“ChipGate” ปัญหาใหญ่ที่คนใช้ไอโฟน 6s ต้องรู้
นาทีนี้ปัญหา “ChipGate” กำลังเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความปวดใจให้คนใช้ไอโฟน 6s และไอโฟน 6s พลัส สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายแอปเปิล (Apple) ที่มียอดขายถล่มทลายในวันเปิดวางจำหน่าย หลังมีการพบว่า การทำงานของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้แม้จะเป็นรุ่นเดียวกัน ความจุเท่ากัน แต่ประสิทธิภาพในการทำงาน “อาจไม่เท่ากัน” ก็เป็นได้
จุดเริ่มต้นของกรณี “ChipGate” มาจากการทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่องของผู้ใช้บางราย และนำมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ทำให้พบความจริงว่า ชิป A9 ที่ใช้ในไอโฟน 6s และไอโฟน 6s พลัสนั้น แม้จะมีแอปเปิลเป็นผู้ออกแบบ แต่แอปเปิลได้ส่งให้ซัปพลายเออร์อย่าง ซัมซุง (Samsung) และ TSMC เป็นผู้ผลิต ซึ่งในการผลิตนั้น ทั้ง 2 ค่ายกลับส่งมอบชิปที่มีขนาดแตกต่างกัน โดยซัมซุง ส่งมอบชิปที่ขนาด 96 ตารางมิลลิเมตร ส่วน TSMC ส่งมอบชิปที่ขนาด 104.5 ตารางมิลลิเมตร และจากการทดสอบประสิทธิภาพของไอโฟน 6s และ ไอโฟน 6s พลัสของผู้ใช้งานบางราย พบว่า ชิปจากค่าย TSMC ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งชื่อ "raydizzle" ได้ทำการทดสอบไอโฟน 6s พลัส 2 เครื่องที่ใช้ชิปต่างกัน และพบว่า เครื่องที่ใช้ชิปจาก TSMC สามารถใช้งานได้นานกว่าชิปจากซัมซุงประมาณ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
หรือผู้ใช้ยูทิวบ์อีกรายหนึ่งชื่อ Austim Evans ที่พบว่า ชิปจาก TSMC ทำให้ตัวเครื่องร้อนน้อยกว่าของซัมซุง
ปัญหานี้กำลังเป็นเรื่องร้อนแรงในโลกออนไลน์ ภายใต้ชื่อ “ChipGate”
อย่างไรก็ดี แอปเปิลได้มีการส่งเอกสารชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวออกมา โดยระบุว่า ด้วยการออกแบบชิป A9 ในไอโฟน 6s และไอโฟน 6s พลัสนั้น ผู้ใช้จะได้รับชิปที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก ทุกชิปที่แอปเปิลผลิตเป็นชิปที่ตรงตามมาตรฐานของแอปเปิล และสามารถทำงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้แก่ไอโฟน 6s ได้ แม้เครื่องจะมีขนาดความจุ สี รุ่นที่ต่างกัน
อย่างไรก็ดี ในเอกสารชี้แจงของแอปเปิลนี้ได้ระบุด้วยว่า การทดสอบประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ในห้องปฏิบัติการซึ่งได้ทำการทดสอบการทำงานของโปรเซสเซอร์อย่างต่อเนื่องนั้นไม่ใช่การใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริง เพราะห้องปฏิบัติการจะเป็นการทดสอบประสิทธิภาพสูงสุดของซีพียูเป็นหลัก ส่งผลให้เวลาในการทดสอบอาจไม่ใช่เวลาที่ฟังแล้วดูสมจริงนัก ในจุดนี้อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้เมื่อมีผู้บริโภคทำการทดสอบการใช้งานจริงบนเวลาจริงของโลกมนุษย์
“จากข้อมูลการทดสอบของเรา และข้อมูลของลูกค้าพบว่า ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของไอโฟน 6s และไอโฟน 6s พลัสนั้น แม้จะเป็นรุ่นที่มีส่วนประกอบภายในแตกต่างกัน แต่ก็จะมีอายุการใช้งานแตกต่างกันประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”
การชี้แจงของแอปเปิลนำไปสู่การเปิดประเด็นใหม่ โดยผู้ใช้บางรายที่เกิดข้อกังขาว่า ในการซื้อไอโฟนสักเครื่องหนึ่งนั้น ผู้ซื้อจ่ายเงินเท่ากันเพื่อให้ได้ไอโฟนเครื่องที่ต้องการ ซึ่งผู้ซื้อก็ควรจะได้รับไอโฟนที่มีประสิทธิภาพเท่าๆ กันด้วย ไม่ใช่การออกมาบอกว่า ประสิทธิภาพอาจแตกต่างกัน 2-3 เปอร์เซ็นต์ดังที่แอปเปิลออกมาชี้แจง
นอกจากนั้น ยังมีผู้ใช้บางรายระบุว่า ตนเองอาจนำเครื่องไปเปลี่ยนด้วยเนื่องจากยังอยู่ในระยะที่สามารถเปลี่ยนเครื่องได้นั่นเอง
หากยังจำได้ ก่อนหน้านี้แอปเปิลก็เคยเจอปัญหา “StainGate” และถูกร้องเรียนโดยผู้ใช้บางส่วนหลังพบว่าเครื่องแมคบุ๊กของตัวเองเกิดคราบบนหน้าจออย่างรุนแรงจนไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งผู้บริโภคบางส่วนต้องการให้แอปเปิลเปลี่ยนหน้าจอให้ฟรีแม้ว่า Apple Care จะหมดอายุไปแล้วก็ตาม
การรวมตัวของผู้ประสบปัญหา StainGate ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า มีผู้ใช้งานในหลายทวีปทั่วโลกที่เจอปัญหาดังกล่าว และมีการระบุว่า แมคบุ๊กรุ่นปี ค.ศ.2013 เป็นรุ่นที่พบปัญหาหนักที่สุดด้วย
อย่างไรก็ตาม ตอนเราซื้อ iPhone 6s / 6s Plus นั้นเราจะไม่สามารถบอกได้เลยว่าภายในนั้นใช้ชิป A9 ของยี่ห้อไหนอยู่ ต้องเสี่ยงดวงเอา แต่ถ้าใครซื้อมาแล้ว แล้วอยากรู้ว่าใช้ชิปอะไรอยู่ก็สามารถดาวน์โหลดแอปที่ชื่อว่า Lirum Device Info ใน App Store มาเปิดดูได้ครับ
โครตจะเซ็งเลย กำลังเล็งจะซื้อ 6s+ อยู่
ที่มา : manager