[RE: หมามุ่ย-ปากเป็ดฉงน'ลามะ'สมาธิหลุดจริงเหรอ]
johnboy130 พิมพ์ว่า:
fiatnaja พิมพ์ว่า:
ผมกล้าพูดได้เลยว่าตอนนี้ยูไนเต็ดไม่ได้อบอุ่นเหมือนครอบครัวเท่าเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้มีแค่เอาเงินมา-ทำงานให้ แค่นั้นแหละ ความอบอุ่นภายในใจของนักเตะเก่าบางคนมันไปพร้อมกับตอนที่เซอร์วางมือแล้ว ผมเป็นแฟนบอลผมยังรู้สึกว่ามันไม่อบอุ่นเหมือนเดิมเลย
เดเกอา คิดซะว่ามาทำงานแล้วกัน พ่อคนที่เอาเอ็งมาปั้นเค้าไปแล้ว ตอนนี้เอ็งก็แค่ทำงานให้เจ้านายใหม่แค่นั้นเอง ไม่ต้องรัก ไม่ต้องเป็นห่วงก็ได้ แค่ทำเต็มที่ให้สมกับเงินที่ได้รับไปก่อนแล้วกัน
คิดเหมือนกันครับ เมื่อก่อนจะดูอบอุ่นเหมือนเป็นครอบครัวกว่านี้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพราะว่าทีมมีการเปลี่ยนแปลงครับ 2-3ปีมานี้ นักเตะใหม่ในทีมชุดใหญ่มีเยอะกว่าตัวเก่าๆสมัยท่านเซอร์อีก ก็เหมือนเราเวลาย้ายโรงเรียน หรือเข้ามหาลัยเจอเพื่อนใหม่ๆ มันก็น่าจะใช้เวลาสักพักกว่าจะสนิทสนมกันในระดับนึง
โดยส่วนตัวผมมองว่า ปัญหานี้มันคือผลกระทบของระบบะูรกิจฟุตบอลนั่นแหละครับ
พอธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง การซื้อขาย สัญานักเตะ และวิธีการซื้อขายนักเตะก็เปลี่ยนไป
มันทำให้นักเตะ มีทางเลือกที่จะหลีกเลี่ยงสัญญา หรือบีบสโมสรได้มากขึ้น
อีกส่วนหนึ่ง มันก็เพราะการเพิ่มขึ้นของค่าเหนื่อย ที่ทีมใหญ่ๆ ทุ่มให้นักเตะ มันมากพอที่จะซื้อความซื่อสัตย์ ที่มีกับต้นสังกัดได้เลย
อีกอย่างที่ต้องยอมรับก็คือ ทีมที่ต้องการประสบความสำเร็จ มันไม่มีเวลามากพอให้มาปั้นดาวรุ่ง ทีนึง 5-6 คน เหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ เมื่อคุ่ต่อสู้ซื้อ อัพเกรดตัวเองไปอีกขั้น ในปีนี้ หากคุณไม่ซื้อ คุณก็จะห่างไปจากเค้าอีกขั้น ไกลกับความสำเร็จไปอีกขั้น
ที่เห็นชัดที่สุดก็คือแมนยูยุค มอย เลยครับ การที่ LVG ต้องทุ่มซื้อนักเตะ ดีๆหลายๆคนต่อเนื่องกันมา 2 ปีนี้ ก็เพราะว่าอยากยกระดับคุณภาพ ผู้เล่นโดยรวมของทีม ให้ไล่ทัน คุ่แข่งทีมต่างๆ
เราต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาแมนยูเพิ่งพาความสามารถของ เฟอกุสันมากเกินไป เฟอกุสันเก่งมากพอที่จะเอาความสามรถในการคุมทีมมา บดบังจุดด้วยของนักเตะได้ แต่พอแกไม่อยุ่ ปัญหาที่สุมมาก็มาโผล่ ตอนนี้หมด บวกกับยุคสมัยนี้คู่แข่งเค้าก็ อัพทีมกันเต็มที่ พอรู้ตัวอีกที นักเตะในทีมก็คุณภาพสู้เค้าไม่ได้แล้ว
มันจึงไม่แปลกที่นักเตะใหม่ๆ จะมีความสนิทสนมกันน้อยกว่านักเตะที่ปั้นมาพร้อมกัน 5-6 ปี
ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเป้าหมายของทีมยังคงเป็นความสำเร็จ