ช่างวาดภาพโฆษณาภาพยนตร์ ในตัวเมืองศรีสะเกษ - อาชีพที่ใกล้จะสูญสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษว่า จากการที่ขณะนี้ในการทำงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ มีการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ที่ทันสมัย ทำให้การเขียนตัวหนังสือหรือการวาดภาพต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วมาก ซึ่งการที่เทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้นนี้ ทำให้การวาดภาพเพื่อโฆษณาภาพยนต์หรือหนังตามโรงภาพยนตร์ต่าง ๆ เลิกใช้คนวาดภาพหรือเขียนตัวหนังสือ แต่ว่าที่โรงภาพยนตร์ซุ่นเฮงพลาซ่า ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองศรีสะเกษ ยังคงมีการใช้คนวาดภาพและเขียนป้ายโรงหนังเช่นเดิม โดยที่ไม่มีการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในการวาดภาพหรือเขียนป้ายแต่อย่างใด
นายสมชาย กองศรี อายุ 53 ปี ช่างวาดภาพโรงภาพยนตร์ซุ่นเฮงพลาซ่า ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเป็นชาว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เริ่มฝึกหัดวาดภาพมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กนักเรียน โดยหลังจากเลิกเรียนแล้ว ก็จะไปดูรุ่นพี่ที่เขาวาดภาพและเขียนป้ายโฆษณาภาพยนตร์ จากนั้นจะอาสาเป็นผู้ช่วยในการวาดภาพ จนทำให้รู้หลักในการวาดภาพและสามารถที่จะวาดภาพต่าง ๆ ได้ ทั้งการสเก๊ตภาพและการระบายสีลงสีเพื่อให้ภาพสวยงามมีชีวิตชีวา และหลังจากที่ปลดจากการเกณฑ์ทหารแล้ว ตนก็ได้มายึดอาชีพนี้ โดยรับจ้างวาดภาพตามโรงภาพยนต์ต่าง ๆ ในเขตภาคอีสาน ทั้ง จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุดรธานี ขอนแก่น ยโสธร อุบลราชธานีและ จ.ศรีสะเกษ มานานกว่า 30 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าของโรงภาพยนตร์ตามจังหวัดต่าง ๆ จะมีเพียงรายเดียว ทำให้ตนต้องเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ เพื่อวาดภาพโฆษณาภาพยนตร์ ตามแต่เจ้าของโรงภาพยนต์จะสั่งงานให้ไปวาดภาพที่จังหวัดใดบ้าง โดยในวันหนึ่งตนจะวาดภาพโฆษณาภาพยนตร์ได้วันละ 1 เรื่อง ส่วนค่าแรงนั้นก็พอเลี้ยงตนเองได้ ซึ่งหลังจากที่ตนทำงานให้โรงภาพยนตร์เสร็จแล้ว ตนจะรับงานนอกเช่น การวาดภาพวิว การวาดภาพสัตว์ต่าง ๆ มาทำงานด้วย ทำให้มีรายได้เสริมขึ้นมาเลี้ยงตนเองและครอบครัว
นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้โรงภาพยนตร์ตามจังหวัดต่าง ๆ เลิกใช้คนวาดภาพแล้ว โดยจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาแทน แต่ว่าที่โรงภาพยนตร์ซุ่นเฮงพลาซ่า เจ้าของโรงภาพยนต์ได้ให้ความกรุณาในการให้ตนวาดภาพโฆษณาภาพยนต์ต่อไป เนื่องจากว่า เจ้าของโรงภาพยนตร์มีความชื่นชอบในการวาดภาพ และเห็นว่า การวาดภาพทำให้คนสนใจในการที่จะมาเข้าชมภาพยนตร์มากกว่าการใช้วิธีการพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ตนจะยังคงทำงานวาดภาพโรงภาพยนต์ไปเรื่อย ๆ เนื่องจากว่าสายตายังคงดีอยู่ ขณะที่ช่างวาดภาพคนอื่น ๆ ต่างพาเลิกอาชีพนี้ พากันไปทำงานรับจ้างวาดภาพตามโบสถ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นงานรับเหมา ทำให้อาชีพช่างวาดภาพโฆษณาภาพยนตร์ใกล้จะสูญสิ้นไปแล้ว แม้แต่ลูกชายของตนที่ได้รับถ่ายทอดวิธีการวาดภาพเอาไว้ก็หันไปประกอบอาชีพเป็นช่างสักลายแล้ว
นายจรัญ หาบุญมี อายุ 51 ปี ผู้จัดการโรงภาพยนตร์ซุ่นเฮงพลาซ่า กล่าวว่า ตนมาเป็นผู้จัดการโรงภาพยนตร์ซุ่นเฮงพลาซ่า ตั้งแต่ปี 2537 เป็นต้นมา และยังคงใช้ช่างวาดภาพในการโฆษณาภาพยนตร์มาโดยตลอด เนื่องจากว่า นายสุรพจน์ พัวไพศาล เจ้าของห้างสรรพสินค้าซุ่นเฮงพลาซ่า มีความชื่นชอบในการวาดภาพ ดังนั้น จึงให้มีการวาดภาพโฆษณาภาพยนตร์มาโดยตลอด โดยเห็นว่า การวาดภาพโฆษณาภาพยนต์จะมีเสน่ห์มากกว่าการใช้ระบบคอมพิวเตอร์มาทำงาน เพราะคตอมพิวเตอร์ได้เพียงความรวดเร็วในการทำงานเท่านั้น แต่ไม่มีเสน่ห์ในการดึงดูดใจคนให้มาชมภาพยนตร์ทุกเรื่องที่นำมาฉาย ซึ่งทางโรงภาพยนต์ซุ่นเฮงพลาซ่า จะใช้ช่างวาดภาพโฆษณาภาพยนตร์ตลอดไป เพื่อต้องการอนุรักษ์รูปแบบในการโฆษณาภาพยนต์แบบนี้เอาไว้ตลอดไป
Spoil
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1440495937