เข้าร่วม: 05 Oct 2005
ตอบ: 3460
ที่อยู่: บ้านนอก
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 1:54 pm
[RE: ผมรู้แล้วปรัชญาลุงอ้วนคืออะไร]
ถึงแนวคิดแกจะมีรากมาจากโททัลฟุตบอลเหมือนกันแต่มันเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ณ ตอนนี้แนวทางของแกกับของครอยฟ์ที่มาฝังรากลงที่บาร์เซโลน่าและพัฒนาโดยเป๊ป ติโต้ จนมาถึงเก้นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
การถ่ายบอลแต่ละครั้งของฟานกัลไม่ได้เป็นไปเพื่อการเล่นเกมรุกดังเช่นกุนซือบาร์ซ่า เป๊ปเคยพูดเสมอๆว่าการเล่นฟุตบอลสไตล์บาร์ซ่านั้นตั้งอยู่บนความเสี่ยงเสมอ ยิ่งเราอยากบุกมากแค่ไหนก็ต้องพร้อมจะเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น แต่นั่นคือฟุตบอลในแบบฉบับของเราและเราเชื่อว่าสไตล์อันสมบูรณ์แบบในการเล่นฟุตบอลเชิงรุกนี้คือการเล่นเกมรุกแม้แต่ในระหว่างการเล่นเกมรับ นั่นคือการเพรสซิ่งตั้งแต่แดนหน้าและแย่งบอลมาโจมตีในระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังเปลี่ยนผ่านจากรูปแบบการยืนป้องกันไปเป็นเกมรุก และนั่นคือสิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนมาตลอดในรูปแบบการเล่นของบาร์ซ่าและบาเยิร์น คือดาหน้าบุกแหลก เสียบอลปุ๊บก็รีบบีบคู่แข่งให้เสียบอลในแดนตัวเองเพื่อเอาบอลมาบุกต่อ ผลคือการยิงประตูอย่างถล่มทลาย แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะเพลี่ยงพล้ำเกมสวนกลับได้ แต่นั่นเป็นราคาที่ยอมจ่ายเพื่อแลกมาซึ่งเกมรุกที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในยุค
แต่กับฟาน กาลนี่เน้นรับแบบชัดเจน ไม่ยอมรับความเสี่ยงใดๆแม้แต่น้อย ความหมายในการส่งบอลของฟาน กาลเพื่อสร้างความแน่นอน ไม่ใช่เพื่อสร้างพื้นที่ให้เกมการป้องกันของฝ่ายตรงข้าม การยืนของนักเตะเป็นไปเพื่อไม่ให้มีวันเปิดโอกาสการฝ่ายตรงข้ามสามารถเล่นเกมโต้กลับใส่ตัวเองได้แน่นอน ผลคือใช้ผู้เล่นจำนวนน้อยมากเพื่อเล่นเกมรุกทำให้เกมรุกไม่ค่อยมีประสิทธิภาพและขาดความหลากหลาย มีแต่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะเพื่อโจมตีเท่านั้น แต่การถ่ายบอลไปๆมาๆที่ดูคล้ายของบาร์ซ่าและบาเยิร์นนั้นไม่ได้ทำให้แนวป้องกันของคู่แข่งเคลื่อนที่จนเกิดช่องว่างแต่อย่างใด และจุดนี้เองที่เป็นความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างปรัชญาของฟานกาลกับติกิตาก้าสไตล์ของบาร์ซ่า