ไม่มีใครรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร การศึกษาที่ถูกต้องจึงต้องเป็นการวิเคราะห์และถกเถียงให้ห้องเรียนตามข้อมูลที่มี เลิกได้แล้วการตั้งธงว่าฝ่ายไทยต้องเป็นคนดี ฝ่ายพม่าต้องเป็นคนเลว ให้เด็กได้อภิปรายตามข้อมูลที่มี แล้วไปสอนเรื่องการวิเคราะห์แหล่งข้อมูลดีกว่าว่าอันไหนเชื่อถือได้มากน้อยเพราะอะไร

พม่าไม่เคยรบไทยครับ
มีแต่อยุธยารบกับอังวะและหงสา

ก็ชอบมีคลิปแบบเด็กพม่าจนๆตามสถานที่ท่องเที่ยวพูดอังกฤษคล่องปรื๋อ คนไทยก็คิดกันไปเหมาว่าพม่าพูดอังกฤษกันได้ทั้งประเทศ

ผมว่าจริงส่วนนึง เพราะช่วงแรกผู้ชนะเป็นคนเขียนประวัติศาสตร์ ยกตัวอย่างวันก่อนผมอ่านต่วย'ตูนพ็อกเก็ต เขาว่าด้วยประวัติศาสตร์อเมริกาที่ถูกบันทึกเพียงว่า "โคลัมบัส เป็นผู้ค้นพบดินแดนใหม่" แล้วพวกชาวอินเดียแดงที่อาศัยก่อนหน้านั้นหล่ะ "พวกอินเดียนแดงนั้นโหดร้าย ได้ทำการถลกหนังศรีษะของคนขาวออก" แต่ไม่ยักกะพูดถึงตอนที่ไอ้พวกขาวไล่ฆ่าอินเดียแดง + ไล่ที่เลยแหะ

เท่าที่เห็นประวัติศาสตร์ที่เขียนโดยผู้แพ้ก็มี 3 ก๊กเนี่ยแหละ

แต่เรื่องเนื่องจากสมัยนี้มาสามารถสอบทวนได้จึงสามารถแก้ไขประวัติศาสตร์ตามหลังกันได้มากกว่าครับ

ประวัติศาสตร์ไทย น่าจะไม่ค่อยตรงตามจริงสักเท่าไหร่นะผมว่า จุดหมายเน้นเรื่องชาตินิยมซะมากกว่า ซึ่งก็เป็นทุกชาติ แต่อาจเพราะนิสัยของบรรพบุรุษไทยไม่ชอบการบันทึก เลยเหมือนเรื่องเล่าสืบทอดกันมา แล้วก็แต่งเสริมมาเรื่อยๆ

แค่ขอให้ภูมิใจในชาติตัวเอง แล้วก็ให้เกียรติแก่ประเทศเพื่อนบ้านด้วยก็พอแล้ว

งงมากกับหลายๆคนซึ่งก็เยอะมาก ชอบด่าคนเขมร พม่า ลาว ซะอย่างกับพวกเค้าเป็นทาสซะอย่างนั้น

ผมถึงบอกว่ามันตกยุค ประโยคนั้นมันไม่ได้ผิดแต่มันตกยุค มันใช้ไม่ได้แล้วในสมัยนี้ ประวัติศาสตร์ไม่เคยถูกบันทึกโดยผู้ชนะฝ่ายเดียว แต่คนสมัยนั้นได้อ่านแค่บันทึกของผู้ชนะแค่นั้น ไม่ได้หมายความว่าความจริงอีกด้านมันไม่เคยถูกบันทึกไว้ ซึ่งคนสมัยนี้หาอ่านได้รอบด้านมาก แต่ไอ้วลีนี้ก็ยังถูกหยิบมาพูดเท่ห์ๆเหมือนเดิม ยุคนี้มันเป็นยุควลีที่ว่าฝ่ามือเดียวบังฟ้าไม่มิด

3ก๊กมันบันทึกโดยผู้แพ้ตรงไหนครับ ถ้าหมายถึงฉบับวรรณกรรมมันก็คือวรรณกรรม ถ้าหมายถึงพงศวดารจนถึงตอนนี้ก็ยังมีการตีความใหม่อยู่เรื่อยๆตามบันทึกแหละหลักฐานใหม่ๆ

ผู้ปกครอง(ลัทธิทหาร) เรียกประวัติศาสตร์ ที่เขียนแบบนี้ว่า "ประวัติศาสตร์สร้างชาติ"

ความถูกต้องตามหลักวิชาการโบราณคดีมั๊ย ? เอาไว้ก่อน เพราะเพื่อจะสร้างให้คนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันประมาณว่าเราเป็นประเทศ มีประวัติศาสตร์อันเดียว มีศัตรูคนเดียวกัน
ให้เชื่ออย่างเดียวกัน สร้างวีรบุรุษคนเดียวกัน สร้างวีรกรรมที่กล้าหาญ สร้างตำนานให้เข้มขลัง ให้เป็นพลังยึดโยงคนปัจจุบัน หรือคนที่เชื่อว่านั่นคือเรื่องจริง....

นักวิชาการทางโบราณคดี แต่ก่อนเค้าไม่ค่อยไปต่อล้อต่อเถียงกับรัฐ
เค้าสอนลูกศิษย์เค้าเงียบ ๆ ให้สังเคราะห์ หลักฐาน และความเป็นจริง
ไม่เชื่อ เสด็จในกรมดำรงฯ หรือยอร์ช เซเดย์ เพียงอย่างเดียว....
หรือจารึก พม่าว่าอีกอย่าง แต่จารึกไทย ว่าอีกอย่าง..

กร๊าก... เด๋วจะมีนักวิชาการฝั่งพม่าออกมาเสวนาอีก

เรื่องโดนปืนลูกหลงตายบนคอช้างอ่ะ ชำระใหม่ซะเถอะ
ยอมรับความจริงได้แล้วว่าโดนพระนเรศฟันจนคอขาด


ผมไม่เข้าใจเลย พอเห็นประวัติศาสตร์พม่า แล้วทำไมต้องเชื่อว่าของพม่าคือสิ่งที่ถูกต้อง
คือ พวกคุณนักวิชาการต้องการอะไรครับ ลึก ๆ ในใจ

เหมือนอะไรดีละ แบบหนังเบรฟ ฮาร์ท ในมุมมองของคนสก๊อตกับของคนอังกฤษ
มันเหมือนกันมั้ย วิธีการตาย เขียนเหมือนกันป่าว..

รู้ ๆ อยู่ ประวัติศาสตร์ จริง 20 มโน 80

เบื่อจริม ๆ พวกนักวิชาการ

ผมว่าเรื่องพระเจ้าเอกทัศตอนเสียกรุงครั้งที่2นั้นโดนกล่าวหาแบบไร้หลักฐานโครตๆ โดนกล่าวหาว่าห้ามยิงปืนใหญ่เพราะสนมกลัวเสียงปืน กษัตริย์อ่อนแอบ้าง คนไทยหักหลังเปิดประตูเมืองบ้าง ฯลฯ
จริงๆแล้วพม่าบุกมาครั้งนี้พระเจ้าเอกทัศนั้นรับมือสุดกำลังแล้วจริงๆพระองค์ทรงยันทัพพม่านานถึง14เดือน ยาวนานขนาดไม่มีปรากฎกษัตริย์พระองค์ไหนในไทยยันศึกได้นานขนาดนี้ แต่ด้วยครั้งนี้พม่าใช้ยุทธวิธีใหม่ที่อยุธยาไม่เคยเจอมาก่อนต่อเรือรอหน้าน้ำปลุกเสบียงกินเองในทัพแล้วไม่ถอยกลับ เพราะ ปกติทุกๆครั้งพอถึงน่าน้ำพม่าล้อมเรา6-7เดือนก็ถอยทัพกลับ พอเราถูกล้อมนานเสบียงในพระนครเริ่มหมดไม่มีดินดำไว้ยิงปืนต่อสู้จนพม่าเข้าใกล้กำแพงเมืองเผารากกำแพงเมืองจนถล่มเราต้องให้เครดิตพม่าด้วยครั้งนี้เค้าเตรียมตัวมาดีจริงๆต่อให้พระนเรศวรมาอยู่ยุคนี้อยุธยาก็คงไม่รอดเหมือนกันแล้วในพงศาวดารร่วมสมัยก็บอกว่าพระเจ้าเอกทัศนั้นทรงวางแผนตามประเพณีที่เป็นมาช้านานรอจนน้ำหลากอยู่ในกำแพงรักษาเส้นทางออกทะเลซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงเข้าพระนครมีรบพุงชิงค่ายชิงป้อมกันช่วงแรกๆแต่พอดินดำหมดเราก็หมดหนทางต่อสู้จนเสียเส้นทางลำเลียงเสบียงก็เหมือนอยุธยารอวันแตก
ปล.พระเจ้าเอกทัศพระองค์ทรงพระปรีชาด้านการรบไม่แพ้กษัตริย์พระองค์อื่นๆแต่เพราะกรุงแตกเลยตกเป็นแพะรับบาปให้ลูกหลานมานั่งด่ากันในบทเรียนสมัยนี้ทั้งๆที่พระองค์ทรงทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้วไม่มีกษัตริย์หรือผู้นำที่ไหนหรอกห้ามยิงปืนเพราะกลัวสนมตกใจใส่ร้ายกันชัดๆ

.