ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Nov 2013
ตอบ: 4906
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 01, 2015 00:23
ถูกแบนแล้ว
[RE: 3-4-3 กำลังถูกจับทางได้ ?]
3-4-3จิงๆมันก็3-5-2ดีๆอ่าคับ แค่มันแค่เปลี่ยนจากกลางรุก เป็นหน้าอีกคนเท่านั้นเอง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Sep 2013
ตอบ: 929
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 01, 2015 13:54
[RE: 3-4-3 กำลังถูกจับทางได้ ?]
นัดหลังๆที่ไม่ชนะ ผลมาจากตำแหน่งของ ราฮีม สักครึ่งนึงของเหตุผลนะสำหรับผม
แดนหน้าไม่ได้เรื่องเลย เมื่อไม่มี ราฮีม คอยป่วน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jan 2010
ตอบ: 76
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 01, 2015 22:49
[RE: 3-4-3 กำลังถูกจับทางได้ ?]
Spoil
ไร้สาระ พิมพ์ว่า:
พ่ายแพ้ให้กับ 3-4-3 ของ FC Basle
ย้อนกลับไปในค่ำคืน champions leagueที่ลิเวอร์พูลออกไปเยือนบาเซิล คืนนั้นเปาโล ซัวซ่าต้องทำการปรับแทคทิคตั้งแต่นาทีที่4ของเกม
จากการบาดเจ็บของซาฟารี่(แบ็กซ้าย) ทำให้ซัวซ่าปรับมาเล่นในระบบหลัง 3 โดยส่ง เดอลิส กอนซาเลส(กลางรุก)มาเล่นเป็นวิงแบ็คขวา
นั่นน่าจะเป็นครั้งแรกในฤดูกาลที่ร็อดเจอรส์ต้องรับมือกับแผน 3-4-3 และอย่างที่รู้ๆกัน หงส์แดงก็ถูกยัดเยียดความพ่ายแพ้ไปตามระเบียบ

แผนเดิมไม่เวิร์คอีกต่อไป
หลายๆคนคงยังพอจำกันได้ว่าช่วงนั้นร็อดเจอรส์กำลังโดนกดดันอย่างหนัก นอกจากฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่แล้วยังมีเรื่องของ
การหาตำแหน่งที่ลงตัวให้กับสตีเว่น เจอร์ราด รวมถึงความผิดพลาดในการซื้อตัวบาโลเตลลี่ แฟนหงส์แดงหลายคนเริ่มหมดศรัทธาในตัวเขา
จนถึงขนาดมีการยกความดีความชอบของผลงานอันสุดยอดของฤดูกาลที่แล้วให้แก่ระบบซัวเรส

ร็อดเจอรส์ออกสตาร์ทช่วงต้นฤดูกาลด้วยระบบที่เขาถนัด ระบบที่เขาฝึกฝนวิชามาตั้งแต่สมัยคุมเรดดิ้งและสวอนซี นั่นคือ 4-3-3หรือ4-2-3-1
จนกระทั่งช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้วเราได้เห็นแผน 4-4-2 ไดม่อนซึ่งให้กำเนิดคู่หัวหอกเจ้าของฉายา SAS นั่นเอง

การจากไปของคู่หัวหอก SAS ทำให้ร็อดเจอรส์ต้องกลับมาใช้ระบบที่เขาถนัดอีกครั้ง แต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างซึ่งผมคงไม่พูดในหัวข้อนี้ ระบบพวกนั้นมันไม่เวิร์คอีกแล้ว ร็อดเจอรส์จึงจำเป็นต้องแสดงความเป็นอัจฉริยะลูกหนังของเขาอีกครั้ง

เชื่อว่าร็อดเจอรส์ยังคงจำได้ดีว่าการรับมือกับระบบ 3-4-3 นั้นมันยากขนาดไหน และมันคงมีส่วนไม่มากก็น้อย ทำให้เขาตัดสินใจทดลองใช้แผนนี้ และคงไม่มีแมตช์ไหนจะเหมาะสำหรับการทดลองแผนไปกว่าเกมแดงเดือด

ถึงแม้เกมจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 3-0 แต่เชื่อว่ามันคงเป็นความพ่ายแพ้ที่น่าพอใจที่สุดสำหรับร็อดเจอรส์ เพราะระบบนี้สามารถตอบโจทย์สิ่งที่ลิเวอร์พูลขาดไปในครึ่งฤดูกาลแรกได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือความเร็วในแดนหน้า ด้วยการสนับสนุนจากคูคินโญ่และลัลลาน่า
ทำให้สเตอร์ลิ่งมีโอกาสจบสกอร์มากกว่านักเตะทุกคนในสนาม ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีมาก
และหลังจากนั้น คงไม่ต้องแปลกใจกับสถิติไม่แพ้ใครเลยในลีคตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา

เริ่มถูกจับทางได้ ???
ถึงแม้สถิติจะดูดีมากๆก็ตาม แต่หากเรามองดูรูปเกมในช่วง 3 นัดหลังสุด เชื่อว่าแฟนๆหงส์แดงก็คงจะไม่พอใจเท่าไหร่แน่
เริ่มจากแบล็คเบิร์นของแกรี่ โบวเยอร์ที่บุกมาหยุดความร้อนแรงของหงส์แดงถึงแอนฟิลด์
โบวเยอร์นั้นรู้ดีว่าจุดแข็งของลิเวอร์พูลคือการขึ้นเกมจากแดนหลัง แต่ในทางตรงกันข้าม นั่นอาจจะแปลได้ว่า
ลิเวอร์พูลมีทางขึ้นเกมบุกได้แค่ทางเดียวเท่านั้น สิ่งที่โบวเยอร์ต้องทำก็คือ ปิดทางขึ้นเกมนั้นซะ บีบให้ลิเวอร์พูลขึ้นเกมได้ช้า
หรือต้องเลือกที่จะโยนยาว (ซึ่งเป็นจุดอ่อน)


ขณะตั้งรับโบวเยอร์จะขยับสองมิดฟิลด์ลงไปประกบคูตินโญ่และลัลลาน่าแล้วใช้สองศูนย์หน้าถอยลงมาประกบชานและเฮนโด้
ซึ่งนับว่าได้ผลมากทีเดียว ตลอดทั้งเกมลิเวอร์พูลขึ้นได้บอลช้ามาก กว่าบอลจะไปถึงสเตอร์ริดจ์ก็แทบไม่มีพื้นที่ให้เล่นแล้ว

เนื่องจากระบบของร็อดเจอรส์มีตัวริมเส้นแค่ตัวเดียวก็คือวิงแบ็ค โบวเยอร์จึงจัดแผนที่มีตัวริมเส้น2ตัว
ทำให้ตลอดทั้งเกมสเตอร์ลิ่งและลัลลาน่าต้องโดนรุม 2 ตลอด ขณะเดียวกันสเตอร์ริดจ์ก็ถูกคู่เซ็นเตอร์คอยสลับกันมาประกบตลอด

ย้อนกลับไปในเกมแดงเดือดนัดแรกของฤดูกาล เป็นครั้งแรกที่ร็อดเจอรส์ใช้แผน 3-4-3 ในเกมนั้นเราได้เห็นวิงแบ็คทั้งสองข้างของลิเวอร์พูลสร้างความผิดพลาดในการเล่นเกมรับตลอดทั้งเกมจนเป็นที่มาของประตู1-0และ2-0
โดยเฉพาะโมเรโน่ ที่ดูจะไม่เข้าใจบทบาทของตัวเองในเกมรับ อย่างเช่นจังหวะนี้โมเรโน่หลุดตำแหน่ง ทำให้มิดฟิลด์ของหงส์แดง
เจอร์ราดและอัลเลนต้องขยับออกมาปิดพื้นที่ จนทิ้งที่ว่างตรงกลางให้รูนี่ย์วิ่งเข้ามายิงสบายๆ

จากแดงเดือดนัดแรกจนมาถึงนัดที่สอง แน่นอนว่าเราคาดหวังที่จะเห็นพัฒนาการในจุดนี้ แต่ไม่เลย โมเรโน่ยังคงแสดงให้เห็นถึงความอ่อนเกมรับ จังหวะนี้สังเกตจะเห็นว่าสเตอร์ลิ่งในตำแหน่งวิงแบ็คขวาเติมสูงมาก ทำให้3เซ็นเตอร์ของลิเวอร์พูลของขยับไปปิดพื้นที่
และก็เป็นโมเรโน่อีกแล้วที่ดันสูงเปิดพื้นที่ให้มาต้าเล่นง่ายๆ แต่ทั้งหมดนี้ใช่ความผิดของเขาจริงหรือ ?

เคยมีการวิเคราะห์เอาไว้ว่าด้วยระบบ 3-4-3 ขณะตั้งรับวิงแบ็คสองข้างจะลงมาช่วยเกมรับ ทำให้กลายเป็นหลัง5คน ซึ่งในทางทฤษฎีมันฟังดูดีมากๆเลยทีเดียว แต่ในความเป็นจริงก็อย่างที่ได้ยกตัวอย่างให้เห็นกันแล้ว ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะมีวิงแบ็คกี่คนบนโลกนี้ที่เล่นได้ทั้งรุกและรับโดยไม่สร้างความผิดพลาดเลยตลอดทั้งเกม

สิ่งที่ต้องพิจารณาคือในระบบ 3-4-3 ของร็อดเจอร์ มิดฟิลด์ตัวรุก2คนจะเน้นคุมพื้นที่ตรงกลางสนามมากกว่า นั่นทำให้พื้นที่ด้านข้างทั้งหมดจะมีวิงแบ็ครับผิดชอบคนเดียวทั้งรุกและรับ ให้เห็นภาพมากขึ้นต้องบอกว่าวิงแบ็คยามบุกก็ต้องเจอกับแบ็คและปีกของฝั่งตรงข้ามที่ลงมาช่วยรับ ยามตั้งรับก็ต้องประกบทั้งปีกและแบ็คที่เติมเกมบุก ไม่ใช่งานง่ายเลยจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อคุณเอานักเตะอย่าง สเตอร์ลิ่ง มาร์โควิช ที่เป็นตัวรุกแถมยังอ่อนประสบการณ์ไปรับผิดชอบหน้าที่แบบนั้น

ซึ่งผมเชื่อว่าร็อดเจอรส์รู้ถึงปัญหานี้ดี แต่น่าเสียดายที่หลายๆครั้งเขาตัดสินใจแก้ไขปัญหานี้โดยการเปลี่ยนวิงแบ็คออก แล้วเอาคนใหม่ไปเล่นแทน ผมคงไม่กล้าบอกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ผิด แต่มันเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือเปล่า

จังหวะนี้จะเห็นว่าพื้นที่รับผิดชอบของมาร์โควิชถูกโจมตีโดยปีกและแบ็ค มาร์โควิชกำลังประกบแบ็คอยู่ ทำให้จอห์นสันต้องขยับออกมาช่วยประกบปีก แต่ดันพลาดทำให้ปีกแบล็คเบิร์นหลุดไป ตูเร่ต้องขยับออกมาช่วยกันอีกคน ตอนนี้จะเห็นว่าเซ็นเตอร์2จาก3คน หลุดตำแหน่งออกมาช่วยเกมรับริมเส้นกันหมด เหลือลอฟเรนคนเดียว ถามว่าจังหวะนี้เป็นเพราะความกากของมาร์โควิชรึเปล่า ก็อาจจะใช่แต่ไม่ทั้งหมด
ในสถานการณ์แบบนี้คุณคาดหวังให้ดาวรุ่งที่เล่นในตำแหน่งตัวรุกทำได้ดีขนาดไหนล่ะ

ความหลากหลายน้อยเกินไป
หากสังเกตดูอีก จะเห็นได้ว่าคู่มิดฟิลด์และวิงแบ็คของหงส์แดงจะมีหน้าที่เพียงช่วยลำเลียงบอลเท่านั้น
เกมรุกทั้งหมดจะตกไปอยู่ที่กลางรุก2คน ซึ่งก็มักจะใช้บอลทะลุช่องในการโจมตีเป็นหลัก โดยเป้าหมายมีเพียงศูนย์หน้าคนเดียว
ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลถูกจับทางได้ง่ายมาก

ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว หลายๆครั้งลูกทีมของร็อดเจอรส์ก็ต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ เมื่อทีมฝั่งตรงข้ามวางแผนมาจัดการกับระบบของร็อดเจอรส์ได้ แต่สิ่งที่พวกเขามีในฤดูกาลที่แล้วคือ 'ความหลากหลาย' นอกจากลูกโอเพนเพลย์แล้ว ลิเวอร์พูลยังมีทีเด็ดจากลูกเซทพีซ
ฟรีคิกโดยซัวเรสและเจอร์ราด เตะมุมโดยเจอร์ราด รวมถึงจุดโทษเช่นกัน หงส์แดงเป็นทีมที่ได้จุดโทษมากที่สุดในฤดูกาลที่แล้ว(12ครั้ง) ไม่ใช่เพราะพุ่งล้มเยอะแต่อย่างใด แต่ด้วยการที่มีสามแนวรุกอย่าง ซัวเรส สเตอร์ริดจ์ สเตอร์ลิ่ง พวกนี่้เป็นจอมลากเลี้ยงที่ทะลุทะลวงได้ดี
จึงไม่แปลกที่จะถูกทำฟาวล์ในเขตโทษเยอะ

แต่กลับกันในฤดูกาลนี้กลางรุก2คน ทำหน้าที่เป็นตัวซัพพอร์ตมากกว่า ทิ้งให้ศูนย์หน้าโดนประกบอยู่คนเดียว ทำให้โอกาสได้จุดโทษน้อยลงไปด้วย ตัวยิงฟรีคิกอย่างเจอร์ราดก็นั่งสำรองซะส่วนใหญ่ คนที่พอจะยิงได้อย่างบาโลเตลี่ก็สำรองเช่นกัน จึงไม่เหลือมือยิงฟรีคิกในสนามเลย ส่วนการเตะมุม เมื่อไม่มีเจอร์ราดอยู่ในสนามก็ไม่มีใครเปิดได้แม่นพอ เตะมุมกลายเป็นเตะทิ้งขว้างไปซะหมด

อีกสิ่งนึงที่ลิเวอร์พูลในยุคของร็อดเจอรส์ขาดมาตลอดคือการยิงไกล แน่นอนโดยเฉพาะจากแดนกลาง
ซึ่งชุดนี้ถึงแม้จะนับรวมเจอร์ราดก็ยังนับว่าเป็นจุดอ่อน จริงอยู่ที่มันเริ่มมีสัญญาณดีๆจากลูกยิงไกลของคูตินโญ่และเฮนโด้
แต่มันก็ยังไม่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทีมต้องการลูกยิงไกลมากที่สุดอย่างเกมกับสวอนซีหรือแมนยู

รักษาเส้นทางลุ้นท็อปโฟร์
หากยังอยากรักษาเส้นทางการติดท็อปโฟร์เอาไว้ ร็อดเจอร์มีทางเลือกไม่มากเลยจริงๆ แต่เชื่อว่าอาร์แซน เวนเกอร์
กำลังศึกษาวิธีการเล่นของทีมที่สามารถหยุดแผน 3-4-3 ของร็อดเจอรส์อยู่แน่ๆ แฟนๆหงส์แดงก็คงได้แต่ภาวนาว่าหลังช่วงเบรคทีมชาตินี้
ร็อดเจอรส์จะค้นพบวิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้ก่อนที่เวนเกอร์จะทำได้

อย่างที่บอก ร็อดเจอรส์สมควรได้รับเครดิตทั้งหมดในการนำแผน 3-4-3 มาใช้ ทำให้ทีมกลับสู่เส้นทางการลุ้นติดท็อปโฟร์
แต่ตอนนี้ร็อดเจอรส์อาจจะต้องทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอีกครั้ง เพื่อรักษาเส้นทางการลุ้นท็อปโฟร์ไว้ให้นานที่สุด
เพราะคงไม่มีเดอะค็อปคนไหนอยากได้ยินคำว่า 'ปีหน้าเราจะกลับมา' อีกแล้ว  
 

อยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ
เฉพาะตำแหน่งวิงแบค
จะโทษโมเรโน่ก็ไม่ถูกคับ เพราะปรกติลิเวอร์ถนัดเกมเพรสซิ่งสูง
บีบกลางอย่าให้เขาเล่นได้ ปรกติกลางตัวรุกจะต้องบีบกองกลางของฝ่ายตรงข้าม
วิงแบคต้องกดดันฟูแบคฝ่ายตรงข้ามไม่ให้ขึ้นได้ง่ายๆ ส่วนกองกลางต้องรักษาพื้นที่
ลูกที่เสียให้แมนยูลูกแรก เพราะ เฮนเดอร์สันหลุดตัวประกบพี่ฟู
มาต้าว่างเนื่องจากซาโก้ประกอบห่าง บางที่อาจจะไม่สังเกตุเห็น
แต่ผู้รักษาประตูต้องคอยสั่ง หรือออกมาไวกว่านี้

ส่วนการแก้เกมที่ถูกจับทางได้ รอดเจอร์ทำให้เห็นแล้วในนัดสวอนซี
นัดพบสวอนซี ครึ่งแรกเกือบโดนไปหลายลูก ซึ่งสวอนซีมาแนวเดียวกับแบล็คเบิร์น
สวอนซีบีบกลางเร็วแต่ยังไม่ขาดละไม่หนักทำให้ โจ อันเลนองค์ลง
ครึ่งหลังร็อดเจอร์ปรับแผน เพิ่มกลางจากการยืน 3-4-3(ผมมอง3-4-2-1) เป็น 3-1-4-1-1
ช่วยในการถ่ายบอลได้ง่ายขึ้นจากการถูกบีบกลางเร็ว ครองบอลได้มากขึ้น
ทำให้เกมบุกได้บุกมาขึ้นเท่ากับว่า ลิเวอร์พูลได้เล่นเพรสซิ่งไว้ขึ้น

ผมคาดว่านัดหน้าน่าจะเห็นแผน 3-1-4-1-1 แต่มันเสียงมาก
กับการถูกเจาะถ้าฝ่ายตรงข้ามเอากองหน้าลงมา 2 คน

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Jan 2011
ตอบ: 1606
ที่อยู่: Kingslanding
โพสเมื่อ: Thu Apr 02, 2015 03:11
[RE: 3-4-3 กำลังถูกจับทางได้ ?]
boonchanin พิมพ์ว่า:

 

1. ผมไม่ได้จะโทษโมเรโน่เลยนะ แต่จะสื่อว่าความผิดพลาดหลายๆครั้งที่มันเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของวิงแบ็ค มันไม่ใช่ความผิดของนักเตะเลย แต่มันเป็นจุดอ่อนของแทคติคต่างหาก
2.ลูกที่เสียให้แมนยู จะบอกว่าเฮนโด้พลาดประกบฟู ก็อาจมีส่วน แต่ถ้าจะบอกว่าคนที่ควรประกบมาต้าคือซาโก้นี่ไม่น่าใช่

นี่คือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นถ้าซาโก้ฉีกออกมาประกบมาต้า จะเห็นว่าเกิดช่องว่างระหว่างซาโก้กับสเคอเทล เอร์เรร่าจะหลุดเข้าไปยิงโล่งๆ
จังหวะนี้คนที่ต้องรับผิดชอบมาต้ามีคนเดียวก็มือโมเรโน่นั่นแหละ แต่ผมไม่โทษเค้านะเพราะแกถูกร็อดเจอรส์สั่งมาให้ดันสูง
เดาว่าLVG ก็คงจะวางแผนมาเล่นงานตรงจุดนี้แหละ เพราะนัดแรกก็แบบนั้น
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jan 2010
ตอบ: 76
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Apr 02, 2015 04:17
[RE: 3-4-3 กำลังถูกจับทางได้ ?]
Spoil
ไร้สาระ พิมพ์ว่า:
boonchanin พิมพ์ว่า:

 

1. ผมไม่ได้จะโทษโมเรโน่เลยนะ แต่จะสื่อว่าความผิดพลาดหลายๆครั้งที่มันเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของวิงแบ็ค มันไม่ใช่ความผิดของนักเตะเลย แต่มันเป็นจุดอ่อนของแทคติคต่างหาก
2.ลูกที่เสียให้แมนยู จะบอกว่าเฮนโด้พลาดประกบฟู ก็อาจมีส่วน แต่ถ้าจะบอกว่าคนที่ควรประกบมาต้าคือซาโก้นี่ไม่น่าใช่

นี่คือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นถ้าซาโก้ฉีกออกมาประกบมาต้า จะเห็นว่าเกิดช่องว่างระหว่างซาโก้กับสเคอเทล เอร์เรร่าจะหลุดเข้าไปยิงโล่งๆ
จังหวะนี้คนที่ต้องรับผิดชอบมาต้ามีคนเดียวก็มือโมเรโน่นั่นแหละ แต่ผมไม่โทษเค้านะเพราะแกถูกร็อดเจอรส์สั่งมาให้ดันสูง
เดาว่าLVG ก็คงจะวางแผนมาเล่นงานตรงจุดนี้แหละ เพราะนัดแรกก็แบบนั้น  
 

ใช่ๆคับ ผมก็คิดเหมือนกันนะครับว่าเป็นข้อเสียของแทคติกนี้
เมื่อปีกของเขาออกมาด้านกว้างมากๆ ทำให้มีพื้นที่ในการเล่นมากคับ
พอวิงแบคดันสูง(ตามแทคติกร็อดเจอร์)
ถ้าโดนเปลี่ยนฟากเร็ว คงเป็นดังรูป มีผลถึงเสียประตู

พอดูรูปก็น่าคิดอยู่นะคับว่า เฮอเรร่าว่างมากและดันขึ้นสูง
อันเลนกับเฮนเดอสัน ดันไปอยู่กับพี่ฟูหมดเลย
ปรกติคนที่กดดันเฮอเรร่า มันน่าที่ใครหว่าจะให้กลางรุกไปไล่ก็ใช่เรื่อง
แต่ตอนเฮอเรร่าได้บอล ถ้ามันคิดจะเลี้ยง
อลันยังตามมาทันอยู่นะคับ คงไม่ถึงกลับหลุดง่ายๆ
Spoil

ขอแซวหน่อยคับ ผมว่านะจะตัดต่อซาโก้ไปประกบมาต้ามากไปนะ ความจริงผมคิดว่าเอาแบบกลางๆ(ขยับขึ้นมาบนพื้นที่สีเขียวอ่อนเกือบๆติดเขียงเข้มอีกขั้นนิดคับ)แบบน่าทันพอทีจะชะลอเกมบุกเขาหน่อย  
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Sep 2013
ตอบ: 929
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Apr 02, 2015 09:18
[RE: 3-4-3 กำลังถูกจับทางได้ ?]
ต้องชมแมนยูฯอ่ะถูกต้องที่สุดแล้ว อ่านเกมส์หงส์ทะลุ มาเล่นยืนกันห่างๆเต็มพื้นที่ ส่งบอลกันง่ายๆ ใช้พี่ฟูได้ประโยชน์สุดๆ กลางหงส์เอาไม่อยู่ เสียดาย เขาต้องเจอเจิดเท่านั้น...เสียดายๆ
แก้ไขล่าสุดโดย owlnik เมื่อ Thu Apr 02, 2015 09:19, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
Onion Member
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Sep 2005
ตอบ: 1333
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Apr 02, 2015 11:11
[RE: 3-4-3 กำลังถูกจับทางได้ ?]
เขียนได้ดีครับ เห็นภาพ...........เอ๊ะก็มันมีภาพให้ดูด้วยนี่หว่า

เอาเป็นว่าคิดตามแล้วเห็นด้วยครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน



บอลไทยไม่ว่าใครก็เชียร์ได้ แค่มี"จิตสำนึก"ในการเชียร์

แผล่บมาไม่ได้หมายความว่าจะแผล่บกลับนะครับ ผมแผล่บเฉพาะคอมเมนต์ที่ผมชอบจริงๆเท่านั้น
ออฟไลน์
ads
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Sep 2005
ตอบ: 2450
ที่อยู่: Hua-Hin
โพสเมื่อ: Fri Apr 03, 2015 08:55
[RE: 3-4-3 กำลังถูกจับทางได้ ?]

แผนนี้ เหมาะกับทีมที่เล่นเกมส์รับมากกว่ารุกครับ

ถ้าว่า หงส์เล่นรุกหรือเล่นรับมากกว่ากัน ก็ต้องรุกครับ

เพราะด้านข้างมีจุดบอด เหมือน จขกท. บอก

ผมเคยบอกเพื่อนว่า ต่อให้หงส์ได้ top4 เพราะแผนนี้ ผมก็ไม่ชอบ เพราะถ้าเจอทีมที่โค้ชเก่งๆ แก้เกมส์มา ต่อให้ทีมเล็กกว่าก็อัดจะหงส์บุกไม่ได้ เพราะโดนประกบหมด หลัง 3 ตัว ไม่มีประโยชน์

เล่นหลัง 4 เถอะ จะเพิ่มกลางรับเป็นสอง ก็ว่าไป ช่องว่างการขึ้นบอลก็จะดีขึ้น

ปล. ส.นี้คงไม่โดนปืนถล่มนะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไม่มีคนแพ้พราะทำไม่ได้ มีแต่คนแพ้ที่ไม่ได้ลงมือทำ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Aug 2008
ตอบ: 781
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 03, 2015 20:08
[RE: 3-4-3 กำลังถูกจับทางได้ ?]
ขอแลกเปลี่ยนทรรศนะบ้าง
ถ้านักเตะเทพ ระบบมันจะเทพตามไปด้วยโดยปริยาย
จุดอ่อนต่าง ๆ ที่กล่าวมาก็จะหายไปเอง
ตัวอย่างเช่นระบบ 3-4-3 หรือ 3-5-2 ของบราซิลชุดแชมป์โลกปี 2002


ปัญหาแบ็กเติมเกมส์รุกแล้ววิ่งลงไม่ทันจะหมดไปเมื่อท่านได้แบ็คสปีดเทพอย่างคาร์ฟูหรือคาร์ลอสมาประจำตำแหน่ง

ปัญหาขาดความหลากหลายแดนหน้า -> ไม่ต้องห่วง 3R จัดให้ได้

กองหน้าเริ่มตันไม่มีพื้นที่เล่น -> ใช้กองหลังอย่าง Lucio หรือ Edmilson พาบอลขึ้นไปหน้าโกล์ช่วยดึงตัวประกบสบาย

แต่.....
ก็เหมือนกับที่ จขก. ได้กล่าวไว้ มันจะมีวิงแบ็คสักกี่คนที่วิ่งขึ้นวิ่งลงได้ทันตลอดทั้งเกมส์
ตำแหน่งอื่นไม่ต้องพูดถึงความสามารถเฉพาะตัวล้วน ๆ

ขนาดแมนยู เอาทั้งโค้ช เอาทั้งระบบมาจากทีมชาติฮอลแลนด์
พอเอาเข้าจริง นักเตะมันไม่เข้ากับระบบ มันก็เลยไม่เวิร์กอย่างที่เห็น ๆ กัน เอวัง...


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
...
ออฟไลน์
ads
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Sep 2005
ตอบ: 2450
ที่อยู่: Hua-Hin
โพสเมื่อ: Fri Apr 03, 2015 23:18
[RE: 3-4-3 กำลังถูกจับทางได้ ?]
JuninhoP19 พิมพ์ว่า:
ขอแลกเปลี่ยนทรรศนะบ้าง
ถ้านักเตะเทพ ระบบมันจะเทพตามไปด้วยโดยปริยาย
จุดอ่อนต่าง ๆ ที่กล่าวมาก็จะหายไปเอง
ตัวอย่างเช่นระบบ 3-4-3 หรือ 3-5-2 ของบราซิลชุดแชมป์โลกปี 2002


ปัญหาแบ็กเติมเกมส์รุกแล้ววิ่งลงไม่ทันจะหมดไปเมื่อท่านได้แบ็คสปีดเทพอย่างคาร์ฟูหรือคาร์ลอสมาประจำตำแหน่ง

ปัญหาขาดความหลากหลายแดนหน้า -> ไม่ต้องห่วง 3R จัดให้ได้

กองหน้าเริ่มตันไม่มีพื้นที่เล่น -> ใช้กองหลังอย่าง Lucio หรือ Edmilson พาบอลขึ้นไปหน้าโกล์ช่วยดึงตัวประกบสบาย

แต่.....
ก็เหมือนกับที่ จขก. ได้กล่าวไว้ มันจะมีวิงแบ็คสักกี่คนที่วิ่งขึ้นวิ่งลงได้ทันตลอดทั้งเกมส์
ตำแหน่งอื่นไม่ต้องพูดถึงความสามารถเฉพาะตัวล้วน ๆ

ขนาดแมนยู เอาทั้งโค้ช เอาทั้งระบบมาจากทีมชาติฮอลแลนด์
พอเอาเข้าจริง นักเตะมันไม่เข้ากับระบบ มันก็เลยไม่เวิร์กอย่างที่เห็น ๆ กัน เอวัง...


 



นักเตะเทพขนาดนี้ จัดลงให้ครบ ก็ขนะครับ แบ็คระดับโลก 2 คน กองหน้าโด้อ้วนยืนค้ำ สอดด้วยริวัลโด้ กับโรนัลดินโญ่ ฝันร้าย กองหลังชัดๆ

แต่เอาจริงๆ ถ้าเป็นลีค ผมก็ว่าอาจไม่ได้แชม เพราะแมทมากๆ แบ็คไม่น่าวิ่งอึดได้ทุกเกมส์คับ ต้องมีเจ็บ ตายกันบ้าง

ถ้าเป็นบอลถ้วย บอลโลก ยุโรป ทีมชาติ แบบนี้ ไม่กี่แมท มันเหมาะกับเพราะเน้นว่าอย่าแพ้ไว้ก่อน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไม่มีคนแพ้พราะทำไม่ได้ มีแต่คนแพ้ที่ไม่ได้ลงมือทำ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Feb 2008
ตอบ: 668
ที่อยู่: ใต้ฟ้า เหนือพื้นดิน
โพสเมื่อ: Wed Apr 08, 2015 11:10
[RE: 3-4-3 กำลังถูกจับทางได้ ?]
ยอดเยี่ยมครับ ทั้งบทความและภาพประกอบ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel