ของแบบนี้มันอยู่ที่ความเชื่อใจ เอาอะไรมาวัดไม่ได้หรอก

ผมคบกับแฟนได้ประมาณเดือน 2 เดือนเหมือนกัน ผมมาอยู่เชียงใหม่ แฟนอยู่กทม คุยเห็นหน้าทาง skype ทุกวัน ไปหาทุกเดือน ต่อเนื่องเป็นปี ไม่มีอะไร

สุดท้ายผมได้ย้ายมา กทม อยู่ด้วยกัน ประมาณปีกว่าๆ แฟนผมก็ลาออกมาอยู่ห้องเฉยๆ ผมก็ทำงาน จะแต่งงานกันอยู่แล้ว แฟนผมเล่นโปรแกรม badoo และแฟนดันคุยกันผู้ชายคนนึงซะงั้น เชิงชู้สาวเลย ไปหาแล้วด้วย แต่บอกไม่มีไรกัน ผมเลยเลิก นี่ขนาดผมนอนด้วยกันทุกวันนะ

เดานะครับ เค้าบอกท่านว่า คบกันไปเรื่อยๆก่อน เพราะเค้าไม่แน่ใจตัวเองอยู่แล้วเกี่ยวกับเรื่องการย้าย แต่คงรู้ว่ามีโอกาสสูง เพราะเท่าที่ท่านบอก เค้าย้ายทั้งครอบครัว คงไม่ใช่ปุบปับ อาจจะเป็นแผนการณ์ที่มีมาซักระยะ และใหญ่เกินกว่าที่เค้าจะตัดสินใจคนเดียวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นนี่อาจเป็นเหตุผลส่วนนึงที่เค้าตอบตกลงอะไรกับท่านไม่ได้ครับ (อารมณ์ประมาณคนที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศซึ่งวางแผนมาก่อนแล้ว ก็จะไม่กล้ามีแฟนที่นี่)

ก็ต้องทำใจครับ ถือว่าเค้าทำถูกอยู่ไม่น้อย ที่ไม่ปล่อยให้ท่านล่องลอยในความฝันแบบเต็มๆ ยังมีลิมิตอยู่ ถึงจะไม่ได้เล่าเรื่องภายในท่านตั้งแต่ต้น มาเล่าในตอนที่มีการคอนเฟิร์มกันแล้ว ซึ่งก็เข้าใจได้ฮะ

ทำใจครับ ถ้ารู้สึกดีๆต่อกัน ไม่ได้มีอะไรติดค้าง ก็รักษามันไว้แบบนี้ วันข้างหน้าไม่มีใครรู้ครับ ว่าจะได้กลับมามีเวลามีโอกาสร่วมกันอีกหรือไม่ครับ

ระยะทางอาจจะเป็นบทพิสูจน์ความรักของท่านก็ได้นะครับ

แต่ถ้ามันไม่ไหว หรือมันเกินความสามารถที่จะทำให้รักกันต่อไปได้

การเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนิครับ

เดี๋ยวนี้ ถ้าคบกันนี่ ต้องอยู่ใกล้กันตลอดเหรอ



ขนาดของผมไปๆมาๆ ไม่ค่อยอยู่ติดกัน แต่ผมว่าก็โอเคอะ

อย่างน้อยๆเค้ามีเวลาส่วนตัวของเค้า เราก็มีเวลาส่วนตัวของเรา

ถ้าคนรักกันจริง ความเชื่อใจ กับความหวังดีแค่นั้นก็พอละมั้ง

ถ้าทำใจไม่ไหวขนาดนั้น ผมว่าก็เลิกหาใหม่เถอะ

มันกำลังจะเริ่มต่างหากเพราะเค้าเริ่มอยู่เป็นหลักแหล่งแล้ว
ถ้าท่านรักจริงกะอีแค่ห่างกันนิดหน่อยอย่าไปยอมแพ้สิครับ

ปล่อยเขาไปเถอะครับ ถ้าเขาคิดอะไรกะท่านจริงๆ เดี๋ยวเขาก็กลับมาเอง

อีกอย่าง มันเป็นอนาคตของเขา ที่อยากไปทำงานที่โน่น ห้ามกันไม่ได้หรอกครับ