีตู้ให้นั่งเลยค่ะแขกก็ไปชี้ๆเอา ราคาเรทเนี่ยจะอยู่ที่ประมาณ1,800-22,000฿ ส่วนไซด์ไลน์นี่จะนั่งข้างนอกมุมโซฟาที่เค้าจัดไว้ให้ เดินไปไหนมาไหนได้อิสระหน่อย มีตั้งแต่3,100-7,000฿ จขกท เข้าไปได้เรทไซด์ไลน์ก็จริงแต่เป็นเรทที่ถถูกที่สุดเลยคือ 3,100 เราจะได้ถึงตัวคือ 1,500฿ ฟังดูอาจจะน้อยนะคะ แต่วันนึงได้ไป4-5รอบ ก็หลายพันอยู่ค่ะ ตอนนั้นคิดว่านี่คือวิธีที่ได้เงินเร็วสุดละ
พอได้ค่าตัวแต่งหน้าทำผมเสร็จ ไม่ต้องมานั่งค่ะ ทำวันแรกก็มีคนเชียร์จองตัวเลย ณตอนที่ไปเจอลูกค้าคนแรกนี่ ทำตัวไม่ถูกค่ะ ขยะแขยงยังไงชอบกล คือมันทำใจไม่ได้ที่ต้องมีอะไรกับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน นั่งๆอยู่จะร้องให้ แขกก็เข้าใจเรานะปลอบเรา เราเองก็ทนๆให้มันผ่านไปคิดอย่างเดียวว่าหาเงินได้ครบตามที่ต้องการแล้วจะไป วันแรกตอนทำงานทำใจไม่ค่อยได้ แต่พอเลิกงานแล้วรับเงินสิ โอ้โหตาลุกวาว งานไรได้เงินง่ายจัง จากที่แพลนว่าจะหาเงินห้ได้ตามทาร์เก็ต ตอนนั้นยาวค่ะ เลยเถิดไปไกลเลย ตอนนั้นได้เงินมือเติบมากก อยู่ไปไม่นานทางร้านเห็นว่าราขายได้ และขายได้ดีซะด้วย วันนึงไม่ต่ำกว่า 4-5รอบ ลืมบอกรอบนึงนับเป็น 90นาทีนะคะ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องมีอะไรกับลูกค้าทุกรอบเสมอไปนะคะ เจอพวกที่รวยเงินเหลือมากๆ ให้มานั่งเฉยๆกินเหล้าเป็นเพื่อน รันไปหลายๆรอบ ไม่เอาก็ถมเถคะ หรือบางคนก็มานั่งกลับเพื่อนหลายๆคน กว่าจะกินเหล้าคุยกันก็ปาไป3รอบแล้วค่ะ กว่าจะได้เอา ก็ปาไปรอบ4 รอบ5ละคะ อันนั้นถือเป็นโชคของเราไป กลับมาที่เรื่องค่าตัวต่อดีกว่า เราขายดีจนเข้าตาค่ะ ผจก เลยขปรับค่าตัวให้ จนเราเริ่มมีตัง ก็ไปทำนม ทำหน้า เสริมจมูก ต่อยอดไปเรื่อยๆ ทำมาหน้าสวยขายดี ก็ได้ขึ้นราคาไปเรื่อยค่ะ จนราคาสุดท้ายที่ได้จากร้านคือสูงสุดเลยค่ะ ขาย7,000฿ ร้านแบ่งให้เรารอบละ5,000฿ คิดดูมันช่างแตกต่างกับ1,500฿ มากมาย คือขายดีมากค่ะ เราขยันด้วย บางเดือนถ้าขยันจริงๆ อินคัมเกือบ 500,000 นะคะ ระหว่างนั้นเราเรียนไปด้วยคะ เข้ากรุงเทพก็ไปสมัครเรียนมหาลัยไปด้วย ทำงานไปด้วยค่ะ จบปกตินะคะ 4ปี ตอนแรกก็แพลนไว้ว่าถ้าเรียนจบจะไปหางานออฟฟิศทำ แต่เอาเข้าจริงก็ยื้อเวลาตัวเองไปเรื่อยๆค่ะ ตอนทำงานเรามีทุกอย่าง อย่างที่ชะนีทั่วไปอยากมี รถ กระเป๋า รองเท้า ได้กินแต่ของดีๆ อยากได้อะไรชี้นิ้วสั่งเลยค่ะ สำหรับเราตอนนั้นเงินคือพระเจ้มากกก แต่แปลกไหมค่ะที่มีเงินซื้อทุกอย่างเลย แต่กลับเก็บอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันซักที ก็มีแต่รถนี่แหละที่ยังอยู่ติดตัวมาจนทุกวันนี้ อยากได้บ้านก็ไม่เคยเก็บเงินซื้อสดได้ ทั้งๆที่จริงๆหาได้เดือนละเกือบ 500,000฿ การมีบ้านหลังละ5ล้าน กลับไม่มีปัญญาซื้อ ความรักก็ไม่เคยประสบความสำเร็จมีแฟนกี่คนก็มมาเกาะเราเป็นแมงดา ยอมรับเลยค่ะว่าเก็บเงินไม่อยู่ ได้มามากเท่าไรก็จะมีรายจ่ายออกไปมากเท่านั้น เงินในบัญชีพอจะเก็บๆได้ก็จะต้องมีเรื่อง มีกิเลศที่จะทำให้เราใช้ออกไปจนหมด เพราะตอนนั้นคิดว่าหมดก็ไปหามาใหมม่ได้ เราหาเงินได้ง่ายจะตาย ตอนที่ทำงานใหม่ๆมีรุ่นพี่ที่ร้านเคยบอกเราแล้วว่าเข้าวงการนี้แล้วออกยากนะ เราก็แบบคิดในใจ ออกยากไงวะ อยากออกก็ออกดิไม่มีใครมาบังคับเราไปทำซะหน่อย แต่พออยู่ไปอยู่มา มันคือเรื่องจริงค่ะ กิเลสและความฟุ้มเฟ้อของเราจะทำให้เราออกมาจากงานนี้ไม่ได้ มาทำงานแบบนี้สิ่งอโคจรสาระพัดนะคะ บางคนก็ติดเที่ยวติดยา บางคนก็ติดผู้ชายก็ติดไปบาร์ผู้ชาย เอาเงินไปเลี้ยงผู้ชายซะเยอะ (ขอบอกเลยนะ ไม่มีรักจริงหรอกค่ะ ตราบใดที่คุณยังทำงานแบบนี้อยู่ เพราะคนที่เค้ารักคุณจริง ไม่มีใครทนให้คุณทำงานนี้ได้หรอก)
แต่เราเป็นคนไม่วาสนานะ ทำงานมาร่วม6ปี เจอลูกค้ามาก็สาระพัด แต่ทำไมถึงไม่ซักคนเลยที่จะขอเลี้ยงเรา ทั้งๆที่เพื่อนเราหลายๆคน ถูกเอาไปเลี้ยงก็มีเยอะนะ บางคนก็กลายไปเป็นคุณนายมีหน้ามีตาในสังคมก็มี บางคนก็เอาไปเลี้ยงไม่ได้กี่เดือนก็ต้องกมาทำงานใหม่ก็มีค่ะ แต่เราไม่เคยมีแม้แต่คนจะมาขอเลี้ยง จนชินละคะ เข้าใจตัวเองว่าวาสนาไม่มี จนวันนึงจู่ๆคิดกับตัวเองว่า ตอนนี้เบื่อที่จะทำงานแบบนี้แล้ว อยากไปสู่โลกความจริงสักที (เพราะบางทีเราเผลอคิดนะ ไปนั่งกินข้าวในร้านอาหาร โรงแรมสุดหรู ก็นั่งมองนอื่นพลางคิดไปว่า คนอื่นเค้าทำงานไรกัน เค้าถึงมีตังมากินร้านอาหารแพงๆแบบนี้ ถ้าเราไม่ทำงานแบบนี้ เราจะมีตังมากินที่นี่ไหมนะ แล้วรู้สึกอายเวลาไปเจอสังคมข้างนอก เวลาที่พ่อ แม่ หรีอคนอื่น ถามว่าเราทำงานอะไร รู้สึกละอายแก่ใจค่ะ ต้องโกหกแบบกระอักกระอ่วม มันเป้นปมใในใจเราไปเลย)
จนได้มีโอกาสมาเจอกับลูกค้าคนนึง คือแฟนคนปัจจุบันนี้ค่ะ ครั้งแรกที่เจอกันเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้ามากนะคะ แต่ดูภายนอกเค้าแต่งตัวดี หน้าตาดูสะอาดสะอ้าน อายุก็ไล่เลี่ยกับเรา แต่เราก็ไ่เคยหวังนะว่าลูกค้าจะมาเอาเราเป็นแฟน เพราะเราเจียมตัวค่ะ รู้สถานะตัวเอง ว่าไ่มีใครเค้าเอาผญแบบนี้ทำเมียหรอก แต่แฟนเรากลับมาจีบเรา ชวนเราไปไหนมาไหนจนเราเริ่มสนิทกัน เค้าจึงเอ่ยปากขอให้เราเลิกทำงาน เราสองคนเราตัดสินใจเปิดออกคุยกันว่ามีหนี้สินอะไรที่พอช่วยกันได้เท่าไร แล้วเราจึงกลับไปที่ทำงานเพื่อบอกลาและขอบคุณทุกคนที่เคยช่วยเหลือเรามาตลอด แต่ก็มีเพื่อนที่ไม่เห็นด้วยมากมายนะค่ะ ทุกคนพากันส่ายหน้าว่ายังไงเราก็ไปไม่รอด เพราะบางคนในนั้นเคยทำงานแล้วออกไปอยู่ออฟฟิศมาก่อน แต่เต้าไปไม่รอดต่องกลับมาทำงานแบบเดิม แต่เรากลับคิดว่า ทำไมคนอื่นเคค้าทำได้แล้วเราจะทำไม่ได้ การใช้เงินทุกอย่างมันอยู่ที่เราจะปรับจะมองมันยังไงมากกว่า) หลังจากนั้นเราก็เปลี่ยนชีวิตเลยค่ะ จากที่เคยอยู่บ้านหรู ค่าเช่าราคาแพง ก็เปลี่ยนมาเป็นคอนโดห้องเล็กที่พออาศัยหลับนอนได้ และหางานทำค่ะ จนตอนนี้ออกมาได้หลายปีแล้วค่ะและไม่เคยคิดว่าจะกลับเข้าไปในวงจรอุบาทนั่นอีก คิดแต่ว่าตัวเองโชคดีมากที่มีคนพาออกมาจากตรงนั้น ซึ่งความจริงใครจะมาเราไปเป็นเมียแต่งงานออกหน้าจริงๆ มันยากมากนะคะ กับคนที่จะลืมอดีตด้านสีเทาของเราโดยที่ไม่เคย เอ่ยถึงมันอีก
จริงๆเราโชคดีมากนะคะ เพราะเรายังงมๆอยู่กับweb สมัครงาน ตอนนั้นเข้าปแค่กรอกประวัติทิ้งไว้ ไม่ถึง2วันก็มีบริษัทๆนึงมาเรียกให้ไปสัมภาษณ์งาน และบอกผลเลย ปรากฏว่ารับเราค่ะ ดีใจมากตอนนั้นทำไรก็ได้เราทำหมด แล้วบังเอิญอีกว่าเราได้งานที่ดีแล้วเงินเดือนที่ดีมาก แถมเจ้านายทั้งรักทั้งเอ็นดูเราอีก แต่ตอนนี้บอกเลยค่ะ ว่าชีวิตข้างนอกมีความสุขมาก เงินคือปัจจัยของความสุข แต่มีความสุขอีกมากมาย ที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน รู้สึกว่าตัวเองมีค่ามากเลยค่ะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ใครจะเอาเราก็ได้ขอแค่มีเงินอย่างเดียว ตอนแรกก็กังวลสาระพัดนะ ว่าเงินจะไม่พอใช้จากคนเงินเดือนหลายแสนต้องมาลดเหลือหลักหมื่น แต่พอเอาเข้าจริงๆสภาวะแวดล้อม สังคม จะพาเราไปเองค่ะ เราจะไม่ได้เจอเพื่อนที่ชวนกันไปซ์้อของราคาแพงหรือไปถลุงเงินทำอย่างอื่นกันอีกแล้ว เราจะเจอแต่เพื่อนที่ออฟฟิศที่ใช้เงินกันปกติมนุษย์ทั่วไป บ้านหลังจากที่อยากซื้อแทบตายไปกู้กี่ทีก็ไม่ผ่าน แต่กลับมาผ่านเพราะงานออฟฟิศนะคะ เงินที่ไม่เคยเก็บได้เลย ก็ดันมาเก็บได้จากเงินเดือนหลักหมื่นนี่แหละ ค่าของเงินมันต่างกันเยอะ เพราะเงินที่ได้มามีความลำบาไม่เท่า และที่สำคัญเลยเราจะเจอคนที่รักแล้วก็หวังดีกับเราจริง นั่นคือแฟน จขกท ค่ะ เค้าเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับเรามาก ที่มีเงินนับแสนนับล้านก็แลกไม่ได้ เค้าเป็นคนที่ให้ชีวิตใหม่กับเราด้วยค่ะ
ฝากบอกถึงสาวๆคนที่กำลังทำงานอยู่ แล้วคิดอยากจะออกมาแต่ไม่กล้า อยากให้เดินออกมาจากตรงนั้นนะค่ะ กล้าที่จะออกมาค่ะ โลกข้างนอกไม่ได้หน้ากลัวอย่างที่เราคิด แค่ความคิดเราต่างหากที่น่ากลัวกว่าสิ่งไหนๆ ทุกอย่างในชีวิตมันมีทางไปของมันค่ะ ขอแค่เรากล้าเปลี่ยน นาฬิกาหมุนตลอดเวลานะคะ อายุเราก้เยอะขึ้นทุกวัน งานที่พวกคุณทำอยู่มันมีแต่จะถอยหลังไปเรื่อยๆ วันนึงคุณแก่คุณก็ขายสู้เด็กรุ่นใหม่ๆไม่ได้แล้วค่ะ บางคนอาจจะคิดนะว่าจะเก็บเงินไปทำกิจการของตัวเอง แต่บอกเลยว่ายากถ้าตราบใดที่คุณยังไม่เคยเป็นลูกน้องคนอื่น คุณจะไม่มีความเข้าใจในะุระกิจของตัวเอง อีกทั้งยังไม่มีประสบการณ์ทำงานด้วย ควาคิดนั้นมันเป็นแค่ในฝันที่ใช้หลอกตัวเองไปวันๆค่ะ ชีวิตข้างนอกมันคืออนคตที่ดีกำลังรอคุณอยู่นะคะ อย่าให้งานที่ทำอยู่มันกัดกินใจคุณจนสายเกินไป
ฝากถึงคนที่คิดว่าตัวเองจะมาทำ เปลี่ยนความคิดใหม่ซะนะคะ อย่าได้เข้ามาในอาชีพแบบนี้เป็นอันขาดค่ะ อบายมุขและเรื่องชั่วๆทั้งหลายมันกำลังรอคุณอยู่ ไม่ว่าจะเหล้า ยาเสพติด ผู้ชาย เที่ยวกลางคืน ช็อปปิ้งติดของแบรนด์เนม คุณจะได้ทุกอย่างที่เราบอกไป แต่สิ่งที่คุณจะไม่มีคือ ค่าของความเป็นคน (คุณจะรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่มีเงินมากที่สุด และก็เป็นคนที่ไม่มีความสุขที่สุดเช่นเดียวกัน)ความรัก และอนาคต
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านนะคะ ขอบคุณค่ะ
แท็กผิดถูกขออภัยนะคะ เพราะไม่เคยเขียนมาก่อน