[พุงพลุ้ยคุยบอล] FAT SAM OUT ! บิ๊กแซมกับฟุตบอลที่แสนจะน่าเบื่อ

ไว้คราวหน้า X

ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย

ไปหน้าที่ 1

ไปที่หน้า

ตั้งกระทู้ใหม่

ฝากรูป

หน้าแรกบอร์ด >> บอลนอก

ผู้ตั้ง

ข้อความ

ออฟไลน์

kneskung

ดาวเตะพรีเมียร์ลีก

Status: พุงพลุ้ยคุยบอล กลับมาแล้ว

: 0 ใบ

เข้าร่วม: 06 Oct 2010

ตอบ: 4354

ที่อยู่: บนโลกนี้แหละ...

โพสเมื่อ: Fri May 02, 2014 19:19

[พุงพลุ้ยคุยบอล] FAT SAM OUT ! บิ๊กแซมกับฟุตบอลที่แสนจะน่าเบื่อ

แม้จะเป็นกุนซือที่สามารถการันตีได้ว่า ทีมเจ้าตัวคุมสามารถอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดได้ก็ตามที.. แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยสไตล์ฟุตบอลที่แสนน่าเบื่อหน่าย ด้วยระบบไดเร็คฟุตบอล ที่เน้นเปิดแล้วโขก บิ๊กแซมทำเวสแฮมต์เหมือนทีมรักบี้ก็มิปาน แต่อย่างน้อย ณ ปัจจุบันนี้ อดีตบิ๊กบอสแบล็คเบิร์น โรเวอร์ พาทีมขุนค้อนอยู่อันดับที่ 14 แต้มห่างจากโซนตกชั้น 5 คะแนน เหลือการแข่งขันอีก 2 แมตท์ แม้ตามทฤษฎีแล้วพวกเขายังมีสิทธิตกชั้นได้ก็ตามที แต่ด้วยฝีมือบิ๊กแซมแล้ว ยังไงผมก็เชื่อว่าทีมสามารถรอดได้อย่างแน่นอนแบบหายห่วง

หลายคนคงสงสัย ว่าทำไมเหล่าสาวกถึงอยากให้อัลลาไดซ์ออกจากสโมสร ทั้งที่เขาสามารถการันตีได้เลยว่าสามารถรอดตกชั้นได้อย่างสบายหายห่วง แม้มีเสียวบ้างเล็กน้อย เพราะนอกจากสไตล์ฟุตบอลอันแสนน่าเบื่อแล้ว อัลลาไดซ์ยังสร้างสถิติแย่มากๆไว้กับทีมในฤดูกาลนี้ด้วยคือ "เวสแฮมต์แพ้ 4 นัดติดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พ้นยุคมืดของอัฟราม แกรนท์ ในปี 2011 , เวสแฮมต์โดนยิงติดต่อกัน 10 นัดติดต่อกัน , การพ่ายเวสบรอมวิช อัลเบี้ยนนัดล่าสุดคือ นัดที่ 17 ที่ทีมจากลอนดอนไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้" ขอแถมอีกสักนิดว่านักล่าสุดที่แพ้ไปเนี่ย คือเป็นการเปิดซิงชัยชนะนัดแรกในบ้านของเปเป้ เมล กุนซือฝีมือตกของเวสบรอมวิช อัลเบี้ยนที่เข้ามาคุมทีมเมื่อเดือนมกราคมอีกด้วย โดยเรื่องที่แฟนบอลไม่ชอบมากที่สุดคือ ฤดูกาลนี้บิ๊กแซมทำเวสแฮฒต์ให้เป็นทีมที่ยิงเข้ากรอบต่ำที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยยิงรวมกันเพียง 114 ครั้งใน 36 เกมส์หรือยิงตรงกรอบเฉลี่ย 3 ครั้งต่อเกมส์เท่านั้น

แหม่..แค่นี้ก็ทำเอาแฟนบอลสุดจะเอือมระอาล่ะครับ ถ้าไม่มีสถติพวกนี้บิ๊กบอสร่างท้วมรายนี้คงไม่ถูกแฟนบอล 77.95 % โหวตให้ออกหรอกครับ

ฤดูกาลนี้จึงเป็นฤดูกาลที่แสนน่าเบื่อของเหล่าแฮมเมอร์ โดยเฉพาะเกมส์เยือนที่พวกเขาต้องนั่งหงอยเสมอเพราะ ภายใต้การทำทีมของแซม อัลลาไดซ์นั้นมักเป็นทีมที่ยิงประตูยามลงเล่นเป็นทีมเยือนได้ไม่เคยเกิน 2 ลูก โดยสถิติ 39 แมตท์ในการเป็นทีมเยือนมีเพียงเกมส์เดียวเท่านั้นที่ยิงได้ถึง 3 ประตูคือการบุกตบ"ไก่เดือยทอง" ถึงถิ่นด้วยสกอร์ 3-0 เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว

นอกจากผลงานในสนามไม่ดีแล้ว ในตลาดซื้อขายก็ไม่ดีอีกเมื่อแซมยอมวัดดวงซื้อสากเดินได้มาจากลิเวอร์พูลด้วยค่าตัวถึง 15.5 ล้านปอนด์ถือเป็นสถิติของสโมสรเลยทีเดียวเชียว แต่หัวหอกทีมชาติอังกฤษก็ยังไม่สามารถตอบแทนเม็ดเงินที่จ่ายไปได้เลย โดยฤดูกาลนี้ลงเล่นในลีกไป 13 เกมส์ยิงได้เพียง 2 ประตูเท่านั้น

แครอทนั้นเป็นนักเตะที่ครองบอลได้ดี จนถูกเปเป้ เมลกุนซือเวสบรอมชมว่าเป็น ดิเอโก้ คอสต้าแห่งอังกฤษ แต่ที่แคโรลไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีนักส่วนหนึ่งอาจมาจากแผนการเล่นของบิ๊กแซมที่เน้นโยนแล้วโหม่ง แถมเจ้าตัวยังบาดเจ็บหนักมาในช่วงแรกของฤดูกาลมันอาจส่งผลให้ไม่สามารถเป็นแคโรลคนเดิมสมัยที่อยู๋นิวคาสเซิลได้ โดยเชื่อว่าหัวหอกรายนี้คงจะไม่ถูกเรียกติดทัพ 30 คนที่จะไปเล่นฟุตบอลโลกที่บราซิลแน่นอน หากฮอตสันด์เรียกดาวยิงร่างยักษ์ไปก็บอกได้เลยว่าลำเอียงสุดๆ

เรียกได้ว่าในตลาดซื้อขายทั้ง 2 รอบมีเพียงสจ๊วร์ต ดาว์นิ่ง,ราเวล มอร์ริสัน และโนเซริโน่เท่านั้นที่ถือว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ค่อนข้างดี เพราะนอกนั้นทั้ง มาร์โก้ บอริเอโล่ ที่เซ็นมาแล้วเล่นสำรองได้ 2 เกมส์ก็จองโรงหมอซะแล้ว ปาโบล อาร์เมโร่ก็ฟอร์มไม่ค่อยจะดี

บอกได้เลยว่าทั้งขึ้นทั้งร่องเลยทีเดียว แม้บิ๊กแซมจะออกมาสวนกลับเหล่าผู้ต่อต้านแล้วก็ตามว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ก็เชื่อว่ายังไงเดวิด โกลด์ เจ้าของสโมสรคงไม่อาจทนต่อแรงกดดันได้ แต่พวกเขาก็ยังติดปัญหานิดหน่อยตรงที่ แซมนั้นถือเป็นผู้จัดการทีมที่ได้ค่าเหนื่อยติด Top 5 ของพรีเมียร์ลีก อยู่ที่ 2.5 ล้านปอนด์ โดยเชื่อกันว่าหลังจบฤดูกาลหากไม่มีอะไรผิดพลาดรายชื่อของมัลกี้ แม็คเคย์, เปาโล ดิ คานิโอ้ และ มัสซิโม่ อัลเลกรี้ คือรายชื่อที่จะเข้ามารับงานในถิ่นโบลีน กราวด์

สุดท้ายนี้ผมขอภาวนาว่าอย่าให้เวสแฮมต์เป็นเหมือนแบล็คเบิร์นเลย ที่พอปลดแซมแล้วทีมต้องตกชั้นในฤดูกาลต่อมา หวังว่าเหล่าแฟนบอลคงจะได้สมหวังกับการเปลี่ยนแปลงนะครับ ดูบอลให้สนุกครับ

ขอบอกสั้นๆกับแซม อัลลาไดซ์ครับ