ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 14 Sep 2013
ตอบ: 738
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 05, 2015 1:55 pm
เก็บตกหลังเกมส์เรือใบก็อตทาเล้นท์ กุน & Co 6 – 1 นิวคาสเซิ่ล (เป็ดน้อยกลอยใจ)
หลังจากเก็บกดจากผลงานการทำประตูๆของตนเองรวมถึงฟอร์มหลุดออกทะเลไปหลายนัดของ แมนฯ ซิตี้ ในที่สุด เซร์คิโอ อเกวโร่ ก็ระบายความอัดอั้นได้สำเร็จโดยมี นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กลายเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในเกมส์ที่ เรือใบสีฟ้า เปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ฆาตกรรมโหดผู้มาเยือนจนสภาพศพแทบไม่เหลือชิ้นดีไป 6-1 ในเกมส์ พรีเมียร์ลีก คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา



อะไรก็ตามที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เคยทำไว้ได้ก่อนหน้านี้ กุน อเกวโร่ ก็ทำได้เช่นกัน ทั้งคู่เป็นผู้ที่ช่วยพลิกสถานการณ์ให้กับทีมหลังจากที่ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่ต่อสู้ที่บุกมาลูบคมถึงถิ่น ด้วยการกระหน่ำไปคนเดียว 5 ประตูพร้อมกับกระชาก 3 คะแนนเต็มกลับคืนมาอย่างสุดแสนเลือดเย็น

ในขณะที่ เลวานดอฟสกี้ ยิงสลุตใส่ โวล์ฟสบวร์ก ได้ภายในเวลาเพียง 9 นาทีให้กับ บาเยิร์น มิวนิค อเกวโร่ ก็ใช้เวลาไป 23 นาที 34 วินาที ในการฉลองกับเพื่อนร่วมทีมทั้ง 5 ครั้ง ซึ่งก็ถือว่ายังเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจไม่น้อย จากที่กลายเป็นสถิติการทำ 5 ประตูในเกมส์เดียวที่เร็วที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ไปแล้วในขณะนี้

เกมส์เริ่มต้นจากทางฝั่ง สาลิกาดง ที่ฉวยโอกาสได้ดีกว่าจากจังหวะทำเกมส์บุกขึ้นมาโดย เควิน เอ็มบาบู แบ็คซ้ายของทีมที่พยายามกระชากบอลหนี ปาโบล ซาบาเลต้า ก่อนจะเปิดยัดเข้าไปติดแนวรับของ ทีมเรือใบ ที่เคลียร์บอลออกมาไม่ดีและไปเข้าทาง จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม ที่ตามขึ้นมาก่อนจะดีดไซส์ก้อยไปหน้าประตูยังจุดนัดพบที่ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช วิ่งสอดขึ้นมาและทิ้งตัวโหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม สุดปัญญาที่ โจ ฮาร์ท จะป้องกันไว้ได้



แต่หลังจากนั้นลูกทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ ก็เหมือนถูกปลุกให้ตื่นเมื่อเริ่มดาหน้าปูพรมเข้าใส่ผู้มาเยือน และตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่ นิวคาสเซิ่ล เช็คแนวรับไม่ดีจนถูก ดาบิด ซิลบา ตักบอลข้ามไปเสาไกลให้ เฟอร์นันดินโญ่ ที่ยืนเช็คไลน์ได้ดีโหม่งตั้งกลับมาหน้าประตูก่อนที่ กุน อเกวโร่ จะฉวยโอกาสโหม่งเข้าไปแบบจ่อๆ ในช่วงท้ายเกมส์ของครึ่งแรก

หลังจากเปิดฉากครึ่งเวลาหลังมาไม่ถึง 5 นาที แมนฯ ซิตี้ ก็ฉวยโอกาสจากการออกบอลที่ผิดพลาดของกองหลังทีมเยือน และถ่ายบอลไปให้กับ อเกวโร่ ที่ลากบอลตัดแนวรับของ สาลิกาดง ก่อนจะหาช่องสับไกด้วยซ้ายจากบริเวณกรอบเขตโทษไปแฉลบขาของ โยฮันน์ กุฟฟร็อง ที่พยายามตามลงมาช่วยป้องกันไหลผ่านมือทิม ครูล เข้าไปแบบโชคช่วย

และถัดมาอีกแค่นาทีเดียว หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ ก็ทำแฮตทริกแรกในซีซั่นนี้ได้สำเร็จ จากจังหวะชิ่งบอลเร็วตรงกลางสนามก่อนที่ เควิน เดอ บรุนย์ จะแทงทะลุช่องไปให้ กุน ที่หลุดเข้าไปดวลกับผู้รักษาประตู ก่อนจะชิพบอลผ่านตัว ครูล ที่พยายามถลาออกมาปิดช่องเข้าไปแบบเหนือชั้น

ประตู 4-1 ของเจ้าถิ่นได้มาจากฝีเท้าของ เดอ บรุนย์ ที่ได้เอี้ยวตัววอลเล่ย์ตามน้ำโล่งๆในกรอบเขตโทษ จากลูกครอสทางริมเส้นฝั่งขวาของ เฆซุส นาบาส ที่ถูกเปลี่ยนลงมาใน 45 นาทีหลังแทนที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และหลังจากที่เกมส์ผ่านไปหนึ่งชม. กุน อเกวโร่ ก็ยิงประตูที่ 4 ให้กับตัวเองได้เมื่อรับลูกเปิดยาวจากกลางสนามของ ซิลบา และเลี้ยงจี้เข้าหาแนวรับก่อนจะตัดเข้าในและใส่ด้วยขวาส่งบอลโค้งเลียดเสียบเสาเข้าไปอย่างหมดจด

ลูกทีมของ สตีฟ แม็คคลาเรน แทบหาทางกลับบ้านไม่เจอ เมื่อถัดมาอีกเพียงแค่นาทีเดียว ก็ถูก เดอ บรุนย์ ที่รับบอลจากการแทงเข้ามาในกรอบเขตโทษของ ซิลบา ก่อนจะตวัดเร็วผ่านหน้าปากประตูไปให้ อเกวโร่ ทะยานเข้ามาชาร์จจ่อๆที่เสาไกลพร้อมกับจารึกชื่อตัวเองไว้ในทำเนียบดาวซัลโวที่ทำไปถึง 5 ประตูภายในเกมส์เดียวของ ลีกแดนผู้ดี ได้สำเร็จ ซึ่งเหล่า ทูน อาร์มี่ ที่ตามทีมรักมาถึงเมืองแมนเชสเตอร์ก็คงรู้สึกยินดีที่จะปรบมือให้กับ ศูนย์หน้าวัย 27 ปี ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 66 เนื่องจากคงโล่งใจว่าเขาจะไม่สามารถยิงประตูเพิ่มได้อีกแล้ว



สถิติที่น่าสนใจหลังเกมส์

► เซร์คิโอ อเกวโร่ กลายเป็นนักเตะคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ยิงคนเดียวไปถึง 5 ประตูในนัดเดียวได้สำเร็จต่อจาก อลัน เชียเรอร์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, แอนดี้ โคล และ เจอร์เมน เดโฟ
► เดือนตุลาคมคือช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดของ อเกวโร่ เมื่อเขาทำประตูในลีกไปได้ถึง 16 ลูกจากโอกาสลงสนามทั้งหมด 13 นัด
► ประตูแรกที่ กุน ทำได้ในเกมส์นี้คือประตูที่ 80 ของเขาใน พรีเมียร์ลีก และทำให้เขากลายเป็นศูนย์หน้าที่ยิงประตูครบจำนวนที่ว่าได้เร็วที่สุดเป็นอันดับ 3 (128 เกมส์)
► มีเพียง อลัน เชียเรอร์ (102 เกมส์) และ รุด ฟาน นิสเตลรอย (122 เกมส์) ที่กระทุ้งไปครบ 80 ประตูได้ไวกว่าที่ อเกวโร่ ทำไว้ (แต่คงยากที่จะมีใครแซงอันดับแรกไปได้)
► ปัจจุบัน อเกวโร่ ยิงได้ 84 ประตูใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสถิติเท่ากันกับที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คาร์ลอส เตเบซ เคยทำไว้เช่นกัน
► แมนฯ ซิตี้ ไม่เคยพลาดท่าให้กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จากการพบกันในลีก 18 ครั้งหลังสุด (ชนะ 16 เสมอ 2) ซึ่งถือเป็นสถิติไร้พ่ายติดต่อกันในการเผชิญหน้ากับทีมคู่แข่งใน พรีเมียร์ลีก ที่ดีที่สุดของพวกเขา
► เรือใบสีฟ้า จัดหนักใส่ สาลิกาดง ในการพบกันในลีกตลอด 15 นัดหลังสุดที่พบกัน เมื่อยิงไปไม่ต่ำกว่า 2 เม็ดในแต่ละแมทช์ โดยทำประตูรวมกันไปถึง 45 ลูก
► สตีฟ แม็คคลาเรน มีสถิติสุดบู่จากการคุมทีมลงเล่นในลีกโดยพาทีมคว้าชัยมาได้เพียง 2 ครั้งจาก 21 เกมส์หลังสุด โดยมีผลรวมอยู่ที่ ชนะ 2 แพ้ 9 เสมอ 10 จากการคุม นิวคาสเซิ่ล 8 ตัด และ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 13 นัด
► นิวคาสเซิ่ล เก็บชัยชนะได้เพียงแค่ครั้งเดียวจากการลงเตะใน พรีเมียร์ลีก 19 เกมส์หลังสุด
► เควิน เดอ บรุนย์ ทำแอสซิสต์ได้ 23 ครั้งจากการลงเล่นในเกมส์ลีกนับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล 2014/15 (โวล์ฟสบวร์ก 21 แมนฯ ซิตี้ 2) ซึ่งมากที่สุดจากบรรดานักเตะที่เล่นอยู่ใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป
ที่มา http://banpolballs.com/?p=2135
0
0
เข้าร่วม: 18 Jun 2010
ตอบ: 2417
ที่อยู่: FIFATHAILAND
โพสเมื่อ: Mon Oct 05, 2015 2:29 pm
[RE: เก็บตกหลังเกมส์เรือใบก็อตทาเล้นท์ กุน & Co 6 – 1 นิวคาสเซิ่ล (เป็ดน้อยกลอยใจ)]
128 เกมส์ยิงไป 80 ถ้าได้ลงซัก 400+ นัด ไม่รู้จะอยู่ถึงป่าว อาจมีสิทธิทำลายสถิติตลอดกาลของเชียร์เรอร์ 260 ลูก อายุ 27 ต้องเล่นไปจนประมาณซัก 10 ฤดูกาล ไม่น่าทันอยู่ดี ลุ้นเสี่ยหมูแทนแล้วกัน ขาดอีกไม่ถึง 100

0
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8295
ที่อยู่: Bangkok
โพสเมื่อ: Mon Oct 05, 2015 3:22 pm
[RE: เก็บตกหลังเกมส์เรือใบก็อตทาเล้นท์ กุน & Co 6 – 1 นิวคาสเซิ่ล (เป็ดน้อยกลอยใจ)]
กุนยิงก็ดีใจแล้วนะ แต่ดีใจกว่าคือเจ้าบรุยน์มันยิงแล้วทีมไม่แพ้นี่แหละ
0
0