เรื่องราวในละครญี่ปุ่นนั้นสร้างมาจากหลายอย่าง
ทั้งนวนิยาย มังงะ หรือบทละครที่แต่งขึ้นมาโดยเฉพาะ รวมไปถึง “เรื่องจริง” ด้วย
ซึ่งละครญี่ปุ่นที่สร้างมาจากเรื่องจริงนั้นก็ได้รับความนิยมและสร้างความประทับใจให้คนดูอยู่ไม่น้อย
วันนี้เลยอยากจะมาแนะนำละครญี่ปุ่นชื่อดังที่สร้างจากเรื่องจริงให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน
มีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามมาอ่านกันเลย


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1 Litre of Tears


“1 Litre of Tears” หรือ “บันทึกน้ำตา 1 ลิตร” ละครญี่ปุ่นที่เรียกน้ำตาจากคนดูมาแล้ว “มากกว่า 1 ลิตร”
ละครเรื่องนี้ได้สร้างมาจากเรื่องจริงที่ถูกบันทึกไว้ในไดอารี่ของ “คิโตะ อายะ” จำนวน 46 เล่ม
ก่อนที่จะนำมาทำเป็นละคร ได้ถูกนำมาตีพิมพ์เป็นหนังสือชื่อเรื่องว่า “1 Litre of Tears” มาก่อน

1 Litre of Tears เป็นเรื่องราวของ “คิโตะ อายะ” หญิงสาวอายุ 15 ปี ที่ป่วยเป็นโรคร้าย “Spinocerebellar Degeneration”
ชื่อภาษาไทยก็คือ “โรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลัง” ที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ พบคนที่ป่วยเป็นโรคนี้น้อยมาก
อาการก็คือผู้ป่วยจะค่อยๆ สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวของร่างกายไปเรื่อยๆ จนไม่สามารถขยับส่วนต่างๆ ของร่างกายได้
จะเดิน จะกิน จะพูดก็ไม่ได้ และเสียชีวิตในที่สุด (ต่างจากโรค ALS ที่เกิดจากความอ่อนแรงจากกล้ามเนื้อ)


“บางครั้ง...รู้สึกเหมือนว่าร่างกายของฉันมันไม่ใช่ของฉันยังไงก็ไม่รู้
ฉันจะเป็นยังไงต่อไปนะ... ทำไม...โรคนี้ถึงเลือกฉันนะ...
ฉันรับไม่ได้หรอกกับคำว่า ‘โชคชะตา’ ...”

ชีวิตของเธอตั้งแต่วันแรกที่เป็นโรคร้ายเต็มไปด้วยน้ำตา ความท้อแท้ และสิ้นหวัง
แต่ในเวลาต่อมาเธอกลับมองโลกอีกมุมหนึ่ง ใช้ชีวิตต่อไป จดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่เธอได้เรียนรู้ลงไปในไดอารี่
ชีวิตเพียงหนึ่งแต่กลับทำให้คนอีกหลายล้านคนมีกำลังใจใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความหมาย

ในเวอร์ชั่นของละครได้สาว Sawajiri Erika มารับบทเป็นอายะจัง และดูเหมือนว่าละครเรื่องนี้จะสร้างชื่อเสียงให้แฟนละครทั้งในญี่ปุ่นและไทยได้รู้จักเธอ
ซึ่งในเรื่องจะมีการปรับเปลี่ยนนามสกุลของอายุเป็น “อิเคะอุจิ”
ส่วนอายะตัวจริง เธอได้ต่อสู้กับชีวิต และจากโลกนี้ไปในวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1988 อายุได้ 25 ปี
พร้อมทิ้ง “บันทึกน้ำตา 1 ลิตร” ไว้ให้คนที่ยังอยู่ได้มีกำลังใจก้าวเดินต่อไป


“กว่าที่ฉันจะยิ้มได้อย่างนี้ฉันต้องเสียน้ำตาไม่น้อยกว่า 1 ลิตร”

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Nankyoku Tairiku


อีกหนึ่งละครญี่ปุ่นที่สร้างมาจากเรื่องจริง เป็นละครสร้างเพื่อฉลองรบรอบ 60 ปีของสถานีโทรทัศน์ TBS ที่ทุ่มทุนสร้างแบบสุดๆ
นำแสดงโดยพระเอกยอดนิยมตลอดกาลอย่าง “ทาคุยะ คิมูระ” ด้วย
เรื่องนี้ได้นำเค้าโครงเรื่องจริงมาจากคณะวิจัยสำรวจแอนตาร์กติกาแห่งประเทศญี่ปุ่น จำนวน 11 คน
พร้อมด้วยสุนัขลากเลื่อนพันธุ์ซาคาลิน ฮัสกี้ 19 ตัว ที่เดินทางไปสำรวจแอนตาร์กติกา ในช่วงหลังสมัยสงครามโลกครั้งที่2
เพื่อกอบกู้ชื่อเสียง และประกาศให้ทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพของญี่ปุ่นที่เท่าเทียม (และอาจเหนือกว่า) ชนชาติอื่นๆ

คนญี่ปุ่นกลุ่มนี้ (พร้อมด้วยน้องหมา)ได้เข้าร่วมโครงการสำรวจทางธรณีวิทยา เดินทางไปยังสถานที่ที่เรียกได้ว่า “ไม่สามารถมีใครเข้าถึงได้”
เพราะต้องเผชิญกับอากาศที่ติดลบกว่า 50 องศาเซลเซียส พายุหิมะที่มีความเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อวินาที แต่ไม่ว่าอย่างไร ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับภาระกิจนี้ให้ได้

ความประทับใจของเรื่องนี้ก็คือ การถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้ ความยากลำบากที่คนญี่ปุ่นทำเพื่อชาติของเขาเอง
พร้อมด้วยเรื่องราวของเพื่อนร่วมชีวิตอย่าง “สุนัข” ที่ฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน จนทำให้เกิด “มิตรภาพ” ต่างสายพันธุ์
อีกทั้งละครเรื่องนี้ก็ได้ถูกนำไปสร้างเป็นหนังฝรั่ง ชื่อเรื่อง “Eight Below” ด้วย


"Eight Below "

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Densha Otoko


เรื่องราวความรักระหว่าง Tsuyoshi Yamada หนุ่มโอตาคุ เฉิ่มๆ เฉยๆ เข้าสังคมไม่เก่งกับ Saori Aoyama สาวสวยเพอร์เฟ็คที่พบรักกันโดยบังเอิญในขบวนรถไฟ
โดยหนุ่มโอตาคุได้เข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวจากตาลุงขี้เมาที่จะมาลวนลามเธอ หลังจากเหตุการณ์นั้นหญิงสาวได้ขอที่อยู่ เพื่อที่จะได้ส่งของไปให้แทนคำขอบคุณ
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นหนุ่มโอตาคุที่โสดมาตลอด 22 ปี ก็รู้สึกประทับใจ และนำเรื่องราวความรักนี้มาปรึกษากับกลุ่มเพื่อนในโลกไซเบอร์
จนกลายเป็นกระทู้ฮิต มีผู้คนมาช่วยแสดงความคิดเห็น แนะแนวทางการจีบหญิงให้ติดมากมาย พร้อมกับเอาใจช่วยหนุ่มคนนี้
(ในsoccersuck ก็มีนะพวกแบบนี้ ฮ่าๆๆ)
จนในที่สุดเขาขอ Saori ออกเดท และนับตั้งแต่นั้นมาเรื่องราวความรักกับหนุ่มไม่หล่อกับสาวสวยก็ได้เริ่มต้นขึ้น

Otoko Densha เป็นละครที่สร้างมาจากนิยาย ซึ่งนิยายที่ว่าเนี่ย เขาว่ากันว่าแต่งมาจาก “เรื่องจริง” อีกที
แต่เรื่องราวในเรื่องนี้ ใช่ว่าจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมด แต่เป็นเรื่องที่แต่งโดยอิงจากเรื่องจริง แต่ผสมส่วนที่เพิ่มเสริมเติมแต่งไปอีกเพื่อความสนุก

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Leader



ละครญี่ปุ่นที่สร้างมาจากชีวิตจริงของผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ “โตโยต้า” ที่ประสบความสำเร็จระดับโลกในทุกวันนี้
เรื่องราวได้เริ่มจากญี่ปุ่นในยุคช่วงสงครามโลกครั้งที่2 มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ได้ออกเดินทางไปสำรวจรถยนต์ในแถบยุโรป
พร้อมแบกความฝันที่อยากจะสร้างรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นขึ้นมาให้ได้ ละครได้เล่าตั้งแต่จุดเริ่มต้นความสำเร็จของผู้ให้กำเนิดโตโยต้าที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย
ทั้งซื้อรถยุโรปมาแยกชิ้นส่วน เพื่อเรียนรู้ส่วนประกอบและกลไกของรถยนต์ แล้วนำมาประยุกต์เป็นรถยนต์ในแบบตนเอง
รวมถึงวิธีการบริหารคนของเจ้าของรถโตโยต้าที่สามารถรวมพลังคนให้มาร่วมสร้างรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นขึ้นมาให้สำเร็จ
พร้อมแฝงด้วยข้อคิด ความเพียรพยายามที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนดู


ละครเรื่องนี้ได้เล่าผ่านตัวละครสมมติที่ชื่อว่า “ไอจิ ไซจิโร่” แม้จะคนละชื่อกับเจ้าของรถโตโยต้าตัวจริง
แต่พอได้ดูละครแล้ว จะรู้เลยว่านี่มันชีวิตของ “คิชิโระ โตโยดะ” ผู้ให้กำเนิดรถยนต์โตโยต้านี่เอง
ชีวิตจริงของนักสู้ที่ไม่ธรรมดา พร้อมความเป็นมาของความสำเร็จที่ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่วาดฝัน ดูไปก็รู้สึกทึ่งกับหนทางความสำเร็จของเขาที่ควรเอาเยี่ยงอย่าง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Kurobe no Taiyo

ละครญี่ปุ่นภาคพิเศษที่ถ่ายทำฉลองครบรอบ 50 ปีของสถานีโทรทัศน์ Fuji TV
เป็นละครที่สร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่2 เป็นช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นต้องฟื้นฟูประเทศหลังจากพ่ายแพ้จากสงคราม
ซึ่งในช่วงนั้นเองญี่ปุ่นกำลังขาดแคลนพลังงาน หนทางหนึ่งที่จะช่วยเรื่องนี้ได้ก็คือ การก่อสร้างสถานีผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ จำเป็นต้องสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือ “เขื่อนคุโรเบะ”
แต่การก่อสร้างนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมวิศวกรต้องขุดเจาะสร้างอุโมงค์โอมาจิให้เสร็จก่อน จึงจะสามารถสร้างเขื่อนได้
และการขุดเจาะอุโมงค์นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีก เพราะต้องเจาะผ่านภูเขา แถมระยะทางก็ไม่ใช่น้อย ขุดไปก็ไม่รู้ว่าต้องพบเจออะไรข้างหน้า
เจอทั้งทรายทั้งน้ำใต้ดินที่พร้อมขุดไปเจอได้ตลอดเวลา การสร้างอุโมงค์โอมาจิและเขื่อนคุโรเบะนี้ ได้คร่าชีวิตคนก่อสร้างไปเป็นจำนวนไม่น้อย
แต่ทุกคนก็พร้อมใจที่จะมารับภารกิจเสี่ยงเช่นนี้ เพื่อประเทศชาติของพวกเขา พอดูแล้วเห็นถึงความเพียรพยายามของคนญี่ปุ่นแบบสุดๆ
การก่อสร้างเป็นไปด้วยความลำบากจริงๆ โดยทุกคนที่ร่วมภารกิจนี้ตั้งมั่นว่าจะไม่เดินย้อนกลับไปที่เดิม แต่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อพบกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

สำหรับเขื่อนคุโรเบะในปัจจุบันนั้นเป็นเขื่อนทรงโค้งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างกั้นแม่น้ำคุโรเบะ และเป็นสถานที่สำคัญของญี่ปุ่นอีกด้วย
เขื่อนนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งหมด 7 ปี ด้วยแรงงานจำนวน “10 ล้านคน” !!!
ถือได้ว่าเป็นผลงานที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติญี่ปุ่นได้แบบสุดๆ
และกอบกู้ชื่อเสียง และแสดงความยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นขึ้นมาได้อีกครั้ง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Summer Rescue


เรื่องราวของทีมแพทย์กลุ่มหนึ่ง นำทีมโดย “ฮายามิ เคโก” ศัลยแพทย์หนุ่มที่ต้องขึ้นไปเป็นแพทย์รักษาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในช่วงฤดูร้อน
ที่อยู่บนภูเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,000 เมตร สภาพความเป็นอยู่ก็ลำบาก ไม่มีเครื่องมือ เครื่องใช้ที่ทันสมัย
แต่ฮายามิเป็นหมอที่เชี่ยวชาญกับเครื่องมือที่ทันสมัย แต่ต้องมารักษาผู้ป่วยในแบบที่ไร้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ต้องรักษาผู้ป่วยที่อยู่ตรงหน้าให้ได้ แม้จะไม่มีเครื่องมือ หรือยาขนานดีที่สุดก็ตาม
เป็นซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งที่จะมาทำให้เห็นความสำคัญของวิชาทางการแพทย์ และคุณค่าชีวิตของผู้คน พร้อมความอบอุ่นไปในตัว


สำหรับละครนี้ เขาว่ากันว่าสร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงตรงที่ว่า หมู่บ้านที่อยู่บนภูเขานั้นมีอยู่จริง และสถานีอนามัยที่เอาไว้รักษาคนป่วยในหมู่บ้านนั้นก็มีอยู่จริง

และนี่ก็คือละครญี่ปุ่นที่สร้างมาจากเค้าโครงเรื่องจริง แต่ในเนื้อเรื่องก็จะมีการปรับเรื่องราวเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่าจริงไปหมดเสียทีเดียว เพื่อความเหมาะสมกับบทละคร และจะเห็นได้ว่าจุดร่วมของละครแนวนี้จะถ่ายทอดชีวิตที่ยากลำบาก
และการต่อสู้เพื่อไปสู่ความสำเร็จ รวมถึงเรื่องราวในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกนำมาถ่ายทอดผ่านละครให้คนรุ่นหลังได้เกิดความรู้สึกรักชาติ
และปลุกแรงบันดาลใจ ให้พร้อมลุกขึ้นสู้กับความยากลำบากต่อไปค่ะ และด้วยความที่สร้างจากเรื่องจริง
เลยเป็นส่วนที่ทำให้คนดูเกิดความอินและประทับใจ พอดูจบก็อยากจะลุกขึ้นสู้กับชีวิตจริงของตัวเองบ้าง

(สำหรับ Summer Rescue "คลินิกที่ปลายฟ้า ตอนนี้มีคิวฉาทางช่อง Thaipbs
ติดตามได้ ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 11.05 - 11.58 น. )



ใครจะเชื่อว่าเรื่องราวที่ดูผ่านจอโทรทัศน์นั้น ครั้งหนึ่งมันเคยเกิดขึ้นจริงมาแล้ว...


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Cr.: ChaMaNow www.marumura.com
Cr : บางรูป Tumblr

ขอบคุณ ที่แวะเข้ามาอ่านครับ

อ้าวผิดมู้

วันลิตรออฟเทีย นี้ดูมาละ ซึ้งดี

เรื่องนึงซึ้งจริงๆ นำตาร่วงเลยผมตอนท้ายๆ








นางเอกน่ารักดี

Leaders น่าดูมาก พน สอบต้องเขียนอะไรเกี่ยวกับ โตโยต้า อยู่พอดี

1 litre of tear นี่โหดสัสจริงๆ ตาบวมแล้วบวมอีก

densha otoko ก็สนุกดี แต่หนังสือสนุกกว่ามากเลย

ที่เหลือยังไม่เคยดู เด๋วไปหามาดูครับ

ไม่มี MILF...

ไปผิดมู้ต่อในคุกนะครับ

-ลีดเดอส์ น่าดูใช้ได้

-บันทึกน้ำตา 1 ลิตร นี่ดองไว้หลายปียังไม่ได้เปิดดู คิดว่ามันจะพาให้เศร้าเกินเลยไม่ได้หยิบมาดู

-นายรถไฟ นี่มันค่อนข้างเพ้อฝันเกินจริงไปซักหน่อย เรื่องความต่างของฐานะหรือภาพลักษณ์ยังไม่ค่อยเท่าไร แต่นางเอกค่อนข้างจะทอดสะพานให้พระเอกมากเกิน แถมพระเอกยังเวิ่นเว้อ ไม่มั่นใจตัวเองมากไป

ถ้ามันลดๆความเวิ่นเว้อของพระเอกลงไปซักหน่อยน่าจะดูเหมาะสมกว่านี้

ถ้าจำไม่ผิด แบบหนังมันจะมีออกมา 2 เรื่อง แต่ตัวเอกแสดงกันคนละคน แต่ดันมีเซอร์ไพรซ์ในเรื่องด้วย

เมื่อต้นปีได้ไปเที่ยวนาโกย่ามา และได้ไป พิพิธภัณฑ์ ของโตโยต้า ได้รู้ความเป็นมาตั้งแต่ทำเครื่องทำเส้นด้าย ทอผ้า จนพัฒนามาทำรถยนต์ แล้วต้องเร่ขายรถไปทั่วประเทศ

แบบว่าสุดยอดมากๆ

ของเขาแต่ละเรื่อง Story โคตรน่าสนใจ

พอมาดูซีรี่ส์ไทย

บันทึกน้ำตา 1 ลิตร เศร้าก็จริง แต่ดูแล้วได้กำลังใจให้ต่อสู้ในชีวิตนะ
ได้เห็นนางเอก ต่อสู้กับโรคร้าย ต่อสู้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
ทำให้คนที่มีครบ32 อย่างผม มีแรงสู้ชีวิตมากขึ้นเลย