Youth for the future - ถ้าอยากเห็นบอลไทยไปบอลโลกในชาตินี้
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2537 วันเวลาที่ทีมชาติไทยชุดสิงห์ดรีมทรีม เป็นความหวังให้คนทั้งประเทศ ถึงแม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จในระดับเอเชียอย่างที่คาดหวัง แต่ชุดดรีมทีมเป็นชุดจุดประกายให้กำเนิดยอดนักเตะระดับตำนานในอดีต เช่น ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ตะวัน ศรีปาน , ดุสิต เฉลิมแสน
Spoil
ซิโก้ สมัยดรีมทีม
credit..ฟุตบอลสยาม ฉบับที่ 601 / 7 พ.ค. - 13 พ.ค. 2537
ใครจะรู้ว่าในตอนนั้นนักเตะดาวรุ่งทั้ง 3 ในยุคดรีมทีมของบิ๊กหอย จะสามารถพัฒนาจนกลายเป็นยอดนักเตะระดับตำนานของไทยได้
แต่สิ่งที่นักเตะเหล่านี้ได้รับคือการได้รับความไว้วางใจ ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอกับเกมทีมชาติเองและกับสโมสร
ทั้งที่ในตอนที่นักเตะเหล่านี้อายุยังเป็นดาวรุ่งอยู่
ในปัจจุบันด้วยความเป็นมืออาชีพของสโมสรในประเทศไทย ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันนักเตะมีความสามารถและขีดการพัฒนาที่มากกว่าอดีต ทั้งเรื่องวินัยในสนาม เรื่องการฝึกซ้อมที่ถูกต้อง เรื่องความเข้าใจเกม และการจัดการที่มีคุณภาพ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเราพัฒนานักเตะตั้งแต่วัยรุ่น โดยแนวทางการพัฒนาอย่างถูกวิธีและมีคุณภาพจะทำให้โอกาสในการพัฒนาคุณภาพนักเตะประเทศไทย สามารถพัฒนาเท่าเทียมประเทศชั้นนำในเอเชียได้อย่างไม่น้อยหน้า อย่างในปัจจุบันที่เริ่มเห็นเป็นรูปร่างชัดเจนคือ อคาเดมี่ของสโมสรชั้นนำอย่างบุรีรัมณ์ เมืองทอง และชลบุรี
ถึงแม้จะไม่ใช่นักเตะทุกคนที่จะสามารถประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย
หรือมีอีกหลายคนที่สามารถประสบความสำเร็จได้แม้เริ่มสัมผัสเกมที่อายุเริ่มมากแล้วก็ตาม
แต่ถ้าให้ยกตัวอย่างนักเตะเอเชียสักคนระดับโลกที่ได้รับโอกาสตั้งแต่เด็กๆ
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ Shinji Kagawa และ Yochiro Kakitani ที่สโมสร Ceroro Osaka
โดยทั้งคู่ได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นเพชรเม็ดงามของวงการลูกหนังญี่ปุ่น
Shinji Kagawa (ในวัย 17) ได้รับโอกาสลงสนามต่อเนื่องและเป็นกำลังหลัก
ส่วน Kakitani (18)ได้รับโอกาสบ้างโดยลงเป็นตัวสำรองส่วนใหญ่
Kagawa เป็นดาวซันโวของทีม ใน J2 และย้ายไปค้าแข้งที่ Dortmund
Kakitani เสียความมั่นใจอย่างรุนแรงจนต้องย้ายออกจาก Ceroro ไปทีมอื่นใน J2
ปัญหาหลักของ Kakitani ที่ตามมาคือเรื่องทัศนคติ เช่นการมาสายในการซ้อม
การพัฒนาที่สามารถมองเห็นได้ชัดของคากาวะ ทำให้มองเห็นถึงข้อแตกต่างของโอกาสสำหรับเด็กหลายๆคนในประเทศไทยของเรา
สำหรับตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนสำหรับโอกาสในการสัมผัสเกมของนักเตะ
ดาวรุ่งในประเทศไทยที่น่าชื่นชมคือ
ศิวกร แสงวงศ์ (19) ของบางก๊อกก๊าซ FC นักเตะรางวัล Best Young Player of The Year 2015 ของ goal.com
ศิวกรได้รับโอกาสตั้งแต่ปี 2015 โดยเริ่มได้ลงเป็นตัวจริงสม่ำเสมอ ภายใต้การคุมทีมของ Ricardo Rodríguez
ยาวจนมาถึงปี 2016 ที่เริ่มต้นกุนซือคนใหม่อย่าง อนุรักษ์ ศรีเกิดโดยในเกมที่ศิวกรได้ลงเป็นตัวจริง บีจีชนะทุกนัด
ทั้งการพัฒนาการที่เห็นได้ชัดในเรื่องการตัดบอลที่ดีมากขึ้น การแย่งบอลและอ่านเกมที่เป็นจุดเด่นอยู่แล้ว
รวมถึงความแข็งแกร่งและประสบการณ์ที่พัฒนาอย่างเห็นได้ชัดเจน
ในความเห็นของผม
Spoil
สิ่งที่น่าเสียดายสำหรับการพัฒนานักเตะในปัจจุบันคือ สโมสรที่เป็นสโมสรใหญ่ๆ ในปัจจุบันยังไม่ได้ให้โอกาสดาวรุ่งเพียงพอ
ที่ผมอยากจะสื่อคือ ในปัจจุบัน อายุ 19 ปีถือว่าช้า ในการลงไปเล่นเป็น 11 ตัวจริงในลีกสูงสุดแล้ว เพราะถ้าคาดหวังจะให้นักเตะได้ไปเล่นต่างประเทศต้องพัฒนากันตั้งแต่อายุน้อยกว่านั้น
ถ้าอยากให้นักเตะมีประสบการณ์และสามารถพัฒนาได้จนถึงขีดสูงสุดดาวรุ่งควรได้รับโอกาสในการสัมผัสเกมตั้งแต่อายุ 17 ปี เช่นเดียวกับทีม Belgium ที่เราเห็นกัน นักเตะอย่าง Lukaku , Eden Hazard , Kevin De bruyne หรือแม้แต่ Benteke ก็เริ่มชีวิตในลีกสูงสุดที่อายุ 17 ปี
โดยอย่างน้อยควรได้เล่นในดีวิชั่น 1 อย่างสม่ำเสมอ หรือยืมตัวไปเล่นทีมเล็กๆในลีกสูงสุด โดยถ้าได้ลงอย่างสม่ำเสมอย่อมมีผลดีกว่า นั่งสำรองของทีมชุดใหญ่
สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุดคือการพัฒนาเยาวชนในอนาคต ทั้งเรื่องการแข่งขันลีกเยาวชนที่กำลังจะจัดขึ้น และการแข่งขันระดับชาติ รวมถึงโอกาสที่จะหยิบยื่นให้นักเตะของทีมในไทยลีกแก่ดาวรุ่งที่เป็นเพชรของสโมสร ที่หลายคนเช่น วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ(18) ที่ยังได้รับโอกาสไม่เพียงพอก็เข้าใจว่าตำแหน่งในทีมชลบุรีค่อนข้างแน่นมาก แต่อาจหาแนวทางเช่นการปล่อยยืมตัวไปทีมเล็กๆในไทยลีกเพื่อโอกาสในการลงสนามและการพัฒนาของประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง ไม่มีอะไรเร็วเกินไปหรอกครับสำหรับฟุตบอลสมัยใหม่ เพราะการได้สัมผัสประสบการในเกมเป็นเรื่องสำคัญ และจุดสำคัญจุดเล็กๆนี้อาจเป็นจุดกำหนดว่าในอนาคตแล้วฟุตบอลไทยจะสามารถไปบอลโลกได้หรือไม่เลยก็เป็นได้ครับ
ถ้าอยากเห็นบอลไทยไปบอลโลกในชาตินี้ ถึงเวลาที่เราต้องเริ่มดันเด็กดาวรุ่งขึ้นมาสัมผัสเกมในลีกใหญ่กันได้แล้วครับ
สุดท้าย นักเตะที่ควรจับตามองในอนาคต
Spoil
จิณณวัตร รัศมี (16) BEC-Tero เป็นอีกคนที่ผมมองว่าจะเป็นยอดกองหน้าในอนาคต ควรปั้นครับ
ยังเด็กมากครับแต่แววมันทิ่มตาจริงๆ เซ็นสัญญาแล้วปั้นเลย BEC เชื่อผม
ศุภชัย ใจเด็ด (17) โอสถสภา นิ่งเกินอายุ จ่ายดี เทคนิคดี ยิงดี คล้ายธีรศิลป์ครับ แต่โดนเล่นกลางครับ
เล่นได้ดีอยู่ครับ ได้ลงตัวจริงบ้างแล้วครับในปีนี้
สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ (18) Bangkok united เดบิ้วไปแล้ว รอแจ้งเกิดเต็มตัว ข้อดีคือวางบอลยาวดีที่สุดในรุ่นเดียวกันตั้งแต่ U19 แล้วครับ แต่ทัศนคติ ต้องดีขึ้นอีกครับถึงจะได้ไปไกล โดยรวมนัดแรกที่ได้ลงก็โอเคครับ
อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (18) Buriram united เหมาะกับตำแหน่งหน้าต่ำมากๆ น้องน่าจะเป็นอนาคตของทีมชาติไทยถ้าได้รับโอกาสสม่ำเสมอ อนาคตไกลยาวๆ ครับ