ปัจจุบัน Changi Beach ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งด้วยทิวทัศน์ที่มีความสวยงามก็ทำให้นักท่องเที่ยวมาเยือนชายหาดแห่งนี้มากมายในแต่ละปี ทว่าเบื้องหลังความสวยงามของชายหาดแห่งนี้ กลับซ่อนไว้ด้วยความหลอน จากสิ่งที่มองไม่เห็น…และจากอดีตอันดำมืด
ย้อนกลับไปในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณชายหาดแห่งนี้ ได้ถูกยึดครองจากกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ซึ่งภายใต้การปกครองของกองทัพลูกพระอาทิตย์ มีการสังหารหมู่ชาวจีนที่อาศัยอยู่บนเกาะสิงคโปร์ไปเป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบโต้กองกำลังใต้ดินของชาวจีนสิงคโปร์ ที่ต้องการหลุดพ้นจากการยึดครองของญี่ปุ่น กองกำลังเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ชาวจีนเท่านั้น แต่ยังมีชาวอังกฤษเจ้าของเกาะสิงคโปร์ดั้งเดิมด้วย (ในขณะนั้น) เมื่อคนเหล่านี้ถูกจับได้ก็จะถูกนำมายิงทิ้ง หรือไม่ก็ตัดหัวด้วยดาบซามูไรที่ชายหาด Changi ประมาณกันว่ามีคนที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณในชายหาดแห่งนี้หลายพันศพเลยทีเดียว นอกจากนั้นหลังจากญี่ปุ่นแพ้สงคราม ชายหาด Changi ก็ได้เป็นสถานที่ประหารชีวิตนายทหารญี่ปุ่นหลายนายที่ถูกพิจารณาว่าเป็นอาชญากรสงคราม เรียกได้ว่าประวัติไม่ธรรมดาเลย
หาด Changi ในปัจจุบัน
ปัจจุบันสงครามจบลงไปหลายสิบปีแล้ว แต่เสียงร่ำลือของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวหลายรายที่ได้มีโอกาสมาพักค้างอ้างแรมในบริเวณชายหาดแห่งนี้ ต่างเล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า เคยพบเห็นหรือสัมผัสกับปรากฏการณ์ทางวิญญาณหลายอย่างในยามที่พระอาทิตย์ลาลับดับแสงไป ไม่ว่าจะเป็น เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของใครบางคน หรือหลายคน , เสียงตวาด , เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ เป็นต้น
แอนดรูว์ ถัง ชาวสิงคโปร์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เล่าว่า ถ้ามาแค่เสียงยังถือว่าเป็นเรื่องที่เด็กมาก เพราะสิ่งที่เขาเจอนั้นแรงกว่านั้น ชนิดเทียบกันไม่ติด เป็นต้นว่า เขาเคยเจอเลือดไหลนองเต็มพื้นทราย แต่หาที่มาไม่ได้ , ศีรษะของทหารชาวจีนที่ลอยไปมากลางอากาศยามค่ำคืนเพื่อตามหาร่างของตน พร้อมกับส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดและโกรธแค้น สอดคล้องกับเพื่อนบ้านของเขาหลายๆ คนที่พูดตรงกันว่า นอกจากหัวเจ้ากรรมที่วันดีคืนดีจะปรากฏออกมาให้เห็นแล้ว ยังมีส่วนของร่างไร้หัว (ไม่รู้ร่างเดียวกันหรือเปล่า) ที่มักจะออกมาเดินเพ่นพ่านในคืนเดือนมืดอีกด้วย
ถัง ยังกล่าวอีกว่าทุกคนที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้รู้กันดีถึงกิติศัพท์ความเฮี้ยนและพยายามจะหลีกเลี่ยงกัน แต่นักท่องเที่ยวต่างถิ่นมักจะเจออะไรดีๆ เป็นต้นว่า เขาเคยเจอนักท่องเที่ยวราวหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่า เจอทหารญี่ปุ่นทำการประหารนักโทษอยู่บริเวณชายหาด ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อไปตรวจสอบกลับไม่พบอะไรเลย
“หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่มาเยือนชายหาดแห่งนี้ ผมอยากเตือนไว้ก่อนเลยว่า อย่าออกมาเดินเล่นกลางดึก ไม่เช่นนั้นอาจจะเจออะไรดีๆ เหมือนที่หลายๆ คนเจอก็เป็นได้” ถัง กล่าวทิ้งท้ายอย่างติดตลก
อาคารโรงพยาบาล Changi ที่หลายคนพูดตรงกันว่ามันเหมือนอาคารเรือนจำสุดๆ
นอกจากบริเวณชายหาดแล้ว อีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก แต่มีความเฮี้ยนไม่แพ้กัน คือ โรงพยาบาลร้าง Changi ซึ่งสร้างโดยชาวอังกฤษ ระหว่างเป็นเจ้าของเกาะสิงคโปร์ ทว่าเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดขึ้น มันได้ถูกยึดครองโดยกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งใช้อาคารโรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นคุกที่คุมขังเชลยศึก แน่นอนว่ามีการทรมานและสังหารเชลยเป็นจำนวนมากเกิดขึ้นที่นี่ด้วย หลังจากสงครามสงบลง ก็ไม่มีใครเข้ามาใช้ประโยชน์โรงพยาบาลแห่งนี้อีก มันถูกปล่อยให้ทิ้งร้างมาจนถึงทุกวันนี้
ด้วยประวัติอันโชกไปด้วยเลือด ทำให้ที่แห่งนี้ ถูกร่ำลือว่าเป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณเชลยศึก ที่ยังไม่ไปไหน คนที่เคยเข้าไปในอาคารของโรงพยาบาล(เข้าไปลองของ) หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาพบเห็นเงาร่างสีดำเป็นจำนวนมากในตัวตึก รวมถึงชายร่างใหญ่ในชุดทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลก พร้อมดาบซามูไรเล่มยาวในมือเดินตรวจตราไปมารอบอาคาร ว่ากันว่าหากเห็นทหารญี่ปุ่น จะต้องรีบออกมาจากอาคารแห่งนั้นให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นอาจเกิดเรื่องร้ายแรงถึงตายได้
เงารูปมือปริศนาปรากฏขึ้นด้านหลังนักแสดง
ปี 2010 มีกลุ่มของนักสร้างหนัง มือสมัครเล่นเข้าไปถ่ายทำหนังในอาคารแห่งนี้ (โดยไม่ได้รับอนุญาต) สิ่งที่พวกเขาพบและถ่ายติดกล้องมาด้วย เป็นภาพของเงามือปริศนา ที่ยื่นลงมาจากเพดาน เพื่อคว้าเอาตัวนักแสดงหญิงผู้หนึ่ง ซึ่งกำลังอยู่ในเฟรม แน่นอนว่าหลังเห็นรูป พวกเขาเผ่นกันออกมาแทบไม่ทัน
ปัจจุบัน โรงพยาบาลร้าง Changi ยังถูกปล่อยเอาไว้อย่างเดิม เหมือนสมัยที่มันถูกใช้เป็นคุกเชลยศึก ซึ่งหากว่าใครอยากจะเข้าไปสัมผัสกับความหลอน ณ ที่แห่งนี้ สามารถเดินทางไปลองได้ที่ประเทศสิงคโปร์ ไม่แน่นะครับ คุณอาจเป็นผู้โชคดีได้พบเห็นอะไรดีๆในนั้น….ก็เป็นได้ !!
...
Spoil
matraveldilemma.wordpress.com -remembersingapore.org
