359

360

หากจะกล่าวถึงกูรูกีฬา เชื่อเหลือเกินว่าบรรดาคอกีฬาทั่วประเทศไทยไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ "พิศณุ นิลกลัด" จากหนุ่มคณะรัฐศาสตร์ที่ผลิกผันตัวเองเข้าสู่วงการสื่อกีฬา ก่อนจะผลักดันตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นนักพากย์กีฬาชั้นแนวหน้าของประเทศไทย
พิศณุ นิลกลัด เกิดที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2497 ปัจจุบันอายุ 63 ปี จบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะรัฐศาสตร์ จุดเริ่มต้นคือบ้านผมทำไร่แล้วก็มีคนงาน คนงานมาจากอีสานเยอะแล้วก็ชอบมวย คนงานเขาก็ฟังทุกคืนวันพฤหัส เราก็ฟังกับเขาด้วย มีวันหนึ่งก็ได้อ่านหนังสือมวย เพราะว่าเขารับหนังสือมวย ที่จำได้มี บ็อกซิ่ง, เสือสนามและเดอะ ริง สมัยเด็กผมยังอาศัยฟังจากวิทยุ ทุกวันพฤหัส จะมีนักมวยรายการใหญ่ของเวทีราชดำเนิน มีคุณมานิตย์ รักษ์สุวรรณ เป็นคนพากย์ ทำให้ได้รู้จัก เดชฤทธิ์, แสนชัย, บุกเดี่ยว, วีระเดช, สมพงษ์และ ราวี เหล่าเนี่ยเรารู้จากคุณมานิตย์ รักษ์สุวรรณ ทางวิทยุพากย์เพลินเพลง
แต่เส้นทางในสิ่งที่รักของผมสวนทางกับความตั้งใจของพ่อที่อยากให้ผมเป็นปลัดอำเภอหรือนายอำเภอ ผมก็เลยต้องเลือกรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่แล้วตอนขึ้นปี 2 ผมมีโอกาสได้อ่านหนังสือ "มาลัย 100 ชีวิต" ของอรวรรณ (เลียว ศรีเสวก) เล่าเรื่องชีวิตของนักข่าวที่สามารถแสดงทรรศนะได้เต็มที่ โดยนายทุนไม่มาก้าวก่าย ผมจึงตัดสินใจที่จะเป็นนักข่าว ผมมีโอกาสได้ทำงานกับ นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ของอาจารย์สาทิส อินทรกำแหง แต่ก็ได้มีโอกาศทำงานได้เพียงหนึ่งปีเศษเท่านั้น
จากนั้นผมเริ่มเข้าสู่วงการโทรทัศน์ตอนผมอยู่สยามรัฐ ช่อง 7 สี ซึ่งถ่ายมวยจากลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ทุกเช้าวันอาทิตย์ ตอนหลังมีการเปลี่ยนโฉมหน้านักพากย์กีฬา อยากได้นักพากย์มวยที่มีความรู้ไม่ใช่แค่พากย์ต่อยซ้ายต่อยขวา เพราะคนดูเขาดูก็รู้ วันหนึ่งคุณจักรพันธ์ ยมจินดา ที่พากย์มวยอยู่ เขาก็โทรมาหาให้ผมเป็นไมค์สองคู่กับเขา มวยคู่แรกที่พากย์ก็คือ ชูการ์ เรย์นาร์ด พบกับ รารอน ผมดูตั้งแต่รารอนก้าวขึ้นมาบนสังเวียน สังเกตุเห็นว่าผิวของรารอนแห้งมีอาการเหมือนคนลดน้ำหนักเยอะกว่าปกติ ผมจำไม่ได้ว่ายก 7 หรือยก 8 รารอนบุกอยู่พักใหญ่ ผมพากย์ออกไปว่ารารอนต้องน็อคเรย์นาร์ดในยกนี้ให้ได้ ไม่งั้นเขาจะตกอยู่ในอันตราย ไม่ถึง 10 วินาที เรย์นาร์ดพลิกกลับมาชนะน็อครารอน 4-5 วัน ต่อมาเจอพี่ซูม พี่ซูมถามว่าพิษณุรู้ได้ไง ผมก็ได้เล่าว่าเห็นอะไรระหว่างพักยก ตั้งแต่นั้นมา คุณชาติเชื้อ กรรณสูติ สั่งให้ คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ให้เอาผมมาอ่านข่าวกีฬาคู่กับโย่ง ที่ช่อง 7
ต่อมาผมได้มีโอกาสได้พากย์กีฬาชนิดอื่นๆ ผมก็เลียนแบบโทนของฝรั่งเพราะโทนของฝรั่งมันสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น เทนนิสกับแบดมินตันก็เหมือนกันเวลาพากย์อย่าพูดเพราะคนอยากได้ยินเสียงลูกกระทบแร็กเกต การพากย์เราควรเตรียมข้อมูลร้อยปล่อยแค่ยี่สิบสามสิบเนี่ยเฟอเฟ็ค ถ้าเตรียมไปร้อยปล่อยแปดสิบเก้าสิบกลายเป็นรกหูรกใจรกอารมณ์ของคนดูด้วย ดังนั้นใครที่เตรียมการบ้านมาต้องรู้กาลเทศะต้องปล่อยให้เป็นอันนี้เป็นเรื่องสำคัญมากบางทีรู้ทุกอย่างแต่ไม่รู้กาลเทศะก็เจ๊งนะ เรื่องเวลาก็สำคัญไม่ว่าจะพากย์ดึกแค่ไหนเราต้องทำตัวให้สดชื่นอยู่ตลอดเวลาอย่าคิดว่าไม่มีคนดู ต้องพากย์ด้วยความกระตือรือร้นพากย์ไปตามธรรมชาติของกีฬาละตั้งใจทำงานเท่ากันต้องเคารพคนดูและเคารพตัวเองอันนี้สำคัญ
ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในวงการกีฬามากว่า 40 ปี พิษณุ นิลกลัดได้รับ อาทิเช่น รางวัลเกียรติยศคนทีวี ประจำปี 2557 จาก รางวัลโทรทัศน์ทองคำครั้งที่ 29 และ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 1 ใน 5 รางวัลผู้ประกาศข่าวยอดเยี่ยม ท็อปอวอร์ด 2008 "ซึ่งตนก็รู้สึกดีใจและภูมิใจ เราได้รางวัลจากอาชีพที่เรารักก็นึกถึงคนที่ให้โอกาสเรา ผมนึกอยู่เสมอว่าถ้าไม่มี พี่วิ(ระวิ โหลทอง)ไม่มีสยามสปอร์ตไม่มีกีฬาสยามผมคงไม่ได้อยู่ในวงของคนที่คลั่งไคล้กีฬามันจะไม่หล่อหลอมให้ผมเป็นแบบนี้ ผมคงจะเป็นอะไรไม่รู้แต่ไม่ใช่กูรูในวันนี้แน่นอน เพราะว่าการที่อยู่ในบรรยากาศของคนที่เล่นกีฬาชอบกีฬาคลั่งใคล้กีฬา สภาพแวดล้อมนี้ทำให้เราเป็นคนที่ชอบกีฬา คลั่งใคล้กีฬา ศึกษากีฬาโดยที่เราไม่รู้ตัวเป็นธรรมชาติไปเองจึงกลายเป็นเนื้อเป็นหนังเป็นชีวิตของเราไป"
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ผมอยากจะทำคือการปั้นนักพากย์หรือเปิดโรงเรียนสอนการพากย์กีฬาโดยเฉพาะ ผมจะเป็นครูสอนให้ฟรี เพราะผมไม่ต้องการเงินจากการสอน และไม่ต้องการสัญญาผูกมัดกับคนที่มาเรียน ขออย่างเดียวให้เป็นนักพากย์ที่เก่ง ที่ผ่านการเรียนการสอนของโรงเรียนพากย์กีฬาของเรา แล้วรับประกันได้ว่า ไอ้นี่มีของดีแน่นอน

สุดท้ายนี้ผมอยากฝากข้อคิดในการทำงาน "งานอะไรก็ตามแต่ต้องทำงานด้วยความรักอย่างยิ่ง เพราะทำงานด้วยความรัก
มันจะ ไม่มีความรู้สึกเหนื่อยที่ทำงาน มีความรู้สึกอยากจะค้นคว้า อยากจะไขว่คว้าหาความรู้ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ
เพราะว่าเมื่อไหร่ที่ตามแต่ ที่เราทำงานเพื่อเงินเดือนเพราะว่ามันเป็นงานที่ต้องทำ มันก็จะไม่มีความสุข
แล้วสิ่งที่ต้องนึกอยู่เสมอก็คือว่า ทำให้สุดฝีมือเพราะว่า ถ้าทำไม่สุดฝีมือ งานมันมักจะออกมาไม่ดีอย่างที่เราต้องการ"

เอกสารแถลงข่าว
ระเบิดศึกบาสฯ “สิงห์ 3x3 บาสเกตบอลไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ 2017”
จัดยิ่งใหญ่ 8 โซนทั่วประเทศคาดมีผู้เข้าร่วมทะลุ 3,000 คน

สิงห์ ร่วมกับสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ระเบิดศึกยัดห่วง 3 คน “สิงห์ 3x3 บาสเกตบอลไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ 2017” แบ่งออกเป็น 4 รุ่นทั้งชายและหญิง คือ 14 ปี, 16 ปี, 18 ปี และ ประชาชนทั่วไป ปูพรม 8 โซนทั่วประเทศ ก่อนมาชิงชนะเลิศรอบประเทศไทยในเดือน ธ.ค. คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 3,000 คน

สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมด้วย พล.ท.เฉลิมเกียรติ โพธิ์ทองนาค นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย, คุณอรรถสิทธิ์ พรหมสุข ผู้จัดกากรแผนกกิจกรรมประชาสัมพันธ์ และ คุณวราพร ตั้งศิริสกุล ผู้จัดการฝ่ายขายในประเทศ บริษัท มอลเทน (ไทยแลนด์) จำกัด แถลงข่าวการแข่งขันบาสเกตบอล สิงห์ 3x3 บาสเกตบอลไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ 2017 ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา

​การแข่งขัน สิงห์ 3x3 บาสเกตบอลไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ ได้ดำเนินการแข่งขันเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการเผยแพร่เกมบาสเกตบอลในแบบ 3 คนซึ่งเป็นเกมที่สนุกเผยแพร่ไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้เป็นความร่วมมืออย่างดียิ่งจาก บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด, การกีฬาแห่งประเทศไทย, ผลิตภัณฑ์มอลเท่น และ สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย โดยปี 2017 นี้ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้แบ่งประเภทเป็น 4 รุ่นอายุ ได้แก่ อายุไม่เกิน 14 ปี ชายและหญิง, อายุไม่เกิน 16 ปี ชายและหญิง, อายุไม่เกิน 18 ปี ชายและหญิง, ประชาชนทั่วไป ชายและหญิง คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมในครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 3,000 คน
​สิงห์ 3x3 บาสเกตบอลไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ 2017 นี้ ได้กำหนดแข่งขันตามรุ่นอายุดังกล่าว เป็น 8 โซนทั่วประเทศ ได้แก่ กทม. ครั้งที่ 1 (ระหว่าง 11-12 มี.ค.), จ.จันทบุรี ( ระหว่าง 8-9 เม.ย.), จ.ขอนแก่น (ระหว่าง 29-30 เม.ย.) จ.พังงา (ระหว่าง 27-28 พ.ค.), จ.สงขลา (ระหว่าง 3-4 มิ.ย.), จ.แพร่ (ระหว่าง 1-2 ก.ค.), จ.อุบลราชธานี (ระหว่าง 15-16 ก.ค.), จ.เชียงใหม่ (ระหว่าง 5-6 ส.ค.) ก่อนที่จะให้สิทธิ์ผู้ชนะเลิศในแต่ละโซนมาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่ กทม. ในวันที่ 16-17 ธ.ค.นี้
​ผู้เข้าแข่งขันในรุ่น 14 ปี, 16 ปี และ 18 ปี จะมีค่าสมัครทีมละ 400 บาท รุ่นประชาชน 800 บาท โดยจะมีเสื่อแข่งขันให้ทีมละ 4 ตัว และมีรางวัลแต่ละรุ่นดังนี้
​ระดับภาค รุ่น 14 ปี, 16 ปี และ 18 ปี ชนะเลิศ 3,000 บาท, รองชนะเลิศ 2,000 บาท และ อันดับ 3 ได้รับ 1,000 บาท รุ่นประชาชน ชนะเลิศ 5,000 บาท, รองชนะเลิศ 4,000 บาท และ อันดับ 3 ได้รับ 3,000 บาท
​รอบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย รุ่น 14 ปี, 16 ปี และ 18 ปี ชนะเลิศ 8,000 บาท, รองชนะเลิศ 4,000 บาท และ อันดับ 3 ได้รับ 2,000 บาท รุ่นประชาชน ชนะเลิศ 10,000 บาท, รองชนะเลิศ 5,000 บาท และ อันดับ 3 ได้รับ 3,000 บาท
​สอบถามรายละเอียดได้ที่ สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย โทร. 0 2170 9641และ www.bsathai.org

สิง์หนุน

นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พล.ท.เฉลิมเกียรติ โพธิ์ทองนาค นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย, คุณอรรถสิทธิ์ พรหมสุข ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ คุณวราพร ตั้งศิริสกุล ผู้จัดการฝ่ายขายในประเทศ บริษัท มอลเทน (ไทยแลนด์) จำกัด แถลงข่าวการแข่งขันบาสเกตบอล "สิงห์ 3x3 บาสเกตบอลไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ 2017" ที่ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา

"สิงห์ 3x3 บาสเกตบอลไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ 2017" นี้ ได้กำหนดแข่งขันตามรุ่นอายุดังกล่าว เป็น 8 โซนทั่วประเทศ ได้แก่ กทม. ครั้งที่ 1 (11-12 มี.ค.), จ.จันทบุรี (8-9 เม.ย.), จ.ขอนแก่น (29-30 เม.ย.), จ.พังงา (27-28 พ.ค.), จ.สงขลา (3-4 มิ.ย.), จ.แพร่ (1-2 ก.ค.), จ.อุบลราชธานี (15-16 ก.ค.), จ.เชียงใหม่ (5-6 ส.ค.) ก่อนที่จะให้สิทธิ์ผู้ชนะเลิศในแต่ละโซนมาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่ กทม. ในวันที่ 16-17 ธ.ค.นี้

​ทั้งนี้ผู้เข้าแข่งขันในรุ่น 14 ปี, 16 ปี และ 18 ปี จะมีค่าสมัครทีมละ 400 บาท รุ่นประชาชน 800 บาท โดยจะมีเสื้อแข่งขันให้ทีมละ 4 ตัว และมีรางวัลแต่ละรุ่นดังนี้

​ระดับภาค รุ่น 14 ปี, 16 ปี และ 18 ปี ชนะเลิศ 3,000 บาท, รองชนะเลิศ 2,000 บาท และ อันดับ 3 1,000 บาท รุ่นประชาชน ชนะเลิศ 5,000 บาท, รองชนะเลิศ 4,000 บาท และ อันดับ 3 3,000 บาท
​

รอบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย รุ่น 14 ปี, 16 ปี และ 18 ปี ชนะเลิศ 8,000 บาท, รองชนะเลิศ 4,000 บาท และ อันดับ 3 2,000 บาท รุ่นประชาชน ชนะเลิศ 10,000 บาท, รองชนะเลิศ 5,000 บาท และ อันดับ 3 3,000 บาท

​หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย โทร. 0 2170 9641และ www.bsathai.org

8ce6f49d