หาก เฟิร์ส อิมเพรสชั่น เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเกมส์ลูกหนัง ลูเซียโน่ เวียตโต้ คงไม่สามารถทำอะไรได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว จากการทำแฮตทริกได้ในการประเดิมสนามเป็นตัวจริงให้กับ ราซิ่ง คลับ ในวัยเพียง 18 ปี

จากผลงานแจ้งเกิดที่ทำไว้ในฤดูกาล 2012-13 ด้วยการยิงไป 13 ประตูจาก 33 เกมส์ และภายหลังจากย้ายมาร่วมทีมกับ บียาร์เรอัล ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไม่ยากเย็นสำหรับเขาในการทำผลงาน 18 ประตูจาก 33 เกมส์ให้กับต้นสังกัดใหม่ในซีซั่นนี้ จนทำให้ไปปลุกความสนจากทั้ง รีล มาดริด และ ลิเวอร์พูล



รู้จักกันให้มากขึ้น

ถึงแม้แฮตทริกแรกนั้นจะเกิดขึ้นภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ซูเบลเดีย หากแต่เป็น ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ที่เป็นผู้ดึงตัว เวียตโต้ มาค้าแข้งในสเปน รวมถึงให้โอกาสการลงสนามในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกจากตำแหน่งม้านั่งสำรอง ก่อนที่เขาจะย้ายไปคุมทีม แอตเลติโก มาดริด ในเวลาต่อมา

เวียตโต้ สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองไว้มากมายจากการเป็นส่วนหนึ่งของ ทีมฟ้าขาวชุด U-20 ในการลงแข่งขันทัวร์นาเมนต์ ยูธ แชมเปี้ยนชิพส์ ของอเมริกาใต้ โดยเขาตัดสินใจเลือกที่จะมาร่วมทีม บียาร์เรอัล ตามหลังยอดนักเตะร่วมสายเลือดในอดีตอย่าง ฮวน โรมัน ริเกลเม่ และ โรดอลโฟ อาร์รัวบาร์เรนา ท่ามกลางตัวเลือกอื่นอีกมากมาย

เยลโล่ ซับมารีน มีแผนในระยะยาวที่จะต่อสัญญามูลค่า 6 ล้านยูโรเพิ่มให้กับเขา แต่ดูเหมือน เวียตโต้ จะบีบให้สโมสรต้องรีบเร่งดำเนินการจากผลงาน 11 ประตูจาก 23 เกมส์ใน ลา ลีกา (จากการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแค่ 14 เกมส์) บวกกับอีก 7 ลูกที่ทำได้ในรายการ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก

ดาวยิงวัย 21 ปี ได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของ ลา ลีกา ในเดือนธันวาคม จากผลงานการยิงประตูชัยสุดช็อคในการบุกไปเอาชนะทีมของ ซิเมโอเน่ ผู้ปลุกปั้นเขาขึ้นมาที่ บิเซนเต้ กัลเดร่อน 1-0 และเป็นการจบสถิติไร้พ่ายในบ้านของ ทีมตราหมี ที่มีมาอย่างยาวนาน 18 เดือนอีกด้วย

ผลงานการทำประตูของ เวียตโต้ ช่วยให้ บียาร์เรอัล รั้งอยู่ในอันดับ 6 ของตารางและทะลุเข้าไปจนถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ยูโรป้า ลีก และจากการเคลื่อนตัวอันรวดเร็วอยู่ตลอดเวลาในวงการฟุตบอลยุโรปทำให้ทั้ง รีล มาดริด และ ลิเวอร์พูล ต่างสนใจที่จะดึงตัวเขาไปในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งจากรายงานล่าสุดก็ได้แจ้งว่า ราชันชุดขาว เพิ่งโดนบอกปัดข้อเสนอวงเงิน 8 ล้านปอนด์ที่ยื่นลองเชิงไปหมาดๆ

เจ๋งที่ตรงไหน

ด้วยความเร็วที่หาตัวจับยาก, เทคนิคในการครอบครองบอล บวกกับความสามารถในการลากเลื้อยและหาพื้นที่ คือสิ่งที่บรรยายถึงทักษะอันยอดเยี่ยมในตัว นักเตะชาวอาร์เจนติน่า คนนี้ ซึ่งทำให้เขามักถูกนำไปเปรียบเทียบกับยอดดาวยิงรุ่นพี่ เซร์คิโอ อเกวโร่ อยู่บ่อยครั้ง

เวียตโต้ สามารถทำหน้าที่เพชฌฆาตในกรอบเขตโทษตามสไตล์กองหน้าหมายเลข 9 ได้อย่างไม่มีที่ติ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถถอยลงไปประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม รวมถึงมีสายตาที่เฉียบคมในการผ่านบอลและสร้างโอกาสให้กับทีม



ด้วยความขยันและมุ่งมั่นทุ่มเทตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม ทำให้โอกาสที่ เวียตโต้ จะก้าวขึ้นไปเป็นขุมกำลังหลักในแดนหน้าของ ทีมฟ้าขาว ในอนาคตอันใกล้ก็ไม่คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด

อ่อนด้อยอะไร

จากการทุ่มเทเกินร้อยของเขาทำให้ในการเล่นประกบคู่กับแนวรับคู่แข่ง หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ อาจจะพลั้งเผลอทำฟาวล์คู่ต่อสู้จนโดนใบเหลืองไปในบางจังหวะ ถึงแม้ผจก.ทีมส่วนใหญ่มักจะชอบให้ผู้เล่นกองหน้าของตนคอยเข้ากดดันกองหลังฝั่งตรงข้ามมากกว่าที่จะยืนอ้อยสร้อยรอบอลอยู่อย่างเดียว

และจากรูปร่างที่ผอมบางของเขาทำให้การย้ายไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก ที่เน้นหนักในเรื่องของพละกำลัง อาจจำเป็นต้องมีการปรับตัวอยู่ไม่น้อย ในขณะที่ส่วนสูงเพียง 5 ฟุต 8 นิ้ว (173 ซม.) ก็ดูจะเป็นอุปสรรคในการเล่นลูกกลางอากาศของเขา

พวกเขาพูดถึงว่า

ซิเมโอเน่ เป็นหนึ่งในผู้ที่กล่าวยกย่องถึง ดาวยิงวัยรุ่น มาโดยตลอดนับตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในตำแหน่งกองหน้า “เขามีความเร็ว, การเคลื่อนที่ที่ชาญฉลาด และการยิงประตูที่ดีจากทั้งสองเท้า” และถึงแม้ความยอดเยี่ยมของ เวียตโต้ จะกลับมาหลอกหลอนเขาใน บิเซนเต้ กัลเดร่อน เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่กุนซือมาดเข้มก็ยังกล่าวชื่นชมลูกศิษย์ของตนว่า “ถึงแม้มันจะส่งผลร้ายต่อทีมของเรา แต่ผมก็อดดีใจไปกับ เวียตโต้ ไม่ได้ และประตูนั้นก็บ่งบอกถึงคุณภาพที่มีในตัวเขาได้เป็นอย่างดี”

รู้หรือไม่?

การแจ้งเกิดอย่างทะลุพรวดพราดของ เวียตโต้ ได้สร้างความเจ็บช้ำให้กับสองทีมยักษ์ใหญ่ในลีกอาร์เจนติน่าจากการที่เคยปฏิเสธเขาไปในอดีต เมื่อเขาเริ่มต้นฝึกหัดกับ เอสตูเดียนเตส อยู่ 2 ปีก่อนจะโดนปล่อยตัวออกมามื่อตอนอายุได้ 17 ปี และหลังจากพลาดในการทดสอบฝีเท้ากับ โรซาริโอ เซ็นทรัล ก็ทำให้เขาถึงกับตัดสินใจหันหลังให้กับฟุตบอลเพื่อตั้งหน้าตั้งตาในการศึกษาต่อไป



ต้องขอบคุณครอบครัวของ เวียตโต้ ที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาเปลี่ยนใจ จนทำให้มาเตะตาของ ซิเมโอเน่ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยใจในปีที่แล้วว่า “ซิเมโอเน่ ไว้ใจในตัวผม และนั่นทำให้ผมต้องขอบคุณเขาไปทั้งชีวิตนับจากนี้”

มองไปยังอนาคต

ในระยะเวลาอันสั้น เอล มาดริกัล เป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับ นักเตะจากอเมริกาใต้ ที่ต้องการจะเติบโตและพัฒนาฝีเท้า จากโอกาสที่จะได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอทั้งใน ลา ลีกา และ เวทียุโรป

อย่างไรก็ตามด้วยสัญญายาว 5 ปีที่ทำไว้กับ เยลโล่ ซับมารีน เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา คงไม่สามารถหยุดยั้งบรรรดาสโมสรบิ๊กเนมจากทั่วทั้งยุโรปในการเข้าถึงตัวดาวยิงคนสำคัญของทีมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยาน

จากศักยภาพในตัว บียาร์เรอัล ที่ไม่อาจจะเทียบเท่ากับ รีล มาดริด, ลิเวอร์พูล หรือ ทีมยักษ์ใหญ่จากใน บุนเดสลีกา ทำให้การแจ้งเกิดอันเปรี้ยงปร้างของ เวียตโต้ ในฤดูกาลนี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาออกเดินทางไปตามหาความฝันอันยิ่งใหญ่ในช่วงหน้าร้อนที่จะมาถึง
ที่มา http://www.banpolballs.com/?p=7510