ความพ่ายแพ้ 5-3 ต่อเลสเตอร์ ซิตี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องที่น่าบันเทิงใจสำหรับแฟนบอลทีม”ปีศาจแดง” แต่เมื่อนำผลงานในเกมนั้นมาเทียบกับ 3 นัดแรกในลีก ที่ทีมยังดูประสานงานกันไม่ดีเท่าไหร่ มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายฝ่ายพากันพูดถึงหลังเกม เราไม่ได้บอกว่าไม่ควรกังวลกับเกมรับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่มันเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้และไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเพื่อแก้ไขปัญหานี้



อีกทั้งปัญหาผลัดกันบาดเจ็บของเหล่าผู้เล่นในแนวรับทำให้ หลุยส์ ฟาน กัล ไม่มีตัวเลือกมากนัก ซึ่งมันส่งผลให้แนวรับของทีมไม่ได้เล่นร่วมกันอย่างสม่ำเสมอและขาดซึ่งความเข้าใจเกมร่วมกัน มันจะค่อย ๆดีขึ้นเมื่อแผงแบ็คโฟร์ได้เล่นร่วมกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย กับ ลุ๊ค ชอว์ ที่มีชื่อเป็นตัวสำรองในนัดที่แล้วก็สามารถเข้ามาเป็นตัวเลือกในการแก้ปัญหาจุดนี้ได้ หลังจากที่ ราฟาเอล กับ โรโฮ แบ็คทั้งสองฝั่งของทีมทำผลงานได้แย่ในเกมที่แล้ว



ต้องไม่ลืมว่านักเตะครึ่งหนึ่งในทีมเป็นนักเตะที่เพิ่งย้ายมาจากลีกอื่น ซึ่งพวกเขายังต้องเรียนรู้กับจังหวะเกมที่เร็วขึ้นและการเข้าปะทะอย่างหนักหน่วงของคู่แข่ง อีกทั้งเมื่อผนวกกับความจริงที่ว่า มาร์ค แคลตเท่นเบิร์ก ผู้ตัดสินในเกมนั้น ตัดสินใจได้แย่มาก ๆในหลายจังหวะ จนเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ กลับมาสู่เกมจนพลิกชนะในที่สุด



และมันก็เป็นไปเหมือนกับที่เราเคยกล่าวถึงก่อนหน้านี้ ทั้ง ดาลี่ย์ บลินด์ กับ ไมเคิ่ล คาร์ริค ควรจะได้ลงเป็นตัวจริงร่วมกันเมื่อ คาร์รนิค ฟิตสมบูรณ์แล้ว เพื่อสร้างสมดุลให้กับทีม(ที่ตอนนี้มีนักเตะตัวรุกเต็มไปหมด) ในเกมกับเลสเตอร์ บลินด์ ยังคงยืนตำแหน่งและผ่านบอลได้ดีตามมาตรฐานของเขาแม้จะถูกนักเตะเลสเตอร์เข้าประกบชิด แต่การมีมิดฟิลด์ชาวดัตช์เล่นเกมรับเพียงคนเดียวนั้นไม่อาจช่วยเหลือกองหลังของทีมได้มากนัก เนื่องจากเขาต้องเผชิญหน้ากับการทิ้งบอมบ์ยาวขึ้นมาข้างหน้าและเล่นเกมเร็วตามสไตล์ฟุตบอลอังกฤษของเลสเตอร์



แต่ถ้าเรามี คาร์ริค อยู่ในเกมนั้น เราจะได้ประสบการณ์ที่สามารถนำความนิ่งต่อสถานการณ์นั้นและความเป็นผู้นำจัดการเกมรับมาสู่ทีม เมื่อเขาได้เล่นร่วมกับ บลินด์ ที่มีความคล่องตัวและไหวพริบในการเล่น ความพ่ายแพ้ในช่วง 30 นาที ย่อมเป็นสิ่งทีมหลีกเลี่ยงได้ด้วยความเข้าใจสถานการณ์ในเกมของพวกเขา และต้องยอมรับว่าตอนนี้เราคงต้องแก้ไขปัญหานี้ด้วยการใช้กองกลางที่มีประสบการณ์ในเกมรับเข้ามาช่วยเหล่ากองหลังวัยหนุ่ม รวมทั้ังยังมีความเป็นไปได้ที่ ฟาน กัล อาจจะถอย ไมเคิ่ล คาร์ริค ลงมาเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

ในทางกลับกัน แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรจะมองโลกในแง่ดีถึงสิ่งที่รอพวกเราอยู่ในวันข้างหน้า นั่นก็คือเกมรุกของทีมทำได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ยุค(มืด)ของทีมภายใต้การนำ เดวิด มอยส์ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดของเรื่องนี้ คือความเข้าใจที่ีมากขึ้นระหว่างนักเตะในทีมจนเหมือนกับพวกเขาเล่นร่วมกันมานานแล้ว แม้ในเกมที่ชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 4-0 ยังมีข้อสงสัยต่อกองหน้าทั้งสามคนว่ายังประสานงานกันได้ไม่ดีพอ แต่พวกเขาทำมันได้ดีมากขึ้นในเกมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ และมันจะยิ่งดีขึ้นในเกมต่อ ๆไป แต่ในระหว่างที่ ไมเคิ่ล คาร์ริค ยังไม่พร้อมลงสนาม ทีม”ปีศาจแดง”คงต้องถือคติ”เกมรุกคือเกมรับที่ดีสุด”แก้สถานการณ์ข้างไปพลาง ๆก่อน



AJ44@แมนยูคลับ.com

ผมคิดว่าการแพ้เลสเตอร์มันเป็นอุบัติเหตุอะครับ ไม่ได้แพ้แบบรูปเกมสู้ไม่ได้หรืออะไร

ช่วงที่นำ 3-1 ก็เล่นดีนะครับ แต่มันมีจุดเปลี่ยนคือจุดโทษ แล้วโดนตามตีเสมออย่างเร็ว

พอโดนใบแดงอีกก็กลับมายากละครับ

ดีแล้วครับ จะได้เห็นจุดอ่อน

อยากให้จัดคนให้ตรงตามตำแหน่งด้วย ชอว์เล่นแบ็ค โรโฮยืนหลังตัวกลางฝั่งซ้าย

บลินด์โดดเดี่ยวเกินไป คาริคหรือเอร์ราร่าต้องมาช่วยหน่อย

สำคัญที่สุดคือตำแหน่งของหมู ต้องยืนหน้าเท่านั้น

แต่ก็ไม่แน่ครับ ถ้าหมูมันสามารถปรับตัวกับตำแหน่งใหม่ได้ดีขึ้น (หวังว่านะ)

เกมของแมนยูน่าจะแจ่มกว่านี้อีก

ขออีกอย่างนึงคือตอนมกราเสริมกองหลังตัวกลางระดับเวิร์ดคลาสมาให้ได้จะดีมาก

หรือไม่ก็เอาตัวในลีกเนี่ยแหละ ชอว์ครอสก็ดีนะ แต่อยากได้ฮุมเมิ่ล

ปัญหาอยู่ที่เกมรับเท่านั้น จูนได้ก็ฉิวแล้ว

นักเตะเกมรุกไม่ช่วยเกมรับ และเซนเตอร์แบ็กนัดกันเจ็บ

ผมว่าไม่เกี่ยวกับกลางหรอก หลังล้วนๆ เพราะแต่ละลูกที่เสีย อย่างลูกจุดโทษก็เพราะเสียเหลี่ยม ลูกแคมบิอัสโซ่นี่คลุกคลิกไม่โทษละกัน พอลูก 4 กองหลังประกบห่างมาก พอลูก 5 โยนมาโหม่งไม่โดนซะอย่างงั้น

แพ้เพราะสมาธิกับเกม 2-0 แล้วโดน ตีไข่แตกเร็ว กับโดนตีเสมอ 3-3 โดยลูกจุดโทษกับลูกกัมบิอัสโซ่ ทำให้นักเตะแมนยูรวนไปเลย
แต่อีกมุมหนึ่งที่มีให้เห็นคือเกมรุกที่ดุ ลื่นตาดี แต่จังหวะเข้าทำไม่ค่อยหวือหวาเท่าีี่ที่ควร
จูน ปรับ แต่ง อีกสักนิดก็น่าจะโอเค โดยเฉพาะแนวรับ
ส่วน เด เคอา เซฟลูกปาฏิหาริย์ สัก 1 ใน 5 ลูกนั้นสักลูกก็ไม่มี
สุดท้าย เชื่อและหวังว่าทีมเราต้องกลับมาแน่ครับ ขอเวลาอีกหน่อย

็ี็Hummel นี่ได้ข่าวว่าแกก็ไปพบหมอบ่อย เหมือนกันนะช่วงนี้ ..

สลับกันเข้าโรงบาลกับโจนส์ สมอลลิ่ง อีแวนส์ เลย

แผล่บหมด ติดไว้ก่อนนะครับ

ถ้าเกมรับกากจิง ผมว่าคงโดนนำไปแล้วหรือโดนตีเสมอ 2-2 ผมว่าเสียสมาธิกับการตัดสินโง่ๆของมาร์คมากกว่า(มันชัดเจนจิงๆ ถ้ามันก้ำกึ่งคงไม่บ่น)

ยังไงลืมๆมันไปผมว่าน่านักเตะเล่นกันได้ดีแล้วนะ หวังว่าคงเก็บชัยต่อเนื่องจากนี้ แล้วก็ฟานฮาลอย่าทำอะไรแผลงๆแค่นั้นแหละ คงเกาะกลุ่มนำลุ้นไป UCL ได้อยู่ เพราะลิเวอร์ดูจะกลับมาฟอร์มเดิมหลังซัวเรซจากไป

ผมเชื่อ ว่า เหล่าแฟนผี จะได้ดูเกมโดนถล่มแบบนี้อีกหลายเกม ตั้งตารอไว้เลย

เห็นด้วยครับ ผมมองว่านัดนั้นมันมีจุดเปลี่ยนหลายอย่างเลย ซึ่งหนึ่งในนั้นการกระแทกแบบไม่โดนเป่าฟาวล์ของผู้เล่นเลสเตอร์ก็มีส่วนอย่างมากจริงๆ ที่ทำให้เกมที่จะจบกลับไม่จบแถมมีแรงกระตุ้นความหวังขึ้นมาเรื่อยๆ นัดนี้กลางเราไม่บีบช่วยกองหลังเท่าที่ควร และการที่อีฟต้องออกไปเอาสมอลิ่งที่เพิ่งหายเจ็บลงมาก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องเข็นผู้เล่นที่ยังไม่พร้อมลงไป

ตำแหน่งรูนี่ย์ผมเห็นด้วยว่าต้องหน้าเท่านั้น นัดที่แล้วผมไม่ได้มองว่ารูนี่ย์ผิดพลาดอะไร เขาทำเต็มที่กับตำแหน่งที่ไม่ใช่ตำแหน่งหลักของเขาและก็เปิดบอลให้เพื่อนทำประตูได้ ซ้ำยังช่วยเกมรับอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่มองยังไงรูนี่ย์ไม่เหมาะกับกลางรุกหรือปั้นเกมหลังกองหน้าสองตัว เพราะการมองเกมการออกบอลเร็วและเทคนิกยังด้อยอยู่มาก เขาเหมาะกับเป็นตัวยิงตัวผ่านบอลให้คู่ขาแดนหน้ามากกว่า แบบนี้มันเสียของ และเสียดายตำแหน่งครับ

ผมว่าฟานกาวควรเลือกไปเลยว่าสองศูนย์หน้าจะเป็นใคร ส่วนตำแหน่งกลางรุกมองยังไงก็ต้องมาต้า ไม่อย่างนั้นก็ดันดิมาเรียจะดีกว่าครับ