ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 7356
ที่อยู่: ZION
โพสเมื่อ: Mon Nov 10, 2014 12:21 am
กาลาปากอส ปริศนาแห่งวิวัฒนาการ



หมู่เกาะโดดเดี่ยวแห่งหนึ่งในมาหสมุทรแปซิฟิคมีความสำคัญกับคำว่า "วิวัฒนาการ" และตัว ชาลส์ ดาร์วิน มาก ที่จริงดาร์วินใช้เวลากับหมู่เกาะแห่งนี้เพียง 5 สัปดาห์ แต่เวลาไม่กี่สัปดาห์นี้กลับเป็นช่วงสำคัญที่สุดในการเดินทางไปตามชายฝั่งอเมริกาใต้เพราะช่วงเวลานี้เองที่ทำให้ดาร์วินมั่นใจว่า ทฤษฎีวิวัฒนาการของเขาถูกต้อง ตลอดเวลา 20 ปีต่อมา ดาร์วินย้อนไปอ่านบันทึกที่เขาเขียนที่หมู่เกาะนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนประจักษ์ออกมาว่าเวลาห้าสัปดาห์นั้นได้ไขปริศนาว่า สิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการมาได้อย่างไร คำตอบก็คือ "การเลือกสรรของธรรมชาติ"

ในปี ค.ศ. 1831 เมื่อดาร์วินลงเรือหลวงบีเกิลในฐานะนักธรรมชาติวิทยาของทางราชการ ความคิดที่ยอมรับกันในโลกของชาวคริสต์ตอนนั้นก็คือ พระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกและสรรพสิ่งทั้งหลายบนโลก ดาร์วินพยายามแสดงว่าความเชื่อเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ผิด โดยเขาได้เขียนไว้ในหนังสือสุดคลาสสิคชื่อ On the Origin of Sprcies by Means of Natural Selection ว่าด้วยการกำเนิดของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ โดยการเลือกสรรของธรรมชาติ ซึ่งตีพิมพ์ออกมาในปี 1859




การเดินทางไปกับเรือหลวงบีเกิลเปิดโอกาสให้ดาร์วินได้ศึกษาพื้นที่ต่างๆมากมาย รวมทั้งนก พืช สัตว์ ที่มีอยู่อย่างหลากหลายน่าพิศวง การเดินทางครั้งนี้ตัวดาร์วินได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆจากของจริง ไม่ใช่จากตำราหรือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อย่างที่นักวิชาการสมัยนั้นเค้าศึกษากัน ในช่วงสามปีแรกของการเดินทางนั้นดาร์วินเริ่มเชื่อว่า สิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆมิได้คงสภาพเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ดาร์วินไม่อาจยอมรับคำอธิบายที่ว่า พระเจ้าผู้สร้างโลกได้ "กำจัด" สัตว์ที่สูญพันธุ์บางชนิดไป หลังจากที่พวกมันทำหน้าที่บนโลกได้สมปรารถนาของพระเจ้าแล้ว และพระองค์ก็ได้ทรงสร้างสิ่งมีชีวิตที่สูงกว่าดีกว่าขึ้นมา โดยมีมนุษย์สัตว์อันประเสริฐสุด (เหอะ เหอะ) เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดสุดท้ายที่พระเจ้าสร้าง เหตุผลประการหนึ่งคือ ในระหว่างที่สำรวจชายฝั่งนั้น ดาร์วินขุดพบฟอสซิลและกระดูกสัตว์ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสัตว์ที่อยู่รอบๆตัวเขา เพียงแต่มันขนาดใหญ่กว่ามาก



เรือหลวงบีเกิลมาถึงหมู่เกาะกาลาปากอสเมื่อเดือน ก.ย. 1835 เกาะ 19 แห่งรวมทั้งโขดหินรอบๆ รวมทั้งเกาะเล็กๆ ที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟ กระจายกันอยู่ในมหาสมุทรเป็นเนื้อที่ 59,500 ตารางกิโลเมตร ห่างจากแผ่นดินอเมริกาใต้ประมาณพันกิโลพอดีครับ ในตอนแรกดาร์วินกึ่งทึ่งกึ่งฉงนที่มีสัตว์ป่าอยู่อาศัยในที่ๆห่างไกลและทุรกันดารออกปานนี้ เขายังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า แม้สัตว์ส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายกันกับสัตว์ที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ แต่สัตว์เหล่านี้ยังมีลักษณะพิเศษที่พบเฉพาะในบริเวณหมู่เกาะกาลาปากอสเท่านั้น โดยมีผิดแผกกันไปบ้างตามท้องถิ่นที่พวกมันอยู่อาศัย

ประเภทของสัตว์ที่อยู่บนหมู่เกาะนี้ก็น่าศึกษาเช่นกัน ขณะที่ดาร์วินพักอยู่ที่นั่น เขาพบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพียง 2 ชนิด คือ หนูขนาดเล็ก (mouse) ซึ่งดาร์วินลงความเห็นว่ามันคงวิวัฒนาการกันขึ้นที่นั่น และหนูขนาดใหญ่ (rat) ซึ่งคงติดมากับเรือ อย่างไรก็ตาม ดาร์วินไม่พบสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกที่หมู่เกาะนี้ เขาพบแต่สัตว์เลื้อยคลาน (จิ้งเหลน?) ที่ดูจะชุกชุมมากเป็นพิเศษบนหมู่เกาะกาลาปากอส




ในที่สุด ดาร์วินสรุปว่า สิ่งมีชีวิตต่างๆมีวิธีมาถึงหมู่เกาะกาลาปากอสด้วยทางที่แตกต่างกันไป ซึ่งวิธีดังกล่าวคือตัวกำหนดว่าที่นี่มีสัตว์ประเภทใดบ้างที่คล้ายคลึงกับสัตว์บนแผ่นดินใหญ่ในอเมริกาใต้ สิ่งมีชีวิตพวกแรกคือพืชครับ พวกมันถูกลมหรือน้ำพัดพาเอาสปอร์ (รวมทั้งเมล็ด)มาตกลงที่นี่ (ดาร์วินเคยทำการทดลอง โดยเอาเมล็ดพืชแช่น้ำไว้ลายเดือนแล้วลองเพาะ ปรากฏว่าเพาะขึ้น) เมื่อมีสิ่งแวดล้อมจำพวกพืชเกิดขึ้นอย่างถาวรแล้ว พวกสัตว์ก็เริ่มอพยพเข้ามาอยู่ สัตว์ทุกชนิดในหมู่เกาะกาลาปากอสยกเว้นที่มนุษย์นำเข้ามา ล้วนวิวัฒนาการจาก"สัตว์บุกเบิก" ซึ่งมาถึงที่นี่โดยบังเอิญ เช่น นก ค้างคาว และแมลงบางชนิดคงบินมาจากแผ่นดินอเมริกาใต้ (หรืออาจถูกพายุพัดออกนอกเส้นทางการอพยพย้ายถิ่นประจำปี) ดังนั้นสัตว์บนเกาะจึงมีความคล้ายคลึงกับพวกบนแผ่นดินใหญ่อย่างที่ดาร์วินเห็น

สำหรับสัตว์ชนิดอื่นๆก็คงวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษที่บังเอิญอาจติดมากับท่อนไม้ กอสวะ แพสาหร่าย หรือเศษวัสดุที่ถูกน้ำซัดสู่ทะเลผ่านทางปากแม่น้ำ แล้วลอยตามน้ำมายังหมู่เกาะ ไข่กบและคางคกที่อ่อนนุ่มไม่อาจอยู่รอดได้ เมื่อต้องลอยข้ามน้ำข้ามทะเลเป็นระยะทางไกลๆ และถึงแม้จะรอดมาได้ หมู่เกาะนี้ก็แห้งแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำจืดสำหรับสัตว์เหล่านี้ แต่ไข่ของสัตว์เลื้อยคลานนั้นมีเปลือกที่แข็งแรงห่อหุ้มไว้ จึงลอยตามกระแสน้ำมาได้โดยปลอดภัย

เรียนรู้จากนก!!




ด้วยเหตุที่ไม่มีนกชนิดอื่นมาแก่งแย่ง นกฟินซ์ที่หมู่เกาะกาลาปากอสจึงใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ จากถิ่นอาศัยและแหล่งอาหารที่มีอยู่ได้ นกฟินซ์ 13 ชนิดที่หมู่เกาะแห่งนี้มีลักษณะร่วมคือ ลำตัวยาว 10-20 ซม. มีขนสีน้ำตาลหรือดำ แต่แตกต่างกันที่รูปร่างของจะงอยปาก บางชนิดมีรูปเรียวโค้งเพื่อใช้หาอาหารจากอดกไม้ บางชนิดเหมือนกแก้วเพื่อใช้ขบลูกไม้ และมีสองชนิดสามารถใช้ปากคาบหนามกระบองเพชรเพื่อเสาะหาอาหารได้อย่างแคล่วคล่อง

สัตว์เลื้อยคลานที่น่าพิศวงที่สุดเห็นจะเป็นเต่าทะเลยักษ์ ในสมัยของดาร์วิน มีเต่าพักพิงอยู่ที่แห่งนี้นับเป็นแสนตัว คำว่า galapagos อันเป็นชื่อของหมู่เกาะนั้น มาจากภาษาสเปนที่แปลว่าเต่าทะเล ด้วยเหตุที่ไม่มีสัตว์ล่าเหยื่อเป็นอาหาร เต่าที่นี่จึงมีอายุยืนกว่า 100 ปี บางตัวมีขนาดยาวกว่า 1.3 เมตร และหนักเกือบ 200 กก. เมื่อโตเต็มที่ เข้าใจว่าเต่าพวกนี้คงจะมาถึงเกาะในขณะที่ยังเป็นไข่หรือลูกเต่า ทั้งยังมีจำนวนมากพอที่จะตั้งแหล่งแพร่พันธุ์หรือกระจายออกไปทั่วทั้งหมู่เกาะ รองผู้ว่าราชการแห่งกาลาปากอสเล่าให้ดาร์วินฟังว่า แค่มองดูเขาก็บอกได้แล้วว่าเต่าตัวไหนมาจากเกาะใด ตอนนั้นดาร์วินไม่ตระหนักถึงความสำคัญของคำพูดนี้ ได้แต่จดจำเอาไว้เท่านั้น เต่าเหล่านี้มีลักษณะแตกต่างกันในรายละเอียดบางอย่าง ซึ่งดูเหมือนถุกกำหนดให้เป็นไปตามสภาพแวดล้อมในเกาะที่มีน้ำและพืชพันธุ์อุดมสมบูรณ์ เต่าจะกัดกินหญ้าตามพื้นดิน กระดองด้านหน้าเหนือคอเต่าจึงโค้งลงเล็กน้อย แต่ในท้องถิ่นที่เต่าต้องชะเง้อหาอาหารเหนือคอขึ้นไป คอเต่าจะยาวและกระดองด้านหน้าจะโค้งงอนขึ้นเหมือนอานม้า




กิ้งก่าอิกัวน่าก็มีความหลากหลายไม่แพ้กัน หมู่เกาะนี้มีกิ้งก่าอิกัวน่าสองชนิดที่แตกต่างกันชัดเจน ดาร์วินเชื่อว่าทั้งสองชนิดนี้คงมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน แต่วิวัฒนาการไปคนละสายพันธุ์เพื่อให้สะดวกกับการหาอาหารที่สุด อิกัวน่าบนบกจะกินดอกและเมล็ดของต้นกระบองเพชรเป็นอาหาร ส่วนอิกัวน่าทะเลจะกินสาหร่ายที่ขึ้นอยู่โขดหินใต้ทะเล จึงมีหางยาวที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เพื่อให้มันสามารถแหวกว่ายในทะเลได้โดยสะดวกนั่นเอง

สัตว์เลื้อยคลานเช่นอีกัวน่าหรือกิ้งก่า ทำให้ชาลส์ ดาร์วินได้ข้อสังเกตบางอย่าง ซึ่งสนับสนุนข้อคิดของเขาที่ได้จากการศึกษานก เช่นนกฟินซ์ที่มีอยู่อย่างดาษดื่น นกเหล่านี้ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับทฤษฎีวิวัฒนาการว่าด้วยการเลือกสรรจากธรรมชาติ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ พวกที่เหมาะสมเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอดอยู่ได้

(ถ้อยคำเหล่านี้ เฮอร์เบิร์ต สเปนเซอร์ ปราชญ์ยุคเดียวกับดาร์วินเป็นคนคิดครับ - - อย่าบอกนะว่าไม่รู้จัก)




ดาร์วินอนุมานว่า "...จากนกที่เดิมมีอยู่เพียงน้อยนิด นกชนิดหนึ่งมีอันต้องปรับเปลี่ยนตัวเพื่อจุดหมายที่แตกต่างกัน"

ฟินซ์ (นกกระจาบปีกอ่อน) เป็นนกบกชนิดเดียวที่อาศัยอยู่อย่างแพร่หลายบนหมู่เกาะ ด้วยเหตุที่ไม่โดนล่าและไม่ต้องแย่งอาหารกับนกชนิดอื่น พวกมันจึงมีวิวัฒนาการที่แพร่หลายไปทั่วทั้งหมู่เกาะ แต่ละเกาะจะมีนกฟินซ์เป็นพันธุ์เฉพาะของเกาะนั้นๆ ซึ่งพัฒนาการเพื่อเอื้ออำนวยให้อยูรอดได้ตามสภาพแวดล้อมให้มากที่สุด แล้วจึงถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมนั้นให้นกรุ่นต่อๆไป ถ้านกชนิดใดปรับตัวไม่ได้ ก็ต้องสูญพันธุ์ไปในที่สุด

นกจากนกฟินซ์ เต่าทะเล อิกัวน่าแล้ว ก็ยังมีนกทะเล สัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็ง (shellfish) และสัตว์ประเภทกิ้งก่าอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก สัตว์จำพวกเดียวกันที่อยู่แต่ละเกาะจะมีลักษณะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ดาร์วินเขียนบันทึกของเขาว่าความจริงในข้อนี้ทำให้ "ข้าพเจ้าได้ประจักษ์ด้วยความอัศจรรย์ใจ"

การสร้างสมมติฐานจากการพบเห็นดังกล่าว แสดงถึงความมีอัจฉริยภาพของดาร์วินได้เป็นอย่างดี

credit : แสนยานุภาพ@arunsawat.com
ที่มา : cmxseed.com
I love Jesus and He loves me. He's the reason why I am Catholic.

เข้าร่วม: 12 Jul 2010
ตอบ: 8374
ที่อยู่: ไม่มี ให้คนดีอยู่
โพสเมื่อ: Mon Nov 10, 2014 12:22 am
[RE: กาลาปากอส ปริศนาแห่งวิวัฒนาการ]
0
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 1407
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 10, 2014 12:29 am
[RE: กาลาปากอส ปริศนาแห่งวิวัฒนาการ]
GNiM- พิมพ์ว่า:
 

ทำไมเปลี่ยนเรื่องแล้วอะ ไม่เข้าสู่ด้านมืดแล้วหรอ
0
0



เข้าร่วม: 12 Jul 2010
ตอบ: 8374
ที่อยู่: ไม่มี ให้คนดีอยู่
โพสเมื่อ: Mon Nov 10, 2014 12:32 am
[RE: กาลาปากอส ปริศนาแห่งวิวัฒนาการ]
TheBeatles29 พิมพ์ว่า:
GNiM- พิมพ์ว่า:
 

ทำไมเปลี่ยนเรื่องแล้วอะ ไม่เข้าสู่ด้านมืดแล้วหรอ  


ชอบครับ ไปดูมา
0
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 1407
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 10, 2014 12:46 am
[RE: กาลาปากอส ปริศนาแห่งวิวัฒนาการ]
GNiM- พิมพ์ว่า:
TheBeatles29 พิมพ์ว่า:
GNiM- พิมพ์ว่า:
 

ทำไมเปลี่ยนเรื่องแล้วอะ ไม่เข้าสู่ด้านมืดแล้วหรอ  


ชอบครับ ไปดูมา  

ผมก็เห็นกระแสแรงดีนะว่าจะไปดูอยู่ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบเฮียโนแลนอยู่แล้วด้วย
0
0



เข้าร่วม: 12 Jul 2010
ตอบ: 8374
ที่อยู่: ไม่มี ให้คนดีอยู่
โพสเมื่อ: Mon Nov 10, 2014 12:46 am
[RE: กาลาปากอส ปริศนาแห่งวิวัฒนาการ]
TheBeatles29 พิมพ์ว่า:
GNiM- พิมพ์ว่า:
TheBeatles29 พิมพ์ว่า:
GNiM- พิมพ์ว่า:
 

ทำไมเปลี่ยนเรื่องแล้วอะ ไม่เข้าสู่ด้านมืดแล้วหรอ  


ชอบครับ ไปดูมา  

ผมก็เห็นกระแสแรงดีนะว่าจะไปดูอยู่ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบเฮียโนแลนอยู่แล้วด้วย  


นั้นแหละ ครับ อย่าไปยึดติด

เดี๋ยว มีหนังดีๆ ถูก ใจ ก็เปลี่ยนไปเรื่อย
เข้าร่วม: 19 Mar 2010
ตอบ: 221
ที่อยู่: Broken Heart
โพสเมื่อ: Mon Nov 10, 2014 1:12 am
[RE: กาลาปากอส ปริศนาแห่งวิวัฒนาการ]
ขอบคุณครับ
0
0