ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 25 Jul 2008
ตอบ: 8302
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 11:02 am
ผมรู้แล้วปรัชญาลุงอ้วนคืออะไร


Spoil

 


เครดิต เพจ just toon it ครับ


เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 34770
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 11:23 am
[RE: ผมรู้แล้วปรัชญาลุงอ้วนคืออะไร]
0
0


เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 3142
ที่อยู่: ในดงตรีน...
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 11:40 am
[RE: ผมรู้แล้วปรัชญาลุงอ้วนคืออะไร]
ในรูปไม่มีแค่ขี้นะ. มี.วยด้วย
0
0
เข้าร่วม: 10 Jan 2011
ตอบ: 19283
ที่อยู่: send Rooney to CSL
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 11:41 am
[RE: ผมรู้แล้วปรัชญาลุงอ้วนคืออะไร]
ต่อบอลช้า เน้นแน่นอน ได้บอลคืนหลัง

เล่นดีเปลี่ยนออก เล่นกระจอกเปลี่ยนเข้า

แบคขวาเล่นเป็นไงไม่รู้ กูเปลี่ยนไว้ก่อน

ปีกซ้ายกูจะต้องเท้าขวา แล้วตั้งค่าห้ามส่ง




เข้าร่วม: 15 Sep 2010
ตอบ: 308
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 11:46 am
[RE: ผมรู้แล้วปรัชญาลุงอ้วนคืออะไร]
0
0
เข้าร่วม: 03 Oct 2013
ตอบ: 10212
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 12:11 pm
[RE: ผมรู้แล้วปรัชญาลุงอ้วนคืออะไร]
ดีน่ะ มาลุ้นไปพร้อมน่อล
0
0
เข้าร่วม: 05 Oct 2005
ตอบ: 3460
ที่อยู่: บ้านนอก
โพสเมื่อ: Fri Nov 27, 2015 1:54 pm
[RE: ผมรู้แล้วปรัชญาลุงอ้วนคืออะไร]
ถึงแนวคิดแกจะมีรากมาจากโททัลฟุตบอลเหมือนกันแต่มันเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ณ ตอนนี้แนวทางของแกกับของครอยฟ์ที่มาฝังรากลงที่บาร์เซโลน่าและพัฒนาโดยเป๊ป ติโต้ จนมาถึงเก้นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

การถ่ายบอลแต่ละครั้งของฟานกัลไม่ได้เป็นไปเพื่อการเล่นเกมรุกดังเช่นกุนซือบาร์ซ่า เป๊ปเคยพูดเสมอๆว่าการเล่นฟุตบอลสไตล์บาร์ซ่านั้นตั้งอยู่บนความเสี่ยงเสมอ ยิ่งเราอยากบุกมากแค่ไหนก็ต้องพร้อมจะเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น แต่นั่นคือฟุตบอลในแบบฉบับของเราและเราเชื่อว่าสไตล์อันสมบูรณ์แบบในการเล่นฟุตบอลเชิงรุกนี้คือการเล่นเกมรุกแม้แต่ในระหว่างการเล่นเกมรับ นั่นคือการเพรสซิ่งตั้งแต่แดนหน้าและแย่งบอลมาโจมตีในระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังเปลี่ยนผ่านจากรูปแบบการยืนป้องกันไปเป็นเกมรุก และนั่นคือสิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนมาตลอดในรูปแบบการเล่นของบาร์ซ่าและบาเยิร์น คือดาหน้าบุกแหลก เสียบอลปุ๊บก็รีบบีบคู่แข่งให้เสียบอลในแดนตัวเองเพื่อเอาบอลมาบุกต่อ ผลคือการยิงประตูอย่างถล่มทลาย แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะเพลี่ยงพล้ำเกมสวนกลับได้ แต่นั่นเป็นราคาที่ยอมจ่ายเพื่อแลกมาซึ่งเกมรุกที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในยุค

แต่กับฟาน กาลนี่เน้นรับแบบชัดเจน ไม่ยอมรับความเสี่ยงใดๆแม้แต่น้อย ความหมายในการส่งบอลของฟาน กาลเพื่อสร้างความแน่นอน ไม่ใช่เพื่อสร้างพื้นที่ให้เกมการป้องกันของฝ่ายตรงข้าม การยืนของนักเตะเป็นไปเพื่อไม่ให้มีวันเปิดโอกาสการฝ่ายตรงข้ามสามารถเล่นเกมโต้กลับใส่ตัวเองได้แน่นอน ผลคือใช้ผู้เล่นจำนวนน้อยมากเพื่อเล่นเกมรุกทำให้เกมรุกไม่ค่อยมีประสิทธิภาพและขาดความหลากหลาย มีแต่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะเพื่อโจมตีเท่านั้น แต่การถ่ายบอลไปๆมาๆที่ดูคล้ายของบาร์ซ่าและบาเยิร์นนั้นไม่ได้ทำให้แนวป้องกันของคู่แข่งเคลื่อนที่จนเกิดช่องว่างแต่อย่างใด และจุดนี้เองที่เป็นความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างปรัชญาของฟานกาลกับติกิตาก้าสไตล์ของบาร์ซ่า