เบื้องหลังความสำเร็จ ของเชลซี
กว่า เชลซี จะทะลุปล้องขึ้นมาเป็นเจ้ายุโรปได้อย่างทุกวันนี้ต้องใช้เวลาหลายปีในการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆนานา โดยใครจะรู้ว่า รุด กุลลิท อดีตนักเตะและโค้ชของทีมคือผู้ที่ช่วยปลุกปั้นให้ทีมสิงโตน้ำเงินครามยิ่งใหญ่อยู่จนถึงทุกวันนี้
ย้อนกลับไปช่วงยุค 90 เชลซี จัดเป็นทีมระดับกลางตาราง ซึ่งจะบอกว่าเป็นทีมดาดๆ คงไม่เกินเลยนัก โดยสมัยนั้นลีกสูงสุดของ อังกฤษ เพิ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็น พรีเมียร์ ลีก ไม่นาน
จุดเปลี่ยนสำคัญของ เชลซี มาเกิดเอาในปี 1995 เมื่อทีมได้เซ็นสัญญาดึง กุลลิท มาจาก เอซี มิลาน โดยสมัยนั้นเขาอาจจะอยู่ในช่วงขาลงแต่ก็มีส่วนช่วยยกระดับ เชลซี ได้มาก
เพียงแค่ 2 ปีหลังจากย้ายมาอยู่กับทีม กุลลิท ถูกดันขึ้นมารับบทบาทผู้จัดการทีม ก่อนจะพาทัพสิงห์บลูส์ขึ้นครองแชมป์ เอฟเอ คัพ ปี 1997
ณ เวลานั้น เชลซี เริ่มจะลืมหูลืมตาได้บ้างจากการได้แชมป์ดังกล่าว แต่เพียงแค่ 9 เดือนหลังจากนั้น กุลลิท ต้องช็อกเมื่อเจอปลดออกจากตำแหน่ง
''ผมยังรักช่วงเวลากับ เชลซี เสมอ'' กุลลิท กล่าว ''เป็นช่วงที่ผมสนุกกับการทำงานมาก''
วันที่ กุลลิท โดน เคน เบตส์ ประธานสโมสร เชลซี ตอนนั้นสั่งปลด สถานการณ์ของทีมกำลังไปได้สวยมาก รั้งอยู่อันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก , อยู่ในรอบ 8 ทีม คัพ วินเนอร์ส คัพ และอยู่ในรอบรองชนะเลิศ ลีก คัพ
''การตัดสินใจดังกล่าวยังคาใจผมอยู่เลย'' กุลลิท บ่น ''ทำไม ทำไม ทำไม ผมไม่เข้าใจ มันเป็นอะไรที่แย่มาก'' กุลลิท ที่เคยเป็นเจ้าของวลี เซ็กซี่ ฟุตบอล กล่าว
''ผมชอบแนวทางที่เราเล่นกัน เราได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ผมทำงาน นั่นคือจุดที่ทำให้ เชลซี ได้ลืมตาอ้าปาก กระทั่งตอนนี้พวกเขาคือแชมป์ยุโรป ผมเองก็ดีใจกับทีมด้วย''
หลังจาก กุลลิท โดนปลดออกไป เชลซี ก็ดันเอา จานลูก้า วิอัลลี่ ที่เป็นผู้เล่นของทีมในเวลานั้นเข้ามาสานงานต่อทันที
วิอัลลี่ พาทีมขึ้นครองแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ และ ลีก คัพ รวมไปถึง ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ด้วย จากนั้นทีมก็เริ่มจะพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ
เชลซี ได้สัมผัสกับคำว่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรก จากนั้นก็ค่อยๆขยับตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมแถวหน้าของ อังกฤษ
ทีมสิงโตน้ำเงินคราม ได้มีโอกาสประชันฝีเท้ากับยอดทีมจากยุโรปทำให้แฟนๆ เองก็เชื่อมั่นว่าทีมดีพอที่จะก้าวขึ้นไปอีกระดับ
กระทั่งปี 2003 นับเป็นก้าวสำคัญของ เชลซี เมื่อ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาว รัสเซีย เข้ามาเทกโอเวอร์สโมสร พร้อมกับเทเงินมหาศาลลงทุนเสริมทัพอย่างบ้าคลั่ง
บวกกับการที่ เชลซี ได้ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือฝีมือดีเข้ามาทำทีมอีกทำให้ เชลซี ได้ขึ้นครองบัลลังก์พรีเมียร ลีก เป็นครั้งแรกในปี 2005
จากนั้นขุนพลสิงห์บลูส์ก็ยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของ อังกฤษ อย่างแท้จริงด้วยการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้ในฤดูกาลต่อมา
เชลซี เดินหน้ากวาดแชมป์เป็นว่าเล่น แต่ก็ยังไปไม่ถึงฝั่งฝันใน แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยใกล้เคียงที่สุดในปี 2008 เมื่อเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศที่ มอสโก แต่แพ้จุดโทษต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด
อย่างไรก็ตาม เชลซี เองก็ยังไม่ท้อแม้ว่าจะผลัดเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปหลายราย ก่อนจะมาประสบความสำเร็จเอาในปีนีเอง
''การได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก คือสิ่งที่สุดยอดที่สุดแล้วในฐานะนักเตะ'' กุลลิท ย้ำ อีกทั้งกุนซือที่พา เชลซี มาถึงแชมป์ได้คือ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ อดีตลูกทีมที่เขาเป็นคนซื้อมาร่วมทีมเองกับมือด้วย
''ผมยังคงรู้สึกดีเสมอกับ เชลซี รวมถึง มิลาน ด้วย มันเป็นความรู้สึกผูกพันกับสโมสร มากกว่าทีมอื่นๆที่ผมเคยเล่นให้มา
''ทั้งสองทีมคือสโมสรที่ผมรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัว ซึ่งผมเองก็ภูมิใจมากๆกับการที่พวกเขาได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก''
มองกันแบบผิวเผินจะคิดได้ง่ายๆว่า โรมัน อบราโมวิช คือผู้ที่พาให้ เชลซี ยิ่งใหญ่ได้ในวันนี้ แต่ถ้าลองมองย้อนกลับไป หากไม่มีประกายจากการที่ กุลลิท พาทีมสิงโตน้ำเงินครามครองแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 1997 บางที เชลซี คงมาไม่ถึงจุดนี้ก็เป็นได้

อันนี้ผมเอามาจากบทความในเว็บ
http://www.siamsport.co.th/column/120529_187.html
ผมเองก็ดูไม่ทัน ทันดูช่วงมูรินโญ่เข้ามา ก็เลยไม่แน่ใจว่าก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรบ้าง แต่ตอนผมทัน ทรงบอลก็โอเค สตาร์เข้าทีมมากขึ้นแล้ว คนอื่นมีความเห็นยังไงก็บอกกันได้นะครับ
