Levi’s Stadium สนามแข่งขันอเมริกันฟุตบอลประจำทีม San Francisco 49ers ใน NFL ซึ่งรองรับผู้ชมได้สูงสุดถึง 83,000 คนนั้น ได้กลายเป็นหนึ่งในสนามแข่งขันกีฬาที่มีการใช้งาน Wi-Fi ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ซึ่งการออกแบบระบบ Wi-Fi นี้ก็เป็นฝีมือของ Chuck Lukaszewski ผู้จัดการอาวุโสสำหรับโซลูชั่น Wi-Fi ภายนอกอาคารแห่ง Aruba Networks ที่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการสร้างสุดยอดสนามแข่งขันกีฬา ซึ่งทาง Levi’s Stadium ก็ได้เปิดโอกาสให้ทาง Aruba Networks ออกแบบระบบ Wi-Fi ได้อย่างอิสระตามต้องการ จึงทำให้ทุกวันนี้ Levi’s Stadium กลายเป็นสนามกีฬาที่มีระบบ Guest Wi-Fi ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งในที่สุดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


Traffic ขนาด 45TB จากการแข่งขันเพียง 20 เกม
จากการแข่งขันใน NFL 10 เกม และการแข่งขันกีฬาอื่นๆ อีก 10 เกม Aruba Networks ได้ทำหน้าที่ให้บริการ Guest Wi-Fi แก่ผู้ใช้งานทั้งสิ้นจำนวน 415,000 คน และคิดเป็นปริมาณ Bandwidth รวมที่มากถึง 45TB โดยสถิติการใช้งานต่อวันสูงสุดนั้น คือวันที่มีการแข่ง WWE WrestleMania 31 ซึ่งมีการใช้งาน Wi-Fi มากถึง 4.5TB ภายในวันเดียว ในขณะที่ตัวเลขปริมาณ Concurrent Users สูงสุดที่มีการตรวจพบนั้นมีมากถึง 18,900 คนต่อหนึ่งเกมการแข่งขัน

ทั้งนี้เพื่อรองรับงาน Super Bowl 50 ที่จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของปีหน้า ทาง Levi’s Stadium เองก็ได้เตรียมแผนการที่จะอัพเกรด Wireless Access Point รวมถึงทำการติดตั้ง Access Point เพิ่มเติมเพื่อรองรับกลุ่มผู้ชมที่ซื้อตั๋วยืน และบริเวณอื่นๆ รอบๆ สนามแข่งขันอีกด้วย



เสริมบริการใหม่ๆ สร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้งานได้ด้วย Wi-Fi จาก Aruba Networks
Wi-Fi นั้นไม่เพียงทำให้เหล่าผู้ชมสามารถทำการเชื่อมต่อกับ Social Network ได้เท่านั้น แต่ Levi’s Stadium ยังได้ทำการสร้างบริการเสริมต่างๆ เพื่อให้การรับชมกีฬาของผู้ชมเป็นไปได้ด้วยประสบการณ์ที่ดีที่สุด โดยมีการเสริมบริการต่างๆ ดังนี้

Replay App สำหรับให้ผู้ชมสามารถดูช๊อดเด็ดย้อนหลังผ่าน Mobile Application จากในสนามแข่งขันได้ทันทีที่ต้องการ ทำให้การรับชมมีอรรถรสมากขึ้น และมีโอกาสเกิด Viral ได้มากขึ้นจากการ Capture ภาพได้อีกเช่นกัน
ระบบสั่งอาหารและเครื่องดื่มผ่าน App ทำให้ผู้ชมทุกคนสามารถสั่งของว่างมารับประทานระหว่างชมการแข่งขันได้ พร้อมบริการส่งถึงที่นั่งได้ทันที ทำให้ผู้ชมไม่ต้องเสียโอกาสในการชมจังหวะสำคัญของเกมการแข่งขัน, ไม่ต้องเสียเวลาต่อแถวซื้ออาหาร และยังสร้างโอกาสการเพิ่มยอดขายให้กับสนามกีฬาได้อีกด้วย
โฆษณาผ่านชื่อ SSID ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถทำการโฆษณาในวาระโอกาสที่ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างง่ายดาย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบผ่าน Social Network ก็พบว่าระบบ Wi-Fi ที่สร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับ Levi’s Stadium นี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก และยังมีการร้องเรียนหรือไม่พอใจกับระบบ Wi-Fi น้อยมาก ซึ่งแน่นอนว่าบริการต่างๆ เหล่านี้จะสร้างความประทับใจไม่ได้เลย ถ้าหากระบบ Wi-Fi ไม่มีความเสถียรที่มากพอ ซึ่ง Aruba Networks ได้ตอบโจทย์เหล่านี้เอาไว้ตั้งแต่ระดับของการออกแบบ่จุดติดตั้ง Wireless Access Point และการออกแบบ Coverage Area ตั้งแต่แรกแล้ว

aruba-guest-wi-fi-design-at-levi-stadium-02

ออกแบบด้วยแนวคิด Picocell ผสานความรู้เชิงวิศวกรรม
จากประสบการณ์การออกแบบระบบ Wi-Fi ที่ผ่านมาในสถานที่และสถานการณ์ที่หลากหลายของ Chuck Lukaszewski ผู้จัดการอาวุโสสำหรับโซลูชั่น Wi-Fi ภายนอกอาคารแห่ง Aruba Networks ก็ทำให้การออกแบบระบบ Wi-Fi สำหรับ Levi’s Stadium นั้นมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ดังนี้



ออกแบบตามหลักการเบื้องต้นของระบบ Wi-Fi ในสนามกีฬา

โดยมุ่งเน้นไปที่การรองรับผู้ใช้งานที่มีจำนวนมาก และมีความหนาแน่นสูง จึงมีการออกแบบจำนวน Access Point ให้รองรับ Oversubscription Ratio ที่อัตราส่วน 3:1, ติดตั้ง Access Point เพิ่มสำหรับที่นั่งชั้นพิเศษ, ไม่ติดตั้ง Access Point สำหรับผู้ชมทั่วไปในที่โล่ง เพื่อลดปริมาณสัญญาณกวนกัน และลดการกวนกันของคลื่นสัญญาณย่านความถี่ที่ใกล้เคียงกันให้มากที่สุด



ออกแบบ Coverage Area แบบ Picocell ให้รองรับผู้ใช้งานได้จำนวนแน่นหนาที่สุด

ด้วยความพยายามออกแบบให้สัญญาณ RF สำหรับที่นั่งของผู้ชมในแต่ละชั้นนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อกัน ทำให้ Aruba Networks ตัดสินใจออกแบบให้ Coverage Area ของ Access Point แต่ละตัวนั้นกระจายสัญญาณไปในระยะที่กำหนดเท่านั้น ไม่ได้ใช้ความแรงสัญญาณระดับสูงสุด และสลับ Channel กันไปตามลำดับเพื่อลดการกวนกันของสัญญาณให้ได้มากที่สุดไปด้วย


จ่ายสัญญาณ Wi-Fi ให้ทะลุพื้นคอนกรีตของสนามแข่งขันขึ้นมา และคำนวนพฤติกรรมของคอนกรีตที่ส่งผลต่อสัญญาณ

ด้วยการศึกษาพฤติกรรมของคอนกรีตที่ผลิตตั้งแต่ปี 1920 จนถึงปี 2005 ที่มีต่อสัญญาณ Wi-Fi ของ Aruba Networks ทำให้ Aruba Networks ตัดสินใจติดตั้ง Access Point จากด้านล่างของสนามกีฬา และจ่ายสัญญาณทะลุพื้นคอนกรีตขึ้นมายังผู้ใช้งาน เพื่อลดการกวนกันของสัญญาณให้ได้มากที่สุด และใช้อุปกรณ์ของผู้ใช้งานในการช่วยเร่งระยะของสัญญาณ RF เหล่านี้เพิ่ม ซึ่งต่างจากการติดตั้ง Access Point ในที่โล่งที่จะให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม


คำนวนเผื่อโครงสร้างของสนามที่อาจมีคานและสิ่งรบกวนสัญญาณอื่นๆ

ด้วยการสำรวจ RF Survey ก็ทำให้ทีมงาน Aruba Networks เข้าใจสภาพการดูดซับสัญญาณจากโครงสร้างของสนามกีฬาเพิ่มขึ้น และทำให้กำหนดจุดติดตั้ง Access Point ให้มีประสิทธิภาพขึ้นได้

คำนวนการดูดซับสัญญาณจากผู้ชม ให้สัญญาณ Wi-Fi มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อผู้ชมนั่งเต็มสนาม

ด้วยการออกแบบเผื่อให้มีผู้ใช้งานที่นั่งเต็มสนาม Aruba Networks ได้ใช้ข้อดีจากการที่มีผู้ชมนั่งเต็มสนามนี้เพื่อลดการเกิดสัญญาณกวนกันลงไปได้อีกระดับหนึ่ง และทำให้การออกแบบระบบ Wi-Fi สำหรับผู้ใช้งานที่มีความแน่นหนาสูงนี้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นไปอีก

ทดสอบการใช้งานสัญญาณ จากการจำลองการใช้งานจริง

สุดท้ายนี้ Aruba Networks เองก็ได้ทำการทดสอบการติดตั้งจริงด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ติดตั้งลงบนอุปกรณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Notebook, Smartphone หรือ Tablet ก็ตาม เพื่อสร้าง Heatmap และตรวจสอบประสิทธิภาพการเชื่อมต่อจริง ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าระบบ Wi-Fi นี้จะให้บริการผู้ใช้งานได้ดีเยี่ยมอย่างแน่นอน



ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถกรอกแบบฟอร์มดังต่อไปนี้เพื่อ Download แนวคิดการออกแบบ Wi-Fi สำหรับ Levi’s Stadium ฉบับเต็มได้ทันที
https://www.techtalkthai.com/largest-guest-wi-fi-of-the-world-at-levis-stadium-by-aruba-networks/?utm_content=bufferbbeb5


เครดิต
https://www.techtalkthai.com/largest-guest-wi-fi-of-the-world-at-levis-stadium-by-aruba-networks/?utm_content=bufferbbeb5

วันนี้ไปเดินในเมืองมา รถโคตรรรรรรรติดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


คนเดินในดาวทาวโคตรเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไนกี้ทาวนี่คนเดินเยอะสุดๆ มีชั้นนึงจัดให้เปนชั้นซุปเปอโบว สวยดี แบ่งฝั่งซ้ายบรองโกฝั่งขวาแพน

รุ้สึกเหมือนแฟนแพนเธอจะเยอะกว่า

ปล เพิ่งรุ้เมื่อสามวันที่แล้วว่าซุปเปอโบวรอบนี้จัดที่ซานฟราน