[RE: เลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย]
Kaito Daiki พิมพ์ว่า:
_น้ำแข็งใส_ พิมพ์ว่า:
chaky_kk พิมพ์ว่า:
Kaito Daiki พิมพ์ว่า:
chaky_kk พิมพ์ว่า:
Kaito Daiki พิมพ์ว่า:
ตอนนี้บอลไทยก็กำลังไปได้ดีไม่ใช่หรอครับ อันนี้สงสัยนิดนึง แล้วถ้ายีไม่อยู่ต่อมันจะต่อเนื่องและดีขึ้นหรือเปล่า หรือว่าเราอคติกับยีเกินไปอย่างที่สยามกาลีว่าจริงๆ
ดีขึ้น หรือ เหมือนเดิม เราไม่รู้หรอกท่าน ต้องลองของใหม่
แต่ที่แน่ๆ ไม่น่าจะมียุคไหนทำงานได้แย่ เท่ายุคยีอีกแล้ว
ทั้งการจัดการ การรวมอำนาจ มาตาราฐานการทำงาน ซึ่งอะไรๆก็แย่ไปหมด
ทีมสมยศก็ย่อมมีจุดบอดเหมือนกัน แต่ผมยังเชื่อว่า มันไม่น่าจะเลวร้ายไปกว่ายุคยีแล้ว
สรุปคือ มีแต่เจ๊า กับ ดีขึ้น
อันนี้ไม่ได้แกล้งโง่นะ แต่คือสงสัยว่าตอนนี้บอลไทยก็กลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วมันเลวร้ายยังไงหว่า
ดีแค่ผลงานที่ซิโก้ทำครับ วิธีการจัดการของกลุ่มวรวีร์ยังเหมือนเดิม
ฟีฟ่าเดย์ไม่เตะ บอลลีกอลหม่าน ปัญหาตัดสินสองมาตราฐานจนวุ่นวาย
ทีมพวกกูปรับอีกอย่าง ทีมพวกมึงปรับอีกแบบ
การจัดการการเงินไม่โปร่งใส การโอนเงินค่าปรับไม่ได้ชำระให้องค์กรแต่ชำระให้บุคคล
เงินสนับสนุนจากฟีฟ่าไม่ได้ถูกใช้พัฒนาเยาวชนและรากหญ้าอย่างจริงจัง
มีแค่ไฟล์เมคๆงานส่งเค้าไป เพื่อรับเงินปีถัดไป แล้วเงินไปไหน?
ยังไม่รวมปัญหาวงการผู้ตัดสิน เด็กกูเด็กมึง เป่าพลาดเด็กกูทำงานต่อ เด็กมึงต้องรับโทษ
เอาง่ายๆว่าถ้ายังวุ่นวาย และไม่เป็นมาตราฐานแบบนี้
ถ้าซิโก้วางมือและหาคนมือถึง เข้าใจเด็กแบบซิโก้มาทำต่อไม่ได้ ทีนี้ก็ได้เวลาล่วงครับ
ถ้าจะเล่าทีละเรื่อง ยาวแน่ เอาเป็นว่า เป็นเรื่องของการจัดการและการรวบอำนาจครับ
ถ้าตอบขนาดนี่้แล้วยังจะแถอีกก็บายละครับ
ไม่ได้แถ แค่บางทีก้อแอบสงสัยว่าอะไรจะขนาดนั้น
แสดงว่าอาจเพิ่งรู้จักบังยีไม่นาน
หลังจาก ลอร์ด เดวิด ทรีสแมน อดีตประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่ามีบอร์ดบริหารของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟ่า” 4 รายเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ในการโหวตเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งมีชื่อของ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลไทยฯ ติดโผไปด้วย
จากกรณีดังกล่าวส่งผลให้มีแฟนลูกหนังจำนวนมากออกมาตำหนิผลงานของ “บิ๊กยี” ผ่าน MGR Sport ซึ่งหนึ่งในนั้นมีการโพสต์ข้อความถึงผลงานสุดอัปยศของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยภายใต้การนำของ วรวีร์ มะกูดี ช่วงที่ดำรงตำแหน่ง 2 สมัยซ้อน เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2550-2554
เริ่มกันที่ ปี 2550
– 19 ตุลาคม 2550 : ทีมชาติไทยชุด U-16 แพ้ไต้หวันในรายการ U-16 ชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือก เพราะนักฟุตบอลต้องไปเล่นให้ทีมโรงเรียนตอนเช้าและมาแข่งทีมชาติตอนบ่าย
– 23 ธันวาคม 2550 : เชิญสโมสรฟุตบอลจากประเทศอิรักมาเตะคิงส์คัพ แต่ลวงคนทั้งประเทศว่าเป็นทีมชาติอิรัก
ปี 2551
– 6 กุมภาพันธ์ 2551 : ทีมชาติไทยชุดใหญ่ นำผู้เล่นติดโทษแบน 2 คนเดินทางไปแข่งนัดเจอกับญี่ปุ่นในนัดเยือน (จุดกำเนิดตกรอบปรีโอลิมปิก)
– 14 มิถุนายน 2551 : ทีมชาติไทยชุดใหญ่ไม่มีสนามซ้อม ทำให้ต้องวิ่งซ้อมที่พื้นปูนหน้าสนามราชมังคลาฯ ก่อนแข่งกับญี่ปุ่น ในอีก 2 วันถัดไป
– 2 กันยายน 2551 : ทีมชาติไทยชุด U-19 เข้าร่วมอุ่นเครื่องในรายการทันเนียน คัพ ที่ประเทศเวียดนาม แต่มีผู้รักษาประตูของทีมไปคนเดียว คือ แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม เนื่องจาก กวิน ธรรมมาสัจจานันท์ ต้องอยู่ช่วยต้นสังกัดลุ้นแชมป์ดิวิชัน 1 (ก็แล้วทำไมไม่เรียกคนอื่นติดไปแทนทั้งๆ ที่เป็นแค่รายการอุ่นเครื่อง)
ปี 2552
– 2 กรกฎาคม 2552 : ทีมชาติไทยชุดใหญ่ต้องตระเวนหาสนามซ้อม แต่ไม่มีสนามให้ซ้อม ต้องงดซ้อม 1 วัน
– 4 กันยายน 2552 : สมาคมฟุตบอลฯ ยกเลิกการไปเก็บตัวที่ประเทศคูเวต และปฎิเสธคำขออุ่นเครื่องของทีมชาติจีนชุดใหญ่ แต่เลือกที่จะเตะฟุตบอล 4 เส้าที่ภูเก็ต เจอกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด, ฮองอัน ยาลาย จากเวียดนาม และยาดานาบอน จากเมียนมาร์ เพื่อเป็นการเตรียมทีมแข่ง เอเชียนคัพ รอบคัดเลือกแทนโดยอ้างว่าไม่มีงบประมาณ
– 19 ตุลาคม 2552 : ทีมชาติไทยชุด U-16 ตกรอบคัดเลือก U-16 ชิงแชมป์เอเชีย เพราะทีมคิดว่าใช้กฎลูกได้เสีย แต่จริงๆ แล้วใช้ เฮดทูเฮด
– 15 พฤศจิกายน 2552 : นัดนักเตะทีมชาติไทยชุดซีเกมส์มารายงานตัวกับผี (เรียกเด็กมา แต่ไม่มีผู้ใหญ่มาเลยสักคน)
– 15 ธันวาคม 2552 : ออกมาแถลงข่าวเรื่องการเบิกงบ 3 ล้านบาท เพื่อสั่งทำถ้วยแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกให้กับแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกปี 2010 จนเวลาผ่านไปนานเพิ่งจะมีการโชว์ถ้วยเมื่อวันศุกร์ที่ 6 พ.ค. 2554
– 15 ธันวาคม 2552 : นายกสมาคมฯ ประกาศจะหาเกมอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่า จนบัดนี้ 1 ปี 5 เดือน ทีมชาติไทยได้อุ่นเครื่องตามปฏิทิน FIFA เพียง 3 นัด (สิงคโปร์ 1, อินเดีย 2 ไม่นับ แอฟริกาใต้) จาก 13 นัด เท่านั้น
– 29 ธันวาคม 2552 : เชิญทีมชาติซิมบับเวปลอมมาเตะอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทยโดยผลักดันให้ ฟีฟ่า รับรองผลการแข่งขันได้ ซึ่งปัจจุบันยกเลิกการรับรองไปแล้ว
ปี 2553
– 11 มกราคม 2553 : สตง.สั่งสอบสวนทีมชาติไทยชุดซีเกมส์มีการเบิกเบี้ยเลี้ยงเกินจริง (เบิกเบี้ยเลี้ยงเต็มปี แต่จริงๆ แล้วเก็บตัว 3 เดือน แต่หลังจากตกรอบซีเกมส์เลยออกมาอ้างว่าเก็บตัวแค่วันเดียวเลยโดนสั่งสอบ)
– 25 กุมภาพันธ์ 2553 : ชาตรี ฉิมทะเล ตกเครื่องบินเมื่อตอนทีมชาติไทยจะบินไปเก็บตัวที่กาตาร์ ซึ่งไม่มีตั๋วสำหรับ ชาตรี แต่ สตีฟ ดาร์บี้ ที่ถูกสมาคมฯ พักงาน กลับได้นั่งเครื่องไปแทน ก่อนที่ชาตรีจะต้องตามไปทีหลัง
– 2 มีนาคม 2553 : สมาคมฟุตบอลไทยฯ ลืมทำวีซ่าเข้าอิหร่านให้นักเตะและสตาฟฟ์โค้ชทำให้เสียเวลา 3 ชม.ที่สนามบินตอนขาเข้าประเทศ
– 1 ตุลาคม 2553 : ทีมชาติไทยชุด U-19 ออกเดินทางไปแข่ง U-19 ชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายที่ประเทศจีนในวันที่ 3 ตุลาคม ทำให้นักเตะมีเวลาปรับตัวกับสภาพอากาศเพียง 1 วันก่อนแข่งกับซีเรีย และแพ้ไป 0-1
– 15 พฤษจิกายน 2553 : ทีมชาติไทยชุดเอเชียนเกมส์ต้องเหลือผู้รักษาประตูคนเดียว เพราะ กวิน ผู้รักษาประตูมือ 1 บาดเจ็บ แต่ทีมชาติไทยดันส่งรายชื่อตัวสำรองเป็นผู้เล่นอายุเกิน 23 ทว่าโควตาอายุเกินเต็ม ทำให้ไม่สามารถเรียกมาเสริมได้ จึงต้องเล่นโดยไม่มีผู้รักษาประตูสำรองในนัดที่เหลือ
– 25 พฤษจิกายน 2553 : ประกาศเรียกตัวนักเตะชุดเอเชียนคัพ ที่จะแข่งในวันที่ 1 ธ.ค. ให้มารายงานตัววันที่ 26 พ.ย. แต่เนื่องด้วยติดการแข่งขัน เอฟเอคัพ นัดชิงในวันที่ 28 พ.ย. จึงให้มารวมตัวและเดินทางในวันที่ 29 และได้ซ้อมวันที่ 30 เพียงวันเดียวก่อนการแข่งกับลาว ทั้งๆ ที่วิธีแก้ง่ายๆ คือระหว่างที่ U-23 แข่งเอเชียนเกมส์ ทีมชาติชุดใหญ่ที่เหลือที่ไม่ติดอะไร ก็สามารถเรียกตัวมาซ้อมร่วมกันก่อนก็ได้
ปี 2554
– 3 กุมภาพันธ์ 2554 : นายกสมาคมฯ สั่งแก้ตารางไทยพรีเมียร์ลีกให้เตะเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ห้ามมีกลางสัปดาห์ ทำให้เกินกำหนดส่งรายชื่อเพื่อเข้าแข่งบอลถ้วยเอเชีย (นายกสมาคมฯ ไม่ทราบว่ากำหนดส่งรายชื่อเมื่อไร) เลยแก้เก้อว่าจะไปขอส่งทีหลังแต่สุดท้ายเหลว ต้องแก้ตารางไทยพรีเมียร์ลีกให้กลับไปเตะกลางสัปดาห์อีกรอบ
– 23 กุมภาพันธ์ 2554 : ทีมฟุตบอลโอลิมปิกทีมชาติไทย ถูกปรับแพ้ปาเลสไตน์ 0-3 เพราะส่งผู้เล่นติดโทษแบนลงสนาม
– 6 พฤษภาคม 2554 : นายกสมาคมฯ ล้มการประชุมเพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่โดยไม่มีการลงมติจากที่ประชุม (ถือว่าผิดกฎของ กกท.)
– 10 พฤษภาคม 2554 : อดีต เอฟเอ อังกฤษ ออกมาแฉว่า วรวีร์ มะกูดี เป็น 1 ในบอร์ดฟีฟ่า ที่ทำการขายเสียงในการโหวตเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 โดยเบื้องหน้าคือให้อังกฤษมาเตะอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย แต่เบื้องหลังคือขอลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดเกมอุ่นเครื่องนัดนี้ไปทั่วโลก แลกกับการโหวตให้ประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก