Register
Login
Username
Password
จำรหัสผ่าน
ลืมรหัสผ่าน?
สล็อต
BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า
X
ไว้คราวหน้า
X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
หน้าแรกบอร์ด
>>
บอร์ดวาไรตี้
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
Extream Aggressor
ตำรวจบอร์ด
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jul 2009
ตอบ: 23
ที่อยู่: Be as you were when we met
โพสเมื่อ:
Mon Aug 10, 2015 20:13
ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 6)
ความเดิมในตอนที่แล้ว
ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 1)
http://www.soccersuck.in.th/boards/topic/1256602
ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 2)
http://www.soccersuck.in.th/boards/topic/1256812
ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 3)
http://www.soccersuck.in.th/boards/topic/1256915
ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 4)
http://www.soccersuck.in.th/boards/topic/1257552
ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 5)
http://www.soccersuck.in.th/boards/topic/1258845
...................................................................................................
วันที่ 9 ... มุ่งหน้า มอสโก
การใช้ชีวิตบนเครื่องจักรที่เคลื่อนที่ไปบนรางเหล็กด้วยความเร็ว 120 KmH ตลอด 24/7 มันทำให้เราวิ่งไกลมาจากจุดที่เราเริ่มต้น คือ มหานครปักกิ่ง เป็นระยะทางร่วม 6,000 กิโลเมตรแล้ว (ลองเทียบกับระยะทางจากเหนือสุดที่อำเภอแม่สาย ไปยังใต้สุดของประเทศไทยที่อำเภอเบตง เป็นระยะทางราว 1,650 กิโลเมตร ไป-กลับ ได้เกือบ 2 รอบ) นี่เป็นการเดินทางทางบกภายในระยะเวลาต่อเนื่องกัน ที่ยาวที่สุดในชีวิตของผมแล้ว และสถิตินี้ คงสิ้นสุดที่ มอสโก ด้วยระยะทางราว 8,900 กิโลเมตร ตอนนี้ ผ่านมา 3 Time zone คือ Beijing, Ulaanbaatar, Irkutsk (UTC+8) Krasnoyarsk (UTC+7) Omsk (UTC+6) เหลืออีก 2 Time zone ก็จะถึง Moscow time (UTC+3) เสมือนได้วิ่งย้อนเวลาไป 5 ชั่วโมง ตอนนี้ ตี 3 แดดออก 5 ทุ่มพระอาทิตย์เพิ่งลับขอบฟ้า ซึ่งตารางเวลาเราเริ่มบรรลัยตั้งแต่เข้ารัสเซียแล้วครับ ดังนั้น เวลาเท่าไหร่ก็ช่างมัน ง่วงก็นอน หิวก็กิน มีแสง เห็นวิว ก็ถ่ายรูปกันไป ง่ายๆ แบบนี้ .... Slow &Simple Life
วิวสองข้างทาง ตอนนี้ แปรเปลี่ยนเป็น ทุ่งหญ้า เนินเขา ป่าสน เขียวขจี ของยุโรปในฤดูร้อนเต็มรูปแบบแล้ว บ้านไม้แบบยุโรปดั้งเดิม ปลูกบนเนินเขา สวยงาม ไม่มีเกอร์ ให้เห็นเหมือนตอนวิ่งอยู่แถบไซบีเรียอีกแล้ว ช่วงนี้ เราเห็นรถไฟของรัสเซียวิ่งสวนมาบ่อยขึ้น รถไฟรัสเซียขบวนยาวมากครับ ยาวกว่ารถไฟไทยประมาณ 3 เท่าได้ รางรถไฟรัสเซียเป็นแบบกว้าง ประมาณ 1.52 เมตร (ขนาดมาตรฐาน คือ 1.435 เมตร ซึ่งประเทศจีนใช้อยู่ ส่วนของไทยอยู่ที่ 1 เมตร โดยประมาณ) เวลาวิ่งสวน ใช้เวลาเกือบ 30 วินาที กว่าจะสวนกันเสร็จ ถ้าจอดนิ่งๆ นี่ล่อไปเป็นนาทีได้
เพื่อนร่วมทางของเราเปลี่ยนหน้าไปเล็กน้อย พ่อหนุ่มร่างยักษ์ ห้องเดียวกับผม ลงรถไปแล้วตั้งแต่เช้ามืด ทำให้ห้องผม เหลือผู้ร่วมทางเพียง 3 ชีวิต คือ ผมที่นอนชั้นบน คุณแม่กับลูกสาวตัวน้อยยึดครองชั้นล่างไป ตอนนี้ ผมเริ่มชินกันการอยู่ข้างบนละ ที่นั่งชั้น 2 การนอนข้างบนค่อนข้างโอเค เพราะมี Head room เหลือเยอะ สามารถนั่งขัดสมาธิ หรือแม้แต่นั่งคุกเข่า ก็ยังเหลือพื้นที่เหนือหัวอีกมาก ไม่อึดอัด แต่ส่วนมากก็เข้ามาเพื่อ นอน อ่านหนังสือ เสียบหูฟังดูหนัง เท่านั้น อุตส่าห์อยู่บนรถไฟสายก้องโลกทั้งที คงไม่อุดอู้อยู่แต่ในห้องอยู่แล้ว ส่วนห้องข้างๆ เจ้าหนู คีลี และครอบครัว ลงรถไปพร้อมๆ กัน ทำให้ห้องของเพื่อนผมว่าง พวกเราเลยยึดครองพื้นที่ ได้ชั่วครู่ เอาเครื่องดื่ม ของกินมาวางจองที่ตรงโต๊ะเล็กไว้ก่อน แต่แค่เพียงไม่กี่สถานี เพื่อนร่วมทางกลุ่มใหม่ก็ขึ้นมา
ชายเลยวัยกลางคน 2 คน คนนึงรูปร่างใหญ่ หน้าตาเหมือนไอริชขี้เมา กับอีกคน ผอมสูง ไว้หนวด หน้าตาเหมือน เอียน รัช เดินขึ้นมา พร้อมกับสัมภาระ ผมจึงต้องปลีกตัวออกมายืนนอกห้อง สักพักลุงสองคนนี้ ก็จัดแจงสัมภาระเสร็จ ก็ทักทายเพื่อนผมอีก 2 คน อย่างเป็นกันเอง แนะนำตัวกัน คนที่ตัวใหญ่ชื่อ วาเลรี่ ส่วนคนผอมชื่อ อาไบ ทั้งคู่มีอาชีพขับรถบรรทุก โดยจะขึ้นรถจาก Omsk มาลงที่เมือง Kazan ก่อนถึง Moscow ไม่ไกลนัก เพื่อขับรถบรรทุกกลับไปยัง Omsk ที่พวกเขาขึ้นรถไฟมา โดยถนนหนทาง ก็เป็นเนินเขาชัน เคี้ยวคด ค่อนข้างลำบาก ลุงแกบอกว่า ขับรถใช้เวลา 5 วันโดยประมาณ (ทั้งๆ ที่นั่งรถไฟ แค่ 2 วัน) ลุงวาเลรี่ ค่อนข้างเก๋า เพราะคาดว่าแกคงขึ้นบ่อยจนชิน ปกติเวลาเราพ่วงปลั๊กสามตาจากริมทางเดินเข้ามาในห้อง สายมันจะพาดขวางทางเดิน น้องเตี้ย กับ มิสโน ก็จะคอยมาเจ้ากี้เจ้าการให้ถอด ยกตัวอย่าง ห้องพี่แว่น นี่แหละครับ เสียบมันทั้งวัน เจอก็โดนด่า ต้องเสียบๆ ถอดๆ แต่ลุงวาเลรี่ แกเก๋า เสียบสายปุ๊ป แกลากสายยาวขึ้นเพดานเลยครับ เอาเหน็บไว้กับโคมไฟทางเดิน ซ่อนสายอย่างดี นี่มันงานบิ้วอินชัดๆ
นอกจากจะเก๋าแล้ว ลุงแกยังนิยมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย ลุงวาเลรี่ หิ้วเบียร์เมืองรัสเซีย ขวดใหญ่ เป็นขวดพลาสติกเหมือนขวดเพ็ทน้ำอัดลมบ้านเรา แต่ใหญ่กว่ามาก ความจุ 3 ลิตร ลุงวาเลรี่แกกินวันละขวด ด้านลุงอาไบนั้นเล่า แกพกขวดแก้วขนาดเขื่อง ข้างในบรรจุน้ำสีขาวเหมือนนม ผมไม่ได้ลอง แต่เพื่อนผมลองกินไป มันเป็นเหล้าหมักจากนมม้าครับ เรียกว่า kumys หรือ Kumis (ทีแรกฟังเป็น Kamus) เป็นน้ำนมหมักที่มีทั้งกรดและแอลกอฮอล์ Kumis เริ่มแรกผลิตมาจากน้ำนมม้า ซึ่งมีน้ำตาลแล็กโทสประมาณ 7% แหล่งกำเนิดมาจากประเทศรัสเซียตอนใต้ โดยชนเผ่าชาวคูเมนส์ (Kumanes) การผลิตคูมิสในสมัยก่อนจะใส่ชิ้นส่วนของเนื้อม้าหรือเอ็นม้า หรือผักบางชนิดลงไปในน้ำนมม้าที่อยู่ในถุงที่ทำจากหนังแกะเพื่อเร่งกระบวนการหมักให้เร็วขึ้น ปริมาณแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นจะมีตั้งแต่ 1-2.5% ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่ได้ว่าเป็นชนิดอ่อนหรือชนิดแรง
คนสูงอายุในรัสเซีย ที่ผ่านๆ มาจะเหมือนๆ กัน คือ ไม่นิยมกินพวกอาหารสำเร็จรูป อย่างลุง 2 คน ที่เจอตอนขึ้นรถไฟมาจาก Ulan-Ude ก็เหมือนกัน พอหยิบพวกมาม่า ปลากระป๋องให้เป็นสินน้ำใจ ลุงแกทำท่าประมาณว่า เมิงไม่ต้องให้กูหรอก โยนทิ้งไปโน่น เค้าจะชวนกินของสด อาหารปรุงสด สองสิงห์นี่ หิ้วไก่ย่างขึ้นมาตัวนึง ปูกระดาษหนังสือพิมพ์ หยิบมีดพับออกมา หั่นๆ เฉือนๆ กิน โดยไม่แยแสพวกเครื่องกระป๋องของพวกเราเลย มิหนำซ้ำยังชวนกินไก่ย่างด้วยกันอีกแน่ะ ก็เลยไม่ขัดศรัทธาครับ จัดการไก่ลุงแกไปประมาณ สะโพก 1 ข้าง พวกพืชผักที่เราผ่านมา ได้ข้อสรุปว่า คนรัสเซียชอบมาก ถึงมากที่สุด คือ หัวหอม มะเขือเทศ และแตงกวา เจอเกือบทุกมื้อในอาหารที่กินที่นี่ และ คนอื่นกินให้เห็น ลุงแกพกของสดมาเพียบจริงๆ ซักพักควักหัวอะไรซักอย่าง สีแดงๆ กลิ่นคล้ายๆ หัวไชเท้า พอแกฝานมาให้จิ้มกินกะเกลือเท่านั้น ขมชิบเป๋งเลย แกเห็นหน้าเราก็หัวเราะใหญ่ โคตรขม อันนี้ กินได้นิดเดียวก็ซ่อนใส่อุ้งมือไว้ ไม่กินต่อ แกเผลอค่อยทิ้ง ไม่ไหวๆ แต่คนรัสเซียเป็นคนที่ไม่เอารสเผ็ดเลย แค่ทาโร่ รสบาร์บีคิว ที่หอบหิ้วไปจากบ้านเรา แกกินชิ้นเดียวยังร้อง Ostryy (เผ็ด !!)
นับว่าเป็นโชคดีมาก เพราะทีแรก เราว่าจะผูกสัมพันธไมตรีกับ พี่แว่น ด้วยการส่งมอบเครื่องบรรณาการเป็น ควิก รสต้มโคล้ง กับ มาม่า รสต้มยำหม้อไฟทะเลเดือด ซึ่งอาจจะกลายเป็นชนวนสงคราม ไทย-รัสเซีย บนรถไฟสายนี้ก็เป็นได้
ในการเดินทางบนขบวนรถไฟ เรามักจะเจอแต่คนสูงอายุที่มีน้ำใจ กิจกรรมของพวกเขาเวลานั่งรถไฟ คือการพูดคุย ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทาง ลุงทั้งสอง อาจจะแก่เกินกว่าจะติดโซเชียลแล้ว ก็เป็นได้ แต่วิถีชีวิตของพวกเขา ต้องบอกว่า นี่แหละ Slow Life เค้าใช้ชีวิตละเอียดครับ กินอยู่อย่างละเอียด อาหารปรุงสด พืชผักผลไม่สด ไม่กินอาหารขยะ อาหารกระป๋อง ดื่มด่ำให้ความสนใจกับสิ่งรอบๆ ตัว สร้างมิตรภาพใหม่ๆ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ถึงจะพูดกันไม่รู้เรื่อง แต่ความพยายามสื่อสาร มันก็ทำให้คนเรารู้สึกสนิทสนมกันได้ แม้ว่าสุดท้ายความพยายามของการพูดคุย มักจะจบลงด้วย เงียบ การมองหน้ากัน แล้วก็หัวเราะ แต่นั่นก็คือ ส่วนหนึ่งของการสื่อสารเช่นกัน
เห็นลุงวาเลรี่ กินอาหารปรุงสดก็เลย เอามั่ง ตาแว่นซึ่งมักจะถือถาดใส่ขนมอะไรซักอย่าง หน้าตาลคล้ายๆ พัฟมีไส้ เดินผ่านโบกี้ของเรา และพยายามจะชวนเราซื้อมาตลอดตั้งแต่ขึ้นรถไฟมา คราวนี้ เราเลยจัดซะหน่อย ซื้อมาหนึ่งชิ้น เป็นไส้ผัก หัวหอม รสชาติพอใช้ได้
อันที่จริงบริเวณริมทาง สถานี เวลารถจอดก็จะมีชาวบ้านเอาของมาขาย ทั้งอาหาร ผลไม้ และของที่ระลึก ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ที่นี่ไม่แพงครับ เนื่องจากในยุโรป พวกนี้มันเป็นประมาณ ผักสวนครัวรั้วกินได้ เค้าปลูกกันเป็นล่ำเป็นสัน ส่วนพวกอาหารที่นำมาขาย ต้องดูดีๆ มันอาจจะเก่า และไม่อร่อย อาหารรัสเซียขึ้นชื่อเรื่องความมันอยู่แล้ว มัน จืด ยิ่งเย็นชืด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงครับ กินไม่ลงจริงๆ ขนาดน้ำอัดลม ประมาณ บิ้กโคล่า หรือ น้ำโค้กยี่ห้อโลตัสที่ขายแถวบ้านเรา มาซื้อกินที่นี่ ราคาถูกกว่า พวก เป็ปซี่ หรือ โคคา-โคล่า มาก รสชาติก็ห่วยแตกเหมือนกัน
เมื่อเข้าใกล้นครหลวงมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนบนรถก็ทยอยลงไปทีละกลุ่มๆ แม้จะมีกลุ่มใหม่ๆ ขึ้นมาบ้างแต่ ก็น้อยกว่าคนลงแล้ว เพราะยิ่งระยะทางใกล้ ทางเลือกในการเดินทางก็มากขึ้นไปด้วย สองแม่ลูกที่ร่วมตู้นอนกับผม ก็ลงไปยังเมืองเล็กๆ ก่อนถึงมอสโกประมาณ ครึ่งวัน ก่อนลง ก็หันมาโบกมือบ๊ายบายกันตามประสา เพื่อนร่วมเดินทาง ตู้นอนของผม กลายเป็นเงียบสงบ ไม่มีเสียงเด็กน้อยเล่นตุ๊กตา ดูการ์ตูน ตอนมีคนเยอะๆ ก็อยากอยู่เงียบๆ นะ แต่พอ คนลงไปหมด ดันเริ่มเหงาซะได้ ผมได้ครองห้องแต่เพียงผู้เดียวเลยทีนี้ นั่งๆ นอนๆ ตรงไหนก็ได้ ชิวๆ สบายๆ แต่มันเงียบเหงาจริงๆ
ตอนที่ 2 ลุงเก็บของลงยังสถานี Kazan ยังเดินมาจับมือกับเรา ขอให้โชคดี อันนี้ธรรมเนียมของคนรัสเซีย ไม่แน่ใจว่าถูกหรือเปล่า แต่สังเกตว่า เค้าจะไม่จับมือกับเราข้ามธรณีประตู ตอนแรกผมนั่งอยู่ในห้องคนเดียว แล้วยื่นมือออกไป ลุงอาไบ แกเลือกจะเดินเข้ามาข้างในห้องที่ผมนั่งอยู่ แล้วก็จับมือ พวกเรามองผ่านหน้าต่างออกไป เห็นสองสิงห์รถบรรทุก วาเลรี่ และอาไบ เดินหิ้วกระเป๋าผ่านไปช้าๆ ขณะรถเคลื่อนออก ยิ่งรู้สึกเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก ฝนก็เริ่มตกลงมาต่อเนื่อง อากาศมืดครึ้มตลอดเวลา มีน้อยมากๆ ที่จะผ่านไปในโซนที่แดดออก
ข้อสังเกตอีกเรื่องก็คือ การเปิด โรมมิ่ง ในการเดินทางบนรถไฟจาก Irkutsk มายัง Moscow แทบจะใช้อะไรไม่ได้เลย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะสภาพอากาศ หรือ มันเป็นพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์อยู่แล้วกันแน่
หลังจากเพื่อนร่วมทางหายไปเกือบหมด (มีขึ้นมาใหม่ แต่ไม่ได้อยู่ห้องเรา) ก็เป็นเวลาสงบของการอ่านหนังสือครับ คืนนี้ นอนเร็วหน่อยก็ดี เพราะรถจะถึง มหานครมอสโก หรือ ที่คนรัสเซียออกเสียงว่า มัสควา (Москва) ที่ Kazansky railway station ในเวลา 4.00 น. วันรุ่งขึ้น และเดินหา Leningradskiy Vokzal Train Station จากนั้น หาที่ฝากกระเป๋าสัมภาระ เพื่อขึ้นรถไฟความเร็วสูง Sapsan ในเวลา 6.40 เพื่อไปยังเมืองแห่งศิลปะ และมนต์เสน่ห์ของอารยธรรมยุโรป เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเราได้ใช้คาถาอัญเชิญตัวละครลึกลับ เพื่อช่วยเหลือในการเดินเที่ยว เมืองที่มีที่เที่ยวเยอะจนตาลายในแบบฉบับย่อ กับครั้งหน้า 1 วันอันคุ้มค่า ที่ เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก
[/i]
แก้ไขล่าสุดโดย Extream Aggressor เมื่อ Wed Aug 12, 2015 22:00, ทั้งหมด 2 ครั้ง
28
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
nothingluv
,
skunkslazy
,
TarO Indy
,
fullmoon189
,
Jules et Jim
,
share
,
_น้ำแข็งใส_
,
Jackanapes
,
ไก่ริมน้ำปิง
,
jojo_joestar
,
joe_liverse
,
supercamo
,
nerbnarb
,
WHY NOT
,
Stevie Goal
,
jofromhell
,
zerossi
,
MoOAoNZz
,
Juk_Grooo
,
toffyman
,
jirayun
,
schlampe
,
bitboyxx
,
loveontherock
,
jocky219
,
Joe_Namwong
,
i7-PM
,
Balotelli
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
Tweet
My Locker
ออฟไลน์
TarO Indy
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 May 2010
ตอบ: 86
ที่อยู่:
โพสเมื่อ:
Mon Aug 10, 2015 20:36
[RE: ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 6)]
เยี่ยม
รออยู่นานล่ะว่าจะมาเมื่อไหร่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออนไลน์
มายฮาร์ทโกชาลาลาลาลา
ผู้ช่วยแมวมอง
Status:
: 1 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Mar 2008
ตอบ: 13017
ที่อยู่:
โพสเมื่อ:
Mon Aug 10, 2015 21:03
[RE: ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 6)]
แหล่ม
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออฟไลน์
Jules et Jim
ดาวเตะลา ลีกา
Status: สวัสดีชปช SAFC (Since 2004- ) +
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Jan 2011
ตอบ: 17456
ที่อยู่:
โพสเมื่อ:
Mon Aug 10, 2015 21:28
[RE: ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 6)]
อ่านทุกตอน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
aboutFriday.com - Lifestyle, Movies, Music, Opinion, History, Travel
My Locker
แว่นตา Ray-Ban เสริมความเท่ ในหนังเรื่องต่างๆ
นักแสดงชาย ฮอลลีวู้ด ที่อายุ 60 กว่าๆ แล้วยังดูดี...
ออฟไลน์
nothingluv
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Apr 2009
ตอบ: 1793
ที่อยู่: หลังมอ
โพสเมื่อ:
Mon Aug 10, 2015 21:47
[RE: ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 6)]
สุดยอดประสบการณืเลยครับ ผมนี้ต้องไปอ่านตั้งแต่ตอนแรกมาเลย สนุกมาครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออฟไลน์
jojo_joestar
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Nov 2007
ตอบ: 22198
ที่อยู่: กันไป...เพราะคำว่ารัก...และเป็นคนดี
โพสเมื่อ:
Mon Aug 10, 2015 22:24
[RE: ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 6)]
สุดยิดๆ moscow นี่ ใกล้ๆ macau ปะครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออฟไลน์
LONGGUN
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3374
ที่อยู่: Highbury
โพสเมื่อ:
Mon Aug 10, 2015 23:30
[RE: ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 6)]
รวมทั้งหมดแล้ว ท่านใช้เงินไปทั้งหมดกี่บาท และอยู่กี่วันครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง
My Locker
ออฟไลน์
Extream Aggressor
ตำรวจบอร์ด
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jul 2009
ตอบ: 23
ที่อยู่: Be as you were when we met
โพสเมื่อ:
Tue Aug 11, 2015 10:03
[RE: ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 6)]
LONGGUN พิมพ์ว่า:
รวมทั้งหมดแล้ว ท่านใช้เงินไปทั้งหมดกี่บาท และอยู่กี่วันครับ
11 วันครับ นับตั้งแต่เดินทางออกจากไทย (ลาได้แค่นั้น จริงๆ ควรไปอย่างน้อยๆ 15-20 วัน) ใช้เงินไปประมาณ 6 หมื่น ครับ แต่ถ้าให้ไปอีกรอบ ผมทำงบได้น้อยกว่านี้มาก น่าจะอยู่ราวๆ 4 หมื่นนิดๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออนไลน์
toffyman
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Feb 2010
ตอบ: 14884
ที่อยู่:
โพสเมื่อ:
Fri Aug 14, 2015 10:10
[RE: ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 6)]
ยกนิ้วให้เลยครับ ประสบการณ์ที่น่าจดจำของคนเขียนและเพื่อนๆ และยังได้แบ่งปันประสบการณ์กับภาพสวยๆมาให้เพื่อนในนี้ได้เห็น ได้เสพกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
evertonian
My Locker
ออฟไลน์
Nekken_13
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Aug 2007
ตอบ: 110
ที่อยู่: Walailak U.
โพสเมื่อ:
Mon Aug 17, 2015 17:01
[RE: ประสบการณ์แบกเป้ ขึ้นรถไฟ สาย Trans Siberian (ตอนที่ 6)]
ติดตามมาตั้งแต่แรก สนุกมากครับ .. ไม่นานผมจะไปให้ได้ :) ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกบอร์ด
>>
บอร์ดวาไรตี้
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:
ประเภท:
Submit
Cancel