กอบกาญจน์ลงโทษ 25 กองเชียร์แสบ ห้ามเข้าสนามชมคู่ไทย-อิรัก
ถึง 'บิ๊กตู่' แน่ 'กอบกาญจน์' ลงโทษ 25 กองเชียร์แสบ ห้ามเข้าสนามชมคู่ 'ไทย-อิรัก'
กองเชียร์บอลไทย 25 คนถึงฝั่งไทย ผู้ว่าฯ หนองคาย ขอทำความเข้าใจนานร่วม 1 ชั่วโมง ก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน ไปฟังข่าวดี รมว.กอบกาญจน์ ฟันโทษห้ามเข้าสนามดูบอลไม่มีกำหนด ประเดิมคู่ไทย-อิรัก ชี้ทำเสียหายระดับชาติ และจะรายงานต่อนายกฯ...
เมื่อเวลา 18.15 น. วันที่ 5 ก.ย.58 นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไทยรัฐว่า ได้โทรศัพท์ไปชี้แจงกับ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทย ว่า ทางสมาคมฟุตบอล จะมีมาตรการลงโทษผู้กระทำผิด ด้วยการไม่ให้เข้าไปชมฟุตบอลทีมชาติไทย เบื้องต้น มีผลตั้งแต่นัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกระหว่างไทย พบกับ อิรักในวันอังคารที่ 8 กันยายนนี้ ส่วนระยะเวลาในการลงโทษจะยาวนานแค่ไหน จะแจ้งอีกครั้ง ขณะเดียวกัน การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. กำลังจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ สอนการเป็นผู้เชียร์กีฬาที่ดี ก็กำลังเร่งให้ออกนำเผยแพร่ให้เร็วที่สุด ซึ่งจะใช้สำหรับเปิดฉายก่อนการแข่งขันกีฬาทุกนัด รวมถึงการเผยแพร่ผ่านสื่อทีวีและสื่อออนไลน์
"ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพง ที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นอีก เพราะจะเห็นผลของมันแล้วว่ามันกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ และจะต้องนำเข้าชี้แจงให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป" รมว.การท่องเทียวและกีฬา กล่าว
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไทยรัฐทีวี
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 13.55 น. ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมือง จ.หนองคาย คณะกองเชียร์ฟุตบอลไทยจำนวน 25 คน ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ชุลมุนระหว่างการเชียร์ฟุตบอล AFF U 19 นัดชิงชนะเลิศคู่ระหว่างทีมชาติไทยกับ ทีมชาติเวียดนาม ที่สนามกีฬาแห่งชาติลาว เมื่อเย็นวานนี้
โดยทางการลาวได้ควบคุมตัวกองเชียร์ทั้ง 25 คนไว้ที่ตรวจคนเข้าเมืองวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ เป็นเวลา 1 คืน ก่อนที่ทางสถานทูตไทยได้ประสานเจรจากับทางการลาวจนอนุญาตให้คณะกองเชียร์ฟุตบอลกลุ่มนี้เดินทางกลับประเทศไทยได้
เมื่อได้รับการอนุญาตแล้ว พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ แสงเดือน รองผกก.ตม.หนองคาย และ ร.ต.ท.กฤตพล เกษตรสุนทร รองสว.ตม.หนองคาย ได้นำรถยนต์ของตรวจคนเข้าเมืองไปรับคณะกองเชียร์ทั้งหมดที่ด่านสะพานมิตรภาพฝั่งประเทศลาว เดินทางกลับฝั่งไทย
หลังจากนั้นนายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ รองผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย ได้อบรมชี้แจงทำความเข้าใจ กับกลุ่มกองเชียร์นาน 1 ชั่วโมง พร้อมทั้งได้จัดหาข้าวกล่องให้กับบรรดากองเชียร์ทุกคน เนื่องจากยังไม่ได้รับประทานอาหารตั้งแต่เย็นวานที่ผ่านมา
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ผู้ว่าฯ หนองคาย ได้ให้ทุกคนเดินทางกลับบ้าน ซึ่งกองเชียร์ทั้ง 25 คนนี้ ต่างคนต่างอยู่คนละจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นกองเชียร์จากกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนหนึ่งขนอุปกรณ์การเชียร์ กลอง ธง ต่างๆ เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวที่จอดไว้ที่จุดรับฝากรถหน้าด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ส่วนหนึ่งโดยสารเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงยังสนามบินวัดไต ประเทศลาว หลังจากได้กลับบ้านก็จะนั่งรถโดยสารจาก จ.หนองคาย ไปขึ้นเครื่องบินที่ จ.อุดรธานี กลับกรุงเทพฯ
นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวภายหลังได้พูดคุยกับกองเชียร์แล้วว่า ทางการไทยได้ประสานความร่วมมือกับทางการลาวตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งการพูดคุยกับกองเชียร์ว่าสิ่งที่เชียร์กีฬา ต้องเชียร์อย่างสุภาพ ต้องปฏิบัติตามกติกาสากล การจะเดินทางไปประเทศใดก็แล้วแต่ต้องศึกษากฎระเบียบของประเทศนั้นๆ และต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด กองเชียร์ฟุตบอลไทยทั้ง 25 คน ก็รับปากว่าจะศึกษากฎระเบียบของประเทศ ศึกษากติกาสากล ซึ่งตนคิดว่ากองเชียร์ทุกคนต้องปฏิบัติตามสิ่งที่ประเทศนั้นๆ ว่าสิ่งใดห้ามนำเข้าในสนาม
ส่วนเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะไทยกับลาวนั้นมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันทั้งระดับผู้บริหารระดับสูงและระดับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ มั่นใจได้ว่าทุกอย่างยังคงเป็นปกติ ความสัมพันธ์ไทย-ลาว การค้าขาย ผู้คนยังไปมาหาสู่กันตามปกติ
ด้านนายณัฐวุฒิ ไชยขันธุ์ ตัวแทนกองเชียร์ กล่าวว่า
ต้องขอบคุณทางสถานทูตทั้งไทยและลาว รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่าย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว และหวังว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้กับน้องๆ ที่ไปด้วยกันหรือจากหลายๆ ที่ที่มาเจอกัน รวมถึงแฟนบอลที่จะตามไปเชียร์ยังต่างประเทศ ต้องเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ศึกษาข้อมูลประเทศนั้นๆ ก่อนเป็นสำคัญ ยืนยันว่าจะระมัดระวังในการเดินทางไปเชียร์ฟุตบอลในต่างประเทศให้มากขึ้น
ขณะที่ พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผบก.ตม.4 กล่าวเพิ่มเติมว่า
หลังจากนี้หากมีการจัดการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้าน คงต้องขอความร่วมมือกับแฟนกีฬาที่จะติดตามไปเชียร์ให้ช่วยกันเป็นกองเชียร์ที่ดี ไม่ให้กระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศ คงต้องมีการตรวจสิ่งของต้องห้าม ทั้งพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ สิ่งของอุปกรณ์เชียร์ที่อาจจะก่อให้เกิดการยั่วยุอย่านำเข้าไป
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าทั้ง 25 คน จะถูกทางการลาวขึ้นแบล็กลิสต์หรือไม่ ผบก.ตม.4 กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะต้องรอให้ทางการลาวประกาศอย่างชัดเจน แต่ในส่วนของ ตม. ยังไม่ได้รับแจ้งการขึ้นแบล็กลิสต์บุคคลกลุ่มนี้แต่อย่างใด
Credit: http://www.thairath.co.th/