ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้ทรงธรรม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Jul 2008
ตอบ: 33
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 18, 2014 15:17
เข้าใจธรรมะ[คำถาม๑๐๔๙-ธรรมที่ไม่ดูกาลเทศะบางครั้งก็ให้โทษ]
เป็นธรรมะ กับเรื่องใกล้ตัวดีครับ น่าจะนำไปใช้ และเข้าใจกันได้ง่าย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านครับ

อนุโมทนาบุญแก่ผู้ที่สนใจทุกท่าน และ ขอให้บุญรักษาครับ

-โทษคนอื่นได้กิเลส โทษตนเองได้ปัญญา
-กิเลสไหลท่วมท้นใจทั้งคืนวัน คิดว่าปัญญาเพียงน้อยนิดจะเอาชนะกิเลสได้

*ควรใช้ปัญญาพิจารณาทุกครั้งในการรับข้อมูล ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อครับ


ขอบคุณ เวป raksa-dhamma ครับ
--------------------------------------------------------------------------


คำถาม
ดิฉันคิดว่า การให้คนอื่นทราบของดี ได้ฟังธรรมที่เป็นเรื่องดี เขาน่าจะเกิดอนุโมทนากุศลบ้าง เขาไม่รับและยังด่าว่ารุนแรง ดิฉันต้องร้องไห้ทีเดียว บางทีก็คิดว่า พอศึกษาธรรมะจริงๆแล้ว การทำกุศลไม่ง่ายเลย พอเรามั่นใจว่าเป็นกุศลเราก็ทำ ทำแล้วก็เจอผลร้าย สู้ไม่ทำไม่ดีกว่าหรือ บางทีก็ถามตัวเองว่า ทำไมทำกุศลจึงยากอย่างนี้ก็ไม่รู้ บางทีทำความดีแต่กลับหมดความสุข ตกลงไม่รู้จะทำอย่างไรดีค่ะ

คำตอบ
จริงอย่างนั้นค่ะ การทำกุศลไม่ง่ายอย่างที่คิด..ยากจริงๆค่ะ
๑.ยากเพราะกิเลสของบุคคลไม่ค่อยอนุญาตให้ทำ เพราะทำแล้ว ลดกิเลสลง แน่นอนเจ้าของสัมปทานพื้นที่ ไม่อนุญาตแต่โดยง่ายทีเดียว

๒.ยากเพราะ ยังพิจารณาไม่ถี่ถ้วน ดังนั้น หากไม่ได้ฟังธรรมที่ประกอบเหตุผล ก็หลงไปทำบุญปนบาป หรือไปสำคัญว่าเป็นบุญแต่กลายเป็นบาปก็ได้

๓. ยากเพราะเพราะแยบคายไม่พอ นี่เป็นเรื่องปกติ เพราะพวกเรา จะแยบคายขึ้นมาทันทีไม่ได้ ต้องศึกษาเรียนรู้และบางทีก็ต้องลงสนามเจอของจริง (คือของแข็ง) ขึ้นมา ถึงจะพิจารณาได้ถูกต้อง เพราะรู้ผิดรู้ถูกขึ้นมา...จึงจำเป็นที่จะต้องฟังธรรมบ่อยๆ เพราะแง่มุมของโยนิโสก็จะเกิดมากขึ้น...กระนั้นก็พบได้ว่า แม้เราจะสำคัญว่าได้พิจารณาแล้ว แต่ทว่า พอเอาเข้าจริงๆ ก็กลายเป็นทำคุณบูชาโทษก็ได้ โดนหมัดแย็บหลายหมัด ถึงกับลงไปกองก็มี
คนเดินทางใหม่ๆก็เป็นอย่างนั้น โดยสอยร่วงเพราะแยบคายไม่พอนั่นเหมือนกัน ...แต่ทีนี้ ก็ถือว่า เป็นการศึกษาเรียนรู้กิเลสตน กิเลสคนอื่นไปด้วยไม่เสียหายค่ะ
จึงรู้ว่า ที่เราเพียรพูด เพียรบอกคนอื่นในยามที่เขาไม่ได้มีปัจจัยมาก่อนนั้น ตัณหาของเราก็ใช้ให้พูดให้ทำทั้งนั้นเลย
เหมือนบุคคลผู้พบเห็นสิ่งของมหัศจรรย์ ก็เกิดตื่นเต้น วิ่งตะโกนร้องให้ผู้คนทั้งหลายมาดู มาชมเป็นขวัญตาบ้าง...ท่านผู้ถาม พึงเห็นอาการลิงโลดวิ่งไปร้องไปอย่างนั้น คือตัณหาของบุคคลนั่นเอง
ทีนี้พอเป็นเหตุเป็นผลในทางธรรมแล้ว หากไปเจรจากับคนที่ศรัทธาไม่เสมอกันแล้วอะไรจะเกิดขึ้นได้เล่า?
หากคนอื่น เขาไม่มีศรัทธาแล้ว.. ทิฏฐิ ของเขาก็จะเป็นอย่างหนึ่ง..แต่การที่เราพยายามบอกเขา อธิบายเหตุผลแก่เขา บางทีทิฏฐิมานะของเราเอง ก็อาศัยติดตามไปด้วย..จึงเห็นความจริงประจักษ์แก่ใจของตนขึ้นมาแล้วคราวนี้ จึงได้สำรวมในเวลาต่อมาได้เป็น..
ดังนั้นพึงเห็นว่า หากไม่พบปัญหาอย่างนี้ เราก็อาจจะยังไม่พบกิเลสของตัวเอง จึงนึกขอบคุณครูผู้สอนเรื่องนี้แก่เราเสียจริง คือ คู่ชกของเราเองนั่นเอง

๔. ยากเพราะเหตุที่ว่า คนบางคน พอสำคัญว่ากุศลดี ก็ยึดถือขึ้นมาอีก กลายเป็นคนติดดี ติดบุญอีกแล้วคราวนี้...ทำอะไรๆก็ไม่ได้พิจารณาถึงบุคคล กาลเทศะ ฯลฯ เอาสักแต่ว่าเป็นบุญ ก็ไม่รู้ตัวว่า ตัณหาใช้ให้ทำ...จึงมักมีคำกล่าวว่า....
"ทำๆไปเถอะ เรียนๆไปเถอะ เรียนเอาบุญ..."
อะไรๆก็เอื้อมไปหาบุญ สำคัญว่า บุญนั้นเป็นของวิเศษขึ้นมาโดยไม่พิจารณาเหตุผลอะไรๆเลย อะไรที่ถูกใจก็ว่าเป็นบุญ อะไรที่ไม่ถูกใจก็บอกไม่ใช่บุญ...คนอย่างนี้ หากเวลาจะทำบาปอะไรๆ กิเลสก็จะอ้างบุญแล้วก็จะทำทีเดียว.....น่ากลัวนะคะ คนประเภทนี้

๕. ยากเพราะ บางคนทำความดีแล้วเจอผลร้าย ก็หมดกำลังใจ...เพราะอะไรหรือหนอ? เพราะว่า ตัณหาใช้ให้ทำ พอเจอผลร้ายก็ไม่ได้พิจารณาว่า เหตุที่ทำนั้นนั้นผิดคิวบ้าง ผิดเหลี่ยมบ้าง ก็ไม่ลงตัว คราวนี้ก็เกิดโทสะขึ้นมามากมาย ชื่อว่าทำบุญปนบาปแท้ๆเทียว

๖.ยากเพราะบางคนทำความดีแล้วหมดความสุข..? เรื่องนี้ก็สมควรพิจารณานะคะ
เท่าที่เจอ คือ พอได้ฟังธรรมอย่างดีแล้ว ก็หมายใจจะเป็นคนดีบริสุทธิ์ขึ้นมาทีเดียว ทีนี้ก็เคี่ยวเข็ญตนเองจนเครียด หากหนักขึ้นไปอีก ก็ไปเคี่ยวเข็ญคนใกล้ จนพวกเขาก็อึดอัดระอาใจ...

กิเลสนั้นไม่ใช่จะไม่มีคุณ เหมือนยามอร์ฟีน หากใช้เป็นเพราะมีปัญญา ก็พอนำมาใช้ประโยชน์ได้ มีกิเลสบ้างก็ทำให้ชีวิตเป็นสุขได้ แต่เล่นมีก็เสพเสียเกินจนเกิดโทษ หรือพอสำคัญจะให้ไม่มีก็หวังจะเอาหมดไปทีเดียว คราวนี้ ก็กลายเป็นคนหมดความสุขไปเลย
กิเลสคือ ตัณหานั้น มีคุณน้อย มีโทษมากเหมือนยาเสพติด หากเสพโดยไม่สำรวม ก็จะติดและต้องเพิ่มระดับไปเรื่อยๆ เขาพัฒนาตัวได้เร็วมาก และโทษตรงนั้นจะมหาศาลทีเดียว
เหมือนปรมาณู หากใช้ความสามารถควบคุมได้ก็เอามาผลิตงานไฟฟ้า พลังงานที่สะอาด.....
แต่ถามว่าควบคุมยากไหม?
ก็ต้องตอบว่า ยากค่ะ ใครคุมได้ ก็ได้ประโยชน์ ใครคุมไม่ได้ก็แหลกเหลวเหมือนกัน

ดังนั้น ในฐานะของพวกเราๆ กิเลสยังมีอยู่เป็นเรื่องปกติ เพราะปุถุชน ชื่อว่า หนาแน่นด้วยกิเลส เขาก็ต้องเกิดเพราะได้ปัจจัย เพียงแต่ใครมีเหตุผลก็แยบคาย ควบคุมป้องกันปัจจัยไว้ให้ไม่เกิดโทษ ไม่ให้กำเริบ ไม่ให้ผิดลู่ผิดทางได้ เท่าที่จะสามารถเท่านั้นเอง
จากเหตุผลที่แสดงความยากของการทำกุศลนั้น ท่านผู้ถามจะต้องพิจารณาใหม่นะคะ... คราวนี้ ที่ท่านผู้ถามกล่าวว่า เดือดร้อนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี?..นั้น
เอาอย่างนี้นะคะ มีกุศลมากมายที่ไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆนั้นมีมาก การถวายทานแด่พระสงฆ์ ก็หมดจดเพราะไม่ต้องไปเคี่ยวเข็นใครต่อใครเขามาทำ เราทำเองก็ได้..ศีลเล่า?..เราเว้นของเรา จะเดือดร้อนใครก็ไม่มี มีแต่จะทำให้พวกเขามีความสุข ภาวนากุศลทั้งหลายเล่า ก็ปฏิบัติได้เอง ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับใครเลย...

ทีนี้โดยมาก กุศลที่ทำแล้วเดือดร้อน เพราะต้องมีบุคคลอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องนี่เอง..พอเกี่ยวข้องแล้ว เรื่องที่จะไม่เดือดร้อนนั้นยากค่ะ...เพราะอะไรหรือ?
ตอบว่า เพราะกิเลสเรากิเลสเขาไม่เสมอกันค่ะ
หากเรามีปัญญา เราก็ไม่มีปัญหา เพราะเรารู้ว่า เมื่อใด กับใคร เวลาไหน ควรทำอะไร..
หากเราไม่แยบคาย เราก็จะเกี่ยวข้องกับคนอื่นแล้วเดือดร้อน เพราะว่า บางทีก็หลงไปทำคุณบูชาโทษก็มี เพราะไม่ได้พิจารณาบุคคลบ้าง ไม่ได้พิจารณาโอกาสบ้าง ไม่ได้ประมาณตนบ้าง ปัญหาก็เกิดเพราะเรื่องอย่างนี้ทั้งนั้นเลยค่ะ
หวังว่า ท่านผู้ถามจะยุติความไม่สบายใจในเรื่องนี้แล้วนะคะ แล้วก็เริ่มปรับทิศทางเดินของจิตใจเสียใหม่ และหวังว่าท่านผู้ถามน่าจะโสมนัสกับกุศลในทุกๆวันได้ต่อไปแล้วนะคะ

3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Jul 2008
ตอบ: 65
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 18, 2014 18:44
[RE: เข้าใจธรรมะ[คำถาม๑๐๔๙-ธรรมที่ไม่ดูกาลเทศะบางครั้งก็ให้โทษ]]
สาธุ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel