ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 2976
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 16:50
(ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ
มาต่อกันครับ พอดีบ้านไฟดับตั้งแต่เช้าเลย
พม่า vs ไทย ในสงคราม 9 ทัพ ภาคแรก http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1144280/1
เห็นมีเพื่อนๆติดตามสนใจเรื่องประวัติศาสตร์กันเยอะ(ผิดคาด) ภาคจบนี้เลยจะเขียนให้ละเอียดขึ้นอีกนิดหน่อย จะแบ่งเป็น 3 หัวข้อใหญ่ๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายและได้อรรถรส ผิดพลาดประการใด ขอภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย


Part 1"ยุทธศาสตร์ที่ไม่ได้ผลของไทย"

จากบทที่แล้วเราทราบถึงยุทธศาสตร์การเข้าโจมตีของทัพแล้ว ก่อนจะเข้าเรื่องไทยรับมือพม่าเช่นไร ขอเกริ่นนำเรื่องยุทศาสตร์การรักษาพระนครของไทยก่อนนะครับ

ในช่วงก่อนที่เราจะรับศึกสงครามเก้าทัพนี้ ไทยมักจะใช้ยุทธวิธีรับศึกพม่าโดยตั้งรับอยู่ในเมือง โดยใช้ข้อได้เปรียบทางธรรมชาติให้เป็นประโยชน์ นั่นคือ น้ำท่วม อย่างที่เรารู้กันว่า พอเข้าฤดูฝน อยุธยาจะเกิดน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี ดังนั้นหากพม่าไม่สามารถตีเมืองเราแตกได้ เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ทัพพม่าจำเป็นต้องถอยร่นกลับ อย่างเสียไม่ได้ ไม่หนำซ้ำ ยังโดนทัพไทยไล่ตีตามหลังอีกต่างหาก ไทยเราจึงใช้ยุทธศาสตร์นี้รักษาเมืองมาโดยตลอด



ทีนี้ พอถึงสงครามเสียกรุงครั้งที่ 2ปี 2310 พม่าได้เริ่มเปิดศึกในเดือนกุมภาพันธ์ ล้อมกรุงศรีไว้จนสามารถตีเมืองแตก ในเดือนเมษายน ปี 2310 รวมเวลาในการล้อมกรุงทั้งสิ้น 1 ปี 2เดือน

คงจะสงสัยกันว่า ยุทธศาสตร์น้ำท่วม ของเราทำไมถึงใช้ไม่ได้ผลเหมือนทุกที ไม่ใช่ปีนั้นน้ำไม่ท่วมนะครับ แต่พม่าต่างหากที่เตรียมการมาดี ในช่วงที่เริ่มล้อมกรุงแรกๆ พม่าได้เตรียมต่อแพแล้วไหลลงตามแม่น้ำลงมาจากทางเหนือจนถึงอยุธยา ทีนี้พอน้ำท่วม ทัพพม่าก็ไม่เดือดร้อนแล้ว สู้กับเราบนแพเลย (อย่างกับเรื่อง Water World) พม่าแก้ทางได้ งานนี้เราก็เสร็จสิครับ


*** ผู้เขียนมโนว่า ทัพพม่าคงจะต่อเรือ ต่อแพประมาณนี้

ผมประเมินว่า ฝ่ายไทยคงรู้ผลลัพธ์ของศึกครั้งนี้ ตั้งแต่เห็นฝ่ายพม่าแก้เกมยุทธศาสตร์เราได้แล้ว พอโดนล้อมจนเสบียงหมดก็แพ้ตามระเบียบ

ส่วนเรื่องที่ว่าไทยอ่อนแอทะเลาะกันเอง หรือพม่าตีเมืองมาเรื่อยๆเห็นไทยอ่อนแอ เลยรวดเข้ามาตีไทย ตามความเห็นส่วนตัวคงจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก เพราะจะเห็นได้ว่า ไทยโดนล้อมได้นาน 1 ปีกับ2เดือน ถือว่านานมาก แสดงว่าฝ่ายไทยก็มีการเตรียมการณ์รับศึกมาอย่างดี มีการกักตุนเสบียงคลังล่วงหน้าไว้อย่างพรั่งพร้อม ส่วนจะบอกว่าพม่าไม่ได้ตั้งใจมาบุกไทย ยิ่งเป็นไปได้ยากเพราะอย่างที่เห็นฝั่งพม่าเค้าก็เตรียมตัวมาดี

ดังนั้นการที่เราเสียกรุงครั้งนี้เนื่องจากทัพพม่าสามารถแก้ยุทธศาสตร์ตั้งรับของเราได้มากกว่า ส่วนเรื่องที่เราทะเลาะกันเอง คงเป็นเรื่องปลีกย่อยไม่น่าใช่ประเด็นเท่าไหร่นัก



Part 2"ยุทธศาสตร์ใหม่ กับราชธานีแห่งใหม่"

จะเห็นได้ว่าฝ่ายไทย ย้ายเมืองหลวงมาที่กรุงธนบุรี แสดงว่า ตั้งใจจะไม่ใช่ยุทธศาสตร์ตั้งรับในเมืองอีกต่อไปแล้ว เพราะกรุงธนบุรีเป็นเมืองอกแตก แม่น้ำใหญ่ไหลผ่านกลางพระนคร

***เมือง อกแตก (แม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง เหมือนพิษณุโลก)

ยุทธศาสตร์ที่เราเปลี่ยนมาใช้ตั้งแต่รัชกาลพระเจ้ากรุงธนเป็นต้นมา มี 2 แนวทาง

แนวทางยุทธศาสตร์แรก เราขยายพื้นที่ปริมณฑลทางทหารและการเมืองที่พม่าใช้เป็นฐานมารบเรา เช่น ฝ่ายไทยพยายามไปผูกมิตรกับพระเจ้ากาวิละทางล้านนา หรือไปข่มขู่ให้ลาว ลานช้างเป็นมิตรกับเรา (คือถ้าไม่เป็นมิตรกับเรา คงจะเก็บไว้ไม่ได้ประมาณนี้) ยุทธศาสตร์นี้หวังผลในการชะลอทัพของพม่าไว้ก่อนเข้าถึงพระนคร



***พระเจ้ากาวิละ เจ้าเมืองลำปาง

แนวทางยุทธศาสตร์ที่สอง ยุทธศาสตร์ การตั้งค่าย ดักรอรับกองทัพพม่า ตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆ ที่กองทัพพม่าจะเคลื่อนทัพเข้ามา จะเห็นได้ว่ายุทธศาสตร์นี้จำเป็นจะต้องมี การข่าว เป็นสำคัญ จึงจะตั้งรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมมุติว่าข่าวผิด ตั้งรับผิดตำแหน่ง อาจจะถึงกับแพ้ศึกได้

***ซึ่งสงคราม 9 ทัพนี้ ตัดสินแพ้ชนะกันตรง การข่าว ที่มีประสิทธิภาพของเรานั่นเอง


Part 3 "พม่าบุก"

ทีนี้เรามาดูว่า เค้านับว่าพม่าบุกมา 9 ทัพอย่างไร และตำแหน่งการตั้งค่ายรับมือพม่าของเราเป็นเช่นไร

ทัพหลัก เป็นทัพของ '"สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท"' (พระราชอนุชา หรือน้องชาย รัชกาลที่ 1)
ไปตั้งรับทัพหลวงของพระเจ้าปดุงซึ่งมาทางเส้นไทรโยค ที่กาญจนบุรี มีกำลังพล ประมาณ 3 หมื่น (***กำลังพลน้อยกว่าทัพหลวงพระเจ้าปดุงที่มีกำลังพล 8 หมื่นกว่า เกือบ 2 เท่าครึ่ง)


***สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท

ทัพที่สอง ให้พระเจ้าธรรมมาธิบดี และเจ้าพระยายมราช นำกำลังพล 1 หมื่น ลงมาตั้งรับทัพพม่าที่มาทางใต้ เส้นทวาย กับ มะริด (ซึ่งจริงๆทัพทางมะริดมุ่งตีกวาดลงใต้ไปถึงถลาง ไม่ได้มีภาระกิจเข้าตีพระนครแต่อย่างใด ดังนั้นทัพนี้จึงรับมือทัพที่มาเส้นทวายแต่เพียงทัพเดียว) จุดตั้งรับที่ราชบุรี

ทัพที่สาม ให้กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข (วังหลัง) ขึ้นไปชะลอทัพพม่าที่มาทางเหนือ ที่นครสวรรค์

ทัพสุดท้าย เป็นของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 1 ทรงตั้งทัพอยู่ที่ในพระนคร คอยบัญชาการ วางแผน และส่งกำลังเสริม เสบียง อุดหนุนช่วยทัพทั้ง 3 ข้างต้น




***ผมมาร์คจุดแดง ให้เป็นจุดตั้งรับของฝ่ายไทย ส่วนจุดน้ำเงินเป็นแนวเส้นทางเดินทัพของฝ่ายพม่านะครับ จะได้นึกภาพออกง่ายๆ


***ผมขอแทรก นำเสนอทฤษฏีของ ดร.สุเนตร ที่ดูมีเหตุผลทางภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์มากกว่าทฤษฏีเดิม แต่ขออธิบายแต่เพียงคราวๆ เพราะจะเอาให้ลึกมันจะค่อนข้างยาวเกินไป

ประการแรก ทฤษฏีปิดตรอกตีพม่า ที่บอกว่าทัพพม่าติดอยู่บนภูเขา เหมือนโดนฝ่ายไทยสกัดอยู่ปากตรอกนั้น ไม่ค่อยมีความเป็นไปได้ทางภูมิศาสตร์ซักเท่าไหร่นัก ทั้งนี้เพราะ พม่าที่เดินทัพมาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ ไม่จำเป็นต้องเดินทัพเส้นเดียว อย่างที่เรารับรู้มา โดย สามารถเดินผ่านแขวงเมืองไทรโยคตัดทางริมแม่น้ำแควใหญ่ที่เมืองท่ากระดาน และเดินทัพเลียบลำน้ำเข้าตีเมืองกาญจนบุรีเก่าได้

ประเด็นที่สอง ฐานที่ตั้งรับพม่าในศึกเก้าทัพ โดยเฉพาะทัพหลวง ไม่ควรจะตั้งรับลึกถึงทุ่งลาดหญ้า ทั้งนี้เพราะการนำกำลังทั้งหมดไปตั้งรับที่ทุ่งลาดหญ้าเท่ากับเป็นการเปิดแนวหลัง ตรงจุดยุทธศาสตร์สำคัญ คือ ปากแพรก ซึ่งที่ผ่านมาในศึกบางแก้ว พม่าก็ใช้เป็นจุดประชุมพลและตั้งทัพอย่างถาวรเพื่อนเตรียมการเข้าตีราชบุรี จะเห็นได้ว่า ปากแพรกเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาก นักการทหารของไทย โดยเฉพาะกรมพระราชวังบวรฯ ไม่น่าจะมองข้ามไปได้


*** แผนที่ประกอบจากสงครามพม่าที่ท่าดินแดง หาของศึกเก้าทัพไม่เจอ ให้ดูเป็นแนวทางไปก่อนละกัน


[size=18]ที่นี้เราจะมาโฟกัสตรงไทรโยค หรือกาญจนบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งทัพหลวงของทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งจะเป็นจุดชี้ผลแพ้ชนะของศึกเก้าทัพนั่นเอง

มาทบทวนทัพหลวงที่แบ่งเป็นทัพย่อย 4 ทัพของพระเจ้าปดุงกันอีกรอบ
ทัพของตาดอตะโดเมงสอ( Thadaw Thado Minsaw) พระราชบุตร ประกอบด้วยทัพม้า 1,100 ไพร่ราบ 11,000
ทัพของสิริธรรมราชา (Thiri Damayaza) พระราชบุตร มีทัพม้า 1,200 ไพร่ราบ 12,000
ทัพเมงโหว่งเมงจีมหาเมงกอง (Min Wun Mingyi Maha Mingaung) แม่ทัพม้า ประกอบด้วยทัพม้า 1,000 ไพร่ราบ 10,000
ทัพหลวงของพระเจ้าปดุง ประกอบด้วยทัพช้าง 500 ทัพม้า 5,000 และไพร่ราบ 50,000

ขอเล่าแบบอธิบายเหตุการณ์แล้วกัน ***ตีกันตรงไหนอย่างไรจะไม่ขอเล่าละกันนะครับ เดียวจะยืดยาวเกินไป

ไทย : ฝ่ายการข่าวไทย รายงานเส้นทางการเดินทัพของพม่า ทั้งทัพหลวงและทัพย่อย ทำให้ ฝ่ายเราวางแผนตั้งค่ายตามจุดยุทธศาสตร์ที่เล่าให้ฟังข้างต้น

พม่า : พระเจ้าประดุงยกทัพหลวงมาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ โดยมีเสบียงแต่เพียงจำกัด

ไทย : ฝ่ายการข่าวไทยสืบรู้มาว่าฝ่ายพม่ามีปัญหาการขาดเสบียง หรืออาจจะคาดการณ์จากประสบการณ์ว่าถ้าพม่ายกทัพมาทางด่านพระเจดีย์สามองค์มักจะเกิดจากการประสบปัญหาขาดเสบียง (ด่านพระเจดีย์สามองค์ เป็นทางบุกที่ใกล้ที่สุด โดยมากจะใช้บุกแบบsurprise attack ไม่ให้ฝ่ายไทยได้ต้้งตัว)

ไทย : รัชกาลที่ 1 ทรงวางแผนกลศึก โดยใช้ยุทธการณ์การ ตีตัดเสบียงฝ่ายพม่าเป็นหลัก มีบันทึกว่า กรมพระราชวังบวรฯ ทรงให้ "ตั้งกองโจรให้พระยาสีหราช เดโชไชย พระยาท้ายน้ำ กับพระยาเพ็ชรบุรี คุมไปซุ่มสกัดคอยตีกองลำเลียงเสบียงอาหารที่ส่งมายังค่ายพม่าข้าศึก พระยาทั้ง 3 ยกไปแล้ว ไปทำเกียจคร้านอ่อนแอ จึงดำรัสให้ประหารชีวิตเสียทั้ง 3 คน"
***(ว่ากันว่า ตัดหัวใส่ชะลอม นำหัวไปเสียบประจานกันเลย) จะเห็นได้ว่า ฝ่ายไทยจริงจังกับแผนการตีตัดเสบียงเป็นอย่างยิ่ง โดยต้องชมเชยการข่าวที่สืบรู้ปัญหาใหญ่ของพม่ามาได้


พม่า : พระเจ้าปดุงได้สั่งให้แม่ทัพม้า เมงโหว่งเมงจีฯ เคลื่อนทัพแรกมาเปิดแนวศึกกับทางไทย ประกอบด้วยทัพม้า 1,000 ไพร่ราบ 10,000 โดยหวังให้ทัพหน้านี้ ยึดตัวเมืองกาญจนบุรีเก่า เพื่อเอาเมืองมาเป็นฐานกำลังให้ทัพหลวง ต้้งมั่นในการทำศึกต่อไป
***แต่ก่อนจะส่งทัพนี้ลงมา พระเจ้าปดุงเรียกแม่ทัพใหญ่เมงโหว่งเมงจีมหาเมงกองมาสอบถามเรื่องเสบียงของทัพนี้ว่ามีมากน้อยเพียงใด แม่ทัพเมงโหว่งเมงจีฯ ก็ตอบว่าอยู่ได้เป็นเดือนพะย่ะค่ะ พระเจ้าปดุงจึงพอพระทัยเนื่องจากเสบียงยังถือว่ามีเยอะพอที่จะยึดกาญจนบุรี
*** เรื่องสำคัญมันอยู่ตรงนี้ คือ แม่ทัพเมงโหว่งเมงจีฯ โกหกพระเจ้าปดุง!!! ด้วยความจริงเสบียงรบไม่ได้มีเยอะอย่างที่รายงานไป อาจด้วยเห็นเพื่อนแม่ทัพที่โดนพระเจ้าปดุง จับประหารไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากเก็บเสบียงได้ไม่ทันตามกำหนด เลยตัดสินใจโกหกหวังไปตายเอาดาบหน้า (พม่าโหดนะครับ ประหารชีวิตนี่ไม่ได้ตัดหัวแบบเรา ใช้วิธีจับย่างสดเลยนะครับ)

พม่า : ทัพหลวงพระเจ้าปดุงค่อยๆเคลื่อนตามลงมาผ่านด่านพระเจดีย์สามองค์ แล้วจึงพักทัพที่สามสบ (จุดที่แม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน)

ไทย : ฝ่ายไทยยึดชัยภูมิสำคัญตั้งรับบริเวณปากแพรก หรือลิ้นช้าง (กาญจนบุรีปัจจุบัน)เหตุผลอย่างที่เล่าไปข้างต้น แล้วขยายแนวตั้งค่ายรับตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆต่างๆ

ไทย : ส่งกองกำลัง 3000 โดยมี พระยามหาโยธาคุมไป (ทัพมอญ) ไปคอยดักปล้นทัพพม่า ตรงด่านกรามช้า ภาระกิจ คอยชะลอ และตัดเสบียงทัพพม่า

พม่า : ทัพม้าของเมงโหว่งเมงจีฯ ปะทะกับกองกำลังของพระยามหาโยธา ในพงศาวดารพม่ามีกล่าวไว้ว่า " ฝ่ายไทยทนฝีมือไม่ได้ ก็เอายาพิษใส่ไว้ในกระบอกน้ำ และห่อข้าว แล้วพากันถอยหนี พลทหารพม่าไม่รู้อุบาย พากันกินน้ำกินข้าว ตายเสียไปสัก 400 "
(***จริงๆคงไม่ได้ตายไปแค่ 400 หรอก น่าจะเยอะกว่านี้ และคงไม่ใช่เราสู้ไม่ได้ แต่เราคงวางอุบายไว้แบบนี้อยู่แล้ว)


พม่า กับ ไทย ตั้งค่ายประจันหน้ากัน ฝ่ายไทยก็คอยส่งกำลังทหารไปตีตัดเสบียงพม่าเรื่อยๆ

ไทย : ฝ่ายไทยส่งทูตขึ้นไปเข้าพบพระเจ้าปดุง ฑูตคนนี้เป็นข้าเก่าของพระเจ้าปดุง ถูกไทยจับเป็นเชลยศึกได้ตั้งแต่ครั้ง ศึกอะแซวุ่นกี้ โดยพระราชสารจากฝ่ายไทยมีเนื้อหาประมาณขอ หย่าศึก พระเจ้าปดุงไม่ได้สนใจพระราชสารแต่อย่างใด แต่กลับสอบถามกับฑูตข้าเก่าถึง การจัดทัพรับศึกของฝ่ายไทย ข้าเก่าคนนี้ ก็ถวายตอบว่า ฝ่ายไทยเน้นเทกำลังส่วนใหญ่อยู่ตรงกาญจนบุรี เพื่อที่จะตั้งรับทัพหลวงของพระเจ้าปดุงเป็นหลัก ส่วนทางอื่นวางกำลังพลไว้ไม่มากนัก

พม่า : ทีนี้พระปดุงก็เห็นว่าทัพม้าที่ส่งไปทัพแรก ไม่น่าเพียงพอ จึงได้สั่งให้ส่งทัพหนุนลงมาช่วยทัพแรก คือทัพของตาดอตะโดเมงสอ พระราชบุตร ประกอบด้วยทัพม้า 1,100 ไพร่ราบ 11,000
*** คงจะเป็นอุบายซ้อนกลของฝ่ายไทย ที่จะทำให้พระเจ้าปดุงตื่นตระหนัก แล้วส่งทัพลงมาเสริม เนื่องจากเราสืบรู้ว่ามาทัพแรกขาดแคลนเสบียงอย่างหนักแล้วโกหกพระเจ้าปดุงว่ามีเสบียงเหลือเฟือ ทีนี้พอลงมาเป็นสองทัพจะเอาอะไรกินกันล่ะ

พม่า : ทัพทั้งสองทัพของพม่าที่ถูกส่งลงประจันหน้ากับทัพไทย เกิดภาวะขาดเสบียงอย่างหนัก ว่ากันว่าอดยากถึงกับ ต้องฆ่าพาหนะ อย่างม้า หรือวัว เป็นอาหาร หนักเข้าหนักเข้าถึงขนาด เอาเครื่องหนังที่ใช้ทำเป็น โล่ หมวก หรือ รองเท้า มาทำอาหารประทังชีวิต ภาวะอดอยากของทัพแรกที่ล่วงลงมาก่อน ถูกเติมความหนักหนาด้วยทัพเสริมที่พระเจ้าปดุงส่งมา

ไทย : ฝ่ายใช้ยังใช้กลศึก ตีลัดตัดเสบียงกดดันพม่าไปเรื่อยๆ ไม่ให้ทัพหลวงของพม่าส่งเสบียงมาให้ทัพหน้าได้

พม่า : ทัพหลวงของพระเจ้าปดุง ไม่อาจเคลื่อนทัพลงกระทำช่วยทัพหน้าที่ขาดเสบียงได้ เนื่องจาก ทัพหลวงเองก็มีเสบียงไม่เพียงพอ แถมกองหลังที่รับผิดชอบการจัดส่งเสบียงไม่สามารถหาเสบียงส่งเลี้ยงกองทัพได้

***ท้ายสุดแล้วพระเจ้าปดุงต้องตัดสินพระทัย ตัดใจยอมยกทัพกลับ แต่ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะการยึดกรุงธนบุรีเสีย ซึ่งพระเจ้าปดุงจะกลับมาล้างตาอีกครั้ง ในศึกพม่าที่ท่าดินแดง ซึ่งศึกนี้ พม่าแก้เกมเรื่องเสบียงมาใหม่ ส่วนไทยเราจะสามารถแก้เกมพม่ากลับไปอีกครั้งได้รึป่าว ไว้จะมาเล่าให้ฟังอีกที..............................

***ท้ายสุดขอสรุปถึงคีย์ ในสงครามเก้าทัพนี้อีกครั้ง

1 การข่าวของฝ่ายไทยมีประสิทธิภาพสูง จะเห็นได้ว่า เราสามารถดักทัพพม่าได้ทุกทาง โดยเฉพาะทัพหลวงที่เราไปตั้งสกัดได้อย่างถูกตำแหน่ง และเรายังสามารถสืบทราบถึงปัญหาการขาดแคลนเสบียงอาหารพม่าได้เป็นอย่างดี
2 ฝ่ายไทยมีการวางแผน จุดยุทธศาสตร์ หรือ การเลือกเอาอุบายศึกต่างๆใช้ได้อย่างเหมาะสม
3 การที่พระเจ้าปดุง แสดงความเด็ดขาดโดยการสั่งประหารแม่ทัพเมงจีเมงกองจอ ทำให้เกิดความหวาดหวั่นในกองทัพ ถือเป็นดาบสองคม ที่ทำให้พระเจ้าปดุงไม่ทราบสถานการณ์ที่แท้จริงของกองทัพพระองค์เองได้
4 ข้อสุดท้าย ยุทธศาสตร์การออกมาตั้งรับศึก นอกพระนคร ประสบความสำเร็จ


เขียนและเรียบเรียงให้อ่านโดยผมเอง
ที่มาข้อมูลและรูปประกอบบางรูป จากหนังสือพม่ารบไทย และซีดีไทยรบพม่า พม่ารบไทย โดย ดร สุเนตร ชุตินธรานนท์ และ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร


อ่านไม่เข้าใจตรงไหน หรือผิดพลาดประเด็นใด ท้วงติงได้น่ะครับ พอดีขายของไปด้วย เขียนไปด้วย ไม่ได้ตรวจทานดีๆ เห็นมีเพื่อนๆติดลมอยากอ่านต่อเร็วๆ




***ลืมๆๆ สงคราม 9 ทัพ เค้านับเเบบนี้
เส้นมะริดซึ่งตอนท้ายแยกเป็น 2 ทัพ
ทัพเส้นทวายอีก 1 ทัพ
ทัพเส้นเชียงใหม่อีก 1 ทัพ
ทัพเส้นระแหง อีก 1 ทัพ
ทัพหลวงเส้นไทรโยค อีก 4 ทัพ
รวมเป็น 9 ทัพ


****edit ปิดท้าย ขอบคุณที่เสียสละเวลาติดตามผลงาน






แก้ไขล่าสุดโดย jofromhell เมื่อ Thu Jun 11, 2015 12:44, ทั้งหมด 6 ครั้ง
218
0
หากโดน 371 เรื้อน จะถูกแบน
Jadada , zerpenteer , red_engine , maxseethesky , extinction , METRONOME , harraypotta , 7ooHP , Middle-Earth , PUGPUBG , xhk,7'lb , kingseal , พี่วิuฯ , Katana-Wakizashi , armz14 , I'm Henry , sitea , LXcutionaire , TheBeatles29 , Plz , teenoi_toon , ผมเองนะ , VanDerPor , KopQwerTy , Blood Diamond (x2) , Luxiaofeng323 (x2) , 腾飞的蓝龙 (x2) , ศาสตราจารย์ (x2) , ♥Sวมพลคuบsิโภคlนื้องูสิJ♥ (x2) , Miәzstarz™♪ (x2) , gp901 (x2) , vankungnn (x2) , kraben (x2) , MISAKI999 (x2) , oyoyoo (x2) , superfrank8 (x2) , MINITO (x2) , กวนอูออกศึก (x2) , bank_35422 (x2) , ApeApe (x2) , lolopopo_13 (x2) , nismos (x2) , danis (x2) , The Sunny Crew (x2) , _น้ำแข็งใส_ (x2) , Redarmy_Yoona (x2) , JOllJ (x2) , LSTYOLO (x2) , ziddig (x2) , shojan (x2) , มิซึกิ จุน (x2) , Camelo (x2) , singburi (x2) , itoonggy (x2) , [L]-GoD (x2) , ★พลูโตที่รัก (x2) , bingos (x2) , cadet_Bosingwa (x2) , OnlyGodKnow (x2) , LorDBriGhT (x2) , nisZy (x2) , Glory Glory MUTD (x2) , fw_converse (x2) , s4320165 (x2) , benz10_united (x2) , bankcodelove (x2) , hawk (x2) , franshesjoe (x2) , Brightenzyme (x2) , TouchPig (x2) , Gul2iKo (x2) , BRAZAGE (x2) , ก็ไม่รู้สินะ (x2) , มิซากิ ฮายาโตะ (x2) , Backstreet Boy (x2) , snowblow (x2) , Ops_mu (x2) , Love me Love my life (x2) , Smc (x2) , Game_Step (x2) , gumix (x2) , เด็กชนแก้ว (x2) , KeMuMaKi (x2) , Dirtyduck (x2) , Balotelli (x2) , pongwuth (x2) , Kagawa@7 (x2) , Kunmiawja (x2) , kingporpy (x2) , ผมชื่อกิดนะคับ (x2) , ziko0136 (x2) , Toruk Mukto (x2) , OHMSS (x2) , IZicado (x2) , ninerawee (x2) , maax (x2) , monzakub (x2) , Jack $parrow (x2) , Ake the Blue (x2) , lfc53 (x2) , masterkabo (x2) , alternathum (x2) , NYMPHZ (x2) , utum_13 (x2) , มังกรหยก (x2) , tommyboy (x2) , JuNkMaN (x2) , bankronaldo (x2) , ChAmPmY (x2) , ปีศาจแดงดำ (x2) , ojama55 (x2) , เงาะมีขน (x2) , dunarmy (x2) , ซาบุสะ (x2) , zeroyagusa (x2) , k0l2n (x2) , Ezreal (x2) , Badsometime (x2) , vi haa (x2) , moowarn (x2) , StartCPE (x2)
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: You'll Never Walk Alone
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 28358
ที่อยู่: สุสานโบราณ
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 16:55
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
ขอเจิมก่อนละกันแล้วอ่านทีหลัง ร้านกำลังวุ่น









มี PM มาด้วยแฮะขอบคุณ
แก้ไขล่าสุดโดย zerpenteer เมื่อ Thu Nov 06, 2014 16:56, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


"You'll never walk alone "& SCG Redvolution

ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8677
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 16:59
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
อ่าว แล้วทำไมต้องมีสงคราม 9 ทัพพร้อมกันหลาย ๆ มู้ด้วยเนี่ย *0*
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Sep 2006
ตอบ: 7020
ที่อยู่: ในร่ม
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 17:07
ถูกแบนแล้ว
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
กำลังรอเลยครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 May 2010
ตอบ: 5083
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 17:14
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
อ่านได้ความรู้ดีมากครับ

ปล.มีpm มาด้วย ขอบคุณมากครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 1203
ที่อยู่: ฐานทัพลับศิลปากรเพชรบุรี
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 17:24
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
สนุกดีครับ กระทู้สาระเลย












มีผิดตรง "ตักตุน >>>กักตุน" กับ"ธรรมมาธิดี>>>ธรรมาธิบดี" เท่าที่เจอนะครับ แต่ให้อภัยพร้อมแผลบ 55555
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Oct 2010
ตอบ: 2925
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 17:24
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
ขอบคุณสำหรับสาระครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ลายเซ็นไม่มี แจกเยอะแล้ว



ออฟไลน์
แข้งลีกเอิง
Status: LFC.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 4836
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 17:25
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
มาสักที
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 2976
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 17:46
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
I'm Henry พิมพ์ว่า:
สนุกดีครับ กระทู้สาระเลย












มีผิดตรง "ตักตุน >>>กักตุน" กับ"ธรรมมาธิดี>>>ธรรมาธิบดี" เท่าที่เจอนะครับ แต่ให้อภัยพร้อมแผลบ 55555  

แก้ไขละครับ ขอบคุณมากครับ
แก้ไขล่าสุดโดย jofromhell เมื่อ Thu Nov 06, 2014 17:46, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: I'm Gunner
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2013
ตอบ: 30128
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 17:48
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
ขอบคุณที่สละเวลามาเขียนให้อ่านครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
*0**0*
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2007
ตอบ: 3012
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 18:01
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status: หนึ่งความเหงาบนดาวเคราะห์
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Oct 2009
ตอบ: 7958
ที่อยู่: 『ไม่บอกหรอก』
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 18:09
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ชอบอ่านแนวนี้มาก
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
## แนะนำ อนิเมะ UPDATE ต่อเนื่อง ## : A.C. Animation Consulting ชมรมที่ปรึกษาปัญหาอนิเมะ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 1 ใบ
เข้าร่วม: 14 Feb 2008
ตอบ: 7096
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 18:27
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
มี 10 แผล่บให้ 10 เลยครับ กระทู้แบบนี้ ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่าน แต่คุ้มค่าจิงๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Dennis Berkamp
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 2442
ที่อยู่: CHELSEA
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 18:33
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
มู้คุณภาพของจริง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Oct 2013
ตอบ: 773
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 06, 2014 18:37
[RE: (ตอนจบ)พม่า vs ไทย สงความ 9 ทัพ]
ขอบคุณมากครับ

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel