ด้วยความที่พยายามอ่านหลายๆรอบ และรำคาญตรรกะแฟนบอลบางประเภททั้งที่เป็นแฟนชุดขาว แฟนชุดขาด แฟนแอบแฝง พวกแอบถอดเสื้อทีมที่เชียร์แล้วมาเป็นอีแอบชุดขาว ใดๆทั้งหมดก็เลยอยากจะเขียนชุด Timeline จากแถลงการณ์ยืนยันขึ้นมาสักชุดให้เห็นชัดๆว่าใครตอแหลกันแน่ แล้วไอที่บอกว่าแมนยูไนเต็ดลูกเล่นนั้นลูกเล่นยังไง แล้วที่บอกรีลมาดริดพยายามจะชีตติ้ง หรือตุกติกนั้นเขาทำยังไง ก็เลยวิเคราะห์มาเล่นๆ (กึ่งจริงจัง)



เรามาดูสิ่งที่เรอัล มาดริดกล่าวอ้างก่อน โดยเริ่มจากโทษว่าแมนยูไนเต็ดไม่เปิดให้เจรจา ซื้อตัวเดเคอาจนกระทั้งวันสุดท้ายของการซื้อขาย และแมนยูไนเต็ดได้พ่วงข้อเสนอขอตัวนาบาสพ่วงมาแต่คาดว่าสัญญาที่ทำนั้นแยกกันโดยชัดเจน อ้างอิงจากที่เอกสารของนาบาสไม่ได้ถูกอัพขึ้นในวันที่อัพของเดเกอา ที่อัพขึ้นคนละวันก็เพราะต้องให้ดีลของลามะเสร็จสิ้นก่อน และตลาดอังกฤษนั้นปิดช้ากว่า 1 วันเพราะฉนั้นไม่มีปัญหาสำหรับเรื่องนาบาส ทีมชุดขาวบอกว่าได้จัดเตรียมเอกสารต่างๆ เสร็จสิ้นและทำการยื่นให้แมนยูไนเต็ด ตอนเวลา 13.39 น.ตามเวลาในสเปน และหลังจากนั้น 8 ชั่วโมงแมนยูไนเต็ดได้ทำการส่งเอกสารกลับมา และกล่าวอ้างว่าแมนยูไนเต็ดเปลี่ยนรายละเอียดในสัญญาเล็กน้อยและรีลมาดริดทำการยอมรับทุกเงื่อนไขทันที รีลมาดริดใช้เวลา 1 ชั่วโมงสำหรับการเอาเอกสารให้นาบาสและเดเกอาเซ็น แล้วส่งกลับ ทุกอย่างเหมือนจะเรียบร้อยดีแล้วถึงตอนนี้ ณ เวลา 23.32 น.ตามเวลาในสเปน และแมนยูไนเต็ดคุยกับเอเยนต์ของนาบาสเสร็จตอน 23.53 น.ตามเวลาในสเปนและตอนนั้นเอกสารได้ส่งรอให้นักเตะเซ็นแล้ว(คิดว่ามีการส่งรอไว้ให้มีการเซ็นพอเอเยนต์ไฟเขียวนาบาสก็เซ็นเลย) หลังจากนั้นแมนยูไนเต็ดอัพเอกสารขึ้นไปหลังจากนั้น 7 นาที ซึ่งทันเวลาพอดี แต่มาดริดอ้างว่า เอกสารที่ตัวเองได้รับฉบับเต็มนั้น ได้มาตอน 00.02 น. ซึ่ง ระบบ TMS ได้ปิดไปแล้ว หลังจากนั้น TMS ได้ยอมให้ ชุดขาวเข้าไปลงทะเบียนใหม่ตอน 00.26น. แต่ก็ไม่ทันเพราะตลาดซื้อขายนักเตะของสเปนปิดไปแล้ว

ถ้าเราอ่านเฉพาะแถลงการณ์ของเรอัล มาดริดจะเห็นว่า เรอัล มาดริดพยายามชี้ช่องว่าแมนยูไนเต็ดนั้นทำงานช้า และอัพเอกสารล่าช้าจนทำให้ดีลนี้ล่มลง ซึ่งก็ได้ผลเพราะแถลงการณ์ฉบับนี้ทำให้แฟนบอลหลายๆคนเข้ามาถล่มแมนยูไนเต็ด อย่างไม่ลืมหูลืมตาและไม่ยอมเปิดรับฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น แต่กระนั้นช้าก่อน หลังจากแฟนบอลแห่แหนมาถล่มแมนยูไนเต็ดตั้งแต่หัวค่ำ จนสบายใจและปิดไฟนอนหลับฝันดีกันหมดแล้ว แถลงการณ์ จากแมนยูไนเต็ดก็ออกมาดังนี้



ซึ่งเป็นแถลงการณ์ที่ระบุข้อมูลชัดเจนพร้อมทั้งยินดีให้ตรวจสอบ ทางแมนยูไนเต็ดได้แถลงการณ์ในเนื้อหาดังนี้ว่า พวกเขาไม่ได้ต้องการจะขายนักเตะออกไปอยู่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะปิดโอกาสการเจรจาเพียงแต่เป็นเรอัล มาดริดนั้นยื่นข้อเสนอมาวันสุดท้ายเอง(เปเรซอ้างว่าแมนยูไนเต็ดไม่เปิดโอกาสให้เจรจา แต่ทางแมนยูไนเต็ดบอกว่าไม่เคยมีข้อเสนอใดๆ ที่เปเรซและชุดขาวส่งมาเลยตามข่าว) ซึ่งหมายความว่าเรอัล มาดริด เลือกเล่นเกมโดยการดึงระยะเวลาจนถึงวันสุดท้ายเพราะคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าแมนยูไนเต็ดมากมายโข นั้นคือ
1.เดเคอาเหลือสัญญาอีกแค่ 1 ปี
2.เดเคอามีใจอยากจะย้ายมาสวมชุดขาวเต็มที่แล้ว

เรียกได้ว่าพวกเขาถือไพ่ที่แข็งจริงๆ แต่ทางแมนยูไนเต็ดก็มีไพ่ในมือที่ว่า
1.ปีหน้าจะมีการแข่งขันบอลยูโร ซึ่งเป็นเมเจอร์ใหญ่ระดับชาติ ซึ่งตอนนี้เดเคอามีโอกาสเป็นมือหนึ่งทีมชาติค่อนข้างสูง แต่ถ้าเกิดเดเคอาไม่ย้าย หรือ ต่อสัญญา เขาอาจโดนดองจนเสียตำแหน่งในทีมชาติได้
2.แมนยูไนเต็ดไม่แคร์ที่จะเสียนักเตะฟรีๆ

เป็นสองข้อที่เปเรซมองข้าม จึงเลือกที่จะเล่นเกมเทคติคกับแมนยูไนเต็ด และพยายามจะ Cheating แมนยูไนเต็ดอย่างเต็มที่

การที่ราชันชุดขาวเลือกที่จะปล่อยข้อเสนอนี้มาวันสุดท้ายเพราะต้องการบีบให้แมนยูไนเต็ดรีบทำสัญญาให้จบ นี่เป็นความผิดพลาดแรกของเปเรซ


แมนยูไนเต็ดชี้แจงว่า เรอัล มาดริดยื่นข้อเสนอแรกมาตอนกลางวันเพื่อขอซื้อตัวเดเคอา และมีการตกลงกันว่าจะให้นาบาสย้ายสลับฝั่งไปด้วย สองดีลนี้เกี่ยวข้องกัน แต่คาดว่าสัญญาทำแยกกัน ทางฝังปีศาจแดงบอกว่า ราชันชุดขาวนั้นจัดการเรื่องเอกสารของนาบาส เดเคอา และ เรอัลมาดริดเอง ส่วนแมนยูไนเต็ดจัดการแค่ส่วนเอกสารของทีมเท่านั้น แมนยูไนเต็ดได้ส่งเอกสารสำหรับย้ายตัวสองผู้เล่นขาเข้าขาออก ไปหาเรอัลมาดริด ในเวลา 20.42น.ตามเวลาอังกฤษ(ก็ราวๆ 21.42น. ตามเวลาสเปน)
หลังจากนั้นราชันชุดขาวก็เริ่มการตุกติกแรก พวกเขาส่งเอกสารกลับมาตอน 22.32 น. (23.32 น. ตามเวลาสเปน)โดยไม่มีหน้าผู้ลงนามในสัญญา นั้นหมายความว่าเอกสารไม่ครบและทุกฝ่ายเห็นว่าไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ แบบนี้มันผิดปกติ และหลังจากนั้น เวอร์ชั่นอังกฤษบอกว่า
• At 22:40 BST, minutes before the deadline, major changes to the documentation came through to Manchester United which immediately put the deals at risk.

นั้นหมายความว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเอกสาร ซึ่งทำให้ล่าช้าออกไปอีก จากที่เทียบ Timeline จากสองแถลงการณ์แล้วมีเหตุตรงกันที่ว่า



หลังจากนั้นเอกสารที่จำเป็นต่อการยกเลิกสัญญาของเดเกอา ถูกส่งมาแมนยูไนเต็ดตอน 22.55 น.(23.55น. ตามเวลาสเปน)ของนาบาสก็ไม่ได้ถูกส่งกลับมาจากเรอัล มาดริด อีกด้วย และแมนยูไนเต็ดอัพโหลดทุกอย่างทันเวลาตอน 22.58น. (23.58น.ตามเวลาสเปน) ทั้งนี้แมนยูไนเต็ดได้กล่าวว่าเอกสารของแมนยูไนเต็ดทำทันเวลา ทางสโมสรเองพร้อมช่วยเหลือราชันในเรื่องนี้เพื่อยืนยันว่าเอกสารทำทันเวลา เพื่อให้เรอัลมาดริดเอาไปยื่นกับฟีฟ่าและสมาคมฟุตบอลสเปน ซึ่งจะช่วยทำให้การย้ายทีมของเดเกอาย้ายได้เพราะคาดว่าเป็นหลักฐานยืนยันว่าเอกสารที่ทำจากฝั่งแมนยูไนเต็ดนั้นทำได้ทันเวลาจริงๆ และมันจะเป็นการผ่อนปรนให้เรอัลมาดริดใช้ในการยื่นให้ลีกสเปน

แต่เรอัล มาดริดเลือกที่จะไม่ใช่หนทางนี้และเลือกที่จะแถลงการณ์โจมตีแมนยูไนเต็ด คือสรุปได้ว่าทั้งหมดนี้ปัญหาแรกเกิดจาก
-การที่เปเรซกล่าวโจมตีว่าแมนยูไนเต็ดไม่เปิดโอกาสให้เจรจา แต่แมนยูไนเต็ดแย้งว่าเกี่ยวอะไรกันแมนยูไนเต็ดเพิ่งเคยได้รับข้อเสนออย่างเป็นทางการครั้งนี้ครั้งแรก ก่อนหน้านี้เรอัล มาดริดมัวทำอะไรอยู่ไม่ยื่นมาสักที นี่เป็นความผิดชัดเจนมากๆ ของทางราชันชุดขาว
-เปเรซกล่าวโทษอย่างหนักว่า แมนยูไนเต็ดใช้เวลาถึง 8 ชั่วโมงในการพิจารณาเอกสารและดำเนินการ คือ ทางแมนยูไนเต็ดใช้เวลา 8 ชั่วโมง ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้มากมายเลยสำหรับการทำดีลใหญ่ๆ ยิ่งกับสโมสรที่ชอบซอกแซกด้วยแล้ว การพิจารณาเนื้อหานั้นสำคัญมากๆ

ถึงตรงนี้แล้วก็ตัดสินกันเอาเองแล้วกันว่าใครผิดใครถูก จะปาขี้ใส่แมนยูไนเต็ดต่อไปก็ไม่ว่า เพียงแต่ผมว่าจากแถลงการณ์เราก็เห็นถึงความชัดเจนแล้วจากทั้งสองฝั่งว่าใครร้ายใครดี ใครมืออาชีพ ใครไม่มืออาชีพ ณ จุดนี้ผมคิดว่า ประธานชุดขาวอย่างเปเรซนั้นสร้างความอับอายและอัปยศ ต่อสโมสรเรอัลมาดริด เป็นอย่างมากสร้างภาพพจน์ให้ทีมกลายเป็นทีมตุกติกในด้านธุรกิจไปแล้ว ขาดความให้เกียรติและเคารพต่อกันไปแล้วจากการแถลงการณ์ที่กล่าวโทษคู่ค้า ว่าเป็นคนทำให้การเจรจาล้มเหลว

นอกจากมาเที่ยว เป็นอีกดีลที่ทำให้ลืมดีลเปโดรไปเชลซีจริงๆ

ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ว่าเปเรช จะมาพูดให้ร้านแมนยูทำไม

มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

คนเค้าอคติกับแมนยูก็ปล่อยเถอะครับ

วันใดวันนึงที่ทีมพวกเค้าเชียร์โดนกระทำอย่างเราบ้าง ถึงวันนั้นเค้าจะรู้เองแหละครับว่าแฟนแมนยูรู้สึกยังไง

กรณีนี้ จะเถียงให้ยาวทำไมก็ไม่รู้
แค่มาดริดสนใจ แต่ไม่เคยยื่นมาจนวันสุดท้าย ยื่นจนแมนยูยอมขายในราคาที่แมนยูต้องการ

ทำไมต้องไปสนใจด้วยว่า ก่อนหน้านั้นทำไมไม่ขาย ก็มันได้ราคาที่ไม่ต้องการไง
ไม่ใช่แมนยูไม่อยากขาย แค่แมนยูได้ราคาที่ไม่ต้องการ จบแค่นี้แหละ
เหมือนผมทำสัญญาเช่าตึกถึงปีหน้า มีคนมาขอเซ้งต่อ 500000 แต่ผมไม่เอา เค้าเลยเสนอ 800000 ผมยอม แต่เค้าทำเอกสารช้าจนไม่ทัน เค้าก็จะมารอเอาตึกฟรีปีหน้า ก็เรื่องของเค้า ไม่เกี่ยวกับผม

ปล.บางคนที่บอกเป็นแฟนบาซ่า มันมาเดือดร้อนอะไรกับมาดริดนักหนา

ด้วยความเคารพ ร้าย ครับไม่ใช่ ร้าน

2 ทีมนั้นเค้าออกจะรักกันดูดดื่มเลยทีเดียวนะ

บางคนเหมือนกันเป็นแฟนโรนัลโด้ แต่มาอะไรกับ เมสซี่ นักหนา

นอนคุกไปหมดแล้ว พวกนั้น งืม สีชมพู

หมายถึงเปเรชตัวจริง หรือ เปเรชบอร์ด ss
ถ้าหมายถึงตัวจริงนะ ผมว่าก็ธรรมดาคนเป็นนักเลือกตั้ง คะแนนเสียงกับกระแสมีความสำคัญมาก
ดังนั้นหากว่าพลาดอะไรมา คู่แข่งลงสมัครเลือกประธานคนอื่นๆ ต้องนำมาโจมตีตอนหาเสียงอยู่แล้ว
เพราะงั้นก็เหมือนกับนักเลือกตั้งทั่วๆไป อะไรดีก็บอกผลงานผม อะไรแย่ก็โยนให้คนอื่นรับไปแทน
ถ้ามองแบบกลางๆคือก็เข้าใจว่าแกก็ต้องพูดรักษาคะแนนเสียงไว้อ่ะนะ

เห็นด้วยครับ ไม่ใช่เป็นแค่เปเรซนะ แต่พวก โรเซล ลาปอต้า กัลเดร่อนก็เป็น แบบนี้เลย โยนใส่คนอื่น

ประเด็นคือมาดริดคิดว่าถือไพ่เหนือกว่าจริงนั้นแหละ ประมาทไป
1. มาดริดต้องการให้แมนยูปล่อยนักเตะที่อยากย้ายโดยใช้วันสุดท้ายในการตัวสินใจ ซึ่งมาดริดอยากได้ราคาที่ไม่สูง ในแง่ของธุรกิจมันถูกต้อง แต่ลืมคิดไปว่า น้องเด เป็นนักเตะคนสำคัญของแมนยูซึ่ง การจะปล่อยตัวนักเตะคนสำคัญ ขอเพียงราคาที่น่าพอใจ(นี้ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นในแง่ธุรกิจ) ซึ่งแมนยูพร้อมนานแล้วถ้าได้ราคาที่โอเค เพราะเข้าใจว่าเด เคอา อยากย้ายกลับบ้านแน่นอน ประเด็นแรกจบแล้วนะครับ

2.การออกมาให้ข่าวว่าแมนยู ปิดกั้นดีลนี้ เปเรช ต้องการอะไร (แมนยูก็พร้อมแสดงหลักฐานในการยื่นเอกสาร)

3.จนถึงวันสุดท้าย ดีลล้ม กลายเป็นว่าน้องเด ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนเพื่อจะได้ลงสนามเพื่อจะได้ตั๋วเป็น1ในผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนลุยยูโร2016

สรุปได้ไม่ยากเลย มาดริดอยากได้ฟรีปีหน้า แมนยูไม่อยากขาย แต่ต้องยอมเพราะน้องเดอยากไป เลยขอได้ราคาโอเค น้องเดอยากย้ายไปมาดริด(ให้ทันตลาดปิด) แต่ไปไม่ทันเลยต้องหาทางออกใหม่ จะด้วยวิธีการไดๆก็แล้วแต่เถอะ