พระราชวังสมัยราชวงศ์โชซอน

[/youtube]
ราชวงศ์โชซอนนั้นมีพระราชวังที่อยู่ในเมืองหลวงทั้งหมดห้าแห่ง คือ
-พระราชวังคยองบก หรือ เคียงบก (เกาหลี: 경복궁) พระราชวังหลวงและพระราชวังหลักของกษัตริย์ราชวงศ์โชซอน ตั้งอยู่ที่ตอนเหนือของกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี เป็นหนึ่งในห้าพระราชวังใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยราชวงศ์โชซอน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1937 (ค.ศ. 1394) โดย ชองโดจอน (정도전) และได้กลายเป็นพระราชวังหลวงหรือวังหลักสำหรับประทับว่าราชการของกษัตริย์ และเหล่าเชื้อพระวงศ์ของเกาหลีมาโดยตลอด และได้รับการต่อเติมโดยพระเจ้าแทจงและพระเจ้าเซจงมหาราช แต่บางส่วนของพระราชวังนั้นถูกเพลิงเผาวอดในช่วงที่ญี่ปุ่นบุกประเทศเกาหลี
พระราชวังมีเนื้อที่ 5.4 ล้านตารางฟุต โดยในช่วงต้นราชวงศ์โชซอนมีตำหนักอาคารมากถึง 200 อาคาร กระทั่งปี พ.ศ. 2135 ที่กองทัพญี่ปุ่นบุกรุกประเทศเกาหลี ตำหนักต่างๆ ได้ถูกทุบทำลาย ถูกเผาทิ้งไปเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะได้รับการบูรณะซ่อมแซม และสร้างพระราชวังขึ้นมาใหม่ในแบบฉบับเดิม โดยในปัจจุบันมีตำหนักทั้งสิ้น 10 ตำหนัก [1]
คำว่า "เคียงบกกุง" ในภาษาเกาหลี แปลว่า "พระราชวังแห่งพรที่ส่องสว่าง (The Palace of Shining Blessings)"

-พระราชวังชางด๊อกกุง พระราชวังตะวันออก หรือ พระราชวังชางด๊อก หนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดในเกาหลี สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแทจงแห่งราชวงศ์โชซอน เมื่อปี พ.ศ. 1948 (ค.ศ. 1405) แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 1955 (ค.ศ. 1412) ด้วยเหตุที่พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระราชวังเคียงบก (Kyeongbok Palace) ผู้คนจึงเรียกพระราชวังแห่งนี้ว่าพระราชวังตะวันออก (East Palace)
ต่อมาในรัชกาลพระเจ้าซอนโจ กษัตริย์องค์ที่ 14 ของราชวงศ์ยังได้โปรดให้ขยายสนามหญ้าของพระราชวังเป็น 500,000 ตารางเมตร
ในปี พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1592) ขุนศึกญี่ปุ่น โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิได้เข้ารุกรานเกาหลี กินเวลายาวนานถึง 7 ปี พร้อมกับเผาทำลายพระราชวัง ซึ่งในปีนี้เองเป็นปีที่ฉลองครบรอบ 200 ปีแห่งการสถาปนาราชวงศ์
หลังจากผ่านสงคราม 7 ปีไปแล้ว พระราชวังก็ได้รับการบูรณะขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2152 (ค.ศ. 1619) โดยพระเจ้าซอนโจ และองค์ชายควางแฮกุน แต่อีก 4 ปีต่อมา พระราชวังกลับเกิดเพลิงเผาวอดอีกครั้ง ในเหตุจราจลที่ขุนนางไม่พอใจองค์ชายควางแฮและก่อการยึดอำนาจ สถาปนาองค์ชายนึงยางขึ้นเป็นพระเจ้าอินโจ พร้อมกับเนรเทศองค์ชายควางแฮไปเกาะคังฮวา
พระราชวังถูกโจมตีอีกครั้งโดยพวกแมนจูหรือราชวงศ์ชิงของจีน แต่หลังจากนั้นพระราชวังก็ได้รับการสร้างใหม่ให้อยู่ในสภาพดั้งเดิม
ชางด๊อกกุงได้ใช้เป็นที่ประทับขององค์กษัตริย์ ที่ว่าราชการ และที่ทำงานของขุนนางข้าราชการจนถึงปี พ.ศ. 2415 (ค.ศ. 1872) เมื่อพระราชวังเคียงบกซึ่งอยู่ข้างเคียงได้รับการสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งโดยสมเด็จพระจักรพรรดิซุนจง แต่อย่างไรก็ตามกษัตริย์พระองค์สุดท้ายของเกาหลีพระองค์นี้ก็ได้เสด็จมาประทับที่ชางด๊อกกุงเรื่อยมากระทั่งสวรรคตในปี พ.ศ. 2469 (ค.ศ. 1926)
พระราชวังแห่งนี้ได้เป็นฉากหลังในซีรีส์เกาหลีเรื่องแดจังกึมจอมนางแห่งวังหลวง
โซล บีวอน
ในปัจจุบัน เชื้อพระวงศ์และราชวงศ์เกาหลี ที่ปัจจุบัน ยังไม่มีความเป็นประมุขประเทศอย่างเป็นทางการ นั้น ถ้าในอนาคต สถาบันกษัตริย์เกาหลีถูกฟื้นขึ้นในฐานะสัญลักษณ์(ระบอบประชาธิปไตยอันมี สมเด็จพระจักรพรรดิเป็นประมุข) สถานที่แห่งนี้น่า เป็นสถานที่ใช้ในการประกอบพิธี การขึ้นครองราชย์ อีกครั้ง ของสถาบันกษัตริย์เกาหลี

-พระราชวังต๊อกซูกุง พระราชวังตะวันตก พระราชวังต๊อกซู เป็นหนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดของ ราชวงศ์โชซอน และ เกาหลี เดิมพระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของ องค์ชายวอลซาน พระเชษฐาใน พระเจ้าซองจง หรือ องค์ชายชาซาน โดยในระหว่าง สงครามเจ็ดปี ที่นี่ได้กลายเป็นพระราชวังหลวงโดย พระเจ้าซอนโจ เป็นกษัตริย์องค์แรกที่เสด็จมาประทับที่พระราชวังแห่งนี้และ องค์ชายควางแฮกุน ได้ทรงสวมมงกุฎที่นี่เมื่อ ค.ศ. 1608 (พ.ศ. 2151) และทรงได้เปลี่ยนชื่อพระราชวังแห่งนี้เป็น พระราชวังยอนกุนกุง (경운궁, 慶運宮)ในปี ค.ศ. 1611 (พ.ศ. 2154)หลังจากทางราชสำนักได้กลับไปสร้าง พระราชวังชางด๊อกกุง ขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1618 (พ.ศ. 2161) พระราชวังแห่งนี้ก็ได้เป็นพระราชวังรองตลอด 270 ปี (ค.ศ. 1618-1888) และได้เปลี่ยนชื่อเป็น ซอกุง (พระราชวังตะวันตก) ต่อมาในปี ค.ศ. 1897 (พ.ศ. 2440) หลังจากเกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองแล้ว พระเจ้าโกจง ได้ทรงลี้ภัยเข้าไปประทับใน สถานทูตรัสเซีย หลังจากนั้นพระองค์ได้กลับมาประทับ ที่พระราชวังแห่งนี้และได้เปลี่ยนชื่อเป็นยอนกุนกุงอีกครั้งหลังจากทรงย้าย กลับมาประทับที่พระราชวังแห่งนี้แล้วทรงโปรดให้มีการขยายและเพิ่มเติมสิ่ง ้อำนวยความสะดวกในพระราชวังหลังจากทรงสละราชสมบัติให้ สมเด็จพระจักรพรรดิซุนจง พระราชโอรสก็ทรงประทับที่พระราชวังแห่งนี้และ้ได้เปลี่ยน ชื่อพระราชวังเป็น พระราชวังต๊อกซูกุง จนถึงทุกวันนี้และมีเรื่องเล่าอ้างอิงว่าทรงอธิษฐานให้ทรงมีพระชนม์ชีพที่ยาวนานและทรงใช้พระชนม์ชีพ ้ที่เหลือประทับที่ ฮัมเนียงจอน โดยปัจจุบันนี้พระราชวังต๊อกซูกุงได้เป็นพิพิธภัณฑ์มีสวนป่าและมี พระบรมรูป พระเจ้าเซจงมหาราช

-พระราชวังชางเกียงกุง พระราชวังฤดูร้อน หรือ พระราชวังชางเกียง หนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดใน เกาหลี ตั้งอยู่ในกรุง โซล ประเทศ เกาหลีใต้ เดิมเป็น พระราชวังฤดูร้อน ของกษัตริย์ ราชวงศ์โครยอ กระทั่ง พระเจ้าเซจงมหาราช มีดำริที่จะสร้างพระราชวังถวายแก่พระราชบิดาคือ พระเจ้าแทจง แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2026 ในรัชสมัย พระเจ้าซองจง ทรงโปรดให้บูรณะซ่อมแซมและขยายอาณาเขตของพระราชวัง และในปี พ.ศ. 2295 ได้มีกษัตริย์องค์หนึ่งประสูติ ณ พระราชวังแห่งนี้คือ พระเจ้าจองโจ หรือ องค์ชายลีซาน และระหว่างยุคล่าอาณานิคมของญี่ปุ่น พวกญี่ปุ่นได้สร้างสวนสัตว์ สวนสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์ไว้ที่นี่ จนในปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ได้มีการย้ายสวนสัตว์และสวนสาธารณะออกไปเหลือแค่พิพิธภัณฑ์เท่านั้น

-พระราชวังคยองฮึยกุง พระราชวังใต้ หรือ พระราชวังเคียงฮึย เป็นหนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดของราชวงศ์โชซอนและเกาหลีพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ สร้างในช่วงราชวงศ์โชซอนตอนปลายและพระราชวังแห่งนี้ได้เป็นพระราชวังแห่งที่ 2 ขององค์พระมหากษัตริย์ โดยพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของโซล จึงเรียกว่า ซอกโวล (พระราชวังตะวันตก) โดยตั้งแต่รัชกาลพระเจ้าอินโจ - พระเจ้าชอลจง เป็นเวลา 10 รัชกาลที่ประทับที่นี่

-ป้อมฮวาซอง ป้อมที่ใหญ่ที่สุดในราชวงศ์โชซอน (Hwaseong Fortress) ตั้งอยู่ที่เมืองซูวอน ประเทศเกาหลีใต้สร้างขึ้นในช่วง ค.ศ. 1794 - 1796 โดยพระเจ้าจองโจแห่งราชวงศ์โชซอน เพื่อใช้เป็นที่ประทับและเป็นที่ฝังพระศพขององค์ชายรัชทายาทจังฮอน (องค์ชายซาโด) ที่ถูกพระบิดาคือพระเจ้ายองโจซึ่งเป็นพระอัยกาของพระเจ้าจองโจลงโทษโดยการขังองค์ชายไว้ในถังข้าว ให้อดข้าวอดน้ำพอผ่านไป 7 วันจนสิ้นพระชนม์ภายในถังข้าว
ป้อมฮวาซองมีพืนที่ถึง 30 ตารางกิโลเมตรโดยตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงโซล (พ.ศ. 2540)
เคดิต:
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=811383302271844&id=365098623566983&substory_index=0
เพจนี้สาระประวัติศาตร์เพียบไปไลค์กันได้