Transfer comitte หรือ TC เป็นคณะกรรมการซื้อขายที่ต่างมีหน้าที่เพื่อช่วยเหลือผู้จัดการทีมในการเฟ้นหาและเจรจานักเตะใหม่มาเสริมทีมหรือพูดตรงๆก็คืออำนาจการซื้อขายไม่ได้อยู่ที่คนคุมทีมและจนบัดนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าตกลงมันดีหรือไม่ดีเพียงแต่เจอร์เก้น คล็อปป์ที่เป็นข่าวจะเข้ารับตำแหน่งกุนซือใหม่อาจต้องรับมือ

TC ถูกฟอร์มขึ้นมาตั้งแต่สมัยที่เบรนแดน ร็อดเจอร์สได้รับการแต่งตั้งเมื่อซัมเมอร์ 2012 ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาก็มีการแทรกแซงหรือเสนอนักเตะที่เจ้าตัวไม่อยากได้แต่รวมๆแล้วค่าตัวที่ใช้ไปราว 291 ล้านปอนด์

การซื้อขายแต่ละครั้งของ"หงส์แดง"มีผู้เกี่ยวข้องมากมายถึง 5 คน ที่แน่ๆคือตัวบีร็อด,เอียร์ อาย์รประธานบริหาร,เดฟ ฟอลโลว์สหัวหน้าสรรหานักเตะใหม่,แบร์รี่ ฮันเตอร์หัวหน้าแมวมองและไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดสผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค

แม้คล็อปป์จะเคยออกตัวว่าอยากได้อำนาจตัดสินใจคนเดียวหากก้าวเข้ามารับเผือกร้อนนี้แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากเขาต้องการคุมทีมลิเวอร์พูลจริงๆก็คงต้องรับกับระบบที่ถูกตั้งขึ้นมาโดยสโมสรให้ได้

แต่เหมือนผลเสียจะหนักไม่ใช่น้อยเพราะร็อดเจอร์สเองเจอกับการล้วงลูกจนทำทีมไม่ได้ดั่งใจเพราะเคยไม่ลงรอยกับ TC จากดีลคลินต์ เดมซีย์ที่ตาหวานต้องการเป็นแข้งใหม่รายแรกของเขาแถมเคยเกือบชิ่งหนีสโมสรเมื่อการซื้อหาครั้งนี้ถูกล้มโต๊ะ ร้อนถึงจอห์น เฮนรี่เจ้าของสโมสรต้องเขียนจดหมายเปิดผนึกต่อแฟนบอลอธิบายการเจรจาซื้อขายหนนี้กันเลยทีเดียว

ร้อดเจอร์สยังอยากได้แอชลีย์ วิลเลี่ยมส์ศิษย์เก่าจากสวอนซีด้วยเช่นกันรวมถึงไรอัน เบอร์ทรานด์จากเชลซีแต่เอียน อาย์รไปคว้ามามาดู ซาโก้มาจากปารีส แซง แชร์กแมงในราคา 18 ล้านปอนด์ซึ่งทันทีที่มีการเปิดตัวก็มีเพียงแต่บทสัมภาษณ์ของซีอีโอไม่มีคำใดๆหลุดจากปากของบีร็อดเลย

ในรายของวิลเลี่ยมส์นั้น TC ให้เหตุผลว่าอายุมากเกินไปและแพงเกินไปซึ่งซาโก้เป็นที่ชื่นชอบของคณะกรรมการซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมแข้งน้ำหอมถึงอยู่ดีๆได้สัญญาใหม่ 5 ปีทั้งๆที่ร็อดเจอร์สตอนนั้นเลือกใช้งานเดยัน ลอฟเรนเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอจนกระทั่งได้รับบาดเจ็บ

ลอฟเรนเป็นเป้าหมายที่ตาหวานจิ้มเลือกมากับมือเช่นเดียวกับอดัม ลัลลาน่าและแม้เขาอาจไม่ได้มีส่วนกับการอยากได้ลาซาร์ มาร์โควิชที่มีค่าตัว 20 ล้านปอนด์แต่สองแข้งจากเซาแธมป์ตันก็แพงใช่เล่น

คล้ายคลึงกันกับในรายของมาริโอ บาโลเตลลี่ที่เสียงในบอร์ดแตกออกเป็นสองฝั่งแต่ร็อดเจอร์สตัดสินใจขอยอมเสี่ยงเพราะเชื่อมั่นว่าเขาสามารถปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของเกรียนโอ้ได้จนต้องทำการโหวตหยั่งเสียงและฮันเตอร์เป็นฝ่ายหนุนหลังบีร็อด

สำหรับคริสเตียน เบนเทเก้นั้นคนละเรื่องเมื่อร็อดเจอร์สเสนอชื่อไปก็ได้รับไฟเขียวแม้ต้องควักหนักถึง 32.5 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตามตลอด 3 ปีที่ผ่านมามีแต่คำถามว่า"ตกลงคนนี้ใครซื้อกันแน่?"ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไร FSG ก็ยังเชื่อมั่นในตัวอาย์ร,ฮันเตอร์ฟอลโลว์สและเอ็ดเวิร์ดที่เก้าอี้มั่นคงปลอดภัยไม่ว่านักเตะที่ย้ายเข้ามาจะทำผลงานดีหรือแย่แค่ไหน

ตรงกันข้ามกับร็อดเจอร์สที่เบื่อกับการทำงานระบบแบบนี้สุดๆและการมีความเห็นไม่ลงรอยเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยดังนั้นจึงน่าสนใจว่าเจอร์เก้น คล็อปป์จะรับมือกับ TC อย่างไรหรือจะมีเงื่อนไขต่อรองให้ยืดหยุ่นลงกว่าเดิมแค่ไหนคงต้องรอติดตามชม

ตอนนี้ขอให้เซ็นสัญญามาคุมลิเวอร์พูลก่อนเรื่องอื่นว่าทีหลัง...


ประวัติ 4 Transfer comitte

เอียน อายร์
ตำแหน่ง : ประธานบริหาร - มีหน้าที่เจรจาและปิดดีลค่าตัวระหว่างสโมสรคู่ค้ารวมถึงดูแลรายละเอียดสัญญาของนักเตะ

เดฟ ฟอลโลว์ส
ตำแหน่ง : หัวหน้าสรรหานักเตะใหม่ - FSG ดึงมาร่วมงานในปี 2012 หลังเคยทำกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้และโบลตันโดยมีหน้าที่ประสานงานกับเครือข่ายแมวมองที่จะรายงานกลับมาหาเขาโดยตรง ฟอลโลวส์มีส่วนอย่างยิ่งกับการลิสรายชื่อนักเตะที่จะย้ายเข้า

แบร์รี่ ฮันเตอร์
ตำแหน่ง : หัวหน้าแมวมอง - เคยเฟ้นหานักเตะอิตาลีให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้และมีเส้นสายที่นั่นพอสมควร เขาจะไปตามเช็กฟอร์มนักเตะตามคำแนะนำของเหล่าแมวมองท้องถิ่น ทั้งเขาและฟอลโลวส์มีส่วนสำคัญยิ่งในการเช็กบิลโรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่มาจากฮอฟเฟ่มไฮม์

ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์
ตำแหน่ง : ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค - เขาเป็นคนประเมินข้อมูลของนักเตะจากหลายๆลีกจากทั่วโลกและตัดสินใจว่านักเตะคนไหนเหมาะกับลิเวอร์พูลในแง่ของสไตล์การเล่นและในเรื่องค่าตัว เคยทำงานที่ปอร์ทสมัธระหว่างปี 2003-2009 ก่อนย้ายไปสเปอร์ส


ตอนซาโก้ย้ายมาไม่มีคำให้สัมภาษณ์ใดๆมาจากปากร็อดเจอร์สเพราะไม่ได้เป็นคนอยากได้แต่อายร์เลิฟเลย



อดัม ลัลลาน่าและเดยัน ลอฟเรนอันนี้บีร็อดวอนท์เอง



เสียงแตกสำหรับดีลเกรียนโอ้แต่บีร็อดขอรับความเสี่ยงเพราะเชื่อว่าเอาอยู่

เกรียนโอ้นี่มันซื้อมาได้ไงวะ แพงด้วย ปลดไปก็ดีนะบางที

ถ้าไม่ล้มตามคำขอ ก็อยู่ยากไม่น้อยแน่ๆ

ไอคนสุดท้ายนี่โปรไฟล์ไม่ได้ดีเลยเอามาได้ไง

ทำปอดชะมัดทีมแตกก็ไอนี่อะดิ

ประเมินราคาหรอ

ถ้าใช้ระบบแบบนี้คนเก่งๆๆไม่อยากจะมาหรอก ต่อให้อันเช่ก็อันเช่เถอะ กฏแบบ

รัดกลุ่มเกินไป คนที่ทนได้คงต้องโค้ชฝีมือกลางๆๆอะที่พอจะรับได้

ชื่อมันสมกับเป็นแมวมองจริงๆ Hunter & Follows

อืม ไอ่ระบบนี้เนี่ยผมว่าตัวที่ได้มามันไม่แย่หรือล้มเหลวซะทีเดยีวนะ อย่างซาโก้กับลอฟเลนอ่ะ ให้แฟนเลือกเลยอยากเห็นใครในสนามมากกว่ากัน

รึอย่างหริด คูตี้ เฟอร์มิโน่ TC ก็เอามาก็นับเป้นตัวที่ดีนะผมว่า แต่ของบีร๊อดนี่ เข้าตาเพียงแค่ลัลลาน่าเองมั๊ง เบนเทเก้ยังต้องรอพิสูจน์ล่ะนะ

ผมว่าน่าจะทำงานได้ เพียงแต่ TC อาจจะต้องยอมทำงานร่วมกันมากกว่านี้มากขึ้นและให้น้ำหนักกับผจก. ในการกำหนดสเปคนักเตะ

โละทิ้งเหอะ

หรือไม่ก็เปลี่ยนเป็น DOF แทน ยังดีกว่า

แต่ตัวที่ ร๊อดเจอร์ ซื้อเอง ก็ไม่ได้ดีกว่า ตัวที่TCซื้อให้เลยนะ

ไม่อยากจะนึกเลย ถ้าBRมีอำนาจการซื้อขายคนเดียว

คุณภาพไม่สมกับราคาที่จ่ายไปเลยแต่ละตัว ลัลลาน่า ลอฟเรน เบนเทเก้(รอพิสูจน์)


ยิ่งเคสของซาโก้กับลอฟเรน นี่เห็นได้ชัดเลยว่าBRนี่ทำตัวเองแท้ๆ

ผมว่าDOF ก็ดีนะครับ แต่คนใช้ต้องไม่ใช่รอดเจอร์ส

ใช่ครับ เพราะที่เยอรมันก็ใช้ระบบนี้ Klopp น่าจะรับได้

อันนี้แหล่ะที่น่ากล้ว ศึกนอกว่าหนักแล้วนะ ศึกในนี่ยิ่งกว่าอีก

นี่ถ้าอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ ผจก. ลิเวอร์พูลไม่ฉิบหายเลยหรือ

พึ่งเข้าใจระบบนี้ละ อ่านเสร็จอยากถามเลยว่าเพื่ออะไร เหมือนต่างคน ต่างซื้อยังไงไม่รู้ ทีมมีปัญหาเปล่าๆ จริงๆน่าให้อำนาจสิทธิขาดกับโค็ช โค็ชอยากได้ใคร จะใช้ใคร มันก็ต้องซื้อคนนั้นละ TC ก็ไปทำหน้าที่ช่วยซื้อตัวที่ผู้จัดการทีมอยากได้ก็พอ จะมาคัดค้านหรือหาตัวใหม่มาแทนทำไม

เห็นมี dof โผล่มาอีก ตามที่ผมเข้าใจ dof คือ ตัวหลักในการซื้อขาย ตัวนึง ที่จะตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อใช่ไหมครับ? ถ้าใช่ของดอร์ทมุนไม่มีระบบอะไรแบบนี้นะ ตั้งแต่เชียร์มาไม่เคยเห็นหรือได้ข่าวอะไรแบบนี้แฮะ ดอร์ทมุนอำนาจทั้งหมดอยู่ที่โค็ช อยากได้ใครก็บอก แต่คล็อปจะไม่ใช่คนที่ไปติดต่อเรื่องซื้อตัวนักเตะเอง ก็จะให้ ผอ.กีฬาอย่างซอค หรือถ้าดีลใหญ่ๆ คล็อปอยากได้มากๆอย่างกรณี ชิโร่ ก็ให้ท่านประธานกับชอคไปติดต่อทั้งคู่เลย ถ้าคล็อปจะเอาทีมงานก็มีหน้าที่แค่ไปซื้อมา ซื้อได้ไม่ได้นั้นอีกเรื่อง ถ้าเห็นราคาเวอร์ไปอาจจะไม่ซื้ออันนั้นเรื่องปกติ เพราะโค็ชคงไม่ต้องไปตกลงราคาหรือประเมินราคาอะไรอยู่แล้ว ปกติทุกทีมก็น่าจะเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?

ยิ่งถ้า dof มีอำนาจซื้อนักเตะได้เองนี้ยืนยันว่าดอร์ทมุมนไม่มีแน่นอน อันนี้มีกรณีให้เห็นชัดๆหลายคน อย่างตอนเสียเลวาน ท่านประธานดอร์ทมุนอยากได้มานซูคิสมาแทน แต่คล็อปไม่เอา ดีลเลยไม่เกิด อันนี้มีให้สัมภาษณ์อยู่ แล้วก็มีอีกหลายๆกรณีที่ท่านประธานอยากได้คนนี้ หรือ เสนอคนนี้ไปให้คล็อปแล้วคล็อปไม่เอาก็เลยไม่ได้ซื้อ

#ก็ว่ากันไป..

โธ่ ออกแนวโยนขี้แถมมั่วนิดๆ

ประเด็นล้วงลูกก่อน
ร็อดเจอร์พูดเองว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายอยู่ที่เขาตลอด ถ้าโดนล้วงลูกจริงๆโวยไปนานแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นหลักฐานชัดเจนก็กรณีบาโลนั่นแหละ ถ้า TC มีอำนาจขนาดล้วงลูกร็อดเจอร์ได้ ร็อดเจอร์จะเซ็นบาโลเข้ามาโดย TC ไม่เอาได้ไง มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าสุดท้ายคนที่ตัดสินใจก็คือร็อดเจอร์นั่นแหละ

ประเด็นที่ 2 โครงสร้างจริงๆของ TC
ถ้าจะชำแหละจริงๆต้องบอกด้วยว่า เกือบทุกคนใน TC นอกจากฝ่ายบริหารแล้ว ฝ่ายภาคสนามเป็นคนที่ถูกจ้างมาภายใต้การคุมทีมของร็อดเจอร์ทั้งหมด พูดอีกอย่างคือทีมงานร็อดเจอร์ทั้งนั้นแหละ

TC สร้างมาทำไม FSG คิดอะไร
จริงๆแล้ว FSG แทบไม่รู้เรื่องฟุตบอลเลย จอร์นเฮนรี่แทบไม่รู้จักฟุตบอลเลยด้วยซ้ำ ถ้าคุณตามหงส์ใกล้ชิดจริงๆคุณจะเห็นว่า FSG ลองผิดลองถูกตลอดหลายปีตั้งแต่ซื้อหงส์มา เปลี่ยนเสตาฟทั้งฝ่ายบริหารและภาคสนามไปเกินกว่าครึ่ง TC ถูกตั้งขึ้นมาหลังลุงเคนนี่กับโคมอลลี่ถลุงเงินไปร้อยล้านไง แต่เงินกว่าครึ่งที่จ่ายไป จ่ายค่าสัญชาติซะเกือบครึ่ง FSG ก็ปลดโคมอลลี่ออกแล้วลองระบบใหม่ไปเรื่อยจนมาถึง TC นี่แหละ ซึ่งผมต้องย้ำอีกทีว่าทีมงาน TC นอกจากฝ่ายบริหารแล้ว เป็นคนที่ทำงานภายใต้การควบคุมของร็อดเจอร์ทั้งหมดไม่มีใครอยู่มาก่อนร็อดเจอร์เลย บ้านๆก็เป็นลูกน้องร็อดเจอร์อีกทีนั่นแหละ ซึ่งก็จะมีพวกหัวหน้าแมวมอง ฝ่าย analyst นักเตะ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่่จะไปแข็งข้อกับร็อดเจอร์

จริงๆแล้วข้อเสียของ TC มีอย่างเดียวคือมันช้า เพราะแมวมองเมื่อเจอนักเตะที่เข้าตา ก็จะส่งข้อมูลให้ผู้จัดการทีมอยู่แล้ว แต่ TC จะส่งให้ทุกคนช่วยกันดูเท่านั้นเอง เป็นการเอาพวกทำงานภาคสนามกับฝ่ายบริหารมาทำงานร่วมกัน เคยมีกรณีซื้อตัวไม่ทันเพราะขั้นตอนล่าช้ามากๆด้วยแต่ผมลืมไปแล้วว่าใคร แต่ถ้าจะมาโยนขี้ว่า TC ล้วงลูกร็อดเจอร์แบบนั้นแบบนี้ผมว่าไม่ใช่แน่ๆ[/u]

น่าจะยกเลิกไปเหอะ

ไม่รู้ความจริงตื้นลึกหนาบางอยู่
แต่ก็พอเข้าใจระบบนี้เหมือนกันนะว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย
การที่มีคนหลายๆ คนมาระดมความคิด กลั่นกรองกันเพื่อให้ได้นักเตะที่ดี
ในราคาที่เหมาะสมเข้าสู่ทีมก็น่าจะดีกว่า
ที่คนๆ เดียวจะทำหน้าที่ทั้งในและนอกสนาม
คุมทีมซ้อม กำหนดแผนการเล่นดูรายละเอียดเรื่องต่างๆ ฯลฯ

การซื้อครั้งนึงมูลค่าหลายล้านปอนด์ บางดีลสูงเป็นหลายสิบ
การที่มีคณะกรรมการร่วมมาช่วยคัดเลือก กลั่นกรองก็ย่อมดีกว่า
หลายหัวดีกว่าหัวเดียวแน่นอน และดูๆ แล้วไม่ใช่ TC จะมากำหนดอะไรให้ BR ต้องเดินตามนั้นเลย
หลายๆ ตัวที่นำเข้ามาก็ดูจะดีกว่าที่ BR เลือกเองด้วยซ้ำ (จากโควทนี้นะ)
ที่พยายามฝืนลง เข็นลงจนเป็นผลเสียกับทีม

อยากเห็นความร่วมมือของการทำงานเป็นทีมร่วมกัน
ต่างคนต่างทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ถ้าได้คล็อปป์ มาจริงๆ แล้วคล็อปป์เข้ากับระบบนี้ได้
หรือสามารถตกลงรายละะเอียดของการทำงานร่วมกันได้
ก็คิดว่าจะมีนักเตะดีๆ ในราคาที่เหมาะสมเข้ามา
พร้อมกับความต้องการและการกำหนดสเปคนักเตะของคล็อปป์ด้วย
ก็เชื่อว่าหงส์แดงจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาได้

แต่ถ้าไม่ ก็คงไม่มี ผจก.ชื่อคล็อปป์ในเสื้อสีแดงเพลิงแน่นอน
สึสส เศร้าแพพ

ผมว่าไอ้คนในระบบนี้แหละ ที่จะทำให้หงส์ผลงานไม่ไปไหน

เพราะนี่ขนาดมี TC แล้ว นักเตะส่วนใหญ่ที่ซื้อมาล้วนใช้ไม่ได้เกิน 50% (เผลอๆ อาจถึง 80% เลยด้วยซ้ำ)

และที่สำคัญ ราคาของนักเตะบางคนเว่อร์เกินผลงานจริงๆ ด้วย

ตอนอยู่ดอร์ทมุนต์ๆก็ใช้ DOF ครับ จริงๆคล็อปแกเป็นผจก.ทีมที่ไม่แคร์เรื่องซื้อนักเตะเท่าไหร่นะ

ยังไงก็ได้ซื้อมาดีๆ เดี๋ยวแกจัดสรรเอาเองแหละ อีกอย่างคล็อปตกลงรับงานแล้วนะครับ

รอเปิดตัวช่วงวันพุธ พฤหัสนี้ ไม่ต้องกลัวครับ ว่าจะไม่ได้คล็อปมาคุม 100%ครับมาแน่

ผมนี่มโนรอชูเสื้อตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้วว

พึ่งอ่านที่อธิบายเรื่อง DOF ด้านบน พึ่งรู้ว่ามันคือ Director of Football หรือ ผอ.กีฬานี้เอง งั้นของดอร์ทมุนก็คือ ซอค แบบนี้ก็มีทุกทีมอยู่แล้วละครับ คนที่จัดการเรื่องซื้อ-ขาย ตัวนักเตะของทีม โค็ชไม่มีทางทำเองแน่นอน อย่างบอลเยอรมันก็มี ผอ.กีฬาทุกทีม ของบาเยินก็ซามเมอร์

แต่ยิ่งอ่านข้างบน ผมว่ายิ่งชัดเจนว่า DOF ต่างกับ TC เยอะเลย ถ้าคล็อปไปทำงานใต้ระบบ TC ก็ลำบากเลยละครับ ไม่ใช่ว่าคล็อปจะไม่สนเรื่องซื้อตัวเท่าไรนะ ทุกตัวของดอร์ทมุนนี้คล็อปสั่งทั้งนั้น ชิโร่ โอบา รอย MK กินเทอร์ พวกนี้คล็อปให้สัมภาษณ์เองว่าอยากได้ทั้งนั้น และก็ให้ซอคไปติดต่อซื้อ ยิ่งถ้าใครจะมาสั่งแกให้เอานักเตะคนนี้ ยิ่งไม่ใช่เลย ขนาดอยู่ดอร์ทมุนท่านประธานอยากให้ซื้อตัวไหน ถ้าแกไม่เอาก็คือตัดไปเลยทุกที กรณีล่าสุดที่ท่านประธานดอร์ทมุนให้สัมภาษณ์ก็คือมานซูคิส ประธานอยากได้แต่คล็อปไม่เอาก็เลยไม่ได้ซื้อ นี้ถ้าคล็อปไปใช้ระบบ TC เกิดแกไม่เอานักเตะคนนี้ TC ส่วนใหญ่เอาก็มีปัญหาอีก ก็เหมือน br เอามาแต่เขาคิดว่าไม่เข้าแผนก็ไม่ใช้ ทีมก็มีปัญหาอีก

ยิ่งอ่านยิ่งงงระบบ TC ว่าทำมาเพื่ออะไร ถ้าแบบนี้ก็คือไม่มั่นใจเรื่องซื้อตัวจากผู้จัดการทีม ก็เลยตั้งระบบนี้มาโดยให้หลายๆคนมาช่วยกันพิจารณาว่าคุ้มหรือเปล่า แล้วจะตั้งเขาเป็นผู้จัดการทีมทำไม จะบอกว่าผู้จัดการทีมก็ซ้อมเทคติคไป เดี่ยว TC หานักเตะมาให้เอง ก็ยิ่งดูแปลกๆเข้าไปใหญ่ ถึงผู้จัดการทีมจะอยู่ใน TC ด้วยก็เถอะ แต่ก็เสียงเดียว ถ้าอีก 4 เสียงไม่เห็นด้วยก็ทำอะไรไม่ได้เลย

คิดง่ายๆเลยนะ
ถ้าคุณเป็นโค้ช ผมเป็นเจ้าของทีม
คุณอยากได้โด้ แต่ผมอยากได้ธีรศิลป์
แล้วสุดท้าย ผมไปซื้อ เหงียน คองเฟืองมาแทน

คุณรับได้ไหมหล่ะ?เอาจริงๆนะ FSG เมิงขายสโมสรไปเหอะ
จริงๆ

มันก็น่าเห็นใจบีรอดนะในจุดนี้
เพราะ ระบบแบบนี้ นักเตะโดนนำเข้าโดยที่ไม่ได้คุยกับ ผจก.ด้วยซ้ำ มันขัดๆกันนะ ให้สิทธิ์ ผจก. เป็นคนเลือกลิสต์ นักเตะ ละค่อยเอามาเชคกันอีกที หรือถ้า ทาง TC ส่งชิ่อ ถ้า ผจก. ไม่เห็นด้วย ก็ถือเป็นคำขาดไปเลยดีกว่า เพราะ เรื่องนักเตะ ผจก. ต้อง มีแผนในใจยุแล้วถ้าเค้าจะเลือกใคร แต่รอดเจอร์ ได้มา ต้องดูสไตล์นักเตะ ต้องปรับ แผน พอจะใช้แผนเดิม ตัวก็ไม่พอ แผนใหญ่ พอตะกุกตะกัก ก็โดนสื่อโหมด่า

ปล.ผมไม่ได้เชียร์บีรอดนะ แต่พอลองคิดดูก็น่าสงสารแฮะ 55555

ขอบคุณเบน ฟรีคิก ครับ ที่แปลมาให้อ่านกัน ชอบบทความแนวๆ นี้จัง ได้สาระดี ทำให้ได้รู้เบื้องลึกการทำงานของพวกผู้จัดการและทีมงาน ว่าเค้าเลือกเฟ้น สรรหานักเตะมายังไง ใครมีอำนาจตัดสินใจสุดท้าย

ผมว่า TC ก็มีประโยชน์ในตัวมันเองอยู่ คือช่วยสรรหา คัดกรองมาให้ และตัดสินใจเบื้องต้นในระดับนึง..
แต่ควรให้อำนาจการตัดสินใจสุดท้าย หรือเกือบๆสุดท้าย อยู่ที่คนจะเอามาใช้ ก็คือ ผู้จัดการทีมมากกว่า เพราะเอาเข้าจริงๆ ถ้าเค้าไม่ชอบ เค้าก็ไม่อยากใช้อ่ะครับ เสียของเปล่าๆ

TC นี่ซื้อเองได้เลยรึครับ น่าจะต้องให้ผู้จัดการทีมเห็นชอบด้วย ถึงดำเนินการซื้อ แต่ร๊อดคงบอกเอามาก็ได้ แต่ถึงเวลาไม่ให้ลง ขอให้คุยกับคล๊อปรู้เรื่องทีเถอะประเด็นนี้

อเมริกันสไตล์หรอครับเนี่ย

ถ้าตามที่อ่านผมเข้าใจว่ามี 5 เสียงครับ ถ้าโหวตเกิน 3 ก็อนุมัติ การจะซื้อใครนี้ผู้จัดการทีมรู้อยู่แล้วครับ เพราะเขาก็เป็น 1 ใน 5 เสียง แต่ประเด็นมันอยู่ที่ ถ้าผู้จัดการไม่อยากได้ แต่อีก 4 คนอยากได้ ก็จะตกลงซื้อ อันนั้นเลยเป็นปัญหาแบบกรณีซาโก้ ที่ br ไม่อยากซื้อ แต่ tc ส่วนใหญ่อนุมัติให้ซื้อ ก็เลยต้องเอามานั่งสำรองนั้นละครับ เพราะตัวผู้จัดการทีมไม่ได้อยากได้

แล้วก็มีปัญหาตรงที่ตัวที่ผู้จัดการทีมอยากได้ แต่ TC ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ก็ซื้อไม่ได้อีก

ลิเวอร์พูลมีปัญหาการซื้อตัวมานานแล้ว

เราจะเห็นว่าลิเวอร์พูลมีจตุรเทพมากกว่าสโมสรไหนๆเลย