ทำไมพกสเปรย์พริกไทยไม่ได้ ไม่เข้าใจ  

คือดูยังไง พกมีดหรือปืนอันตรายกว่าสเปรย์พริกไทยหลายเท่านะ แต่ทำไมโทษเบากว่า  

ทำความเข้าใจ...การพกสเปรย์พริกไทย! | เดลินิวส์
„จากกรณีที่มีการส่งต่อภาพและข้อความอ้างว่า ผู้กระทำผิดฐานข่มขืนมีโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับสูงสุด 40,000บาท ผู้พกพาสเปย์พริกไทยมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับ 1 ล้านบาท ได้สร้างกระแสความไม่พอใจและข้อกังขาถึงกฎหมายไทย ทำไมผู้กระทำผิดฐานข่มขืนจึงมีโทษน้อยกว่าผู้ต้องการป้องกันตัว จนถึงขั้นมีการล่ารายชื่อเพื่อแก้ไขกฎหมายให้สามารถพาสเปรย์พริกไทยได้อย่างถูกต้อง นายวันชัย สอนศิริ ทนายความและนักพูดเรื่องกฎหมายชื่อดัง กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ฉะนั้นข่าวลือที่กำลังเผยแพร่ในโลกโซเซียลเน็ตเวิร์กอ้างว่า ผู้ใดพกพาสเปรย์พริกไทยมีโทษจำคุกสูงสุด10ปี และปรับสูงสุด 1,000,000 บาท จึงไม่เป็นความจริง เนื่องจากสเปรย์พริกไทยมิได้เป็นอาวุธโดยสภาพ เพียงแต่สามารถใช้หรือเจตนาเป็นอาวุธประทุษร้ายร่างกายให้ถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑(๕) (๒)ส่วนโทษปรับสูงสุด1ล้านบาท น่าจะหมายถึงการดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกรณีทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นตาบอด“

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/article/250127[/instagram]  

กฏหมายล้าสมัยระบุว่ามันเป็นอาวุธอันตราย  

มีใครหลายคนกล่าวว่าเป็นสิ่งที่แก้ไม่ได้ ...

และดีอยู่แล้วอีกต่างหาก  

งี๊ไม้จิ้มฟันก็เทียบเท่าเลยครับ เพราะมิได้เป็นอาวุธโดยสภาพ เพียงแต่สามารถใช้หรือเจตนาเป็นอาวุธประทุษร้ายร่างกายให้ถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธได้ถึงขั้นตาบอด  

ถ้าใช้งานกระป๋องพริกไทยแบบนี้ ก็ถือเป็นอาวุธโดยสภาพ.. เช่นกัน



 

http://ตั๋วทนาย.com/%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2/

โดยสรุปแล้ว สเปรย์พริกไทยไม่ใช่อาวุธโดยสภาพ เพราะมิได้ผลิตขึ้นเพื่อมุ่งทำร้ายผู้ใด
แต่หากใช้กระป๋องเขวี้ยงโจรหัวแตกตาย นั่นถือเป็นอาวุธโดยสภาพ และมีการไตร่ตรองไว้ก่อน
โดยการใช้ที่เล็งผล โทษคือฆ่าคนตายโดยเจตนา โทษสูงสุดคือประหารชีวิต..

มาตรา 288 ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา



ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี

 

ทำความเข้าใจ...การพกสเปรย์พริกไทย! | เดลินิวส์
„จากกรณีที่มีการส่งต่อภาพและข้อความอ้างว่า ผู้กระทำผิดฐานข่มขืนมีโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับสูงสุด 40,000บาท ผู้พกพาสเปย์พริกไทยมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับ 1 ล้านบาท ได้สร้างกระแสความไม่พอใจและข้อกังขาถึงกฎหมายไทย ทำไมผู้กระทำผิดฐานข่มขืนจึงมีโทษน้อยกว่าผู้ต้องการป้องกันตัว จนถึงขั้นมีการล่ารายชื่อเพื่อแก้ไขกฎหมายให้สามารถพาสเปรย์พริกไทยได้อย่างถูกต้อง นายวันชัย สอนศิริ ทนายความและนักพูดเรื่องกฎหมายชื่อดัง กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ฉะนั้นข่าวลือที่กำลังเผยแพร่ในโลกโซเซียลเน็ตเวิร์กอ้างว่า ผู้ใดพกพาสเปรย์พริกไทยมีโทษจำคุกสูงสุด10ปี และปรับสูงสุด 1,000,000 บาท จึงไม่เป็นความจริง เนื่องจากสเปรย์พริกไทยมิได้เป็นอาวุธโดยสภาพ เพียงแต่สามารถใช้หรือเจตนาเป็นอาวุธประทุษร้ายร่างกายให้ถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑(๕) (๒)ส่วนโทษปรับสูงสุด1ล้านบาท น่าจะหมายถึงการดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกรณีทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นตาบอด“

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/article/250127[/instagram]