08 October 2015 05:08 PM by ZONG'TEEN
น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ
โจเซ่ มูรินโญ่กุนซือแฮปปี้ วันของเชลซีลุกขึ้นตอบโต้ฟาบิโอ คาเปลโล่โค้ชเวิลด์คลาสที่กล่าวหาว่าเขามักทำลายนักเตะในสโมสรที่เขาเดินทางไปคุมทัพอยู่เสมอ

คาเปลโล่มองว่าความเชื่อมั่นของนักเตะ"สิงห์ไฮโซ"ต่อกุนซือแดนฝอยทองเริ่มจะหมดไปในเวลา 18-24 เดือนหลังเข้ามารับงานในสแตมฟอร์ด บริดจ์เหมือนที่เคยเกิดปัญหาในช่วงเวลาที่เขาคุมเรอัล มาดริดก่อนหน้านี้

นอกจากนั้น"หงิก"ยังมองว่ามูรินโญ่เรียกร้องจากนักเตะมากเกินไปซึ่งทำให้ลูกทีมไม่สามารถให้เขาได้และนั่นคือสิ่งสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นในเวลานี้

มูรินโญ่กล่าวตอบโต้ว่า"ผมได้อ่านสิ่งที่คาเปลโล่พูดแล้ว ผมคิดว่าโค้ชโค้ชที่มีประวัติอย่างเขาน่าจะพูดถึงเรื่องฟุตบอลมากกว่าจะให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของเพื่อนร่วมอาชีพนะ"

"ผมอาจจะวิจารณ์การทำงานของเขาตอนเป็นโค้ชทีมชาติอังกฤษหรือรัสเซียก็ได้ แต่ผมไม่เคยทำ เพราะผมเลือกที่จะเคารพช่วงเวลาร้ายๆของเพื่อนร่วมอาชีพมากกว่า"

"ผมอยากพูดถึงคาเปลโล่ในช่วงเวลาอันสวยงามและเต็มไปด้วยความสำเร็จอันน่ายกย่องมากกว่านะ"
2
0
เข้าร่วม: 18 Oct 2007
ตอบ: 6622
ที่อยู่: แถวๆ เซเรีย บี
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:10 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ
เข้าร่วม: 20 Sep 2013
ตอบ: 820
ที่อยู่: Anywhere
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:12 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  


อันนั้นไม่นับ
++++ --B--E--A--N--+++

เข้าร่วม: 23 May 2006
ตอบ: 2051
ที่อยู่: ข้างบ้านอองรี
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:16 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
แล้วที่คุณไปวิจารณ์เวงเกอร์สารพัดจะนับครั้งไม่ถ้วนล่ะคับ

เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 19796
ที่อยู่: ENTERTAINMENT
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:17 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
นี้ไง ในที่สุด ก็ออกมา สวน
0
0
เข้าร่วม: 16 Feb 2010
ตอบ: 7678
ที่อยู่: ตรงไหนของหัวใจเธอ
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:19 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  

เข้าข่าย "ถ่มน้ําลายขึ้นฟ้า รดหน้าตัวเอง"
Are You Red Enough
เข้าร่วม: 02 Mar 2011
ตอบ: 2545
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:20 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ข่าวพูดถึงเวนเกอร์แว่บเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว
เข้าร่วม: 12 Aug 2015
ตอบ: 1658
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:21 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  


ผมว่าเขาไม่ได้แคร์อยู่แล้วนะ

เคยบอกทีมเล็กๆ จอดรถบัส

บอก เวนเกอร์ เดี๋ยวนี้ใช้เงินเยอะ แต่ตัวเองเยอะกว่า
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 1127
ที่อยู่: http://upic.me/i/ep/bloggif_54440b60f39af.gif, http://upic.me/i/26/bloggif_54440f6559889.gif
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:21 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
แต่ตัวเองวิจารณ์ได้น่ะ แหม่...

เข้าร่วม: 06 Apr 2014
ตอบ: 372
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:23 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]

เมื่อก่อนช้อบชอบเฮียนะ ใครจะว่าบอลเกมอุดเกมอะไรผมเฉยๆนะ เป็นเทคติค

แต่พักหลังๆนี้ คำพูดกับการกระทำเริ่มแปลกๆ ไม่รู้เครียดกับผลงานทีมมากไปรึปล่าว

ความน่าเคารพนับถือยิ่งนานวันยิ่งหดหายไปเรื่อย
0
0
เข้าร่วม: 05 Jan 2015
ตอบ: 700
ที่อยู่: Fulham Road
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:23 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ฟังไว้บ้างก็ได้ครับน้า เด่วอีโก้มันจะโตคับเดอะบริดจ์
0
0
:::: I'm a big fan of CHELSEA FOOTBALL CLUB ::::

> don't treat me like I ever accused you <


HEY HATERS !!



เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 428
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:24 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
kathany พิมพ์ว่า:
ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  


อันนั้นไม่นับ  


อันนั้นเค้า คู่จิ้น กัน
0
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 6306
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:26 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]

สิ่งที่ "มู" พูดมาตามข่าวทั้งหมด จริงๆแล้วดูมันไม่ไปกระทบ "คาเปลโล่" เท่าไหร่นะ

แต่ดูเหมือนจะไปเข้าเนื้อ ประจานตัวเองซะมากกว่า

ถ้าผมเป็น "มู" นาทีนี้ ขอเงียบไว้ น่าจะดีที่สุด

พิสูจน์ด้วยผลงานหลังจากนี้ ค่อยกลับมาย้อน

ดูจะมีคุณค่า น่าเชื่อถือกว่าเป็นไหนๆ
0
0

เข้าร่วม: 25 Nov 2014
ตอบ: 3081
ที่อยู่: 13.999890, 100.685606
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:26 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
แบบนี้เค้าเรียก ฟ้ามีตา

น้ามู กลืนเสลด ตัวเอง

อร่อย ดีไหม









เข้าร่วม: 31 Aug 2007
ตอบ: 230
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:27 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
สมัยป๋าอยู่ นี่แขวะกันแทบจะทุกสัปดาห์
พอกลับมาครั้งนี้ แขวะเวนเกอร์แทบจะทุกสัปดาห์

ไม่นับสินะสินะ
0
0
เข้าร่วม: 16 Nov 2009
ตอบ: 45
ที่อยู่: ใกล้ๆบ้านครับ
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 5:55 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
"ผมเลือกที่จะเคารพช่วงเวลาร้ายๆของเพื่อนร่วมอาชีพมากกว่า"

เห็นใส่เวนเกอร์ออกจะบ่อย
2
0

"ONCE A GOONER ALWAYS A GOONER"
เข้าร่วม: 04 Feb 2009
ตอบ: 3252
ที่อยู่: London, N5 1BU
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 6:04 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]

มูรินโญ่กล่าวตอบโต้ว่า"ผมได้อ่านสิ่งที่คาเปลโล่พูดแล้ว ผมคิดว่าโค้ชโค้ชที่มีประวัติอย่างเขาน่าจะพูดถึงเรื่องฟุตบอลมากกว่าจะให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของเพื่อนร่วมอาชีพนะ"







ถถถถถถถถถถถถถถถถถถ

0
0

There's always another reason to keep on living.
เข้าร่วม: 11 Nov 2014
ตอบ: 945
ที่อยู่: สิงในบอร์ดss กะ ห้องกล้องpantip
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 6:09 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
เฮีย อย่าครับ อย่า อย่าว่าตัวเอง
0
0
คนบ้าบอล


เข้าร่วม: 25 Jul 2007
ตอบ: 1069
ที่อยู่: ริโอ เดอ จาเนโร
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 6:16 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
เค้าพูดถึงคาเปลโล่ พวกก็เอาเวงเกอร์มาเเส่ซะงั้น ปญอ.สิ้นดีคนพันธุ์นี้คงอยากด่าอ่ะเนอะ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3213
ที่อยู่: Bangkok
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 6:17 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
Cone_Dudida พิมพ์ว่า:
แต่ตัวเองวิจารณ์ได้น่ะ แหม่...  


avatar
0
0
เข้าร่วม: 09 Sep 2013
ตอบ: 1842
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 6:31 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
พูดอะไรมาเข้าตัวหมดนะมู
0
0
เข้าร่วม: 10 Sep 2013
ตอบ: 1252
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 6:37 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
งานนี้ขอเข้าข้างคาเปลโล่ ลุงแกพูดประเด็นได้ตรงดี โดยเฉพาะอิวาโนวิช
0
0
เข้าร่วม: 31 Jan 2014
ตอบ: 3590
ที่อยู่: คนดีไม่มีที่อยู่
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 6:46 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
เขียมมมมมมม
0
0
Once a GOONER , Always a GOONER

via GIPHY

เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4735
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 6:46 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
เอาน่ามูกับเวงเกอร์เขาซี้กันไม่นับ
0
0
เข้าร่วม: 10 Nov 2013
ตอบ: 6031
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 6:54 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
โดนเลยหงิก
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 7:40 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  


ก็สวนกันไปมาไง

เผื่อยังไม่รู้ ลองเปิดไปดู History เวงเกอร์เปิดศึกน้ำลายกับ เชลซี&มูก่อนด้วยนะ
เข้าร่วม: 18 Oct 2007
ตอบ: 6622
ที่อยู่: แถวๆ เซเรีย บี
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 7:41 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
Champ Shenko พิมพ์ว่า:
เค้าพูดถึงคาเปลโล่ พวกก็เอาเวงเกอร์มาเเส่ซะงั้น ปญอ.สิ้นดีคนพันธุ์นี้คงอยากด่าอ่ะเนอะ  


โถ ช่างน่าสงสาร ไม่มีใครมาปกป้องพ่อมู ขนาดแฟนเชลซีบางคนในมู้นี้เค้ายังยอมรับความจริงเลย
เข้าร่วม: 18 Oct 2007
ตอบ: 6622
ที่อยู่: แถวๆ เซเรีย บี
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 7:44 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  


ก็สวนกันไปมาไง

เผื่อยังไม่รู้ ลองเปิดไปดู History เวงเกอร์เปิดศึกน้ำลายกับ เชลซี&amp;มูก่อนด้วยนะ
 


โทษครับ โทษๆ ลืมไป เวงเกอร์ไม่นับสินะ
1
0
เข้าร่วม: 06 Apr 2014
ตอบ: 2587
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 7:44 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ธาตุไฟเข้าแทรกแล้วพ่อมู ใจร่มๆพักทีมชาติก่อน

แล้วดึงทีมกลับมาให้ได้ เอาใจช่วยๆ
0
0
เข้าร่วม: 15 Feb 2011
ตอบ: 2627
ที่อยู่: Emirates Stadium Arsenal FC
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 8:07 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
Champ Shenko พิมพ์ว่า:
เค้าพูดถึงคาเปลโล่ พวกก็เอาเวงเกอร์มาเเส่ซะงั้น ปญอ.สิ้นดีคนพันธุ์นี้คงอยากด่าอ่ะเนอะ  

แหม รับความจริงไม่ได้สินะ สิ่งที่มูทำก็เท่ากับกลืนน้ำลายตัวเองแหละว้า โลกนี้มันช่างสวยงามสินะ
0
0


Arsenal <3 ^_^
เข้าร่วม: 13 Jun 2010
ตอบ: 2326
ที่อยู่: gfgf
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 8:11 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
น้าแก ป้องกันตัวแบบนี้แหละ ใครสวนมา สวนกลับไม่โกง แต่น้าต้องชนะ กลับมาเป้นสเปเชียลวัน เหมือนเดิม คนชนะพูดอะไรก็ดูดี แต่เวลาแย่ๆ น้าน่าจะเงียบๆไว้ เรื่องปากน้าผมไม่ว่าหรอก แต่ฝีมือน้า ถ้าไม่ดีแล้ว คนก้หมดศรัทธา
1
0
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 4209
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 8:28 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
เพราะแบบนี้แหละ ถึงไม่เคยมองมูเป็นมูอีกเลยเดียวนี้

คิดถึงช่วงคุมอินเตอร์จัง
0
0
เข้าร่วม: 25 Jul 2007
ตอบ: 1069
ที่อยู่: ริโอ เดอ จาเนโร
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 8:35 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ACM1899 พิมพ์ว่า:
Champ Shenko พิมพ์ว่า:
เค้าพูดถึงคาเปลโล่ พวกก็เอาเวงเกอร์มาเเส่ซะงั้น ปญอ.สิ้นดีคนพันธุ์นี้คงอยากด่าอ่ะเนอะ  


โถ ช่างน่าสงสาร ไม่มีใครมาปกป้องพ่อมู ขนาดแฟนเชลซีบางคนในมู้นี้เค้ายังยอมรับความจริงเลย  


ก็เห็นแต่เเฟนมิลานแหละคับมาบ๊อยบ่อย ! แต่มู้ live ทีมตัวเองนี่ไม่ค่อยเจอ

ปล.แฟนมิลานหรือแฟนมูรินโญ่ฮะ
0
0
เข้าร่วม: 25 Jul 2007
ตอบ: 1069
ที่อยู่: ริโอ เดอ จาเนโร
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 8:37 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ArmyFakeJa พิมพ์ว่า:
Champ Shenko พิมพ์ว่า:
เค้าพูดถึงคาเปลโล่ พวกก็เอาเวงเกอร์มาเเส่ซะงั้น ปญอ.สิ้นดีคนพันธุ์นี้คงอยากด่าอ่ะเนอะ  

แหม รับความจริงไม่ได้สินะ สิ่งที่มูทำก็เท่ากับกลืนน้ำลายตัวเองแหละว้า โลกนี้มันช่างสวยงามสินะ  


หมายถึงผมหรอครับ ? เสียใจด้วยนะไม่ใช่ติ่งมู ไม่ใช่เด็กสิงห์
เข้าร่วม: 01 Feb 2009
ตอบ: 16417
ที่อยู่: on board
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 8:39 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
นับวันยิ่งเลอะเทอะน้าหงอกเอ๊ย
0
0
เข้าร่วม: 22 Jan 2015
ตอบ: 569
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 8:57 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ลั่น55555+ จะสงสาร รึเห็นใจ รึสมเพชดี
1
0
เข้าร่วม: 23 Sep 2010
ตอบ: 1726
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 9:08 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ถ้าตอนนี้ทีมเฮียอยู่หัวตาราง เด็กๆเฮียสายเอาแชมป์ข่มคงมาแทงค์เพียบ แต่ตอนนี้ผลงานเฮียทำสายข่มคุมปิ๊บหลบในหลืบก็ต้องทำใจ
เข้าร่วม: 23 Nov 2008
ตอบ: 156
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 9:28 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
"ผมอาจจะวิจารณ์การทำงานของเขาตอนเป็นโค้ชทีมชาติอังกฤษหรือรัสเซียก็ได้ แต่ผมไม่เคยทำ เพราะผมเลือกที่จะเคารพช่วงเวลาร้ายๆของเพื่อนร่วมอาชีพมากกว่า"

เท่าที่เห็นนี่ถ้าไม่พอใจใครนี่เหยียบย่ำเค้าตลอดนะ โดยเฉพาะเวนเกอร์....พูดมาได้ กรูขรรม







0
0
เข้าร่วม: 01 Nov 2014
ตอบ: 671
ที่อยู่: Beyond, The Neverland
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 9:42 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ขอให้ศพไม่สวย
0
0
เข้าร่วม: 18 Oct 2007
ตอบ: 6622
ที่อยู่: แถวๆ เซเรีย บี
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 9:51 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
Champ Shenko พิมพ์ว่า:
ACM1899 พิมพ์ว่า:
Champ Shenko พิมพ์ว่า:
เค้าพูดถึงคาเปลโล่ พวกก็เอาเวงเกอร์มาเเส่ซะงั้น ปญอ.สิ้นดีคนพันธุ์นี้คงอยากด่าอ่ะเนอะ  


โถ ช่างน่าสงสาร ไม่มีใครมาปกป้องพ่อมู ขนาดแฟนเชลซีบางคนในมู้นี้เค้ายังยอมรับความจริงเลย  


ก็เห็นแต่เเฟนมิลานแหละคับมาบ๊อยบ่อย ! แต่มู้ live ทีมตัวเองนี่ไม่ค่อยเจอ

ปล.แฟนมิลานหรือแฟนมูรินโญ่ฮะ
 


โทษครับ เวลาดูบอลผมดูบอลครับ ไม่ใช่ดูบอลไปนั่งเล่น soccersuck ไป
เข้าร่วม: 21 Oct 2013
ตอบ: 155
ที่อยู่: กราบซ้าย
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 9:58 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
Champ Shenko พิมพ์ว่า:
เค้าพูดถึงคาเปลโล่ พวกก็เอาเวงเกอร์มาเเส่ซะงั้น ปญอ.สิ้นดีคนพันธุ์นี้คงอยากด่าอ่ะเนอะ  


ปญอ สิ้นดี


หมายถึงมรึงแหละ
เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 19796
ที่อยู่: ENTERTAINMENT
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 10:41 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
Champ Shenko พิมพ์ว่า:
ArmyFakeJa พิมพ์ว่า:
Champ Shenko พิมพ์ว่า:
เค้าพูดถึงคาเปลโล่ พวกก็เอาเวงเกอร์มาเเส่ซะงั้น ปญอ.สิ้นดีคนพันธุ์นี้คงอยากด่าอ่ะเนอะ  

แหม รับความจริงไม่ได้สินะ สิ่งที่มูทำก็เท่ากับกลืนน้ำลายตัวเองแหละว้า โลกนี้มันช่างสวยงามสินะ  


หมายถึงผมหรอครับ ? เสียใจด้วยนะไม่ใช่ติ่งมู ไม่ใช่เด็กสิงห์
 


ใจเย็น แชมป์ ตบมือข้างเดียว มันไม่ดังหรอก ต้อง ไล่ดู สถิติ อย่างที่ผม เคยบอก
ถ้าไม่มี การ เริ่มก่อน ใครจะออกมาสวน ทำให้เหมือน ผิดฝ่ายเดียว มุขเดิม
เข้าร่วม: 17 Sep 2013
ตอบ: 2736
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 10:44 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
CEsCia พิมพ์ว่า:
"ผมเลือกที่จะเคารพช่วงเวลาร้ายๆของเพื่อนร่วมอาชีพมากกว่า"

เห็นใส่เวนเกอร์ออกจะบ่อย  


"ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความล้มเหลว"

สำหรับผม ดอกนี้ถือว่าทับถมเพื่อนร่วมอาชีพเลยล่ะ
1
0
เข้าร่วม: 17 Sep 2013
ตอบ: 2736
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 10:45 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
f*** พิมพ์ว่า:
ลั่น55555+ จะสงสาร รึเห็นใจ รึสมเพชดี  


ผมโหวต สมเพช แผล่บนึงละกัน
1
0
เข้าร่วม: 28 Apr 2009
ตอบ: 514
ที่อยู่: all around
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 10:58 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
"ผมอยากพูดถึงคาเปลโล่ในช่วงเวลาอันสวยงามและเต็มไปด้วยความสำเร็จอันน่ายกย่องมากกว่านะ"

ท่อนนี้เชือเฉือนจริงๆ เมื่อถึงเวลาแย่ๆในชีวิตก็จะเห็นถึงสิ่งดีๆ ผุดมาจากความคิด
ผมไม่ได้ชอบมูเท่าไหร่กับความเป็นมู แต่ความคิดด้านนี้ถือว่าเยี่ยมจริงๆ
0
0
เข้าร่วม: 25 Jul 2007
ตอบ: 1069
ที่อยู่: ริโอ เดอ จาเนโร
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 11:08 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
This-Is-Us พิมพ์ว่า:
Champ Shenko พิมพ์ว่า:
ArmyFakeJa พิมพ์ว่า:
Champ Shenko พิมพ์ว่า:
เค้าพูดถึงคาเปลโล่ พวกก็เอาเวงเกอร์มาเเส่ซะงั้น ปญอ.สิ้นดีคนพันธุ์นี้คงอยากด่าอ่ะเนอะ  

แหม รับความจริงไม่ได้สินะ สิ่งที่มูทำก็เท่ากับกลืนน้ำลายตัวเองแหละว้า โลกนี้มันช่างสวยงามสินะ  


หมายถึงผมหรอครับ ? เสียใจด้วยนะไม่ใช่ติ่งมู ไม่ใช่เด็กสิงห์
 


ใจเย็น แชมป์ ตบมือข้างเดียว มันไม่ดังหรอก ต้อง ไล่ดู สถิติ อย่างที่ผม เคยบอก
ถ้าไม่มี การ เริ่มก่อน ใครจะออกมาสวน ทำให้เหมือน ผิดฝ่ายเดียว มุขเดิม  


อคติล้วนๆ
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 08, 2015 11:27 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย



เข้าร่วม: 29 Feb 2008
ตอบ: 790
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 12:11 am
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  
น่าทุเรศ

This guy is so...disgusting
0
0
เข้าร่วม: 15 Sep 2005
ตอบ: 6276
ที่อยู่: สงขลา
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 12:12 am
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  

โดน!!!

ผมนี่ ขอเพิ่มเป็นเพื่อนเลย
แผล่บมา แผล่บกลับ เรื่้อนมา เรื้อนกลับ
ดีมา ดีกลับ เกรียนมา เกรียนกลับ
...ไม่โกง

แม้จะ 4th ตลอดกาล...ยังไงก็จะตามเชียร์(ด่า)



เข้าร่วม: 18 Oct 2007
ตอบ: 6622
ที่อยู่: แถวๆ เซเรีย บี
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 12:12 am
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย



 


หน้าหงายที่ว่านี่คล้ายๆ กับที่มูรินโญบอกว่าวิธีการเล่นของดีเอโก คอสตา คือวิธีการเล่นที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกหลงใหลพรีเมียร์ลีก แต่ไปๆ มาๆ ดันโดนแบนไปหลายนัดปะครับ
0
0
เข้าร่วม: 18 Oct 2007
ตอบ: 6622
ที่อยู่: แถวๆ เซเรีย บี
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 12:14 am
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
Leo_earth พิมพ์ว่า:
ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  

โดน!!!

ผมนี่ ขอเพิ่มเป็นเพื่อนเลย  


เปิดห้องกันเลยมั้ย
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 2796
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 12:35 am
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ใครพูดถึงแกไม่ได้เลยแฮะ แกออกมาสวนหมดเลย
0
0
เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 19796
ที่อยู่: ENTERTAINMENT
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 1:05 am
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย



 


ใช่เลย ผู้เฒ่า
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 2344
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 1:24 am
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ช่วงนี้ขาลง ติ่งเหลือน้อยดีแหะ
1
0
[/url]
เข้าร่วม: 05 May 2010
ตอบ: 9634
ที่อยู่: Rayong
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 9:49 am
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
อ่านดูไม่เห็นมันจะแรงเหมือนจั่วหัวเลยนะ
0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 10:53 am
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย



 


http://www.goal.com/en-gb/news/2896/premier-league/2014/02/14/4619635/mourinho-v-wenger-a-war-of-words

http://www.skysports.com/football/news/11661/9818518/arsene-wenger-v-jose-mourinho-the-history-of-their-rivalry-in-quotes

อ่านนะครับ เวงเกอร์วิจารย์ในสนาม
อ่านภาษาอังกฤษได้ไหม ไม่งั้นผมจะแปลให้...

เขาพูดถึงเกมและการทำทีมล้วนๆ จนกระทั่งมีการบอกว่า "ไอ้นี่มันพวกถ้ำมอง"

ใครกันน๊า ใครเป็นคนเริ่ม..
ผู้จัดการทีมคนไหนครับ ที่เริ่ม "แขวะเข้าไปที่ตัวผู้จัดการทีม" ก่อน ??
ใครให้สัมภาษณ์นะ ที่บอกว่า

"ผมได้อ่านสิ่งที่คาเปลโล่พูดแล้ว ผมคิดว่าโค้ชโค้ชที่มีประวัติอย่างเขาน่าจะพูดถึงเรื่องฟุตบอลมากกว่าจะให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของเพื่อนร่วมอาชีพนะ"

อื้ม อื้ม อื้ม.... ครับ ผู้จัดการทีมที่ดี ควรจะคุยเรื่องบอลกันนะ..

แล้วแฟนบอลทีมอะไรนะครับ ที่บอกว่า "ไม่ได้ดู History เลย"
ครับ ไอ้คนที่มาว่ามูในนี้เนี่ย ไม่ได้ดู History เลยครับ
คนดู History แล้วต้องบอกว่า มูเนี่ย ไม่ได้ กินคำพูดตัวเองเลยครับ
ไม่ได้อยู่ๆ ออกมาด่าตัวเองผ่านสื่อเลยครับ

ไอ้ไอ้คนที่กลืนแสลดตัวเอง นี่มันแวงเกอร์ชัดๆ ที่ชอบไปพาดพิง พาดเสื่อ
ถึงผู้จัดการทีมของทีมอื่น

....

แล้วกรุณา อ่านดีๆ นะครับ ประวัติศาสตร์อ่ะ (อ่านใน Goal นะครับ ชัดดี)
ประโยคแรกที่พูดเพราะแวงเกอร์ โดนถามเรื่องในสนามไม่มีผู้เล่นอังกฤษเลย..
ก็เลยตอบแบบที่เห็นภาพไป ซึ่งมันเหน็บเชลซีแหละ ทีมคู่แข่งกันมันมีพาดพิงกันอยู่แล้ว
ป๋า + แวงเกอร์ ก็เคยพาดพิงกันเอง ไม่เห็นจะจงเกลียดจงชังอะไรขนาดนั้น
มันเป็นเรื่องของมูที่ต้องตอบคำถามว่า มีนักเตะอังกฤษที่ปั้นขึ้นมารึเปล่า
มันโยนขี้ให้เชลซีครับ แต่อยู่ในเรื่องบอล

ต่อมาแผนรถบัส เริ่มโด่งดัง ทุกคนรู้ข่าว ผู้สื่อข่าวถาม
ถามมันทุกที่ ทุกคน talk of the town อ่ะ แวงเกอร์โดนไหม
โดนถามดิครับ เหลืออะไร แวงเกอร์ตอบไปตามเนื้อผ้า
มีผู้จัดการทีมอื่นออกมาด่าอีกหลายคน แต่ก็เป็นการพูดถึงเทคติคในสนาม
ไม่มีใครพาดพิงถึงผู้จัดการเป็นการส่วนตัว (เลยจริงๆ มั้งนะ)

อ่านข่าวของ Goal หรือของนอกเอานะครับ ดูที่มาที่ไปด้วย
อย่าอ่านแบบแปลไม่ครบมา หรือ อ่านกระทู้ในนี้ ที่เอาเนื้อความมาไม่ครบ
พอไม่รู้ที่มาที่ไป แล้วก็มาพูดแบบพวกไม่ดู History

ไม่ดีครับ ไม่ดี
ไม่ดู History เลย ไอ้พวกที่มายิ้มอ่อนใส่มูในกระทู้นี้เนี่ย

เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 12:00 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย



 


http://www.goal.com/en-gb/news/2896/premier-league/2014/02/14/4619635/mourinho-v-wenger-a-war-of-words

http://www.skysports.com/football/news/11661/9818518/arsene-wenger-v-jose-mourinho-the-history-of-their-rivalry-in-quotes

อ่านนะครับ เวงเกอร์วิจารย์ในสนาม
อ่านภาษาอังกฤษได้ไหม ไม่งั้นผมจะแปลให้...

เขาพูดถึงเกมและการทำทีมล้วนๆ จนกระทั่งมีการบอกว่า "ไอ้นี่มันพวกถ้ำมอง"

ใครกันน๊า ใครเป็นคนเริ่ม..
ผู้จัดการทีมคนไหนครับ ที่เริ่ม "แขวะเข้าไปที่ตัวผู้จัดการทีม" ก่อน ??
ใครให้สัมภาษณ์นะ ที่บอกว่า

"ผมได้อ่านสิ่งที่คาเปลโล่พูดแล้ว ผมคิดว่าโค้ชโค้ชที่มีประวัติอย่างเขาน่าจะพูดถึงเรื่องฟุตบอลมากกว่าจะให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของเพื่อนร่วมอาชีพนะ"

อื้ม อื้ม อื้ม.... ครับ ผู้จัดการทีมที่ดี ควรจะคุยเรื่องบอลกันนะ..

แล้วแฟนบอลทีมอะไรนะครับ ที่บอกว่า "ไม่ได้ดู History เลย"
ครับ ไอ้คนที่มาว่ามูในนี้เนี่ย ไม่ได้ดู History เลยครับ
คนดู History แล้วต้องบอกว่า มูเนี่ย ไม่ได้ กินคำพูดตัวเองเลยครับ
ไม่ได้อยู่ๆ ออกมาด่าตัวเองผ่านสื่อเลยครับ

ไอ้ไอ้คนที่กลืนแสลดตัวเอง นี่มันแวงเกอร์ชัดๆ ที่ชอบไปพาดพิง พาดเสื่อ
ถึงผู้จัดการทีมของทีมอื่น

....

แล้วกรุณา อ่านดีๆ นะครับ ประวัติศาสตร์อ่ะ (อ่านใน Goal นะครับ ชัดดี)
ประโยคแรกที่พูดเพราะแวงเกอร์ โดนถามเรื่องในสนามไม่มีผู้เล่นอังกฤษเลย..
ก็เลยตอบแบบที่เห็นภาพไป ซึ่งมันเหน็บเชลซีแหละ ทีมคู่แข่งกันมันมีพาดพิงกันอยู่แล้ว
ป๋า + แวงเกอร์ ก็เคยพาดพิงกันเอง ไม่เห็นจะจงเกลียดจงชังอะไรขนาดนั้น
มันเป็นเรื่องของมูที่ต้องตอบคำถามว่า มีนักเตะอังกฤษที่ปั้นขึ้นมารึเปล่า
มันโยนขี้ให้เชลซีครับ แต่อยู่ในเรื่องบอล

ต่อมาแผนรถบัส เริ่มโด่งดัง ทุกคนรู้ข่าว ผู้สื่อข่าวถาม
ถามมันทุกที่ ทุกคน talk of the town อ่ะ แวงเกอร์โดนไหม
โดนถามดิครับ เหลืออะไร แวงเกอร์ตอบไปตามเนื้อผ้า
มีผู้จัดการทีมอื่นออกมาด่าอีกหลายคน แต่ก็เป็นการพูดถึงเทคติคในสนาม
ไม่มีใครพาดพิงถึงผู้จัดการเป็นการส่วนตัว (เลยจริงๆ มั้งนะ)

อ่านข่าวของ Goal หรือของนอกเอานะครับ ดูที่มาที่ไปด้วย
อย่าอ่านแบบแปลไม่ครบมา หรือ อ่านกระทู้ในนี้ ที่เอาเนื้อความมาไม่ครบ
พอไม่รู้ที่มาที่ไป แล้วก็มาพูดแบบพวกไม่ดู History

ไม่ดีครับ ไม่ดี
ไม่ดู History เลย ไอ้พวกที่มายิ้มอ่อนใส่มูในกระทู้นี้เนี่ย

 



จะเหน็บด้วยเรื่องอะไร มันก็เปิดก่อนอยู่ดี อย่ามาอ้างดีกว่าว่าเหน็บทีมภาพรวมหรือเหน็บในสนาม มันตลก เพราะยังไงมันก็ส่งผลถึงโค๊ชหรือทีมอยู่ดี

แถมออกมาพูดบ่อยๆถี่ๆ นี่มันก็เหมือนพวกถ้ำมองจริงๆป่ะ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาใส่ใจออกกมาพูดเกี่ยวกับทีมอื่นขนาดนั้น ทำไมไม่ไปสนใจทีมตัวเอง ฮะๆ

หรือช่วงนั้นแพ้บ่อย เครียด จนต้องออกมาวิจาร์ณ?

แล้วเจอมูสวนคืนแรงๆ ก็หาว่าปากร้าย ทั้งๆที่หาเรื่องเองแท้

แล้วที่บอกใครก็เหน็บกันยังไม่เกลียดกัน มูกับ ป๋า เมื่อก่อนก็ใช่ย่อยยังเคารพกันเลย

พูดเหมือนเดิม History คือ เหี่ยวเปิดก่อน แถมหลายทีด้วย ต่อมามูสวนหน้าหงายไง






0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 1:03 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย



 


http://www.goal.com/en-gb/news/2896/premier-league/2014/02/14/4619635/mourinho-v-wenger-a-war-of-words

http://www.skysports.com/football/news/11661/9818518/arsene-wenger-v-jose-mourinho-the-history-of-their-rivalry-in-quotes

อ่านนะครับ เวงเกอร์วิจารย์ในสนาม
อ่านภาษาอังกฤษได้ไหม ไม่งั้นผมจะแปลให้...

เขาพูดถึงเกมและการทำทีมล้วนๆ จนกระทั่งมีการบอกว่า "ไอ้นี่มันพวกถ้ำมอง"

ใครกันน๊า ใครเป็นคนเริ่ม..
ผู้จัดการทีมคนไหนครับ ที่เริ่ม "แขวะเข้าไปที่ตัวผู้จัดการทีม" ก่อน ??
ใครให้สัมภาษณ์นะ ที่บอกว่า

"ผมได้อ่านสิ่งที่คาเปลโล่พูดแล้ว ผมคิดว่าโค้ชโค้ชที่มีประวัติอย่างเขาน่าจะพูดถึงเรื่องฟุตบอลมากกว่าจะให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของเพื่อนร่วมอาชีพนะ"

อื้ม อื้ม อื้ม.... ครับ ผู้จัดการทีมที่ดี ควรจะคุยเรื่องบอลกันนะ..

แล้วแฟนบอลทีมอะไรนะครับ ที่บอกว่า "ไม่ได้ดู History เลย"
ครับ ไอ้คนที่มาว่ามูในนี้เนี่ย ไม่ได้ดู History เลยครับ
คนดู History แล้วต้องบอกว่า มูเนี่ย ไม่ได้ กินคำพูดตัวเองเลยครับ
ไม่ได้อยู่ๆ ออกมาด่าตัวเองผ่านสื่อเลยครับ

ไอ้ไอ้คนที่กลืนแสลดตัวเอง นี่มันแวงเกอร์ชัดๆ ที่ชอบไปพาดพิง พาดเสื่อ
ถึงผู้จัดการทีมของทีมอื่น

....

แล้วกรุณา อ่านดีๆ นะครับ ประวัติศาสตร์อ่ะ (อ่านใน Goal นะครับ ชัดดี)
ประโยคแรกที่พูดเพราะแวงเกอร์ โดนถามเรื่องในสนามไม่มีผู้เล่นอังกฤษเลย..
ก็เลยตอบแบบที่เห็นภาพไป ซึ่งมันเหน็บเชลซีแหละ ทีมคู่แข่งกันมันมีพาดพิงกันอยู่แล้ว
ป๋า + แวงเกอร์ ก็เคยพาดพิงกันเอง ไม่เห็นจะจงเกลียดจงชังอะไรขนาดนั้น
มันเป็นเรื่องของมูที่ต้องตอบคำถามว่า มีนักเตะอังกฤษที่ปั้นขึ้นมารึเปล่า
มันโยนขี้ให้เชลซีครับ แต่อยู่ในเรื่องบอล

ต่อมาแผนรถบัส เริ่มโด่งดัง ทุกคนรู้ข่าว ผู้สื่อข่าวถาม
ถามมันทุกที่ ทุกคน talk of the town อ่ะ แวงเกอร์โดนไหม
โดนถามดิครับ เหลืออะไร แวงเกอร์ตอบไปตามเนื้อผ้า
มีผู้จัดการทีมอื่นออกมาด่าอีกหลายคน แต่ก็เป็นการพูดถึงเทคติคในสนาม
ไม่มีใครพาดพิงถึงผู้จัดการเป็นการส่วนตัว (เลยจริงๆ มั้งนะ)

อ่านข่าวของ Goal หรือของนอกเอานะครับ ดูที่มาที่ไปด้วย
อย่าอ่านแบบแปลไม่ครบมา หรือ อ่านกระทู้ในนี้ ที่เอาเนื้อความมาไม่ครบ
พอไม่รู้ที่มาที่ไป แล้วก็มาพูดแบบพวกไม่ดู History

ไม่ดีครับ ไม่ดี
ไม่ดู History เลย ไอ้พวกที่มายิ้มอ่อนใส่มูในกระทู้นี้เนี่ย

 



จะเหน็บด้วยเรื่องอะไร มันก็เปิดก่อนอยู่ดี อย่ามาอ้างดีกว่าว่าเหน็บทีมภาพรวมหรือเหน็บในสนาม มันตลก เพราะยังไงมันก็ส่งผลถึงโค๊ชหรือทีมอยู่ดี

แถมออกมาพูดบ่อยๆถี่ๆ นี่มันก็เหมือนพวกถ้ำมองจริงๆป่ะ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาใส่ใจออกกมาพูดเกี่ยวกับทีมอื่นขนาดนั้น ทำไมไม่ไปสนใจทีมตัวเอง ฮะๆ

หรือช่วงนั้นแพ้บ่อย เครียด จนต้องออกมาวิจาร์ณ?

แล้วเจอมูสวนคืนแรงๆ ก็หาว่าปากร้าย ทั้งๆที่หาเรื่องเองแท้

แล้วที่บอกใครก็เหน็บกันยังไม่เกลียดกัน มูกับ ป๋า เมื่อก่อนก็ใช่ย่อยยังเคารพกันเลย

พูดเหมือนเดิม History คือ เหี่ยวเปิดก่อน แถมหลายทีด้วย ต่อมามูสวนหน้าหงายไง






 


เข้าใจประเด็นยากนะครับ

การที่เข้ามายิ้มอ่อนกันในนี้ ไม่ได้ประเด็นใครเปิดใครรึเปล่าครับ
ประเด็นคือ ใครเค้าถุยน้ำลายใส่หน้าตัวเองกันนะ กรณีนี้
เวนเกอร์ถุยใส่หน้าตัวเองรึเปล่า หรือหน้าหงิกเขาถุยน้ำลายใส่หน้าตัวเอง

ไม่น่าจะใช่ทั้งคู่นะครับ เอ๊ะ แล้วใครถุยใส่หน้าตัวเองกันละ กุนซือที่ไหน

ส่วนเรื่องฮิสตอรี่ ผมก็แค่ตอบคำถามว่า
"แล้วฮิสตอรี่ การที่ใครเปิดก่อน มันเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ปะครับ"
การที่แวงเกอร์เปิดก่อน ทำให้น้ำลายมูดอกนี้ ย้ายไปโดนหน้าแวงเกอร์เหรอ
แต่ไอ้การที่มูเป็นคนที่เปิดฉาก "พาดพิงตัวบุคคล" เนี่ย
เข้าหน้าตัวเองจังๆ เลยนะ ตาม History

กระทู้เขา ก็คุยถึงมูว่า "ไม่ดูองศาปากตัวเองเลย"
จะถุยน้ำลาย ยังไม่โดนหน้าน้าหงิก
โดนหน้าตัวเองซะงั้น แล้วก็อธิบายว่า "ทำไม" ซึ่งมันก็ต้องพูดถึงเวงเกอร์

ส่วนการ "อ้างเรื่อง History" มันก็ไม่ได้ช่วย มูเลยนะ
มันยิ่งเป็นการ ตอกหน้ามูเข้าไปอีกนะนาย
แฟนคลับคอสต้า จริงๆ ก็น่าจะหาทางช่วยมูนะ ไม่น่ามาซ้ำกันแบบนี้



ไอ้ใครเปิดก่อนเปิดหลัง เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ
เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ ว๊าย ว๊าย เปิดก่อน เปิดก่อน
เรื่องวิจารณ์ในสนามอ่ะ ทั้งโลกมันต้องมีใครเปิดใครกันบ้างละครับ

มูก็ไม่ได้เปิดน้าหงิกก่อนนะเนี่ย น้าหงิกมาเปิดทำไม
น้ามูสวนได้ เอาเลย มูสวนเลย เอาให้หนัก
อ้าว โดนหน้าตัวเองซะงั้น ว๊าาาาา

เขามาฮาดอกนี้กันอ่ะครับ...
ที่เคย ตอกเวงเกอร์หน้าหงายก็เยอะนะ จังหวะมูพูด ผมว่าก็ถ้ำมองจริงๆ แหละ 555
แต่จังหวะแวงเกอร์เงิบ ผมไม่มาเถียงข้างๆ คูๆ ให้โดนซ้ำนะ นั่งอ่านช้ำๆ พอละ
แต่ไอ้พูดแล้วเข้าตัวนี้ ผมว่าดอกนี้ก็ฮานะ ตอก "ตัวเอง" หน้าหงาย โอ้ว เยี่ยม
ยิ่งถ้ามีแฟนบอลเชลซี ตามมาร่วมถุยน้ำลายใส่หน้ามูด้วย นี่ยิ่งบันเทิงใหญ่


แต่ที่ยอมรับแมนๆ นี่ผมชื่นชมนะ เท่ดี
0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 1:15 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
กดผิด จะอิดิท เป็นโควต โทษทีจีะ
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 1:45 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย



 


http://www.goal.com/en-gb/news/2896/premier-league/2014/02/14/4619635/mourinho-v-wenger-a-war-of-words

http://www.skysports.com/football/news/11661/9818518/arsene-wenger-v-jose-mourinho-the-history-of-their-rivalry-in-quotes

อ่านนะครับ เวงเกอร์วิจารย์ในสนาม
อ่านภาษาอังกฤษได้ไหม ไม่งั้นผมจะแปลให้...

เขาพูดถึงเกมและการทำทีมล้วนๆ จนกระทั่งมีการบอกว่า "ไอ้นี่มันพวกถ้ำมอง"

ใครกันน๊า ใครเป็นคนเริ่ม..
ผู้จัดการทีมคนไหนครับ ที่เริ่ม "แขวะเข้าไปที่ตัวผู้จัดการทีม" ก่อน ??
ใครให้สัมภาษณ์นะ ที่บอกว่า

"ผมได้อ่านสิ่งที่คาเปลโล่พูดแล้ว ผมคิดว่าโค้ชโค้ชที่มีประวัติอย่างเขาน่าจะพูดถึงเรื่องฟุตบอลมากกว่าจะให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของเพื่อนร่วมอาชีพนะ"

อื้ม อื้ม อื้ม.... ครับ ผู้จัดการทีมที่ดี ควรจะคุยเรื่องบอลกันนะ..

แล้วแฟนบอลทีมอะไรนะครับ ที่บอกว่า "ไม่ได้ดู History เลย"
ครับ ไอ้คนที่มาว่ามูในนี้เนี่ย ไม่ได้ดู History เลยครับ
คนดู History แล้วต้องบอกว่า มูเนี่ย ไม่ได้ กินคำพูดตัวเองเลยครับ
ไม่ได้อยู่ๆ ออกมาด่าตัวเองผ่านสื่อเลยครับ

ไอ้ไอ้คนที่กลืนแสลดตัวเอง นี่มันแวงเกอร์ชัดๆ ที่ชอบไปพาดพิง พาดเสื่อ
ถึงผู้จัดการทีมของทีมอื่น

....

แล้วกรุณา อ่านดีๆ นะครับ ประวัติศาสตร์อ่ะ (อ่านใน Goal นะครับ ชัดดี)
ประโยคแรกที่พูดเพราะแวงเกอร์ โดนถามเรื่องในสนามไม่มีผู้เล่นอังกฤษเลย..
ก็เลยตอบแบบที่เห็นภาพไป ซึ่งมันเหน็บเชลซีแหละ ทีมคู่แข่งกันมันมีพาดพิงกันอยู่แล้ว
ป๋า + แวงเกอร์ ก็เคยพาดพิงกันเอง ไม่เห็นจะจงเกลียดจงชังอะไรขนาดนั้น
มันเป็นเรื่องของมูที่ต้องตอบคำถามว่า มีนักเตะอังกฤษที่ปั้นขึ้นมารึเปล่า
มันโยนขี้ให้เชลซีครับ แต่อยู่ในเรื่องบอล

ต่อมาแผนรถบัส เริ่มโด่งดัง ทุกคนรู้ข่าว ผู้สื่อข่าวถาม
ถามมันทุกที่ ทุกคน talk of the town อ่ะ แวงเกอร์โดนไหม
โดนถามดิครับ เหลืออะไร แวงเกอร์ตอบไปตามเนื้อผ้า
มีผู้จัดการทีมอื่นออกมาด่าอีกหลายคน แต่ก็เป็นการพูดถึงเทคติคในสนาม
ไม่มีใครพาดพิงถึงผู้จัดการเป็นการส่วนตัว (เลยจริงๆ มั้งนะ)

อ่านข่าวของ Goal หรือของนอกเอานะครับ ดูที่มาที่ไปด้วย
อย่าอ่านแบบแปลไม่ครบมา หรือ อ่านกระทู้ในนี้ ที่เอาเนื้อความมาไม่ครบ
พอไม่รู้ที่มาที่ไป แล้วก็มาพูดแบบพวกไม่ดู History

ไม่ดีครับ ไม่ดี
ไม่ดู History เลย ไอ้พวกที่มายิ้มอ่อนใส่มูในกระทู้นี้เนี่ย

 



จะเหน็บด้วยเรื่องอะไร มันก็เปิดก่อนอยู่ดี อย่ามาอ้างดีกว่าว่าเหน็บทีมภาพรวมหรือเหน็บในสนาม มันตลก เพราะยังไงมันก็ส่งผลถึงโค๊ชหรือทีมอยู่ดี

แถมออกมาพูดบ่อยๆถี่ๆ นี่มันก็เหมือนพวกถ้ำมองจริงๆป่ะ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาใส่ใจออกกมาพูดเกี่ยวกับทีมอื่นขนาดนั้น ทำไมไม่ไปสนใจทีมตัวเอง ฮะๆ

หรือช่วงนั้นแพ้บ่อย เครียด จนต้องออกมาวิจาร์ณ?

แล้วเจอมูสวนคืนแรงๆ ก็หาว่าปากร้าย ทั้งๆที่หาเรื่องเองแท้

แล้วที่บอกใครก็เหน็บกันยังไม่เกลียดกัน มูกับ ป๋า เมื่อก่อนก็ใช่ย่อยยังเคารพกันเลย

พูดเหมือนเดิม History คือ เหี่ยวเปิดก่อน แถมหลายทีด้วย ต่อมามูสวนหน้าหงายไง






 


เข้าใจประเด็นยากนะครับ

การที่เข้ามายิ้มอ่อนกันในนี้ ไม่ได้ประเด็นใครเปิดใครรึเปล่าครับ
ประเด็นคือ ใครเค้าถุยน้ำลายใส่หน้าตัวเองกันนะ กรณีนี้
เวนเกอร์ถุยใส่หน้าตัวเองรึเปล่า หรือหน้าหงิกเขาถุยน้ำลายใส่หน้าตัวเอง

ไม่น่าจะใช่ทั้งคู่นะครับ เอ๊ะ แล้วใครถุยใส่หน้าตัวเองกันละ กุนซือที่ไหน

ส่วนเรื่องฮิสตอรี่ ผมก็แค่ตอบคำถามว่า
"แล้วฮิสตอรี่ การที่ใครเปิดก่อน มันเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ปะครับ"
การที่แวงเกอร์เปิดก่อน ทำให้น้ำลายมูดอกนี้ ย้ายไปโดนหน้าแวงเกอร์เหรอ
แต่ไอ้การที่มูเป็นคนที่เปิดฉาก "พาดพิงตัวบุคคล" เนี่ย
เข้าหน้าตัวเองจังๆ เลยนะ ตาม History

กระทู้เขา ก็คุยถึงมูว่า "ไม่ดูองศาปากตัวเองเลย"
จะถุยน้ำลาย ยังไม่โดนหน้าน้าหงิก
โดนหน้าตัวเองซะงั้น แล้วก็อธิบายว่า "ทำไม" ซึ่งมันก็ต้องพูดถึงเวงเกอร์

ส่วนการ "อ้างเรื่อง History" มันก็ไม่ได้ช่วย มูเลยนะ
มันยิ่งเป็นการ ตอกหน้ามูเข้าไปอีกนะนาย
แฟนคลับคอสต้า จริงๆ ก็น่าจะหาทางช่วยมูนะ ไม่น่ามาซ้ำกันแบบนี้



ไอ้ใครเปิดก่อนเปิดหลัง เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ
เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ ว๊าย ว๊าย เปิดก่อน เปิดก่อน
เรื่องวิจารณ์ในสนามอ่ะ ทั้งโลกมันต้องมีใครเปิดใครกันบ้างละครับ

มูก็ไม่ได้เปิดน้าหงิกก่อนนะเนี่ย น้าหงิกมาเปิดทำไม
น้ามูสวนได้ เอาเลย มูสวนเลย เอาให้หนัก
อ้าว โดนหน้าตัวเองซะงั้น ว๊าาาาา

เขามาฮาดอกนี้กันอ่ะครับ...
ที่เคย ตอกเวงเกอร์หน้าหงายก็เยอะนะ จังหวะมูพูด ผมว่าก็ถ้ำมองจริงๆ แหละ 555
แต่จังหวะแวงเกอร์เงิบ ผมไม่มาเถียงข้างๆ คูๆ ให้โดนซ้ำนะ นั่งอ่านช้ำๆ พอละ
แต่ไอ้พูดแล้วเข้าตัวนี้ ผมว่าดอกนี้ก็ฮานะ ตอก "ตัวเอง" หน้าหงาย โอ้ว เยี่ยม
ยิ่งถ้ามีแฟนบอลเชลซี ตามมาร่วมถุยน้ำลายใส่หน้ามูด้วย นี่ยิ่งบันเทิงใหญ่


แต่ที่ยอมรับแมนๆ นี่ผมชื่นชมนะ เท่ดี  


พิมพ์ยาวๆ แต่ตีโจทย์ของคนอื่นไม่แตก

อ่านใหม่นะ ไม่ได้พูดเรื่องในข่าวนะ มูจะด่าหงิกก็ช่างหัวมันดิ

แต่พูดถึงคนที่โยงไปประเด็นเวงเกอร์มู นี่ละคือประเด็นจะสื่อ

เด็กปลัดอะไรๆก็อ้างมูชอบแขวะเวนเกอร์ ปากหมา ปากเสีย แต่จุดเริ่มต้นจริงๆมันมายังไง

ก็ตอบให้เข้าใจไงว่า ใครเปิดก่อน และหลังจากนั้นมันเป็นการสวนกันไปมา ไม่ใช่มูด่าผ่านเดียว เวนเกอร์ก็แขวะเหมือนกัน

แต่แฟนปลัดชอบอ้างไง ที่ยกเอา History มาคือเอามาให้แฟนปลัดอย่างพวกคุณอ่ะละ เปิดหูเปิดตา

จะได้เลิกมองว่ามูหาเรื่องก่อน นี่ประเด็น ! เรื่องหงิก มู ช่างหัวมันดิ ใครแคร์




0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 09, 2015 7:41 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย



 


http://www.goal.com/en-gb/news/2896/premier-league/2014/02/14/4619635/mourinho-v-wenger-a-war-of-words

http://www.skysports.com/football/news/11661/9818518/arsene-wenger-v-jose-mourinho-the-history-of-their-rivalry-in-quotes

อ่านนะครับ เวงเกอร์วิจารย์ในสนาม
อ่านภาษาอังกฤษได้ไหม ไม่งั้นผมจะแปลให้...

เขาพูดถึงเกมและการทำทีมล้วนๆ จนกระทั่งมีการบอกว่า "ไอ้นี่มันพวกถ้ำมอง"

ใครกันน๊า ใครเป็นคนเริ่ม..
ผู้จัดการทีมคนไหนครับ ที่เริ่ม "แขวะเข้าไปที่ตัวผู้จัดการทีม" ก่อน ??
ใครให้สัมภาษณ์นะ ที่บอกว่า

"ผมได้อ่านสิ่งที่คาเปลโล่พูดแล้ว ผมคิดว่าโค้ชโค้ชที่มีประวัติอย่างเขาน่าจะพูดถึงเรื่องฟุตบอลมากกว่าจะให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของเพื่อนร่วมอาชีพนะ"

อื้ม อื้ม อื้ม.... ครับ ผู้จัดการทีมที่ดี ควรจะคุยเรื่องบอลกันนะ..

แล้วแฟนบอลทีมอะไรนะครับ ที่บอกว่า "ไม่ได้ดู History เลย"
ครับ ไอ้คนที่มาว่ามูในนี้เนี่ย ไม่ได้ดู History เลยครับ
คนดู History แล้วต้องบอกว่า มูเนี่ย ไม่ได้ กินคำพูดตัวเองเลยครับ
ไม่ได้อยู่ๆ ออกมาด่าตัวเองผ่านสื่อเลยครับ

ไอ้ไอ้คนที่กลืนแสลดตัวเอง นี่มันแวงเกอร์ชัดๆ ที่ชอบไปพาดพิง พาดเสื่อ
ถึงผู้จัดการทีมของทีมอื่น

....

แล้วกรุณา อ่านดีๆ นะครับ ประวัติศาสตร์อ่ะ (อ่านใน Goal นะครับ ชัดดี)
ประโยคแรกที่พูดเพราะแวงเกอร์ โดนถามเรื่องในสนามไม่มีผู้เล่นอังกฤษเลย..
ก็เลยตอบแบบที่เห็นภาพไป ซึ่งมันเหน็บเชลซีแหละ ทีมคู่แข่งกันมันมีพาดพิงกันอยู่แล้ว
ป๋า + แวงเกอร์ ก็เคยพาดพิงกันเอง ไม่เห็นจะจงเกลียดจงชังอะไรขนาดนั้น
มันเป็นเรื่องของมูที่ต้องตอบคำถามว่า มีนักเตะอังกฤษที่ปั้นขึ้นมารึเปล่า
มันโยนขี้ให้เชลซีครับ แต่อยู่ในเรื่องบอล

ต่อมาแผนรถบัส เริ่มโด่งดัง ทุกคนรู้ข่าว ผู้สื่อข่าวถาม
ถามมันทุกที่ ทุกคน talk of the town อ่ะ แวงเกอร์โดนไหม
โดนถามดิครับ เหลืออะไร แวงเกอร์ตอบไปตามเนื้อผ้า
มีผู้จัดการทีมอื่นออกมาด่าอีกหลายคน แต่ก็เป็นการพูดถึงเทคติคในสนาม
ไม่มีใครพาดพิงถึงผู้จัดการเป็นการส่วนตัว (เลยจริงๆ มั้งนะ)

อ่านข่าวของ Goal หรือของนอกเอานะครับ ดูที่มาที่ไปด้วย
อย่าอ่านแบบแปลไม่ครบมา หรือ อ่านกระทู้ในนี้ ที่เอาเนื้อความมาไม่ครบ
พอไม่รู้ที่มาที่ไป แล้วก็มาพูดแบบพวกไม่ดู History

ไม่ดีครับ ไม่ดี
ไม่ดู History เลย ไอ้พวกที่มายิ้มอ่อนใส่มูในกระทู้นี้เนี่ย

 



จะเหน็บด้วยเรื่องอะไร มันก็เปิดก่อนอยู่ดี อย่ามาอ้างดีกว่าว่าเหน็บทีมภาพรวมหรือเหน็บในสนาม มันตลก เพราะยังไงมันก็ส่งผลถึงโค๊ชหรือทีมอยู่ดี

แถมออกมาพูดบ่อยๆถี่ๆ นี่มันก็เหมือนพวกถ้ำมองจริงๆป่ะ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาใส่ใจออกกมาพูดเกี่ยวกับทีมอื่นขนาดนั้น ทำไมไม่ไปสนใจทีมตัวเอง ฮะๆ

หรือช่วงนั้นแพ้บ่อย เครียด จนต้องออกมาวิจาร์ณ?

แล้วเจอมูสวนคืนแรงๆ ก็หาว่าปากร้าย ทั้งๆที่หาเรื่องเองแท้

แล้วที่บอกใครก็เหน็บกันยังไม่เกลียดกัน มูกับ ป๋า เมื่อก่อนก็ใช่ย่อยยังเคารพกันเลย

พูดเหมือนเดิม History คือ เหี่ยวเปิดก่อน แถมหลายทีด้วย ต่อมามูสวนหน้าหงายไง






 


เข้าใจประเด็นยากนะครับ

การที่เข้ามายิ้มอ่อนกันในนี้ ไม่ได้ประเด็นใครเปิดใครรึเปล่าครับ
ประเด็นคือ ใครเค้าถุยน้ำลายใส่หน้าตัวเองกันนะ กรณีนี้
เวนเกอร์ถุยใส่หน้าตัวเองรึเปล่า หรือหน้าหงิกเขาถุยน้ำลายใส่หน้าตัวเอง

ไม่น่าจะใช่ทั้งคู่นะครับ เอ๊ะ แล้วใครถุยใส่หน้าตัวเองกันละ กุนซือที่ไหน

ส่วนเรื่องฮิสตอรี่ ผมก็แค่ตอบคำถามว่า
"แล้วฮิสตอรี่ การที่ใครเปิดก่อน มันเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ปะครับ"
การที่แวงเกอร์เปิดก่อน ทำให้น้ำลายมูดอกนี้ ย้ายไปโดนหน้าแวงเกอร์เหรอ
แต่ไอ้การที่มูเป็นคนที่เปิดฉาก "พาดพิงตัวบุคคล" เนี่ย
เข้าหน้าตัวเองจังๆ เลยนะ ตาม History

กระทู้เขา ก็คุยถึงมูว่า "ไม่ดูองศาปากตัวเองเลย"
จะถุยน้ำลาย ยังไม่โดนหน้าน้าหงิก
โดนหน้าตัวเองซะงั้น แล้วก็อธิบายว่า "ทำไม" ซึ่งมันก็ต้องพูดถึงเวงเกอร์

ส่วนการ "อ้างเรื่อง History" มันก็ไม่ได้ช่วย มูเลยนะ
มันยิ่งเป็นการ ตอกหน้ามูเข้าไปอีกนะนาย
แฟนคลับคอสต้า จริงๆ ก็น่าจะหาทางช่วยมูนะ ไม่น่ามาซ้ำกันแบบนี้



ไอ้ใครเปิดก่อนเปิดหลัง เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ
เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ ว๊าย ว๊าย เปิดก่อน เปิดก่อน
เรื่องวิจารณ์ในสนามอ่ะ ทั้งโลกมันต้องมีใครเปิดใครกันบ้างละครับ

มูก็ไม่ได้เปิดน้าหงิกก่อนนะเนี่ย น้าหงิกมาเปิดทำไม
น้ามูสวนได้ เอาเลย มูสวนเลย เอาให้หนัก
อ้าว โดนหน้าตัวเองซะงั้น ว๊าาาาา

เขามาฮาดอกนี้กันอ่ะครับ...
ที่เคย ตอกเวงเกอร์หน้าหงายก็เยอะนะ จังหวะมูพูด ผมว่าก็ถ้ำมองจริงๆ แหละ 555
แต่จังหวะแวงเกอร์เงิบ ผมไม่มาเถียงข้างๆ คูๆ ให้โดนซ้ำนะ นั่งอ่านช้ำๆ พอละ
แต่ไอ้พูดแล้วเข้าตัวนี้ ผมว่าดอกนี้ก็ฮานะ ตอก "ตัวเอง" หน้าหงาย โอ้ว เยี่ยม
ยิ่งถ้ามีแฟนบอลเชลซี ตามมาร่วมถุยน้ำลายใส่หน้ามูด้วย นี่ยิ่งบันเทิงใหญ่


แต่ที่ยอมรับแมนๆ นี่ผมชื่นชมนะ เท่ดี  


พิมพ์ยาวๆ แต่ตีโจทย์ของคนอื่นไม่แตก

อ่านใหม่นะ ไม่ได้พูดเรื่องในข่าวนะ มูจะด่าหงิกก็ช่างหัวมันดิ

แต่พูดถึงคนที่โยงไปประเด็นเวงเกอร์มู นี่ละคือประเด็นจะสื่อ

เด็กปลัดอะไรๆก็อ้างมูชอบแขวะเวนเกอร์ ปากหมา ปากเสีย แต่จุดเริ่มต้นจริงๆมันมายังไง

ก็ตอบให้เข้าใจไงว่า ใครเปิดก่อน และหลังจากนั้นมันเป็นการสวนกันไปมา ไม่ใช่มูด่าผ่านเดียว เวนเกอร์ก็แขวะเหมือนกัน

แต่แฟนปลัดชอบอ้างไง ที่ยกเอา History มาคือเอามาให้แฟนปลัดอย่างพวกคุณอ่ะละ เปิดหูเปิดตา

จะได้เลิกมองว่ามูหาเรื่องก่อน นี่ประเด็น ! เรื่องหงิก มู ช่างหัวมันดิ ใครแคร์




 



โอเคครับ อิอิ งั้นอ่าน ตัวที่ผมแดงๆ แล้วเน้นตัวใหญ่ๆ ไว้นะครับ
อ่า.... เดี๋ยวไม่อ่าน เอาลงมาให้อ่านอีกทีละกัน "จะได้จับประเด็นได้"
อ้างอิงจาก:
โดนหน้าตัวเองซะงั้น แล้วก็อธิบายว่า "ทำไม" ซึ่งมันก็ต้องพูดถึงเวงเกอร์  

เขาพูดถึงแวงเกอร์เพราะว่า ไอ้คนที่มู "พาดพิงตัวบุคคล" บ่อยๆ อ่ะคือ แวงเกอร์
จังหวะนี้ มูมันด่า หงิกว่า ด่าที่คนทำไม-ทำไมไม่พูดเรื่องบอล เขาเลยบอกว่า เอ็งอ่ะตัวดีเลย

ไม่เกิน 7 บรรทัดนะ พอจะจับประเด็นได้ไหม มันจำเป็นต้องพูดนะจ๊ะ สรุปให้



0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 4:44 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย



 


http://www.goal.com/en-gb/news/2896/premier-league/2014/02/14/4619635/mourinho-v-wenger-a-war-of-words

http://www.skysports.com/football/news/11661/9818518/arsene-wenger-v-jose-mourinho-the-history-of-their-rivalry-in-quotes

อ่านนะครับ เวงเกอร์วิจารย์ในสนาม
อ่านภาษาอังกฤษได้ไหม ไม่งั้นผมจะแปลให้...

เขาพูดถึงเกมและการทำทีมล้วนๆ จนกระทั่งมีการบอกว่า "ไอ้นี่มันพวกถ้ำมอง"

ใครกันน๊า ใครเป็นคนเริ่ม..
ผู้จัดการทีมคนไหนครับ ที่เริ่ม "แขวะเข้าไปที่ตัวผู้จัดการทีม" ก่อน ??
ใครให้สัมภาษณ์นะ ที่บอกว่า

"ผมได้อ่านสิ่งที่คาเปลโล่พูดแล้ว ผมคิดว่าโค้ชโค้ชที่มีประวัติอย่างเขาน่าจะพูดถึงเรื่องฟุตบอลมากกว่าจะให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของเพื่อนร่วมอาชีพนะ"

อื้ม อื้ม อื้ม.... ครับ ผู้จัดการทีมที่ดี ควรจะคุยเรื่องบอลกันนะ..

แล้วแฟนบอลทีมอะไรนะครับ ที่บอกว่า "ไม่ได้ดู History เลย"
ครับ ไอ้คนที่มาว่ามูในนี้เนี่ย ไม่ได้ดู History เลยครับ
คนดู History แล้วต้องบอกว่า มูเนี่ย ไม่ได้ กินคำพูดตัวเองเลยครับ
ไม่ได้อยู่ๆ ออกมาด่าตัวเองผ่านสื่อเลยครับ

ไอ้ไอ้คนที่กลืนแสลดตัวเอง นี่มันแวงเกอร์ชัดๆ ที่ชอบไปพาดพิง พาดเสื่อ
ถึงผู้จัดการทีมของทีมอื่น

....

แล้วกรุณา อ่านดีๆ นะครับ ประวัติศาสตร์อ่ะ (อ่านใน Goal นะครับ ชัดดี)
ประโยคแรกที่พูดเพราะแวงเกอร์ โดนถามเรื่องในสนามไม่มีผู้เล่นอังกฤษเลย..
ก็เลยตอบแบบที่เห็นภาพไป ซึ่งมันเหน็บเชลซีแหละ ทีมคู่แข่งกันมันมีพาดพิงกันอยู่แล้ว
ป๋า + แวงเกอร์ ก็เคยพาดพิงกันเอง ไม่เห็นจะจงเกลียดจงชังอะไรขนาดนั้น
มันเป็นเรื่องของมูที่ต้องตอบคำถามว่า มีนักเตะอังกฤษที่ปั้นขึ้นมารึเปล่า
มันโยนขี้ให้เชลซีครับ แต่อยู่ในเรื่องบอล

ต่อมาแผนรถบัส เริ่มโด่งดัง ทุกคนรู้ข่าว ผู้สื่อข่าวถาม
ถามมันทุกที่ ทุกคน talk of the town อ่ะ แวงเกอร์โดนไหม
โดนถามดิครับ เหลืออะไร แวงเกอร์ตอบไปตามเนื้อผ้า
มีผู้จัดการทีมอื่นออกมาด่าอีกหลายคน แต่ก็เป็นการพูดถึงเทคติคในสนาม
ไม่มีใครพาดพิงถึงผู้จัดการเป็นการส่วนตัว (เลยจริงๆ มั้งนะ)

อ่านข่าวของ Goal หรือของนอกเอานะครับ ดูที่มาที่ไปด้วย
อย่าอ่านแบบแปลไม่ครบมา หรือ อ่านกระทู้ในนี้ ที่เอาเนื้อความมาไม่ครบ
พอไม่รู้ที่มาที่ไป แล้วก็มาพูดแบบพวกไม่ดู History

ไม่ดีครับ ไม่ดี
ไม่ดู History เลย ไอ้พวกที่มายิ้มอ่อนใส่มูในกระทู้นี้เนี่ย

 



จะเหน็บด้วยเรื่องอะไร มันก็เปิดก่อนอยู่ดี อย่ามาอ้างดีกว่าว่าเหน็บทีมภาพรวมหรือเหน็บในสนาม มันตลก เพราะยังไงมันก็ส่งผลถึงโค๊ชหรือทีมอยู่ดี

แถมออกมาพูดบ่อยๆถี่ๆ นี่มันก็เหมือนพวกถ้ำมองจริงๆป่ะ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาใส่ใจออกกมาพูดเกี่ยวกับทีมอื่นขนาดนั้น ทำไมไม่ไปสนใจทีมตัวเอง ฮะๆ

หรือช่วงนั้นแพ้บ่อย เครียด จนต้องออกมาวิจาร์ณ?

แล้วเจอมูสวนคืนแรงๆ ก็หาว่าปากร้าย ทั้งๆที่หาเรื่องเองแท้

แล้วที่บอกใครก็เหน็บกันยังไม่เกลียดกัน มูกับ ป๋า เมื่อก่อนก็ใช่ย่อยยังเคารพกันเลย

พูดเหมือนเดิม History คือ เหี่ยวเปิดก่อน แถมหลายทีด้วย ต่อมามูสวนหน้าหงายไง






 


เข้าใจประเด็นยากนะครับ

การที่เข้ามายิ้มอ่อนกันในนี้ ไม่ได้ประเด็นใครเปิดใครรึเปล่าครับ
ประเด็นคือ ใครเค้าถุยน้ำลายใส่หน้าตัวเองกันนะ กรณีนี้
เวนเกอร์ถุยใส่หน้าตัวเองรึเปล่า หรือหน้าหงิกเขาถุยน้ำลายใส่หน้าตัวเอง

ไม่น่าจะใช่ทั้งคู่นะครับ เอ๊ะ แล้วใครถุยใส่หน้าตัวเองกันละ กุนซือที่ไหน

ส่วนเรื่องฮิสตอรี่ ผมก็แค่ตอบคำถามว่า
"แล้วฮิสตอรี่ การที่ใครเปิดก่อน มันเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ปะครับ"
การที่แวงเกอร์เปิดก่อน ทำให้น้ำลายมูดอกนี้ ย้ายไปโดนหน้าแวงเกอร์เหรอ
แต่ไอ้การที่มูเป็นคนที่เปิดฉาก "พาดพิงตัวบุคคล" เนี่ย
เข้าหน้าตัวเองจังๆ เลยนะ ตาม History

กระทู้เขา ก็คุยถึงมูว่า "ไม่ดูองศาปากตัวเองเลย"
จะถุยน้ำลาย ยังไม่โดนหน้าน้าหงิก
โดนหน้าตัวเองซะงั้น แล้วก็อธิบายว่า "ทำไม" ซึ่งมันก็ต้องพูดถึงเวงเกอร์

ส่วนการ "อ้างเรื่อง History" มันก็ไม่ได้ช่วย มูเลยนะ
มันยิ่งเป็นการ ตอกหน้ามูเข้าไปอีกนะนาย
แฟนคลับคอสต้า จริงๆ ก็น่าจะหาทางช่วยมูนะ ไม่น่ามาซ้ำกันแบบนี้



ไอ้ใครเปิดก่อนเปิดหลัง เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ
เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ เวงเกอร์เปิดก่อนฮะ ว๊าย ว๊าย เปิดก่อน เปิดก่อน
เรื่องวิจารณ์ในสนามอ่ะ ทั้งโลกมันต้องมีใครเปิดใครกันบ้างละครับ

มูก็ไม่ได้เปิดน้าหงิกก่อนนะเนี่ย น้าหงิกมาเปิดทำไม
น้ามูสวนได้ เอาเลย มูสวนเลย เอาให้หนัก
อ้าว โดนหน้าตัวเองซะงั้น ว๊าาาาา

เขามาฮาดอกนี้กันอ่ะครับ...
ที่เคย ตอกเวงเกอร์หน้าหงายก็เยอะนะ จังหวะมูพูด ผมว่าก็ถ้ำมองจริงๆ แหละ 555
แต่จังหวะแวงเกอร์เงิบ ผมไม่มาเถียงข้างๆ คูๆ ให้โดนซ้ำนะ นั่งอ่านช้ำๆ พอละ
แต่ไอ้พูดแล้วเข้าตัวนี้ ผมว่าดอกนี้ก็ฮานะ ตอก "ตัวเอง" หน้าหงาย โอ้ว เยี่ยม
ยิ่งถ้ามีแฟนบอลเชลซี ตามมาร่วมถุยน้ำลายใส่หน้ามูด้วย นี่ยิ่งบันเทิงใหญ่


แต่ที่ยอมรับแมนๆ นี่ผมชื่นชมนะ เท่ดี  


พิมพ์ยาวๆ แต่ตีโจทย์ของคนอื่นไม่แตก

อ่านใหม่นะ ไม่ได้พูดเรื่องในข่าวนะ มูจะด่าหงิกก็ช่างหัวมันดิ

แต่พูดถึงคนที่โยงไปประเด็นเวงเกอร์มู นี่ละคือประเด็นจะสื่อ

เด็กปลัดอะไรๆก็อ้างมูชอบแขวะเวนเกอร์ ปากหมา ปากเสีย แต่จุดเริ่มต้นจริงๆมันมายังไง

ก็ตอบให้เข้าใจไงว่า ใครเปิดก่อน และหลังจากนั้นมันเป็นการสวนกันไปมา ไม่ใช่มูด่าผ่านเดียว เวนเกอร์ก็แขวะเหมือนกัน

แต่แฟนปลัดชอบอ้างไง ที่ยกเอา History มาคือเอามาให้แฟนปลัดอย่างพวกคุณอ่ะละ เปิดหูเปิดตา

จะได้เลิกมองว่ามูหาเรื่องก่อน นี่ประเด็น ! เรื่องหงิก มู ช่างหัวมันดิ ใครแคร์




 



โอเคครับ อิอิ งั้นอ่าน ตัวที่ผมแดงๆ แล้วเน้นตัวใหญ่ๆ ไว้นะครับ
อ่า.... เดี๋ยวไม่อ่าน เอาลงมาให้อ่านอีกทีละกัน "จะได้จับประเด็นได้"
อ้างอิงจาก:
โดนหน้าตัวเองซะงั้น แล้วก็อธิบายว่า "ทำไม" ซึ่งมันก็ต้องพูดถึงเวงเกอร์  

เขาพูดถึงแวงเกอร์เพราะว่า ไอ้คนที่มู "พาดพิงตัวบุคคล" บ่อยๆ อ่ะคือ แวงเกอร์
จังหวะนี้ มูมันด่า หงิกว่า ด่าที่คนทำไม-ทำไมไม่พูดเรื่องบอล เขาเลยบอกว่า เอ็งอ่ะตัวดีเลย

ไม่เกิน 7 บรรทัดนะ พอจะจับประเด็นได้ไหม มันจำเป็นต้องพูดนะจ๊ะ สรุปให้



 


ก็คนละประเด็นอยู่ดี สับสนอะไรหรือเปล่า

อ่านช้าๆนะ คุณมาโคทผมเนี้ย ตั้งแต่ประโยคไหน แล้วผมพูดถึงอะไร ประเด็นคืออะไร

อ้างอิงจาก:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย  


นี่ไม่ได้พูดถึงข่าวเลย พูดถึงแฟนน่อลที่ชอบบอกว่ามูชอบหาเรื่องเวงเกอร์ในข่าวนี้

ทั้งที่ความจริงด่ากันไปมา แล้วเวอร์เกอร์เปิดก่อน

เอาแค่นี้ จบที่ประเด็นนี้นะ

ส่วนมูมันจะด่าใครนอกจากเวนเกอร์ นั้นก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้พูดเรื่องนั้น

เข้าใจไหม อ่านช้าๆสัก 10 รอบ แล้วอย่าวนมาเรื่องเดิมนะ อธิบายแบบนี้สามรอบแล้ว

มีปัญหาอะไรในการตีความหรือเปล่า ฮะๆ

มาโควทผมละตีความไม่แตก พิมพ์ยาวมีแต่น้ำ เนื้อหาจริงมีบรรทัดเดียว





0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 7:29 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
อ้างอิงจาก:

ก็คนละประเด็นอยู่ดี สับสนอะไรหรือเปล่า

อ่านช้าๆนะ คุณมาโคทผมเนี้ย ตั้งแต่ประโยคไหน แล้วผมพูดถึงอะไร ประเด็นคืออะไร

อ้างอิงจาก:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย  


นี่ไม่ได้พูดถึงข่าวเลย พูดถึงแฟนน่อลที่ชอบบอกว่ามูชอบหาเรื่องเวงเกอร์ในข่าวนี้

ทั้งที่ความจริงด่ากันไปมา แล้วเวอร์เกอร์เปิดก่อน

เอาแค่นี้ จบที่ประเด็นนี้นะ

ส่วนมูมันจะด่าใครนอกจากเวนเกอร์ นั้นก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้พูดเรื่องนั้น

เข้าใจไหม อ่านช้าๆสัก 10 รอบ แล้วอย่าวนมาเรื่องเดิมนะ อธิบายแบบนี้สามรอบแล้ว

มีปัญหาอะไรในการตีความหรือเปล่า ฮะๆ

มาโควทผมละตีความไม่แตก พิมพ์ยาวมีแต่น้ำ เนื้อหาจริงมีบรรทัดเดียว





 



ฮัลโหลลลลลลลลลลลลล อุส่าพิมพ์ไม่เกิน 7 บรรทัดแล้ว
"แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า"
เขาไม่ได้อ้างเหี่ยวโดนมูด่าครับ ฮัลโหลลลลลลลล

เขาพูดถึงมูว่า "มูมันก็เป็นคนที่ชอบพาดพิงไปถึงตัวผู้จัดการ" มากกว่าเรื่องฟุตบอล
แล้วไอ้การกระทำดังกล่าว มันมีตัวอย่างเห็นชัดๆ กับสิ่งที่ทำกับแวงเกอร์
คุณไล่แฟนปลัด ไปดู History ผมก็เลยบอกให้คุณเองอ่ะ หัดไปดู History ด้วย

ว่าไอ้ที่มูมันกำลังด่าชาวบ้านเขาอยู่อ่ะ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 7:37 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
อ้างอิงจาก:


ก็คนละประเด็นอยู่ดี สับสนอะไรหรือเปล่า

อ่านช้าๆนะ คุณมาโคทผมเนี้ย ตั้งแต่ประโยคไหน แล้วผมพูดถึงอะไร ประเด็นคืออะไร

อ้างอิงจาก:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย  


นี่ไม่ได้พูดถึงข่าวเลย พูดถึงแฟนน่อลที่ชอบบอกว่ามูชอบหาเรื่องเวงเกอร์ในข่าวนี้

ทั้งที่ความจริงด่ากันไปมา แล้วเวอร์เกอร์เปิดก่อน

เอาแค่นี้ จบที่ประเด็นนี้นะ

ส่วนมูมันจะด่าใครนอกจากเวนเกอร์ นั้นก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้พูดเรื่องนั้น

เข้าใจไหม อ่านช้าๆสัก 10 รอบ แล้วอย่าวนมาเรื่องเดิมนะ อธิบายแบบนี้สามรอบแล้ว

มีปัญหาอะไรในการตีความหรือเปล่า ฮะๆ

มาโควทผมละตีความไม่แตก พิมพ์ยาวมีแต่น้ำ เนื้อหาจริงมีบรรทัดเดียว





 



อ่านช้าๆ นะครับ พิมพ์ยาวก็ไม่เข้าใจ พิมพ์สั้นก็ไม่เข้าใจ

[ข่าวลง] มูบอกหงิก อย่าเอาประเด็นบุคคลมาเกี่ยว คุยเรื่องบอลดีกว่านะ

[แฟนบอล] เห้ยๆ มู เอ็งอ่ะตัวดีเลย ไอ้ที่เอ็งทำกับแวงเกอร์ไม่ได้พาดพิงบุคคลเหรอวะ

[แฟนบอย]แฟนปลัดไม่ดูประวัติศาสตร์เลย แวงเกอร์เปิดก่อน

[ผม] เดี๋ยวๆๆๆ เขาพูดถึงเรื่องมูด่าคนอื่น แต่ว่าเขาอิเหนาเป็นเอง ไม่ได้เกี่ยวใครเปิดก่อนหลัง แถมประวัติศาสตร์อ่ะ ยิ่งบอกชัดเลยว่า มูมันคนประเภทนี้จริงๆ

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

[ผม] รู้แล้วโว้ย ว่าแวงเกอร์เปิดก่อน
แต่เขาต้องพูดถึงแวงเกอร์ เพราะ ไอ้คนที่มูมันชอบพาดพิงบุคคลคือแวงเกอร์

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

[ผม] เขาจำเป็นต้องพูดถึงแวงเกอร์... เพระาเรากำลังพูดกรณี ที่มูชอบพาดพิงบุคคล

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 7:41 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
อ้างอิงจาก:

ก็คนละประเด็นอยู่ดี สับสนอะไรหรือเปล่า

อ่านช้าๆนะ คุณมาโคทผมเนี้ย ตั้งแต่ประโยคไหน แล้วผมพูดถึงอะไร ประเด็นคืออะไร

อ้างอิงจาก:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย  


นี่ไม่ได้พูดถึงข่าวเลย พูดถึงแฟนน่อลที่ชอบบอกว่ามูชอบหาเรื่องเวงเกอร์ในข่าวนี้

ทั้งที่ความจริงด่ากันไปมา แล้วเวอร์เกอร์เปิดก่อน

เอาแค่นี้ จบที่ประเด็นนี้นะ

ส่วนมูมันจะด่าใครนอกจากเวนเกอร์ นั้นก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้พูดเรื่องนั้น

เข้าใจไหม อ่านช้าๆสัก 10 รอบ แล้วอย่าวนมาเรื่องเดิมนะ อธิบายแบบนี้สามรอบแล้ว

มีปัญหาอะไรในการตีความหรือเปล่า ฮะๆ

มาโควทผมละตีความไม่แตก พิมพ์ยาวมีแต่น้ำ เนื้อหาจริงมีบรรทัดเดียว





 



ฮัลโหลลลลลลลลลลลลล อุส่าพิมพ์ไม่เกิน 7 บรรทัดแล้ว
"แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า"
เขาไม่ได้อ้างเหี่ยวโดนมูด่าครับ ฮัลโหลลลลลลลล

เขาพูดถึงมูว่า "มูมันก็เป็นคนที่ชอบพาดพิงไปถึงตัวผู้จัดการ" มากกว่าเรื่องฟุตบอล
แล้วไอ้การกระทำดังกล่าว มันมีตัวอย่างเห็นชัดๆ กับสิ่งที่ทำกับแวงเกอร์
คุณไล่แฟนปลัด ไปดู History ผมก็เลยบอกให้คุณเองอ่ะ หัดไปดู History ด้วย

ว่าไอ้ที่มูมันกำลังด่าชาวบ้านเขาอยู่อ่ะ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
 


นอกจากหลงประเด็นแล้วยังอคติอีกด้วย



ผมจะบอกอะไรให้นะ History ของมูกับเวนเกอร์ มันไม่เรียกว่ามูด่าชาวบ้านนะ มันเรียกว่าการด่ากันไปมา

คุณจะไล่ผมกลับไปดู History อีกกี่รอบ ผมก็มองว่ามันคือการด่ากันไปมา

คุณเข้าใจคำว่าด่ากันไปมาไหม มันมีโต้ตอบกัน มันใช่มูแขวะเวนเกอร์ทีเดียวแต่เมื่อไหร่

เวนเกอร์สวนคืนประจำ แต่มันเบาไง แต่มูสวนทีมันเจ๊บจื๊ด

ให้ผมวิเคราะห์ พวกปลัดอย่างพวกคุณเลย เห็นเหี่ยวโดนตอกเจ็บๆ โมเมเอาไปว่า มูด่าแต่เวนเกอร์

มาตอบอีกนะ ผมว่างทั้งคืน วันนี้




0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 7:45 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
อ้างอิงจาก:

ก็คนละประเด็นอยู่ดี สับสนอะไรหรือเปล่า

อ่านช้าๆนะ คุณมาโคทผมเนี้ย ตั้งแต่ประโยคไหน แล้วผมพูดถึงอะไร ประเด็นคืออะไร

อ้างอิงจาก:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย  


นี่ไม่ได้พูดถึงข่าวเลย พูดถึงแฟนน่อลที่ชอบบอกว่ามูชอบหาเรื่องเวงเกอร์ในข่าวนี้

ทั้งที่ความจริงด่ากันไปมา แล้วเวอร์เกอร์เปิดก่อน

เอาแค่นี้ จบที่ประเด็นนี้นะ

ส่วนมูมันจะด่าใครนอกจากเวนเกอร์ นั้นก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้พูดเรื่องนั้น

เข้าใจไหม อ่านช้าๆสัก 10 รอบ แล้วอย่าวนมาเรื่องเดิมนะ อธิบายแบบนี้สามรอบแล้ว

มีปัญหาอะไรในการตีความหรือเปล่า ฮะๆ

มาโควทผมละตีความไม่แตก พิมพ์ยาวมีแต่น้ำ เนื้อหาจริงมีบรรทัดเดียว





 



ฮัลโหลลลลลลลลลลลลล อุส่าพิมพ์ไม่เกิน 7 บรรทัดแล้ว
"แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า"
เขาไม่ได้อ้างเหี่ยวโดนมูด่าครับ ฮัลโหลลลลลลลล

เขาพูดถึงมูว่า "มูมันก็เป็นคนที่ชอบพาดพิงไปถึงตัวผู้จัดการ" มากกว่าเรื่องฟุตบอล
แล้วไอ้การกระทำดังกล่าว มันมีตัวอย่างเห็นชัดๆ กับสิ่งที่ทำกับแวงเกอร์
คุณไล่แฟนปลัด ไปดู History ผมก็เลยบอกให้คุณเองอ่ะ หัดไปดู History ด้วย

ว่าไอ้ที่มูมันกำลังด่าชาวบ้านเขาอยู่อ่ะ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
 


นอกจากหลงประเด็นแล้วยังอคติอีกด้วย



ผมจะบอกอะไรให้นะ History ของมูกับเวนเกอร์ มันไม่เรียกว่ามูด่าชาวบ้านนะ มันเรียกว่าการด่ากันไปมา

คุณจะไล่ผมกลับไปดู History อีกกี่รอบ ผมก็มองว่ามันคือการด่ากันไปมา

คุณเข้าใจคำว่าด่ากันไปมาไหม มันมีโต้ตอบกัน มันใช่มูแขวะเวนเกอร์ทีเดียวแต่เมื่อไหร่

เวนเกอร์สวนคืนประจำ แต่มันเบาไง แต่มูสวนทีมันเจ๊บจื๊ด

ให้ผมวิเคราะห์ พวกปลัดอย่างพวกคุณเลย เห็นเหี่ยวโดนตอกเจ็บๆ โมเมเอาไปว่า มูด่าแต่เวนเกอร์

มาตอบอีกนะ ผมว่างทั้งคืน วันนี้




 


ไม่เกี่ยวกับเจ็บไม่เจ็บมั้งนาย...

ทีมเชลซีปั้นนักเตะอังกฤษน้อย - บอลหรือคนครับ ?
ทีมเชลซีเล่นตั้งรับ ไม่ดีกับวงการ - บอลหรือคนครับ ?
แวงเกอร์พวกถ้ำมอง - บอลหรือคนครับ ?

นี่วิเคราะห์แล้ว หรืออ่านแต่ตีความไม่เป็นครับ ?
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 7:53 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
อ้างอิงจาก:


ก็คนละประเด็นอยู่ดี สับสนอะไรหรือเปล่า

อ่านช้าๆนะ คุณมาโคทผมเนี้ย ตั้งแต่ประโยคไหน แล้วผมพูดถึงอะไร ประเด็นคืออะไร

อ้างอิงจาก:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย  


นี่ไม่ได้พูดถึงข่าวเลย พูดถึงแฟนน่อลที่ชอบบอกว่ามูชอบหาเรื่องเวงเกอร์ในข่าวนี้

ทั้งที่ความจริงด่ากันไปมา แล้วเวอร์เกอร์เปิดก่อน

เอาแค่นี้ จบที่ประเด็นนี้นะ

ส่วนมูมันจะด่าใครนอกจากเวนเกอร์ นั้นก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้พูดเรื่องนั้น

เข้าใจไหม อ่านช้าๆสัก 10 รอบ แล้วอย่าวนมาเรื่องเดิมนะ อธิบายแบบนี้สามรอบแล้ว

มีปัญหาอะไรในการตีความหรือเปล่า ฮะๆ

มาโควทผมละตีความไม่แตก พิมพ์ยาวมีแต่น้ำ เนื้อหาจริงมีบรรทัดเดียว





 



อ่านช้าๆ นะครับ พิมพ์ยาวก็ไม่เข้าใจ พิมพ์สั้นก็ไม่เข้าใจ

[ข่าวลง] มูบอกหงิก อย่าเอาประเด็นบุคคลมาเกี่ยว คุยเรื่องบอลดีกว่านะ

[แฟนบอล] เห้ยๆ มู เอ็งอ่ะตัวดีเลย ไอ้ที่เอ็งทำกับแวงเกอร์ไม่ได้พาดพิงบุคคลเหรอวะ

[แฟนบอย]แฟนปลัดไม่ดูประวัติศาสตร์เลย แวงเกอร์เปิดก่อน

[ผม] เดี๋ยวๆๆๆ เขาพูดถึงเรื่องมูด่าคนอื่น แต่ว่าเขาอิเหนาเป็นเอง ไม่ได้เกี่ยวใครเปิดก่อนหลัง แถมประวัติศาสตร์อ่ะ ยิ่งบอกชัดเลยว่า มูมันคนประเภทนี้จริงๆ

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

[ผม] รู้แล้วโว้ย ว่าแวงเกอร์เปิดก่อน
แต่เขาต้องพูดถึงแวงเกอร์ เพราะ ไอ้คนที่มูมันชอบพาดพิงบุคคลคือแวงเกอร์

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

[ผม] เขาจำเป็นต้องพูดถึงแวงเกอร์... เพระาเรากำลังพูดกรณี ที่มูชอบพาดพิงบุคคล

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

 


ประเด็นผมตอนแรกก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ได้พูดเรื่องข่าว

ผมเน้นว่าเป็นเรื่องมูกับเวนเกอร์เท่านั้น แล้วที่ผมเอา history มาพูดเพราะ

มีแฟนปลัดคนหนึ่งพูดว่า

อ้างอิงจาก:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  


นี่ไง ประโยคที่ผมติดใจ ถ้าเป็นโค๊ชคนอื่นอาจจะใช่ แต่มูกับเวนเกอร์

มันไม่ใช่ มันเอามาอ้างในเคสนี้ไม่ได้ ผมก็ตอบกลับไปว่า

อ้างอิงจาก:
ก็สวนกันไปมาไง

เผื่อยังไม่รู้ ลองเปิดไปดู History เวงเกอร์เปิดศึกน้ำลายกับ เชลซี & มูก่อนด้วยนะ  


เอาง่ายๆ อย่าเอาเคสของเวนเกอร์มาอ้างดีกว่า มันทุเรศ

ด่ากันไปมา ยังมาอ้างมามูชอบด่าแต่เวนเกอร์

ประสาทและอคติสุดๆ

นี่ถ้าอ้างคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้ จะไม่ว่าสักคำ

นี่เอาเจ้มาอ้าง ตลกสุดๆเลย แฟนปลัดอย่างพวกคุณนี่ เอาไงมาต่อเลยรออ่านอยู่

0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 8:00 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
อ้างอิงจาก:


ก็คนละประเด็นอยู่ดี สับสนอะไรหรือเปล่า

อ่านช้าๆนะ คุณมาโคทผมเนี้ย ตั้งแต่ประโยคไหน แล้วผมพูดถึงอะไร ประเด็นคืออะไร

อ้างอิงจาก:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย  


นี่ไม่ได้พูดถึงข่าวเลย พูดถึงแฟนน่อลที่ชอบบอกว่ามูชอบหาเรื่องเวงเกอร์ในข่าวนี้

ทั้งที่ความจริงด่ากันไปมา แล้วเวอร์เกอร์เปิดก่อน

เอาแค่นี้ จบที่ประเด็นนี้นะ

ส่วนมูมันจะด่าใครนอกจากเวนเกอร์ นั้นก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้พูดเรื่องนั้น

เข้าใจไหม อ่านช้าๆสัก 10 รอบ แล้วอย่าวนมาเรื่องเดิมนะ อธิบายแบบนี้สามรอบแล้ว

มีปัญหาอะไรในการตีความหรือเปล่า ฮะๆ

มาโควทผมละตีความไม่แตก พิมพ์ยาวมีแต่น้ำ เนื้อหาจริงมีบรรทัดเดียว





 



อ่านช้าๆ นะครับ พิมพ์ยาวก็ไม่เข้าใจ พิมพ์สั้นก็ไม่เข้าใจ

[ข่าวลง] มูบอกหงิก อย่าเอาประเด็นบุคคลมาเกี่ยว คุยเรื่องบอลดีกว่านะ

[แฟนบอล] เห้ยๆ มู เอ็งอ่ะตัวดีเลย ไอ้ที่เอ็งทำกับแวงเกอร์ไม่ได้พาดพิงบุคคลเหรอวะ

[แฟนบอย]แฟนปลัดไม่ดูประวัติศาสตร์เลย แวงเกอร์เปิดก่อน

[ผม] เดี๋ยวๆๆๆ เขาพูดถึงเรื่องมูด่าคนอื่น แต่ว่าเขาอิเหนาเป็นเอง ไม่ได้เกี่ยวใครเปิดก่อนหลัง แถมประวัติศาสตร์อ่ะ ยิ่งบอกชัดเลยว่า มูมันคนประเภทนี้จริงๆ

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

[ผม] รู้แล้วโว้ย ว่าแวงเกอร์เปิดก่อน
แต่เขาต้องพูดถึงแวงเกอร์ เพราะ ไอ้คนที่มูมันชอบพาดพิงบุคคลคือแวงเกอร์

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

[ผม] เขาจำเป็นต้องพูดถึงแวงเกอร์... เพระาเรากำลังพูดกรณี ที่มูชอบพาดพิงบุคคล

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

 


ประเด็นผมตอนแรกก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ได้พูดเรื่องข่าว

ผมเน้นว่าเป็นเรื่องมูกับเวนเกอร์เท่านั้น แล้วที่ผมเอา history มาพูดเพราะ

มีแฟนปลัดคนหนึ่งพูดว่า

อ้างอิงจาก:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  


นี่ไง ประโยคที่ผมติดใจ ถ้าเป็นโค๊ชคนอื่นอาจจะใช่ แต่มูกับเวนเกอร์

มันไม่ใช่ มันเอามาอ้างในเคสนี้ไม่ได้ ผมก็ตอบกลับไปว่า

อ้างอิงจาก:
ก็สวนกันไปมาไง

เผื่อยังไม่รู้ ลองเปิดไปดู History เวงเกอร์เปิดศึกน้ำลายกับ เชลซี &amp; มูก่อนด้วยนะ  


เอาง่ายๆ อย่าเอาเคสของเวนเกอร์มาอ้างดีกว่า มันทุเรศ

ด่ากันไปมา ยังมาอ้างมามูชอบด่าแต่เวนเกอร์

ประสาทและอคติสุดๆ

นี่ถ้าอ้างคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้ จะไม่ว่าสักคำ

นี่เอาเจ้มาอ้าง ตลกสุดๆเลย แฟนปลัดอย่างพวกคุณนี่ เอาไงมาต่อเลยรออ่านอยู่

 


นี่แหละครับ ที่เขาบอกกันว่า หลงประเด็นแล้วยังอคติ แบบที่คุณว่าเลย
เขาพูดชัดนะ คนนั้นเขาพูดว่า
"ไอ้ที่มูกำลังด่าน้าหงิกเนี่ย" มันตลกวะ
"เพราะมูเองก็พูดว่าแวงเกอร์เป็นพวกถ้ำมองและอื่นๆ "
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ "มูกำลังด่าน้าหงิกอยู่ไม่ใช่เหรอ" (วะครับ)

ผมว่า คนทั้งโลก ก็ต้องยกเคส แวงเกอร์มาอ้างนะ "เพราะมันเห็นชัดที่สุดละ"
แฟนทีมอื่นก็ยอมรับได้ง่ายๆ อ่ะครับ ว่ามูมันเป้นแบบนั้นจริงๆ

ไม่เอาครับ วางอคติลง แล้วยอมรับว่ามูมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
และที่เขาอ้างแวงเกอร์ เพราะไอ้ที่มูมันทำแบบนั้น แบบที่กำลังด่าเขาอ่ะ มูมันทำกับแวงเกอร์ เป็นคนหลักๆ เลย




0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 8:02 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
อ้างอิงจาก:

ก็คนละประเด็นอยู่ดี สับสนอะไรหรือเปล่า

อ่านช้าๆนะ คุณมาโคทผมเนี้ย ตั้งแต่ประโยคไหน แล้วผมพูดถึงอะไร ประเด็นคืออะไร

อ้างอิงจาก:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย  


นี่ไม่ได้พูดถึงข่าวเลย พูดถึงแฟนน่อลที่ชอบบอกว่ามูชอบหาเรื่องเวงเกอร์ในข่าวนี้

ทั้งที่ความจริงด่ากันไปมา แล้วเวอร์เกอร์เปิดก่อน

เอาแค่นี้ จบที่ประเด็นนี้นะ

ส่วนมูมันจะด่าใครนอกจากเวนเกอร์ นั้นก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้พูดเรื่องนั้น

เข้าใจไหม อ่านช้าๆสัก 10 รอบ แล้วอย่าวนมาเรื่องเดิมนะ อธิบายแบบนี้สามรอบแล้ว

มีปัญหาอะไรในการตีความหรือเปล่า ฮะๆ

มาโควทผมละตีความไม่แตก พิมพ์ยาวมีแต่น้ำ เนื้อหาจริงมีบรรทัดเดียว





 



ฮัลโหลลลลลลลลลลลลล อุส่าพิมพ์ไม่เกิน 7 บรรทัดแล้ว
"แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า"
เขาไม่ได้อ้างเหี่ยวโดนมูด่าครับ ฮัลโหลลลลลลลล

เขาพูดถึงมูว่า "มูมันก็เป็นคนที่ชอบพาดพิงไปถึงตัวผู้จัดการ" มากกว่าเรื่องฟุตบอล
แล้วไอ้การกระทำดังกล่าว มันมีตัวอย่างเห็นชัดๆ กับสิ่งที่ทำกับแวงเกอร์
คุณไล่แฟนปลัด ไปดู History ผมก็เลยบอกให้คุณเองอ่ะ หัดไปดู History ด้วย

ว่าไอ้ที่มูมันกำลังด่าชาวบ้านเขาอยู่อ่ะ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
 


นอกจากหลงประเด็นแล้วยังอคติอีกด้วย



ผมจะบอกอะไรให้นะ History ของมูกับเวนเกอร์ มันไม่เรียกว่ามูด่าชาวบ้านนะ มันเรียกว่าการด่ากันไปมา

คุณจะไล่ผมกลับไปดู History อีกกี่รอบ ผมก็มองว่ามันคือการด่ากันไปมา

คุณเข้าใจคำว่าด่ากันไปมาไหม มันมีโต้ตอบกัน มันใช่มูแขวะเวนเกอร์ทีเดียวแต่เมื่อไหร่

เวนเกอร์สวนคืนประจำ แต่มันเบาไง แต่มูสวนทีมันเจ๊บจื๊ด

ให้ผมวิเคราะห์ พวกปลัดอย่างพวกคุณเลย เห็นเหี่ยวโดนตอกเจ็บๆ โมเมเอาไปว่า มูด่าแต่เวนเกอร์

มาตอบอีกนะ ผมว่างทั้งคืน วันนี้




 


ไม่เกี่ยวกับเจ็บไม่เจ็บมั้งนาย...

ทีมเชลซีปั้นนักเตะอังกฤษน้อย - บอลหรือคนครับ ?
ทีมเชลซีเล่นตั้งรับ ไม่ดีกับวงการ - บอลหรือคนครับ ?
แวงเกอร์พวกถ้ำมอง - บอลหรือคนครับ ?

นี่วิเคราะห์แล้ว หรืออ่านแต่ตีความไม่เป็นครับ ?
 


แล้วมันเรื่องอะไรของเจ้ที่ต้องมาสนใจเชลซีขนาดนั้น ขนาดให้สัมภาษณ์เรื่องเชลซีอยู่ตลอด

เหน็บคนอื่นบ่อยๆ แต่เจอเขาสวนแรงครั้งเดียว ดิ้นกันเป็นแถบๆ

ก็สมควรแล้วครับ อย่างอ้างดีกว่าว่าวิจาร์ณเรื่องบอลหรือเรื่องอะไร

เพราะ สุดท้ายมันก็มีผลต่อสโมสรอยู่ดี ต่อโค๊ชอยู่ดี

มีสิทธิ์วิจาร์ณคนอื่นได้ ก็ต้องยอมรับว่าต้องโดนวิจารณ์เหมือนกัน

ส่วนจะแรงไม่แรง ก็ขึ้นอยู่กับมุมมอง ผมว่าไม่แรง ชัดเจนและตรงดี


0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 8:04 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
อ้างอิงจาก:

ก็คนละประเด็นอยู่ดี สับสนอะไรหรือเปล่า

อ่านช้าๆนะ คุณมาโคทผมเนี้ย ตั้งแต่ประโยคไหน แล้วผมพูดถึงอะไร ประเด็นคืออะไร

อ้างอิงจาก:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย  


นี่ไม่ได้พูดถึงข่าวเลย พูดถึงแฟนน่อลที่ชอบบอกว่ามูชอบหาเรื่องเวงเกอร์ในข่าวนี้

ทั้งที่ความจริงด่ากันไปมา แล้วเวอร์เกอร์เปิดก่อน

เอาแค่นี้ จบที่ประเด็นนี้นะ

ส่วนมูมันจะด่าใครนอกจากเวนเกอร์ นั้นก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้พูดเรื่องนั้น

เข้าใจไหม อ่านช้าๆสัก 10 รอบ แล้วอย่าวนมาเรื่องเดิมนะ อธิบายแบบนี้สามรอบแล้ว

มีปัญหาอะไรในการตีความหรือเปล่า ฮะๆ

มาโควทผมละตีความไม่แตก พิมพ์ยาวมีแต่น้ำ เนื้อหาจริงมีบรรทัดเดียว





 



ฮัลโหลลลลลลลลลลลลล อุส่าพิมพ์ไม่เกิน 7 บรรทัดแล้ว
"แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า"
เขาไม่ได้อ้างเหี่ยวโดนมูด่าครับ ฮัลโหลลลลลลลล

เขาพูดถึงมูว่า "มูมันก็เป็นคนที่ชอบพาดพิงไปถึงตัวผู้จัดการ" มากกว่าเรื่องฟุตบอล
แล้วไอ้การกระทำดังกล่าว มันมีตัวอย่างเห็นชัดๆ กับสิ่งที่ทำกับแวงเกอร์
คุณไล่แฟนปลัด ไปดู History ผมก็เลยบอกให้คุณเองอ่ะ หัดไปดู History ด้วย

ว่าไอ้ที่มูมันกำลังด่าชาวบ้านเขาอยู่อ่ะ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
 


นอกจากหลงประเด็นแล้วยังอคติอีกด้วย



ผมจะบอกอะไรให้นะ History ของมูกับเวนเกอร์ มันไม่เรียกว่ามูด่าชาวบ้านนะ มันเรียกว่าการด่ากันไปมา

คุณจะไล่ผมกลับไปดู History อีกกี่รอบ ผมก็มองว่ามันคือการด่ากันไปมา

คุณเข้าใจคำว่าด่ากันไปมาไหม มันมีโต้ตอบกัน มันใช่มูแขวะเวนเกอร์ทีเดียวแต่เมื่อไหร่

เวนเกอร์สวนคืนประจำ แต่มันเบาไง แต่มูสวนทีมันเจ๊บจื๊ด

ให้ผมวิเคราะห์ พวกปลัดอย่างพวกคุณเลย เห็นเหี่ยวโดนตอกเจ็บๆ โมเมเอาไปว่า มูด่าแต่เวนเกอร์

มาตอบอีกนะ ผมว่างทั้งคืน วันนี้




 


ไม่เกี่ยวกับเจ็บไม่เจ็บมั้งนาย...

ทีมเชลซีปั้นนักเตะอังกฤษน้อย - บอลหรือคนครับ ?
ทีมเชลซีเล่นตั้งรับ ไม่ดีกับวงการ - บอลหรือคนครับ ?
แวงเกอร์พวกถ้ำมอง - บอลหรือคนครับ ?

นี่วิเคราะห์แล้ว หรืออ่านแต่ตีความไม่เป็นครับ ?
 


แล้วมันเรื่องอะไรของเจ้ที่ต้องมาสนใจเชลซีขนาดนั้น ขนาดให้สัมภาษณ์เรื่องเชลซีอยู่ตลอด

เหน็บคนอื่นบ่อยๆ แต่เจอเขาสวนแรงครั้งเดียว ดิ้นกันเป็นแถบๆ

ก็สมควรแล้วครับ อย่างอ้างดีกว่าว่าวิจาร์ณเรื่องบอลหรือเรื่องอะไร

เพราะ สุดท้ายมันก็มีผลต่อสโมสรอยู่ดี ต่อโค๊ชอยู่ดี

มีสิทธิ์วิจาร์ณคนอื่นได้ ก็ต้องยอมรับว่าต้องโดนวิจารณ์เหมือนกัน

ส่วนจะแรงไม่แรง ก็ขึ้นอยู่กับมุมมอง ผมว่าไม่แรง ชัดเจนและตรงดี


 


แสดงว่าเข้าใจประเด็นนะครับ ว่ามูกำลังด่า (ประจาน) ตัวเองออกสื่อ


ส่วนเรื่องแวงเกอร์ถ้ำมองไหม ผมไม่เดือดร้อนครับ เจ็บไหม ไม่ได้รู้สึกไรแล้วครับ
แต่ดอกนี้ คนที่มาอ้างแวงเกอร์เนี่ย มันสมควรแก่เหตุครับ

เหนื่อยจัง กว่าจะเข้าใจประเด็น

0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 8:06 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
อ้างอิงจาก:


ก็คนละประเด็นอยู่ดี สับสนอะไรหรือเปล่า

อ่านช้าๆนะ คุณมาโคทผมเนี้ย ตั้งแต่ประโยคไหน แล้วผมพูดถึงอะไร ประเด็นคืออะไร

อ้างอิงจาก:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย  


นี่ไม่ได้พูดถึงข่าวเลย พูดถึงแฟนน่อลที่ชอบบอกว่ามูชอบหาเรื่องเวงเกอร์ในข่าวนี้

ทั้งที่ความจริงด่ากันไปมา แล้วเวอร์เกอร์เปิดก่อน

เอาแค่นี้ จบที่ประเด็นนี้นะ

ส่วนมูมันจะด่าใครนอกจากเวนเกอร์ นั้นก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้พูดเรื่องนั้น

เข้าใจไหม อ่านช้าๆสัก 10 รอบ แล้วอย่าวนมาเรื่องเดิมนะ อธิบายแบบนี้สามรอบแล้ว

มีปัญหาอะไรในการตีความหรือเปล่า ฮะๆ

มาโควทผมละตีความไม่แตก พิมพ์ยาวมีแต่น้ำ เนื้อหาจริงมีบรรทัดเดียว





 



อ่านช้าๆ นะครับ พิมพ์ยาวก็ไม่เข้าใจ พิมพ์สั้นก็ไม่เข้าใจ

[ข่าวลง] มูบอกหงิก อย่าเอาประเด็นบุคคลมาเกี่ยว คุยเรื่องบอลดีกว่านะ

[แฟนบอล] เห้ยๆ มู เอ็งอ่ะตัวดีเลย ไอ้ที่เอ็งทำกับแวงเกอร์ไม่ได้พาดพิงบุคคลเหรอวะ

[แฟนบอย]แฟนปลัดไม่ดูประวัติศาสตร์เลย แวงเกอร์เปิดก่อน

[ผม] เดี๋ยวๆๆๆ เขาพูดถึงเรื่องมูด่าคนอื่น แต่ว่าเขาอิเหนาเป็นเอง ไม่ได้เกี่ยวใครเปิดก่อนหลัง แถมประวัติศาสตร์อ่ะ ยิ่งบอกชัดเลยว่า มูมันคนประเภทนี้จริงๆ

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

[ผม] รู้แล้วโว้ย ว่าแวงเกอร์เปิดก่อน
แต่เขาต้องพูดถึงแวงเกอร์ เพราะ ไอ้คนที่มูมันชอบพาดพิงบุคคลคือแวงเกอร์

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

[ผม] เขาจำเป็นต้องพูดถึงแวงเกอร์... เพระาเรากำลังพูดกรณี ที่มูชอบพาดพิงบุคคล

[แฟนบอย] ก็แวงเกอร์เปิดก่อนอ่ะ อ้างแวงเกอร์ พวกเอ็งต้องไปดูประวัติศาสตร์

 


ประเด็นผมตอนแรกก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ได้พูดเรื่องข่าว

ผมเน้นว่าเป็นเรื่องมูกับเวนเกอร์เท่านั้น แล้วที่ผมเอา history มาพูดเพราะ

มีแฟนปลัดคนหนึ่งพูดว่า

อ้างอิงจาก:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  


นี่ไง ประโยคที่ผมติดใจ ถ้าเป็นโค๊ชคนอื่นอาจจะใช่ แต่มูกับเวนเกอร์

มันไม่ใช่ มันเอามาอ้างในเคสนี้ไม่ได้ ผมก็ตอบกลับไปว่า

อ้างอิงจาก:
ก็สวนกันไปมาไง

เผื่อยังไม่รู้ ลองเปิดไปดู History เวงเกอร์เปิดศึกน้ำลายกับ เชลซี &amp;amp; มูก่อนด้วยนะ  


เอาง่ายๆ อย่าเอาเคสของเวนเกอร์มาอ้างดีกว่า มันทุเรศ

ด่ากันไปมา ยังมาอ้างมามูชอบด่าแต่เวนเกอร์

ประสาทและอคติสุดๆ

นี่ถ้าอ้างคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้ จะไม่ว่าสักคำ

นี่เอาเจ้มาอ้าง ตลกสุดๆเลย แฟนปลัดอย่างพวกคุณนี่ เอาไงมาต่อเลยรออ่านอยู่

 


นี่แหละครับ ที่เขาบอกกันว่า หลงประเด็นแล้วยังอคติ แบบที่คุณว่าเลย
เขาพูดชัดนะ คนนั้นเขาพูดว่า
"ไอ้ที่มูกำลังด่าน้าหงิกเนี่ย" มันตลกวะ
"เพราะมูเองก็พูดว่าแวงเกอร์เป็นพวกถ้ำมองและอื่นๆ "
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ "มูกำลังด่าน้าหงิกอยู่ไม่ใช่เหรอ" (วะครับ)

ผมว่า คนทั้งโลก ก็ต้องยกเคส แวงเกอร์มาอ้างนะ "เพราะมันเห็นชัดที่สุดละ"
แฟนทีมอื่นก็ยอมรับได้ง่ายๆ อ่ะครับ ว่ามูมันเป้นแบบนั้นจริงๆ

ไม่เอาครับ วางอคติลง แล้วยอมรับว่ามูมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
และที่เขาอ้างแวงเกอร์ เพราะไอ้ที่มูมันทำแบบนั้น แบบที่กำลังด่าเขาอ่ะ มูมันทำกับแวงเกอร์ เป็นคนหลักๆ เลย




 



มูปากเสียเรื่องนี้ใครก็รู้ ผมก็รู้ คุณก็รู้ แน่นอนคนทั้งโลกก็รู้

แต่มูไมได้เปิดประเด็นน้ำลายก่อน และมูไม่ได้ด่าเวนเกอร์ฝ่ายเดียว

อันนี้เหมือนจะมีแฟนน่อลหลายคนไม่รู้ และก็ยังเถียงข้างๆคูต่อไป


0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 8:12 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
อ้างอิงจาก:

ก็คนละประเด็นอยู่ดี สับสนอะไรหรือเปล่า

อ่านช้าๆนะ คุณมาโคทผมเนี้ย ตั้งแต่ประโยคไหน แล้วผมพูดถึงอะไร ประเด็นคืออะไร

อ้างอิงจาก:
ประเด็นคือ เวงเกอร์เปิดก่อน แล้วมูสวน

จากนั้นกลายเป็น ตำนานคู่กัด

แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า

ความจริงก็สวนกันไปมา แต่ส่วนใหญ่จะเจอมูตอกหน้าหงาย  


นี่ไม่ได้พูดถึงข่าวเลย พูดถึงแฟนน่อลที่ชอบบอกว่ามูชอบหาเรื่องเวงเกอร์ในข่าวนี้

ทั้งที่ความจริงด่ากันไปมา แล้วเวอร์เกอร์เปิดก่อน

เอาแค่นี้ จบที่ประเด็นนี้นะ

ส่วนมูมันจะด่าใครนอกจากเวนเกอร์ นั้นก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้พูดเรื่องนั้น

เข้าใจไหม อ่านช้าๆสัก 10 รอบ แล้วอย่าวนมาเรื่องเดิมนะ อธิบายแบบนี้สามรอบแล้ว

มีปัญหาอะไรในการตีความหรือเปล่า ฮะๆ

มาโควทผมละตีความไม่แตก พิมพ์ยาวมีแต่น้ำ เนื้อหาจริงมีบรรทัดเดียว





 



ฮัลโหลลลลลลลลลลลลล อุส่าพิมพ์ไม่เกิน 7 บรรทัดแล้ว
"แฟนปลัดบางคนก็ไม่ได้ดู History เลย อ้างแต่เหี่ยวโดนมูด่า"
เขาไม่ได้อ้างเหี่ยวโดนมูด่าครับ ฮัลโหลลลลลลลล

เขาพูดถึงมูว่า "มูมันก็เป็นคนที่ชอบพาดพิงไปถึงตัวผู้จัดการ" มากกว่าเรื่องฟุตบอล
แล้วไอ้การกระทำดังกล่าว มันมีตัวอย่างเห็นชัดๆ กับสิ่งที่ทำกับแวงเกอร์
คุณไล่แฟนปลัด ไปดู History ผมก็เลยบอกให้คุณเองอ่ะ หัดไปดู History ด้วย

ว่าไอ้ที่มูมันกำลังด่าชาวบ้านเขาอยู่อ่ะ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
 


นอกจากหลงประเด็นแล้วยังอคติอีกด้วย



ผมจะบอกอะไรให้นะ History ของมูกับเวนเกอร์ มันไม่เรียกว่ามูด่าชาวบ้านนะ มันเรียกว่าการด่ากันไปมา

คุณจะไล่ผมกลับไปดู History อีกกี่รอบ ผมก็มองว่ามันคือการด่ากันไปมา

คุณเข้าใจคำว่าด่ากันไปมาไหม มันมีโต้ตอบกัน มันใช่มูแขวะเวนเกอร์ทีเดียวแต่เมื่อไหร่

เวนเกอร์สวนคืนประจำ แต่มันเบาไง แต่มูสวนทีมันเจ๊บจื๊ด

ให้ผมวิเคราะห์ พวกปลัดอย่างพวกคุณเลย เห็นเหี่ยวโดนตอกเจ็บๆ โมเมเอาไปว่า มูด่าแต่เวนเกอร์

มาตอบอีกนะ ผมว่างทั้งคืน วันนี้




 


ไม่เกี่ยวกับเจ็บไม่เจ็บมั้งนาย...

ทีมเชลซีปั้นนักเตะอังกฤษน้อย - บอลหรือคนครับ ?
ทีมเชลซีเล่นตั้งรับ ไม่ดีกับวงการ - บอลหรือคนครับ ?
แวงเกอร์พวกถ้ำมอง - บอลหรือคนครับ ?

นี่วิเคราะห์แล้ว หรืออ่านแต่ตีความไม่เป็นครับ ?
 


แล้วมันเรื่องอะไรของเจ้ที่ต้องมาสนใจเชลซีขนาดนั้น ขนาดให้สัมภาษณ์เรื่องเชลซีอยู่ตลอด

เหน็บคนอื่นบ่อยๆ แต่เจอเขาสวนแรงครั้งเดียว ดิ้นกันเป็นแถบๆ

ก็สมควรแล้วครับ อย่างอ้างดีกว่าว่าวิจาร์ณเรื่องบอลหรือเรื่องอะไร

เพราะ สุดท้ายมันก็มีผลต่อสโมสรอยู่ดี ต่อโค๊ชอยู่ดี

มีสิทธิ์วิจาร์ณคนอื่นได้ ก็ต้องยอมรับว่าต้องโดนวิจารณ์เหมือนกัน

ส่วนจะแรงไม่แรง ก็ขึ้นอยู่กับมุมมอง ผมว่าไม่แรง ชัดเจนและตรงดี


 


แสดงว่าเข้าใจประเด็นนะครับ ว่ามูกำลังด่า (ประจาน) ตัวเองออกสื่อ


ส่วนเรื่องแวงเกอร์ถ้ำมองไหม ผมไม่เดือดร้อนครับ เจ็บไหม ไม่ได้รู้สึกไรแล้วครับ
แต่ดอกนี้ คนที่มาอ้างแวงเกอร์เนี่ย มันสมควรแก่เหตุครับ

เหนื่อยจัง กว่าจะเข้าใจประเด็น

 


ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 8:18 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 9:12 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 10:26 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 10:57 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

 


ก่อนจะตอบ อยากจะพิมพ์หลายรอบละนะ อิอิ

เลิกใช้คำว่าคนอื่นหลงประเด็นนะครับ มันไม่ได้ทำให้คุณดูฉลาดขึ้นนะจริงๆ

พิมพ์ยาวไม่ได้หมายถึงฉลาดนะ น้ำเยอะซะมากกว่า อ่านละใจความนิดเดียว



ต่อๆ จริงๆไม่มีใครหลงประเด็นหรอก แค่คุณไม่เข้าใจ หรือ บางทีอาจจะเข้าใจแต่ไม่ยอมรับก็ได้มั้ง




ถ้าเป็นอย่างหลัง ที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ยอมรับในข้อมูลของผม ก็จบครับ

อยากที่ผมบอกนั้นละ เคสมูกับหงิกเอาเจ้มาอ้างไม่ได้หรอก

เพราะต้นเหตุมันต่างกัน ถ้าไตร่ตรองดีๆ ใครก็เข้าใจหลักการนี้ได้

วิจาร์ณคนอื่น แต่พอถูกวิจารณ์กลับแรงกว่า ก็อ้างว่านั้นอ้างนี่

เจตนาสิ ชัดเจน จะยังไงมันก็คือการแขวะ แขวะบ่อยๆ

เจอด่าแรงๆ ครั้งเดียว อืม ถือว่าแฟร์ๆ

สรุป ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม เคสเจ้ตกไป สมมุติไม่นับเคสเจ้ เรื่องหงิกกับมู จะไม่มีใครมาดิ้นเลยนะจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า แฟนน่อล ก็จำแต่ภาพมูด่าเวนเกอร์ แต่ไม่ได้ดู History

สรุปอีกรอบ เคสเจ้ มูวิจารณ์เรื่องส่วนตัวจริง แต่ต้นเหตุเกิดจากอะไร ....

ก็วกกลับมาเรื่องเดิม ที่ผมพูดแล้วคุณพยายามไม่เข้าใจ

เอาเป็นว่า ไปหาเคสใหม่มาเหมือนที่ผมบอกนะครับ

ยังไงผมก็พยักหน้าเหมือนเดิม

เจ้สมควรแก่คำพูดที่ว่า เป็นพวกถ้ำมอง และเป็นผู้เชียวชาญด้านการล้มเหลวนะ

สองคำนี้ไงที่แฟนปลัดอย่างพวกคุณหลายคนดิ้นกันเป็นแถบๆ




0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 11:01 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
Spoil
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

 


ก่อนจะตอบ อยากจะพิมพ์หลายรอบละนะ อิอิ

เลิกใช้คำว่าคนอื่นหลงประเด็นนะครับ มันไม่ได้ทำให้คุณดูฉลาดขึ้นนะจริงๆ

พิมพ์ยาวไม่ได้หมายถึงฉลาดนะ น้ำเยอะซะมากกว่า อ่านละใจความนิดเดียว



ต่อๆ จริงๆไม่มีใครหลงประเด็นหรอก แค่คุณไม่เข้าใจ หรือ บางทีอาจจะเข้าใจแต่ไม่ยอมรับก็ได้มั้ง




ถ้าเป็นอย่างหลัง ที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ยอมรับในข้อมูลของผม ก็จบครับ

อยากที่ผมบอกนั้นละ เคสมูกับหงิกเอาเจ้มาอ้างไม่ได้หรอก

เพราะต้นเหตุมันต่างกัน ถ้าไตร่ตรองดีๆ ใครก็เข้าใจหลักการนี้ได้

วิจาร์ณคนอื่น แต่พอถูกวิจารณ์กลับแรงกว่า ก็อ้างว่านั้นอ้างนี่

เจตนาสิ ชัดเจน จะยังไงมันก็คือการแขวะ แขวะบ่อยๆ

เจอด่าแรงๆ ครั้งเดียว อืม ถือว่าแฟร์ๆ

สรุป ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม เคสเจ้ตกไป สมมุติไม่นับเคสเจ้ เรื่องหงิกกับมู จะไม่มีใครมาดิ้นเลยนะจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า แฟนน่อล ก็จำแต่ภาพมูด่าเวนเกอร์ แต่ไม่ได้ดู History

สรุปอีกรอบ เคสเจ้ มูวิจารณ์เรื่องส่วนตัวจริง แต่ต้นเหตุเกิดจากอะไร ....

ก็วกกลับมาเรื่องเดิม ที่ผมพูดแล้วคุณพยายามไม่เข้าใจ

เอาเป็นว่า ไปหาเคสใหม่มาเหมือนที่ผมบอกนะครับ

ยังไงผมก็พยักหน้าเหมือนเดิม

เจ้สมควรแก่คำพูดที่ว่า เป็นพวกถ้ำมอง และเป็นผู้เชียวชาญด้านการล้มเหลวนะ

สองคำนี้ไงที่แฟนปลัดอย่างพวกคุณหลายคนดิ้นกันเป็นแถบๆ




 
 


น้ำเยอะ เพราะแยกประเด็น จะได้จับประเด็นได้
หลังๆ เห็นจับประเด็นไม่ได้ เลยรวบๆ ให้ เอาเฉพาะ เท่าที่คุยกันมา

และใช่ครับ การใช้คำว่า หลงประเด็น ไม่เข้าใจประเด็น
ไม่ได้ทำให้ดู ฉลาด เลยครับ

ว่าแต่ ใครใช้กันบ้างนะ

อ่อ.. แล้วมันก็ไม่ได้ช่วย ให้คนที่หลงประเด็น
พยายามจะเข้าใจประเด็นมากขึ้นด้วย
แล้วก็พยายาม ลากเข้าประเด็น ที่ตัวเองพยายามจะพาออกไปนอกประเด็นเหมือนเดิม
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 11:06 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

 


ก่อนจะตอบ อยากจะพิมพ์หลายรอบละนะ อิอิ

เลิกใช้คำว่าคนอื่นหลงประเด็นนะครับ มันไม่ได้ทำให้คุณดูฉลาดขึ้นนะจริงๆ

พิมพ์ยาวไม่ได้หมายถึงฉลาดนะ น้ำเยอะซะมากกว่า อ่านละใจความนิดเดียว



ต่อๆ จริงๆไม่มีใครหลงประเด็นหรอก แค่คุณไม่เข้าใจ หรือ บางทีอาจจะเข้าใจแต่ไม่ยอมรับก็ได้มั้ง




ถ้าเป็นอย่างหลัง ที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ยอมรับในข้อมูลของผม ก็จบครับ

อยากที่ผมบอกนั้นละ เคสมูกับหงิกเอาเจ้มาอ้างไม่ได้หรอก

เพราะต้นเหตุมันต่างกัน ถ้าไตร่ตรองดีๆ ใครก็เข้าใจหลักการนี้ได้

วิจาร์ณคนอื่น แต่พอถูกวิจารณ์กลับแรงกว่า ก็อ้างว่านั้นอ้างนี่

เจตนาสิ ชัดเจน จะยังไงมันก็คือการแขวะ แขวะบ่อยๆ

เจอด่าแรงๆ ครั้งเดียว อืม ถือว่าแฟร์ๆ

สรุป ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม เคสเจ้ตกไป สมมุติไม่นับเคสเจ้ เรื่องหงิกกับมู จะไม่มีใครมาดิ้นเลยนะจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า แฟนน่อล ก็จำแต่ภาพมูด่าเวนเกอร์ แต่ไม่ได้ดู History

สรุปอีกรอบ เคสเจ้ มูวิจารณ์เรื่องส่วนตัวจริง แต่ต้นเหตุเกิดจากอะไร ....

ก็วกกลับมาเรื่องเดิม ที่ผมพูดแล้วคุณพยายามไม่เข้าใจ

เอาเป็นว่า ไปหาเคสใหม่มาเหมือนที่ผมบอกนะครับ

ยังไงผมก็พยักหน้าเหมือนเดิม

เจ้สมควรแก่คำพูดที่ว่า เป็นพวกถ้ำมอง และเป็นผู้เชียวชาญด้านการล้มเหลวนะ

สองคำนี้ไงที่แฟนปลัดอย่างพวกคุณหลายคนดิ้นกันเป็นแถบๆ




 


น้ำเยอะ เพราะแยกประเด็น จะได้จับประเด็นได้
หลังๆ เห็นจับประเด็นไม่ได้ เลยรวบๆ ให้ เอาเฉพาะ เท่าที่คุยกันมา

และใช่ครับ การใช้คำว่า หลงประเด็น ไม่เข้าใจประเด็น
ไม่ได้ทำให้ดู ฉลาด เลยครับ

ว่าแต่ ใครใช้กันบ้างนะ

 


อ่านนะครับ เคสเจ้ใช้ไม่ได้ หามาใหม่นะ

พวกถ้ำมอง และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการล้มเหลว

ได้มาเพราะปากตัวเอง

จริงๆเยอะแยะเลยนะที่มูด่าพาลคนอื่นไปทั่ว ยกมาได้ผมก็ไม่เถียงคุณแล้ว

แต่ผมเข้าใจว่า แฟนปลัดบางคนมั่นใจกับคำว่า มูชอบด่าเจ้ฝ่ายเดียว

พอโดนแย้งเลยหัวร้อนรับไม่ได้

ส่วนแตกประเด็น ผมมั่นใจว่าผมใช้นะ

ผมก็ไม่ได้ฉลาดหรอก แต่ผมเอาไว้ใช้กับพวกพยายามไม่เข้าใจนะ

ไม่ฉลาดแล้วยังน้ำเยอะ





0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 11:09 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

 


ก่อนจะตอบ อยากจะพิมพ์หลายรอบละนะ อิอิ

เลิกใช้คำว่าคนอื่นหลงประเด็นนะครับ มันไม่ได้ทำให้คุณดูฉลาดขึ้นนะจริงๆ

พิมพ์ยาวไม่ได้หมายถึงฉลาดนะ น้ำเยอะซะมากกว่า อ่านละใจความนิดเดียว



ต่อๆ จริงๆไม่มีใครหลงประเด็นหรอก แค่คุณไม่เข้าใจ หรือ บางทีอาจจะเข้าใจแต่ไม่ยอมรับก็ได้มั้ง




ถ้าเป็นอย่างหลัง ที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ยอมรับในข้อมูลของผม ก็จบครับ

อยากที่ผมบอกนั้นละ เคสมูกับหงิกเอาเจ้มาอ้างไม่ได้หรอก

เพราะต้นเหตุมันต่างกัน ถ้าไตร่ตรองดีๆ ใครก็เข้าใจหลักการนี้ได้

วิจาร์ณคนอื่น แต่พอถูกวิจารณ์กลับแรงกว่า ก็อ้างว่านั้นอ้างนี่

เจตนาสิ ชัดเจน จะยังไงมันก็คือการแขวะ แขวะบ่อยๆ

เจอด่าแรงๆ ครั้งเดียว อืม ถือว่าแฟร์ๆ

สรุป ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม เคสเจ้ตกไป สมมุติไม่นับเคสเจ้ เรื่องหงิกกับมู จะไม่มีใครมาดิ้นเลยนะจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า แฟนน่อล ก็จำแต่ภาพมูด่าเวนเกอร์ แต่ไม่ได้ดู History

สรุปอีกรอบ เคสเจ้ มูวิจารณ์เรื่องส่วนตัวจริง แต่ต้นเหตุเกิดจากอะไร ....

ก็วกกลับมาเรื่องเดิม ที่ผมพูดแล้วคุณพยายามไม่เข้าใจ

เอาเป็นว่า ไปหาเคสใหม่มาเหมือนที่ผมบอกนะครับ

ยังไงผมก็พยักหน้าเหมือนเดิม

เจ้สมควรแก่คำพูดที่ว่า เป็นพวกถ้ำมอง และเป็นผู้เชียวชาญด้านการล้มเหลวนะ

สองคำนี้ไงที่แฟนปลัดอย่างพวกคุณหลายคนดิ้นกันเป็นแถบๆ




 


น้ำเยอะ เพราะแยกประเด็น จะได้จับประเด็นได้
หลังๆ เห็นจับประเด็นไม่ได้ เลยรวบๆ ให้ เอาเฉพาะ เท่าที่คุยกันมา

และใช่ครับ การใช้คำว่า หลงประเด็น ไม่เข้าใจประเด็น
ไม่ได้ทำให้ดู ฉลาด เลยครับ

ว่าแต่ ใครใช้กันบ้างนะ

 


อ่านนะครับ เคสเจ้ใช้ไม่ได้ หามาใหม่นะ

พวกถ้ำมอง และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการล้มเหลว

ได้มาเพราะปากตัวเอง

จริงๆเยอะแยะเลยนะที่มูด่าพาลคนอื่นไปทั่ว ยกมาได้ผมก็ไม่เถียงคุณแล้ว

แต่ผมเข้าใจว่า แฟนปลัดบางคนมั่นใจกับคำว่า มูชอบด่าเจ้ฝ่ายเดียว

พอโดนแย้งเลยหัวร้อนรับไม่ได้

ส่วนแตกประเด็น ผมมั่นใจว่าผมใช้นะ

ผมก็ไม่ได้ฉลาดหรอก แต่ผมเอาไว้ใช้กับพวกพยายามไม่เข้าใจนะ

ไม่ฉลาดแล้วยังน้ำเยอะ





 


อ่านนะครับ "ไม่ได้เกี่ยกวับใช้ได้ไม่ได้"
แต่ก็แค่ "มูมันกำลังทำสิ่งที่มูด่าคนอื่น"
จะด้วยเหตุสมควรไหม แต่
"มูมันกำลังทำสิ่งที่มูด่าคนอื่น"

อันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีนะครับ กับการที่ โต้แย้งกันอยู่ในประเด็นไม่ได้
แล้วพยายามพาดไปที่ตัวบุคคล

ผมยกตัวอย่างได้ไหม หรือเพราะผมโควทคุณก่อน คุณเลยมีสิทธิทำได้
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 11:18 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
Spoil
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

 


ก่อนจะตอบ อยากจะพิมพ์หลายรอบละนะ อิอิ

เลิกใช้คำว่าคนอื่นหลงประเด็นนะครับ มันไม่ได้ทำให้คุณดูฉลาดขึ้นนะจริงๆ

พิมพ์ยาวไม่ได้หมายถึงฉลาดนะ น้ำเยอะซะมากกว่า อ่านละใจความนิดเดียว



ต่อๆ จริงๆไม่มีใครหลงประเด็นหรอก แค่คุณไม่เข้าใจ หรือ บางทีอาจจะเข้าใจแต่ไม่ยอมรับก็ได้มั้ง




ถ้าเป็นอย่างหลัง ที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ยอมรับในข้อมูลของผม ก็จบครับ

อยากที่ผมบอกนั้นละ เคสมูกับหงิกเอาเจ้มาอ้างไม่ได้หรอก

เพราะต้นเหตุมันต่างกัน ถ้าไตร่ตรองดีๆ ใครก็เข้าใจหลักการนี้ได้

วิจาร์ณคนอื่น แต่พอถูกวิจารณ์กลับแรงกว่า ก็อ้างว่านั้นอ้างนี่

เจตนาสิ ชัดเจน จะยังไงมันก็คือการแขวะ แขวะบ่อยๆ

เจอด่าแรงๆ ครั้งเดียว อืม ถือว่าแฟร์ๆ

สรุป ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม เคสเจ้ตกไป สมมุติไม่นับเคสเจ้ เรื่องหงิกกับมู จะไม่มีใครมาดิ้นเลยนะจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า แฟนน่อล ก็จำแต่ภาพมูด่าเวนเกอร์ แต่ไม่ได้ดู History

สรุปอีกรอบ เคสเจ้ มูวิจารณ์เรื่องส่วนตัวจริง แต่ต้นเหตุเกิดจากอะไร ....

ก็วกกลับมาเรื่องเดิม ที่ผมพูดแล้วคุณพยายามไม่เข้าใจ

เอาเป็นว่า ไปหาเคสใหม่มาเหมือนที่ผมบอกนะครับ

ยังไงผมก็พยักหน้าเหมือนเดิม

เจ้สมควรแก่คำพูดที่ว่า เป็นพวกถ้ำมอง และเป็นผู้เชียวชาญด้านการล้มเหลวนะ

สองคำนี้ไงที่แฟนปลัดอย่างพวกคุณหลายคนดิ้นกันเป็นแถบๆ




 
 


น้ำเยอะ เพราะแยกประเด็น จะได้จับประเด็นได้
หลังๆ เห็นจับประเด็นไม่ได้ เลยรวบๆ ให้ เอาเฉพาะ เท่าที่คุยกันมา

และใช่ครับ การใช้คำว่า หลงประเด็น ไม่เข้าใจประเด็น
ไม่ได้ทำให้ดู ฉลาด เลยครับ

ว่าแต่ ใครใช้กันบ้างนะ

อ่อ.. แล้วมันก็ไม่ได้ช่วย ให้คนที่หลงประเด็น
พยายามจะเข้าใจประเด็นมากขึ้นด้วย
แล้วก็พยายาม ลากเข้าประเด็น ที่ตัวเองพยายามจะพาออกไปนอกประเด็นเหมือนเดิม
 
 


ผมสรุปสั้นๆอีกทีนะครับ ถ้าจะยาวก็คงเป็นเพราะผมอาจจะไม่เก่งเรื่องทำให้คนลดความอคติลงได้

สรุป

มูกับเจ้ ถึงจะมูจะตอบโต้เจ้ด้วยเรื่องส่วนตัวแต่ต้นหตุคือเจ้ อย่าไปอ้างแขวะเบาแต่บ่อย เจตนายังไงก็คือแขวะ
สรุป เจ้ล้ำเส้นก่อน >> โดนสวนเรื่องส่วนตัว >> แฟนบอลงอแง

มูกับหงิก เคสนี้มูไม่ได้หน้าหงายหรอก เพราะมันไม่เหมือนกัน เคสนี้ผมมองลึกไปอีก หงิกผิดนะ มูไม่ได้ไปแขวะหงิกบ่อยๆเหมือนที่เจ้ทำ แต่เปิดชุดแรกหงิกใส่เรื่องส่วนตัวเลย มันใช่ไหมเอ่ย
สรุป หงิกวิจาร์ณเรื่องส่วนตัวมู(อยู่ดีๆไปว่าเขาทำไม)>>โดนเตือนว่าทำไม่ถูก


เป็นอะไรที่เข้าใจง่ายที่สุดในโลกแล้ว ลองมองหลายๆมุม

จริงๆประเด็นนี้ผมไม่ต้องธิบายก็ได้ เพราะมันไม่ใช่ประเด็นแรกที่ผมจะพุดถึง

แต่เห็นคุณโยงมั่วไปหมด ผมเอาให้หน่อย จะได้เลิกอ้างหลงประเด็น เลิกงอแง

ประเด็นหลักๆในข่าวนี้ของผมคือ มูกับเจ้

มูไม่ได้ด่าแต่เจ้ แต่มันเป็นการสวนกันไปมา History บอกทุกอย่าง

แต่ที่มันยากเพราะ อคติมันหนา บางทีลด อคติ ปุป มันก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ง่ายสุดแล้ว



0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 11:29 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
Spoil
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

 


ก่อนจะตอบ อยากจะพิมพ์หลายรอบละนะ อิอิ

เลิกใช้คำว่าคนอื่นหลงประเด็นนะครับ มันไม่ได้ทำให้คุณดูฉลาดขึ้นนะจริงๆ

พิมพ์ยาวไม่ได้หมายถึงฉลาดนะ น้ำเยอะซะมากกว่า อ่านละใจความนิดเดียว



ต่อๆ จริงๆไม่มีใครหลงประเด็นหรอก แค่คุณไม่เข้าใจ หรือ บางทีอาจจะเข้าใจแต่ไม่ยอมรับก็ได้มั้ง




ถ้าเป็นอย่างหลัง ที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ยอมรับในข้อมูลของผม ก็จบครับ

อยากที่ผมบอกนั้นละ เคสมูกับหงิกเอาเจ้มาอ้างไม่ได้หรอก

เพราะต้นเหตุมันต่างกัน ถ้าไตร่ตรองดีๆ ใครก็เข้าใจหลักการนี้ได้

วิจาร์ณคนอื่น แต่พอถูกวิจารณ์กลับแรงกว่า ก็อ้างว่านั้นอ้างนี่

เจตนาสิ ชัดเจน จะยังไงมันก็คือการแขวะ แขวะบ่อยๆ

เจอด่าแรงๆ ครั้งเดียว อืม ถือว่าแฟร์ๆ

สรุป ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม เคสเจ้ตกไป สมมุติไม่นับเคสเจ้ เรื่องหงิกกับมู จะไม่มีใครมาดิ้นเลยนะจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า แฟนน่อล ก็จำแต่ภาพมูด่าเวนเกอร์ แต่ไม่ได้ดู History

สรุปอีกรอบ เคสเจ้ มูวิจารณ์เรื่องส่วนตัวจริง แต่ต้นเหตุเกิดจากอะไร ....

ก็วกกลับมาเรื่องเดิม ที่ผมพูดแล้วคุณพยายามไม่เข้าใจ

เอาเป็นว่า ไปหาเคสใหม่มาเหมือนที่ผมบอกนะครับ

ยังไงผมก็พยักหน้าเหมือนเดิม

เจ้สมควรแก่คำพูดที่ว่า เป็นพวกถ้ำมอง และเป็นผู้เชียวชาญด้านการล้มเหลวนะ

สองคำนี้ไงที่แฟนปลัดอย่างพวกคุณหลายคนดิ้นกันเป็นแถบๆ




 
 


น้ำเยอะ เพราะแยกประเด็น จะได้จับประเด็นได้
หลังๆ เห็นจับประเด็นไม่ได้ เลยรวบๆ ให้ เอาเฉพาะ เท่าที่คุยกันมา

และใช่ครับ การใช้คำว่า หลงประเด็น ไม่เข้าใจประเด็น
ไม่ได้ทำให้ดู ฉลาด เลยครับ

ว่าแต่ ใครใช้กันบ้างนะ

อ่อ.. แล้วมันก็ไม่ได้ช่วย ให้คนที่หลงประเด็น
พยายามจะเข้าใจประเด็นมากขึ้นด้วย
แล้วก็พยายาม ลากเข้าประเด็น ที่ตัวเองพยายามจะพาออกไปนอกประเด็นเหมือนเดิม
 
 


ผมสรุปสั้นๆอีกทีนะครับ ถ้าจะยาวก็คงเป็นเพราะผมอาจจะไม่เก่งเรื่องทำให้คนลดความอคติลงได้

สรุป

มูกับเจ้ ถึงจะมูจะตอบโต้เจ้ด้วยเรื่องส่วนตัวแต่ต้นหตุคือเจ้ อย่าไปอ้างแขวะเบาแต่บ่อย เจตนายังไงก็คือแขวะ
สรุป เจ้ล้ำเส้นก่อน >> โดนสวนเรื่องส่วนตัว >> แฟนบอลงอแง

มูกับหงิก เคสนี้มูไม่ได้หน้าหงายหรอก เพราะมันไม่เหมือนกัน เคสนี้ผมมองลึกไปอีก หงิกผิดนะ มูไม่ได้ไปแขวะหงิกบ่อยๆเหมือนที่เจ้ทำ แต่เปิดชุดแรกหงิกใส่เรื่องส่วนตัวเลย มันใช่ไหมเอ่ย
สรุป หงิกวิจาร์ณเรื่องส่วนตัวมู(อยู่ดีๆไปว่าเขาทำไม)>>โดนเตือนว่าทำไม่ถูก


เป็นอะไรที่เข้าใจง่ายที่สุดในโลกแล้ว ลองมองหลายๆมุม

จริงๆประเด็นนี้ผมไม่ต้องธิบายก็ได้ เพราะมันไม่ใช่ประเด็นแรกที่ผมจะพุดถึง

แต่เห็นคุณโยงมั่วไปหมด ผมเอาให้หน่อย จะได้เลิกอ้างหลงประเด็น เลิกงอแง

ประเด็นหลักๆในข่าวนี้ของผมคือ มูกับเจ้

มูไม่ได้ด่าแต่เจ้ แต่มันเป็นการสวนกันไปมา History บอกทุกอย่าง

แต่ที่มันยากเพราะ อคติมันหนา บางทีลด อคติ ปุป มันก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ง่ายสุดแล้ว



 


อคติ มันคือการคิดว่า "มูด่าคนคนอื่นได้ และมูก็ทำสิ่งที่มุด่าคนอื่นได้"
แค่เพราะมูโดนคนอื่นทำ ในสิ่งที่ทำกันทั่วไป ในโลกฟุตบอลนี่แหละครับ

ถ้าคุยกันด้วยประเด็นนี้ ผมว่าผมไม่อคตินะ ผมย้ำชัดตั้งแต่แรกด้วยซ้ำว่า
เห้ย มันไม่ใช่นะ คนอื่นเขาคุยกันเรื่องบอลกันหมด ไม่ค่อยเห็นมีใครลามปามใคร

แล้วผมไม่ได้งอแงนะ อิอิ
แต่คุณนะหลงประเด็นตั้งแต่เปิดให้ดู History แล้ว
เขาพูดเพราะว่า "มูมันทำสิ่งที่ด่าคนอื่นเขา"
ส่วนคุณก็มาโชว์ เหมือนจะเท่ว่า "มูมันทำได้วะ แวงเกอร์เปิดก่อน"
ผมแค่ให้คุณบอกมาว่า "มูมันทำสิ่งที่ด่าคนอื่นเขาไหม "

ตอบผมมาชัดๆ 1 ประโยคครับ (ผมรู้แล้วนะ ว่าคุณคิดว่า มูทำได้ มูควรทำ)
ถามซ้ำอีกครั้ง "มูมันทำสิ่งที่ด่าคนอื่นเขาไหม "

ปล แถมให้
Spoil
http://www.goal.com/th/news/4282/%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B/2014/09/11/5096971/%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99-%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%8A%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87  
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 11:29 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

 


ก่อนจะตอบ อยากจะพิมพ์หลายรอบละนะ อิอิ

เลิกใช้คำว่าคนอื่นหลงประเด็นนะครับ มันไม่ได้ทำให้คุณดูฉลาดขึ้นนะจริงๆ

พิมพ์ยาวไม่ได้หมายถึงฉลาดนะ น้ำเยอะซะมากกว่า อ่านละใจความนิดเดียว



ต่อๆ จริงๆไม่มีใครหลงประเด็นหรอก แค่คุณไม่เข้าใจ หรือ บางทีอาจจะเข้าใจแต่ไม่ยอมรับก็ได้มั้ง




ถ้าเป็นอย่างหลัง ที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ยอมรับในข้อมูลของผม ก็จบครับ

อยากที่ผมบอกนั้นละ เคสมูกับหงิกเอาเจ้มาอ้างไม่ได้หรอก

เพราะต้นเหตุมันต่างกัน ถ้าไตร่ตรองดีๆ ใครก็เข้าใจหลักการนี้ได้

วิจาร์ณคนอื่น แต่พอถูกวิจารณ์กลับแรงกว่า ก็อ้างว่านั้นอ้างนี่

เจตนาสิ ชัดเจน จะยังไงมันก็คือการแขวะ แขวะบ่อยๆ

เจอด่าแรงๆ ครั้งเดียว อืม ถือว่าแฟร์ๆ

สรุป ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม เคสเจ้ตกไป สมมุติไม่นับเคสเจ้ เรื่องหงิกกับมู จะไม่มีใครมาดิ้นเลยนะจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า แฟนน่อล ก็จำแต่ภาพมูด่าเวนเกอร์ แต่ไม่ได้ดู History

สรุปอีกรอบ เคสเจ้ มูวิจารณ์เรื่องส่วนตัวจริง แต่ต้นเหตุเกิดจากอะไร ....

ก็วกกลับมาเรื่องเดิม ที่ผมพูดแล้วคุณพยายามไม่เข้าใจ

เอาเป็นว่า ไปหาเคสใหม่มาเหมือนที่ผมบอกนะครับ

ยังไงผมก็พยักหน้าเหมือนเดิม

เจ้สมควรแก่คำพูดที่ว่า เป็นพวกถ้ำมอง และเป็นผู้เชียวชาญด้านการล้มเหลวนะ

สองคำนี้ไงที่แฟนปลัดอย่างพวกคุณหลายคนดิ้นกันเป็นแถบๆ




 


น้ำเยอะ เพราะแยกประเด็น จะได้จับประเด็นได้
หลังๆ เห็นจับประเด็นไม่ได้ เลยรวบๆ ให้ เอาเฉพาะ เท่าที่คุยกันมา

และใช่ครับ การใช้คำว่า หลงประเด็น ไม่เข้าใจประเด็น
ไม่ได้ทำให้ดู ฉลาด เลยครับ

ว่าแต่ ใครใช้กันบ้างนะ

 


อ่านนะครับ เคสเจ้ใช้ไม่ได้ หามาใหม่นะ

พวกถ้ำมอง และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการล้มเหลว

ได้มาเพราะปากตัวเอง

จริงๆเยอะแยะเลยนะที่มูด่าพาลคนอื่นไปทั่ว ยกมาได้ผมก็ไม่เถียงคุณแล้ว

แต่ผมเข้าใจว่า แฟนปลัดบางคนมั่นใจกับคำว่า มูชอบด่าเจ้ฝ่ายเดียว

พอโดนแย้งเลยหัวร้อนรับไม่ได้

ส่วนแตกประเด็น ผมมั่นใจว่าผมใช้นะ

ผมก็ไม่ได้ฉลาดหรอก แต่ผมเอาไว้ใช้กับพวกพยายามไม่เข้าใจนะ

ไม่ฉลาดแล้วยังน้ำเยอะ





 


อ่านนะครับ "ไม่ได้เกี่ยกวับใช้ได้ไม่ได้"
แต่ก็แค่ "มูมันกำลังทำสิ่งที่มูด่าคนอื่น"
จะด้วยเหตุสมควรไหม แต่
"มูมันกำลังทำสิ่งที่มูด่าคนอื่น"

อันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีนะครับ กับการที่ โต้แย้งกันอยู่ในประเด็นไม่ได้
แล้วพยายามพาดไปที่ตัวบุคคล

ผมยกตัวอย่างได้ไหม หรือเพราะผมโควทคุณก่อน คุณเลยมีสิทธิทำได้  


นี่ถ้าจะพูดถึงเริ่มต้นที่คุณมาโคทผมนะ ประเด็นของแรกของผมนี่ง่ายมาก

กลับไปที่ประเด็นแรกที่ผมจะสื่อนะครับ ผมอธิบายเองนะเพราะคุณตีความและแตกประเด็นไปเองได้มั่วมาก

ผมไม่ได้พูดหงิกนะครับ แต่คุณแตกประเด็นไปเอง ไอ้เรื่องใครหน้าหงาย ผมไม่ได้สนใจเลยจริงๆนะ

ผมสนใจแค่ คำพูดของแฟนปลัดบางคนชอบคิดว่ามูไปด่าเจ้อยู่ฝ่ายเดียว

สมมุติว่าตัดเรื่องหงิกออกไปก่อนนะ ไอ้คำพูดแบบนี้ มันไม่ถูกต้อง

อีกรอบนะ ชัดๆเลยประเด็นคือ แฟนปลัดบางคนชอบคิดว่ามูไปด่าเจ้อยู่ฝ่ายเดียว

ฮะๆ ผมก็บอกให้ไปดู History ซึ่งผมไม่ได้สนใจหรอกนะข่าวนี้ใครจะหน้าหงายหรือะไร

แต่คุณมาโคทผมและพาออกประเด็น ผมใจดีอธิบายนอกประเด็นให้ฟัง ก็ยังไม่เข้าใจอีก

ก็สุดแล้วแต่จริงๆนะครับ


0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 11:36 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
Spoil
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

 


ก่อนจะตอบ อยากจะพิมพ์หลายรอบละนะ อิอิ

เลิกใช้คำว่าคนอื่นหลงประเด็นนะครับ มันไม่ได้ทำให้คุณดูฉลาดขึ้นนะจริงๆ

พิมพ์ยาวไม่ได้หมายถึงฉลาดนะ น้ำเยอะซะมากกว่า อ่านละใจความนิดเดียว



ต่อๆ จริงๆไม่มีใครหลงประเด็นหรอก แค่คุณไม่เข้าใจ หรือ บางทีอาจจะเข้าใจแต่ไม่ยอมรับก็ได้มั้ง




ถ้าเป็นอย่างหลัง ที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ยอมรับในข้อมูลของผม ก็จบครับ

อยากที่ผมบอกนั้นละ เคสมูกับหงิกเอาเจ้มาอ้างไม่ได้หรอก

เพราะต้นเหตุมันต่างกัน ถ้าไตร่ตรองดีๆ ใครก็เข้าใจหลักการนี้ได้

วิจาร์ณคนอื่น แต่พอถูกวิจารณ์กลับแรงกว่า ก็อ้างว่านั้นอ้างนี่

เจตนาสิ ชัดเจน จะยังไงมันก็คือการแขวะ แขวะบ่อยๆ

เจอด่าแรงๆ ครั้งเดียว อืม ถือว่าแฟร์ๆ

สรุป ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม เคสเจ้ตกไป สมมุติไม่นับเคสเจ้ เรื่องหงิกกับมู จะไม่มีใครมาดิ้นเลยนะจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า แฟนน่อล ก็จำแต่ภาพมูด่าเวนเกอร์ แต่ไม่ได้ดู History

สรุปอีกรอบ เคสเจ้ มูวิจารณ์เรื่องส่วนตัวจริง แต่ต้นเหตุเกิดจากอะไร ....

ก็วกกลับมาเรื่องเดิม ที่ผมพูดแล้วคุณพยายามไม่เข้าใจ

เอาเป็นว่า ไปหาเคสใหม่มาเหมือนที่ผมบอกนะครับ

ยังไงผมก็พยักหน้าเหมือนเดิม

เจ้สมควรแก่คำพูดที่ว่า เป็นพวกถ้ำมอง และเป็นผู้เชียวชาญด้านการล้มเหลวนะ

สองคำนี้ไงที่แฟนปลัดอย่างพวกคุณหลายคนดิ้นกันเป็นแถบๆ




 
 


น้ำเยอะ เพราะแยกประเด็น จะได้จับประเด็นได้
หลังๆ เห็นจับประเด็นไม่ได้ เลยรวบๆ ให้ เอาเฉพาะ เท่าที่คุยกันมา

และใช่ครับ การใช้คำว่า หลงประเด็น ไม่เข้าใจประเด็น
ไม่ได้ทำให้ดู ฉลาด เลยครับ

ว่าแต่ ใครใช้กันบ้างนะ

อ่อ.. แล้วมันก็ไม่ได้ช่วย ให้คนที่หลงประเด็น
พยายามจะเข้าใจประเด็นมากขึ้นด้วย
แล้วก็พยายาม ลากเข้าประเด็น ที่ตัวเองพยายามจะพาออกไปนอกประเด็นเหมือนเดิม
 
 


ผมสรุปสั้นๆอีกทีนะครับ ถ้าจะยาวก็คงเป็นเพราะผมอาจจะไม่เก่งเรื่องทำให้คนลดความอคติลงได้

สรุป

มูกับเจ้ ถึงจะมูจะตอบโต้เจ้ด้วยเรื่องส่วนตัวแต่ต้นหตุคือเจ้ อย่าไปอ้างแขวะเบาแต่บ่อย เจตนายังไงก็คือแขวะ
สรุป เจ้ล้ำเส้นก่อน >> โดนสวนเรื่องส่วนตัว >> แฟนบอลงอแง

มูกับหงิก เคสนี้มูไม่ได้หน้าหงายหรอก เพราะมันไม่เหมือนกัน เคสนี้ผมมองลึกไปอีก หงิกผิดนะ มูไม่ได้ไปแขวะหงิกบ่อยๆเหมือนที่เจ้ทำ แต่เปิดชุดแรกหงิกใส่เรื่องส่วนตัวเลย มันใช่ไหมเอ่ย
สรุป หงิกวิจาร์ณเรื่องส่วนตัวมู(อยู่ดีๆไปว่าเขาทำไม)>>โดนเตือนว่าทำไม่ถูก


เป็นอะไรที่เข้าใจง่ายที่สุดในโลกแล้ว ลองมองหลายๆมุม

จริงๆประเด็นนี้ผมไม่ต้องธิบายก็ได้ เพราะมันไม่ใช่ประเด็นแรกที่ผมจะพุดถึง

แต่เห็นคุณโยงมั่วไปหมด ผมเอาให้หน่อย จะได้เลิกอ้างหลงประเด็น เลิกงอแง

ประเด็นหลักๆในข่าวนี้ของผมคือ มูกับเจ้

มูไม่ได้ด่าแต่เจ้ แต่มันเป็นการสวนกันไปมา History บอกทุกอย่าง

แต่ที่มันยากเพราะ อคติมันหนา บางทีลด อคติ ปุป มันก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ง่ายสุดแล้ว



 


อคติ มันคือการคิดว่า "มูด่าคนคนอื่นได้ และมูก็ทำสิ่งที่มุด่าคนอื่นได้"
แค่เพราะมันคนอื่นทำสิ่งที่ทำกันทั่วไป ในโลกฟุตบอลนี่แหละครับ

ถ้าคุยกันด้วยประเด็นนี้ ผมว่าผมไม่อคตินะ ผมย้ำชัดตั้งแต่แรกด้วยซ้ำว่า
เห้ย มันไม่ใช่นะ คนอื่นเขาคุยกันเรื่องบอลกันหมด ไม่ค่อยเห็นมีใครลามปามใคร

แล้วผมไม่ได้งอแงนะ อิอิ
แต่คุณนะหลงประเด็นตั้งแต่เปิดให้ดู History แล้ว
เขาพูดเพราะว่า "มูมันทำสิ่งที่ด่าคนอื่นเขา"
ส่วนคุณก็มาโชว์ เหมือนจะเท่ว่า "มูมันทำได้วะ แวงเกอร์เปิดก่อน"
ผมแค่ให้คุณบอกมาว่า "มูมันทำสิ่งที่ด่าคนอื่นเขาไหม "

ตอบผมมาชัดๆ 1 ประโยคครับ (ผมรู้แล้วนะ ว่าคุณคิดว่า มูทำได้ มูควรทำ)
ถามซ้ำอีกครั้ง "มูมันทำสิ่งที่ด่าคนอื่นเขาไหม "

ปล แถมให้
Spoil
http://www.goal.com/th/news/4282/%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B/2014/09/11/5096971/%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99-%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%8A%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87  
 


ก็ตามนั้นครับ เคสเป๊ปใช้ได้ครับ จริงๆมีอีกเยอะอย่างที่ผมบอก

มูขึ้นชื่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว แค่ผมจะดูว่าคุณจะยกเคสอื่นมาหรือเปล่า

สำหรับผมแค่คุณยกเคสอื่นมาที่ไม่ใช้เจ้

ผมรู้สึกว่าคุณยอมรับอะไรบางอย่างได้แล้วนะ จริงๆนะ



0
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 11:41 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
Spoil
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

 


ก่อนจะตอบ อยากจะพิมพ์หลายรอบละนะ อิอิ

เลิกใช้คำว่าคนอื่นหลงประเด็นนะครับ มันไม่ได้ทำให้คุณดูฉลาดขึ้นนะจริงๆ

พิมพ์ยาวไม่ได้หมายถึงฉลาดนะ น้ำเยอะซะมากกว่า อ่านละใจความนิดเดียว



ต่อๆ จริงๆไม่มีใครหลงประเด็นหรอก แค่คุณไม่เข้าใจ หรือ บางทีอาจจะเข้าใจแต่ไม่ยอมรับก็ได้มั้ง




ถ้าเป็นอย่างหลัง ที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ยอมรับในข้อมูลของผม ก็จบครับ

อยากที่ผมบอกนั้นละ เคสมูกับหงิกเอาเจ้มาอ้างไม่ได้หรอก

เพราะต้นเหตุมันต่างกัน ถ้าไตร่ตรองดีๆ ใครก็เข้าใจหลักการนี้ได้

วิจาร์ณคนอื่น แต่พอถูกวิจารณ์กลับแรงกว่า ก็อ้างว่านั้นอ้างนี่

เจตนาสิ ชัดเจน จะยังไงมันก็คือการแขวะ แขวะบ่อยๆ

เจอด่าแรงๆ ครั้งเดียว อืม ถือว่าแฟร์ๆ

สรุป ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม เคสเจ้ตกไป สมมุติไม่นับเคสเจ้ เรื่องหงิกกับมู จะไม่มีใครมาดิ้นเลยนะจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า แฟนน่อล ก็จำแต่ภาพมูด่าเวนเกอร์ แต่ไม่ได้ดู History

สรุปอีกรอบ เคสเจ้ มูวิจารณ์เรื่องส่วนตัวจริง แต่ต้นเหตุเกิดจากอะไร ....

ก็วกกลับมาเรื่องเดิม ที่ผมพูดแล้วคุณพยายามไม่เข้าใจ

เอาเป็นว่า ไปหาเคสใหม่มาเหมือนที่ผมบอกนะครับ

ยังไงผมก็พยักหน้าเหมือนเดิม

เจ้สมควรแก่คำพูดที่ว่า เป็นพวกถ้ำมอง และเป็นผู้เชียวชาญด้านการล้มเหลวนะ

สองคำนี้ไงที่แฟนปลัดอย่างพวกคุณหลายคนดิ้นกันเป็นแถบๆ




 


น้ำเยอะ เพราะแยกประเด็น จะได้จับประเด็นได้
หลังๆ เห็นจับประเด็นไม่ได้ เลยรวบๆ ให้ เอาเฉพาะ เท่าที่คุยกันมา

และใช่ครับ การใช้คำว่า หลงประเด็น ไม่เข้าใจประเด็น
ไม่ได้ทำให้ดู ฉลาด เลยครับ

ว่าแต่ ใครใช้กันบ้างนะ

 


อ่านนะครับ เคสเจ้ใช้ไม่ได้ หามาใหม่นะ

พวกถ้ำมอง และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการล้มเหลว

ได้มาเพราะปากตัวเอง

จริงๆเยอะแยะเลยนะที่มูด่าพาลคนอื่นไปทั่ว ยกมาได้ผมก็ไม่เถียงคุณแล้ว

แต่ผมเข้าใจว่า แฟนปลัดบางคนมั่นใจกับคำว่า มูชอบด่าเจ้ฝ่ายเดียว

พอโดนแย้งเลยหัวร้อนรับไม่ได้

ส่วนแตกประเด็น ผมมั่นใจว่าผมใช้นะ

ผมก็ไม่ได้ฉลาดหรอก แต่ผมเอาไว้ใช้กับพวกพยายามไม่เข้าใจนะ

ไม่ฉลาดแล้วยังน้ำเยอะ





 


อ่านนะครับ "ไม่ได้เกี่ยกวับใช้ได้ไม่ได้"
แต่ก็แค่ "มูมันกำลังทำสิ่งที่มูด่าคนอื่น"
จะด้วยเหตุสมควรไหม แต่
"มูมันกำลังทำสิ่งที่มูด่าคนอื่น"

อันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีนะครับ กับการที่ โต้แย้งกันอยู่ในประเด็นไม่ได้
แล้วพยายามพาดไปที่ตัวบุคคล

ผมยกตัวอย่างได้ไหม หรือเพราะผมโควทคุณก่อน คุณเลยมีสิทธิทำได้  


นี่ถ้าจะพูดถึงเริ่มต้นที่คุณมาโคทผมนะ ประเด็นของแรกของผมนี่ง่ายมาก

กลับไปที่ประเด็นแรกที่ผมจะสื่อนะครับ ผมอธิบายเองนะเพราะคุณตีความและแตกประเด็นไปเองได้มั่วมาก

ผมไม่ได้พูดหงิกนะครับ แต่คุณแตกประเด็นไปเอง ไอ้เรื่องใครหน้าหงาย ผมไม่ได้สนใจเลยจริงๆนะ

ผมสนใจแค่ คำพูดของแฟนปลัดบางคนชอบคิดว่ามูไปด่าเจ้อยู่ฝ่ายเดียว

สมมุติว่าตัดเรื่องหงิกออกไปก่อนนะ ไอ้คำพูดแบบนี้ มันไม่ถูกต้อง

อีกรอบนะ ชัดๆเลยประเด็นคือ แฟนปลัดบางคนชอบคิดว่ามูไปด่าเจ้อยู่ฝ่ายเดียว

ฮะๆ ผมก็บอกให้ไปดู History ซึ่งผมไม่ได้สนใจหรอกนะข่าวนี้ใครจะหน้าหงายหรือะไร

แต่คุณมาโคทผมและพาออกประเด็น ผมใจดีอธิบายนอกประเด็นให้ฟัง ก็ยังไม่เข้าใจอีก

ก็สุดแล้วแต่จริงๆนะครับ


 
 


กลับมาประเด้นนี้อีก..
คนในกระทู้นี้ เค้ายกเรื่องแวงเกอร์มา
เพราะตัวอย่างมันเห็นชัด ไม่ต้องยกลิงค์มาทั้งดุ้นไงครับ
ทุกคนรู้ว่ามูเคยพูดอะไรกับเจ๊

เขาพูดว่า "แล้วที่มูพูดกับเจ๊ นี่คืออะไร"

มันเป็นการบอกว่า มูด่าไม่ได้ดูตัวเองเล๊ยยยยยยยย

และมันไม่ได้เกี่ยวกับการที่ "แฟนบางคนชอบคิดว่า มูไปด่าเจ๊ อยู่ฝ่ายเดียว" ด้วย

มีคนเป็นแบบนั้นจริงครับ พวกที่ยังคิดว่ามูใส่เจ๊ ฝ่ายเดียวอยู่
แต่การที่คุณมาทำเป็นโชว์เท่ บอกว่า ให้กลับไปดู History เพราะประโยคนี้เนี่ย
มันผิดวาระไปหน่อยนะ


มันมีครับ.. แฟนบอลที่คิดว่า "มูเปิดก่อน" โอเคครับ
ไอ้พวกนี้เนี่ย นิสัยไม่ดีเลย แย่จริงๆ

แต่ย้ำนะครับ ไอ้ที่เขาบอกว่า

ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  


คุณไม่จำเป็นต้องมาโชว์เท่ เพื่อบอกว่า มูกับเจ๊อ่ะ "เจ๊เปิดก่อน" และ "มันเป็นเรื่องปกติ"
เพราะมันไม่เกี่ยวกันเลยครับ เขาแค่จะมาบอกว่า มูกำลังด่าตัวเองอยู่

ผมยอมรับแต่แรกนะ ตั้งแต่โควทแรกเลยว่า
เจ๊เปิดก่อน เจ๊เปิดก่อน เจ๊เปิดก่อน (ได้อ่านป่ะอ่ะ )


0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 10, 2015 11:58 pm
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

 


ก่อนจะตอบ อยากจะพิมพ์หลายรอบละนะ อิอิ

เลิกใช้คำว่าคนอื่นหลงประเด็นนะครับ มันไม่ได้ทำให้คุณดูฉลาดขึ้นนะจริงๆ

พิมพ์ยาวไม่ได้หมายถึงฉลาดนะ น้ำเยอะซะมากกว่า อ่านละใจความนิดเดียว



ต่อๆ จริงๆไม่มีใครหลงประเด็นหรอก แค่คุณไม่เข้าใจ หรือ บางทีอาจจะเข้าใจแต่ไม่ยอมรับก็ได้มั้ง




ถ้าเป็นอย่างหลัง ที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ยอมรับในข้อมูลของผม ก็จบครับ

อยากที่ผมบอกนั้นละ เคสมูกับหงิกเอาเจ้มาอ้างไม่ได้หรอก

เพราะต้นเหตุมันต่างกัน ถ้าไตร่ตรองดีๆ ใครก็เข้าใจหลักการนี้ได้

วิจาร์ณคนอื่น แต่พอถูกวิจารณ์กลับแรงกว่า ก็อ้างว่านั้นอ้างนี่

เจตนาสิ ชัดเจน จะยังไงมันก็คือการแขวะ แขวะบ่อยๆ

เจอด่าแรงๆ ครั้งเดียว อืม ถือว่าแฟร์ๆ

สรุป ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม เคสเจ้ตกไป สมมุติไม่นับเคสเจ้ เรื่องหงิกกับมู จะไม่มีใครมาดิ้นเลยนะจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า แฟนน่อล ก็จำแต่ภาพมูด่าเวนเกอร์ แต่ไม่ได้ดู History

สรุปอีกรอบ เคสเจ้ มูวิจารณ์เรื่องส่วนตัวจริง แต่ต้นเหตุเกิดจากอะไร ....

ก็วกกลับมาเรื่องเดิม ที่ผมพูดแล้วคุณพยายามไม่เข้าใจ

เอาเป็นว่า ไปหาเคสใหม่มาเหมือนที่ผมบอกนะครับ

ยังไงผมก็พยักหน้าเหมือนเดิม

เจ้สมควรแก่คำพูดที่ว่า เป็นพวกถ้ำมอง และเป็นผู้เชียวชาญด้านการล้มเหลวนะ

สองคำนี้ไงที่แฟนปลัดอย่างพวกคุณหลายคนดิ้นกันเป็นแถบๆ




 


น้ำเยอะ เพราะแยกประเด็น จะได้จับประเด็นได้
หลังๆ เห็นจับประเด็นไม่ได้ เลยรวบๆ ให้ เอาเฉพาะ เท่าที่คุยกันมา

และใช่ครับ การใช้คำว่า หลงประเด็น ไม่เข้าใจประเด็น
ไม่ได้ทำให้ดู ฉลาด เลยครับ

ว่าแต่ ใครใช้กันบ้างนะ

 


อ่านนะครับ เคสเจ้ใช้ไม่ได้ หามาใหม่นะ

พวกถ้ำมอง และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการล้มเหลว

ได้มาเพราะปากตัวเอง

จริงๆเยอะแยะเลยนะที่มูด่าพาลคนอื่นไปทั่ว ยกมาได้ผมก็ไม่เถียงคุณแล้ว

แต่ผมเข้าใจว่า แฟนปลัดบางคนมั่นใจกับคำว่า มูชอบด่าเจ้ฝ่ายเดียว

พอโดนแย้งเลยหัวร้อนรับไม่ได้

ส่วนแตกประเด็น ผมมั่นใจว่าผมใช้นะ

ผมก็ไม่ได้ฉลาดหรอก แต่ผมเอาไว้ใช้กับพวกพยายามไม่เข้าใจนะ

ไม่ฉลาดแล้วยังน้ำเยอะ





 


อ่านนะครับ "ไม่ได้เกี่ยกวับใช้ได้ไม่ได้"
แต่ก็แค่ "มูมันกำลังทำสิ่งที่มูด่าคนอื่น"
จะด้วยเหตุสมควรไหม แต่
"มูมันกำลังทำสิ่งที่มูด่าคนอื่น"

อันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีนะครับ กับการที่ โต้แย้งกันอยู่ในประเด็นไม่ได้
แล้วพยายามพาดไปที่ตัวบุคคล

ผมยกตัวอย่างได้ไหม หรือเพราะผมโควทคุณก่อน คุณเลยมีสิทธิทำได้  


นี่ถ้าจะพูดถึงเริ่มต้นที่คุณมาโคทผมนะ ประเด็นของแรกของผมนี่ง่ายมาก

กลับไปที่ประเด็นแรกที่ผมจะสื่อนะครับ ผมอธิบายเองนะเพราะคุณตีความและแตกประเด็นไปเองได้มั่วมาก

ผมไม่ได้พูดหงิกนะครับ แต่คุณแตกประเด็นไปเอง ไอ้เรื่องใครหน้าหงาย ผมไม่ได้สนใจเลยจริงๆนะ

ผมสนใจแค่ คำพูดของแฟนปลัดบางคนชอบคิดว่ามูไปด่าเจ้อยู่ฝ่ายเดียว

สมมุติว่าตัดเรื่องหงิกออกไปก่อนนะ ไอ้คำพูดแบบนี้ มันไม่ถูกต้อง

อีกรอบนะ ชัดๆเลยประเด็นคือ แฟนปลัดบางคนชอบคิดว่ามูไปด่าเจ้อยู่ฝ่ายเดียว

ฮะๆ ผมก็บอกให้ไปดู History ซึ่งผมไม่ได้สนใจหรอกนะข่าวนี้ใครจะหน้าหงายหรือะไร

แต่คุณมาโคทผมและพาออกประเด็น ผมใจดีอธิบายนอกประเด็นให้ฟัง ก็ยังไม่เข้าใจอีก

ก็สุดแล้วแต่จริงๆนะครับ


 


กลับมาประเด้นนี้อีก คนในกระทู้นี้ เค้ายกเรื่องแวงเกอร์มา
เพราะตัวอย่างมันเห็นชัด ไม่ต้องยกลิงค์มาทั้งดุ้นไงครับ
ทุกคนรู้ว่ามูเคยพูดอะไรกับเจ๊

"เขาพูดว่า แล้วที่มูพูดกับเจ๊ นี่คืออะไร"

มันเป็นการบอกว่า มูด่าไม่ได้ดูตัวเอง

และมันไม่ได้เกี่ยวกับการที่ "แฟนบางคนชอบคิดว่า มูไปด่าเจ๊ อยู่ฝ่ายเดียว"

มีคนเป็นแบบนั้นจริงครับ พวกที่ยังคิดว่ามูใส่เจ๊ ฝ่ายเดียวอยู่
แต่การที่คุณมาทำเป็นโชว์เท่ บอกว่า ให้กลับไปดู History เพราะประโยคนี้เนี่ย
มันผิดวาระไปหน่อยนะ


มันมันแฟนบอลที่คิดว่า มูเปิดก่อนครับ โอเค
ไอ้พวกนี้ เนี่ย นิสัยไม่ดีเลย แย่จริงๆ

แต่ย้ำนะครับ ไอ้ที่เขาบอกว่า

ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  


คุณไม่จำเป็นต้องมาโชว์เท่ เพื่อบอกว่า มูกับเจ๊อ่ะ เจ๊ เปิดก่อน และมันเป็นเรื่องปกติ
เพราะมันไม่เกี่ยวกันเลยครับ เขาแค่จะมาบอกว่า มูกำลังด่าตัวเองอยู่

ผมยอมรับแต่แรกนะ ตั้งแต่โควทแรกเลย ว่าเจ๊เปิดก่อน (ได้อ่านป่ะอ่ะ )


 


ไอ้คำว่า เจ้เปิดก่อน ผมไม่รู้มีแฟนน่อลสักกี่คนนะที่เข้าใจเรื่องนี้ แต่เห็นข่าวมูที่ไหน

ผมต้องเห็นแฟนน่อลบางคนยกเรื่องนี้มาอ้างประจำ เอาเป็นว่าผมอาจจะพลาดในข่าวนี้นะ

ที่เนื้อข่าวดันไม่ใช่เรื่องมูกับเจโดยตรง แต่ก็มีคนโยงเจ้เข้ากับมูจนได้

แต่นั้นเฉพาะที่โคทตอบ ACM1899 เท่านั้นละครับ ที่อาจจะยกมาผิดเวลา

แต่ไอ้ที่คุณมาโคทผมเนี้ย มันไม่ใช่นะ ผมจะสื่อถึง History จริงๆ และมันไม่ได้เกี่ยวกับข่าวเลย

และข้อความนั้น ผมก็ไม่ได้อ้างอิงถึงใครนะ พูดขึ้นมาลอยๆ แต่มันอาจจะสะกิดต่อมความรู้สึกของคุณ ก็ตามนั้นละ

แล้วก็ขอให้เข้าใจว่าข้อความที่คุณโคทผมไม่ได้พูดถึงข่าว แต่พูดถึงแฟนน่อลบางคนเท่านั้นละ

ตามนั้น








1
0
เข้าร่วม: 20 Nov 2014
ตอบ: 44
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 11, 2015 12:09 am
[RE: น้ามูสวน'หงิก'ควรพูดเรื่องฟุตบอลมากกว่าจุ้นเพื่อนร่วมอาชีพ]
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:
Spoil
rezett พิมพ์ว่า:
ผู้เฒ่าเต่า พิมพ์ว่า:

ผมก็บอกอยู่ว่า เคสเจ้มันใช่ไม่ได้ ก็อ้างอยู่นั้นละ บอกฟังไม่ขึ้นยังจะอ้างอยู่นั้นละ



เอางี้นะไปหาเคสอื่นที่ฟังขึ้นมากว่านี้เถอะ ผมจะไม่เถียงสักคำเลย

เคสอื่นที่มูไปด่าโค๊ชทีมอื่นที่ไม่ใช่เจ้น นั้นนะ ผมจะไม่เถียงคุณสักคำ

ว่ามูหน้าหงาย

แต่ถ้ายังจะบอกว่า ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง เพราะเคสเจ้ไง

ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม มันไม่ใด้ ใช้ไม่ได้นะครับ ไปหาเคสอื่นมาเถอะ

มันตลก

 


น้าหงิกที่ "พูดเรื่องบุคคล" ใส่มูเนี่ย ผิดเต็มๆ
แต่มูไม่ใช่พวกที่ชอบ "พาดพิงบุคคล" เพราะเป็นการสวนแวงเกอร์ที่ "พูดเรื่องฟุตบอล"

ดังนั้นดอกนี้มูไม่ผิด คนที่อ้างเจ๊เนี่ย ไม่ดู History เลย
(มูไม่ใช่คนที่ชอบพาดพิงบุคคลสักหน่อย โอ้โห )

ผมต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้าง....
ผมพูดได้แค่ว่า "I rest my case" ครับ
ปล. รู้สึกว่า คนที่เม้นเรื่องแวงเกอร์ เขาไม่ได้สนนะ ว่าใครเปิดก่อน เขาสนแค่ว่า มูมันพาดพิงบุคคลนะแหละแค่นั้น  
 


คุณเข้าบอร์ดบ่อยไหมครับ คุณรู้ไหมว่า ข้อความของยูสคนที่ผมเอาข้อความมาอ้างทีแรก

ตามแขวะเชลซีและมูเกือบทุกมู้ ข่าวไหนมีเชลซีและมู ต้องมียูสนั้น

นั้นละผมเรียกว่าอคติ

ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราจะวิจารณ์ใคร คุณก็ต้องยอมรับคำวิจาร์ณที่ย้อนกลับ

อย่าไปคาดหวังว่า ฉันด่าแกไปเท่านั้น แกต้องด่าฉันกลับแค่นี้

ไม่มีหรอกครับ โลกนี้ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เคสมูกับเวนเกอร์ก็เหมือนกัน แต่มันต่างจากเคสมูกับหงิกยังไง อ่าน

ผมสรุปง่ายๆนะ

เคสแรก

1 เวนเกอร์แขวะมูก่อนหลายครั้ง

2 มูส่วนคืนพวกถ้ำมอง

3 หลังจากนั้นแขวะกันไปมาจนได้ฉายาคู่กัด ฟังชัดๆนะ คู่กัด เวนเกอร์ไม่ได้ถุกกะทำฝ่ายเดียว

สรุปเคสนี้ ด่ากันไปมา และมันเป็นผลพวงมาจากการแขวะของเวนเกอร์ก่อนทั้งนั้น ถ้าผมเป็นมูผมก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมชอบแขวะเชลซีจัง แต่มูริญโญ่ปากแกใช้คำว่าที่เจ็บกว่านั้นคือ ถ้ำมอง ผมว่าสมควรทุกประการ

มาต่อเคสหงิก

1 หงิกวิจาร์ณการทำงานของมูบอกว่า นิสัยของมูทำลายนักเตะ

2 มูบอกว่าหงิกควรวิจาร์ณการทำทีมมากกว่าวิจาร์ณเรื่องส่วนตัว

สรุป คุณต้องแยกให้ออกว่า ต้นเหตุมันมาจากไหนอะไร ผมถึงบอกว่าอย่าเอาเคสเจ้มาอ้าง

เคสมูกับหงิกเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จู่ๆหงิกมาวิจาร์ณมูในเรื่องส่วนตัว

ทั้งๆ มูไม่เคยไปแขวะหงิกออกสื่อบ่อยๆแบบเจ้

มูก็เลยบอกว่าถ้าเป็นตัวเขาจะไม่วิจาร์ณเพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัว

แต่ .............

มูไม่ได้บอกนิว่า ว่าจะไม่วิจารณ์เพื่อนร่วมอาชีพในเรื่องส่วนตัวถ้าไม่มีใครมาแขวะการทำงานของเขาก่อน

ฟังประโยคนี้แล้วตีความนะครับ จะได้เข้าใจว่ามันไม่เหมือนกัน

ผมถึงบอกว่าเคสเจ้มันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุผลที่มีการล้ำเส้นเกิดขึ้นก่อน

ถ้าเจ้ไม่ปากมากไปวิจารณ์ทีมเชลซีบ่อยๆ ไอ้คำว่า ถ้ำมอง ก็จะไม่ออกจากปากมู

เพราะฉะนั้น เคสเจ้ ตัดทิ้งไปเลย มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างนะ สมมุติถ้ามูไปวิจารณ์หงิกบ่อยๆ

แล้วหงิกสวนด่าเรื่องส่วนตัวมู

ผมก็มองว่า ก็เหตุสมผลดี ต้องดูที่ต้นเหตุ ดูที่ใครเป็นคนเปิดหัว

นั้นเป็นเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่ไล่ให้ไปดู History

ผมว่าหลายคนใน SS ตีความผิดกันหมด โดยเฉพาะแฟนปลัด

ที่ไม่ได้รู้เรื่อง History มันสำคัญตรงนี้

แถม ปล. ผมก็รู้สึกว่าคนที่เม้นเรื่องเวงเกอร์ ไม่สนนะว่าโค๊ชทีมตัวเองทำอะไรมาถึงโดนมูตามด่าจนทุกวันนี้ แค่ถ้าเป็นเรื่องมูเวนเกอร์ ใครผิดถูกไม่รู้ ขอด่ามูไว้ก่อน จบ




 


ยาวมาเหมือนกันนะครับเนี่ย

สรุปนะครับ คุณหมั่นไส้ตัวบุคคล เม้นก่อน เม้นโน้น เม้นนี้ ก็เลยเอาประเด็นมาเหมา
โอเคผมเข้าใจคุณนะ ว่าทำไมคุณ "หลงประเด็น"
ผมไม่ยุ่งเรื่องของคุณกับแฟนปลัดนะ
แต่ที่ผมโควตมาโคตรยาวเนี่ย ผมจะบอกคุณว่า

"ดอกนี้ มูมันประจาณตัวเอง จริงๆ" อย่าไปอ้างโน่นอ้างนี่เลย

ส่วนเรื่อง สมเหตุสมผลให้ "วิจารณ์ตัวบุคคลไหม"
ที่คุณบอกว่า แวงเกอร์วิจารณ์มูบ่อย แกควรจะใส่กลับไปที่ตัวบุคคลได้

ผมว่าคุณกับผมเห็นต่างกันนะ เพราะ.. อ่านข่าวนะครับ
มูมันบอกหงิกว่า "โค้ชอย่างคุณควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"

ผม เห็นด้วยกับมู เห็นด้วยแบบเต็มตัวเลยนะ

ว่าถ้าคนอื่นเขาพาดพิงคุณด้วยเรื่องของบอล
คุณก็ควรจะว่ากันด้วยเรื่องของบอลกลับ

ไม่ใช่ คนเขาคุยเรื่องบอล วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับในสนามใส่คุณ
(จะบ่อยแค่ไหนก็ตามเถอะ)
มันไม่ใช่โอกาส ที่จะทำให้คุณเล่นหัว ลามปาม ไปวิจารณ์บุคคลได้

"โค้ชระดับมูก็ควรจะมาคุยกันเรื่องบอล" ครับ
แล้วก็ควรจะ เอาคำพูดยัดเข้าหน้าตัวเองด้วย ว่า
"เลิกลามไปที่บุคคล แล้วดูเรื่องในสนามดีกว่า"

ผมเห็นด้วยกับการที่มูวิจารณื ว่าแวงเกอร์ใช้เงินเยอะ
ผมเห็นด้วย เรื่องที่มูวิจารย์ ว่าแวงเกอร์มีสิทธิพิเศษ
สิ่งที่แวงเกอร์ ตอบนักข่าวหลังจากนั้น คือโฟกัสที่ประเด็น
จ่ายเงินจริงไหม มีสิทธิพิเศษจริงไหม จะตอกกลับ ก็ตอกไปที่ในสนาม ในประเด็น
ถ้าโดนพาดพิงที่บุคคลมากๆ ก็บอกว่า "คนเราควรจะมีความเคารพกันบ้าง"

ผมคิดว่า ถ้ามูจะด่าหงิกว่า "โค้ชระดับหงิกควรจะมาคุยกันเรื่องบอล"
ผมว่าตลกอ่ะครับ

ถ้าคุณคิดว่า สมควรแล้ว
"เรื่องของคุณเลยครับ แฟนบอย"

 


ก่อนจะตอบ อยากจะพิมพ์หลายรอบละนะ อิอิ

เลิกใช้คำว่าคนอื่นหลงประเด็นนะครับ มันไม่ได้ทำให้คุณดูฉลาดขึ้นนะจริงๆ

พิมพ์ยาวไม่ได้หมายถึงฉลาดนะ น้ำเยอะซะมากกว่า อ่านละใจความนิดเดียว



ต่อๆ จริงๆไม่มีใครหลงประเด็นหรอก แค่คุณไม่เข้าใจ หรือ บางทีอาจจะเข้าใจแต่ไม่ยอมรับก็ได้มั้ง




ถ้าเป็นอย่างหลัง ที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ยอมรับในข้อมูลของผม ก็จบครับ

อยากที่ผมบอกนั้นละ เคสมูกับหงิกเอาเจ้มาอ้างไม่ได้หรอก

เพราะต้นเหตุมันต่างกัน ถ้าไตร่ตรองดีๆ ใครก็เข้าใจหลักการนี้ได้

วิจาร์ณคนอื่น แต่พอถูกวิจารณ์กลับแรงกว่า ก็อ้างว่านั้นอ้างนี่

เจตนาสิ ชัดเจน จะยังไงมันก็คือการแขวะ แขวะบ่อยๆ

เจอด่าแรงๆ ครั้งเดียว อืม ถือว่าแฟร์ๆ

สรุป ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม เคสเจ้ตกไป สมมุติไม่นับเคสเจ้ เรื่องหงิกกับมู จะไม่มีใครมาดิ้นเลยนะจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า แฟนน่อล ก็จำแต่ภาพมูด่าเวนเกอร์ แต่ไม่ได้ดู History

สรุปอีกรอบ เคสเจ้ มูวิจารณ์เรื่องส่วนตัวจริง แต่ต้นเหตุเกิดจากอะไร ....

ก็วกกลับมาเรื่องเดิม ที่ผมพูดแล้วคุณพยายามไม่เข้าใจ

เอาเป็นว่า ไปหาเคสใหม่มาเหมือนที่ผมบอกนะครับ

ยังไงผมก็พยักหน้าเหมือนเดิม

เจ้สมควรแก่คำพูดที่ว่า เป็นพวกถ้ำมอง และเป็นผู้เชียวชาญด้านการล้มเหลวนะ

สองคำนี้ไงที่แฟนปลัดอย่างพวกคุณหลายคนดิ้นกันเป็นแถบๆ




 


น้ำเยอะ เพราะแยกประเด็น จะได้จับประเด็นได้
หลังๆ เห็นจับประเด็นไม่ได้ เลยรวบๆ ให้ เอาเฉพาะ เท่าที่คุยกันมา

และใช่ครับ การใช้คำว่า หลงประเด็น ไม่เข้าใจประเด็น
ไม่ได้ทำให้ดู ฉลาด เลยครับ

ว่าแต่ ใครใช้กันบ้างนะ

 


อ่านนะครับ เคสเจ้ใช้ไม่ได้ หามาใหม่นะ

พวกถ้ำมอง และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการล้มเหลว

ได้มาเพราะปากตัวเอง

จริงๆเยอะแยะเลยนะที่มูด่าพาลคนอื่นไปทั่ว ยกมาได้ผมก็ไม่เถียงคุณแล้ว

แต่ผมเข้าใจว่า แฟนปลัดบางคนมั่นใจกับคำว่า มูชอบด่าเจ้ฝ่ายเดียว

พอโดนแย้งเลยหัวร้อนรับไม่ได้

ส่วนแตกประเด็น ผมมั่นใจว่าผมใช้นะ

ผมก็ไม่ได้ฉลาดหรอก แต่ผมเอาไว้ใช้กับพวกพยายามไม่เข้าใจนะ

ไม่ฉลาดแล้วยังน้ำเยอะ





 


อ่านนะครับ "ไม่ได้เกี่ยกวับใช้ได้ไม่ได้"
แต่ก็แค่ "มูมันกำลังทำสิ่งที่มูด่าคนอื่น"
จะด้วยเหตุสมควรไหม แต่
"มูมันกำลังทำสิ่งที่มูด่าคนอื่น"

อันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีนะครับ กับการที่ โต้แย้งกันอยู่ในประเด็นไม่ได้
แล้วพยายามพาดไปที่ตัวบุคคล

ผมยกตัวอย่างได้ไหม หรือเพราะผมโควทคุณก่อน คุณเลยมีสิทธิทำได้  


นี่ถ้าจะพูดถึงเริ่มต้นที่คุณมาโคทผมนะ ประเด็นของแรกของผมนี่ง่ายมาก

กลับไปที่ประเด็นแรกที่ผมจะสื่อนะครับ ผมอธิบายเองนะเพราะคุณตีความและแตกประเด็นไปเองได้มั่วมาก

ผมไม่ได้พูดหงิกนะครับ แต่คุณแตกประเด็นไปเอง ไอ้เรื่องใครหน้าหงาย ผมไม่ได้สนใจเลยจริงๆนะ

ผมสนใจแค่ คำพูดของแฟนปลัดบางคนชอบคิดว่ามูไปด่าเจ้อยู่ฝ่ายเดียว

สมมุติว่าตัดเรื่องหงิกออกไปก่อนนะ ไอ้คำพูดแบบนี้ มันไม่ถูกต้อง

อีกรอบนะ ชัดๆเลยประเด็นคือ แฟนปลัดบางคนชอบคิดว่ามูไปด่าเจ้อยู่ฝ่ายเดียว

ฮะๆ ผมก็บอกให้ไปดู History ซึ่งผมไม่ได้สนใจหรอกนะข่าวนี้ใครจะหน้าหงายหรือะไร

แต่คุณมาโคทผมและพาออกประเด็น ผมใจดีอธิบายนอกประเด็นให้ฟัง ก็ยังไม่เข้าใจอีก

ก็สุดแล้วแต่จริงๆนะครับ


 


กลับมาประเด้นนี้อีก คนในกระทู้นี้ เค้ายกเรื่องแวงเกอร์มา
เพราะตัวอย่างมันเห็นชัด ไม่ต้องยกลิงค์มาทั้งดุ้นไงครับ
ทุกคนรู้ว่ามูเคยพูดอะไรกับเจ๊

"เขาพูดว่า แล้วที่มูพูดกับเจ๊ นี่คืออะไร"

มันเป็นการบอกว่า มูด่าไม่ได้ดูตัวเอง

และมันไม่ได้เกี่ยวกับการที่ "แฟนบางคนชอบคิดว่า มูไปด่าเจ๊ อยู่ฝ่ายเดียว"

มีคนเป็นแบบนั้นจริงครับ พวกที่ยังคิดว่ามูใส่เจ๊ ฝ่ายเดียวอยู่
แต่การที่คุณมาทำเป็นโชว์เท่ บอกว่า ให้กลับไปดู History เพราะประโยคนี้เนี่ย
มันผิดวาระไปหน่อยนะ


มันมันแฟนบอลที่คิดว่า มูเปิดก่อนครับ โอเค
ไอ้พวกนี้ เนี่ย นิสัยไม่ดีเลย แย่จริงๆ

แต่ย้ำนะครับ ไอ้ที่เขาบอกว่า

ACM1899 พิมพ์ว่า:
ที่ตัวเองพูดถึงเวงเกอร์บ่อยๆ นั่นเค้าเรียกอะไรวะ  


คุณไม่จำเป็นต้องมาโชว์เท่ เพื่อบอกว่า มูกับเจ๊อ่ะ เจ๊ เปิดก่อน และมันเป็นเรื่องปกติ
เพราะมันไม่เกี่ยวกันเลยครับ เขาแค่จะมาบอกว่า มูกำลังด่าตัวเองอยู่

ผมยอมรับแต่แรกนะ ตั้งแต่โควทแรกเลย ว่าเจ๊เปิดก่อน (ได้อ่านป่ะอ่ะ )


 

 

ไอ้คำว่า เจ้เปิดก่อน ผมไม่รู้มีแฟนน่อลสักกี่คนนะที่เข้าใจเรื่องนี้ แต่เห็นข่าวมูที่ไหน

ผมต้องเห็นแฟนน่อลบางคนยกเรื่องนี้มาอ้างประจำ

อ้างอิงจาก:

เอาเป็นว่าผมอาจจะพลาดในข่าวนี้นะ
 


ที่เนื้อข่าวดันไม่ใช่เรื่องมูกับเจโดยตรง แต่ก็มีคนโยงเจ้เข้ากับมูจนได้

แต่นั้นเฉพาะที่โคทตอบ ACM1899 เท่านั้นละครับ ที่อาจจะยกมาผิดเวลา

แต่ไอ้ที่คุณมาโคทผมเนี้ย มันไม่ใช่นะ ผมจะสื่อถึง History จริงๆ และมันไม่ได้เกี่ยวกับข่าวเลย

และข้อความนั้น ผมก็ไม่ได้อ้างอิงถึงใครนะ พูดขึ้นมาลอยๆ แต่มันอาจจะสะกิดต่อมความรู้สึกของคุณ ก็ตามนั้นละ

แล้วก็ขอให้เข้าใจว่าข้อความที่คุณโคทผมไม่ได้พูดถึงข่าว แต่พูดถึงแฟนน่อลบางคนเท่านั้นละ

ตามนั้น






 


แค่คุณกลับเข้าประเด็น
และเข้าใจประเด็น ที่ผมโควตและพยายามอธิบายกับคุณ ก็พอแล้วครับ

ถ้าคุณบอกว่า History ที่ว่า ไม่ได้ออกมาเพื่อโต้แย้ง
เรื่องที่คนเขากำลังฮา กับการที่มูออกมาด่าประจาณตัวเอง
แต่หมายถึงแฟนบอลที่ยังคิดว่ามูเปิดศึกกับแวงเกอร์ก่อน

ผมก็โอเคครับ แค่คุณเข้าใจประเด็นผมก็โอเคแล้ว