INVESTIGATIVE: "นี่คือตลาดขายมนุษย์" เปิดใจ 'อารียัน' ชาวบังคลาเทศ ใช้เวลา 4 เดือนหนีตายจากมาเฟียจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียวดี
"เราทำงานมันก็ทำร้ายเรา ช๊อตเรา บางทีเราทุกข์ทรมานจนคิดจะฆ่าตัวตายเพราะทนไม่ไหว ไม่มีทางออก ติดต่อครอบครัวก็ไม่ได้ ไม่มีโทรศัพท์ หากแอบติดต่อก็จะโดนทำร้าย"
วันที่ 9 ม.ค.68 นาย Ariyan เหยื่อการค้ามนุษย์ชาวบังคลาเทศ เปิดใจกับ The Reporters หลังนายหวัง ซิง หรือ ซิงซิง ดาราชาวจีนถูกหลอกให้มาทำงานในประเทศไทย แต่ถูกส่งตัวไปแหล่งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ของมาเฟียจีน และได้รับการช่วยเหลือกลับมาภายใน 4 วัน ขณะที่ อารียัน ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือนจึงจะออกมาได้
"เรา 5 คน มาประเทศไทย ในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว มีคนมาเสนอว่ามีงาน 1,500 ดอลล่าร์ ทำงานไป 2 เดือนเงินเดือนจะขึ้น เราก็สมัครและคิดว่าบริษัทนี้ปกติดี และเขาบอกว่าบริษัทจะให้วีซ่าถาวรอยู่ไทยได้ เราจึงหลงเชื่อ"
อารียัน เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่เขาตัดสินใจเชื่อผู้ชักชวนให้มาทำงานในประเทศไทย เพราะจะได้เงินเดือนกว่า 50,000 บาท ต่อเดือน และจะได้วีซ่าถาวรในไทย แต่เมื่อมาถึงกรุงเทพ ถูกนำพาไปที่แม่สอด ที่เขามารู้ทีหลังว่าเป็นชายแดนประเทศไทย และถูกพาข้ามฝั่งไปเมียนมา
"เมื่อมาถึงไทยเราถูกส่งไปแม่สอด เพราะเขาบอกว่าต้องไปแม่สอด เราบอกว่าจะขอซื้อซิมการ์ด แต่เขาซื้อซิมการ์ดของพม่า เราถามว่าทำไมไม่ใช่ซิมไทย เขาบอกไม่เป็นไรใช้แบบนี้ดีกว่า ก่อนถึงแม่สอดพวกเขาเอาพาสปอร์ตไป บอกว่าจะจัดการให้ หากเจ้าหน้าที่ถามให้บอกว่ามาเที่ยว เจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามอะไรเลย เราออกมาก็มีรถมารับ พาเราไปแม่สอด เราถามว่าไปไกลแค่ไหน เขาบอก 20 นาที ก็เห็นว่ามีรถมารออีก และเปลี่ยนไปอีกคัน เราก็ถูกแยกกัน ผมเห็นคนขับพูดกับคนจีน เราถามทำไมเปลี่ยนรถบ่อย รู้สึกกลัว และรถจอดเห็นแม่น้ำ เห็นคนโผล่มาจากพุ่มไม้ บอกให้ตามมา ขนกระเป๋ามา มีเรือเล็กๆ รอรับ ลำละ 3 คน บนเรือเห็นมีปืนใหญ่ ข้ามแม่น้ำไปก็เข้าฝั่งพม่า ตอนนั้นเราไม่รู้ตัวเลย ก็ถามเขาว่าอะไรกัน เขาบอกเป็นแค่ความปลอดภัยของบริษัทไม่มีอะไร คนที่พาไปก็หัวเราะ"
อารียัน เล่าถึงขั้นตอนที่ถูกนำตัวข้ามแดนจากแม่สอดไปยังฝั่งเมียนมา ที่ต้องนั่งรถไปลงเรือเล็กๆ ลำละ 3 คน มีคนถือปืนอยู่บนเรือ เมื่อไปถึงแคมป์ในเมืองเมียวดี ที่เป็นแหล่งคอลเซ็นเตอร์ อารียัน บอกว่า มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าเหมือนคุก เขาบอกเอาโทรศัพท์มา ถามอีกว่ามีอุปกรณ์อะไรอีก ก็บอกว่าไม่มีแล้ว เข้าไปถึงสำนักงานฝนตกหนักมาก เขาพบว่ามีคนศรีงังกา เอธิโอเปีย และชาติอื่นๆ
"คนจีนบอกว่าพรุ่งนี้คุยงาน ก้เข้าห้องไปพัก เราถามกันว่าอะไรกันแน่ทำไมที่นี่คืออะไร พวกเขาชาวต่างชาติคนอื่นๆบอกว่า เออแกมาถึงคุกแล้ว จีนสั่งอะไรแกต้องทำ หากไม่ทำมันจะฆ่า ไปหาบอสจีน เขาเอาสัญญาให้เซ็น เขียนว่าต้องทำเงินได้ 2 ล้าน ใน 6 เดือน หากกไม่ได้ก็ต้องเอาเงินมาให้ ไม่เช่นนั้นจะกลับไปกทม. ไม่ได้ แล้วก็มีคนถือปืนและเครื่องช๊อตไฟฟ้ามา เราต้องลงนามสัญญา เขาก็พาไปห้อง ให้รู้จักระบบ บอกว่า 7 วันแรกต้องทำอย่างไรในการหลอกลวงคนรัสเซีย ตุรกี ซาอุดิ อีหร่าน เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลย"
อารียัน เล่าด้วยว่า ระหว่างถูกบังคับให้ทำงานที่นั่น อาหารจีน กินไม่ได้เลย กินยากมาก ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาไม่มีหัวใจเลย มีแต่กระหายเงิน บังคับให้ทำงาน และไม่นาน อารียัน ก็ถูกย้ายไปอีกที่ เพราะตรงนั้นคนรู้จักมากเกินไปแล้ว อารียัน จึงถูกย้ายห่างออกไป 4 กม. เป็นตึกใหม่ เขาตัดภูเขา ตัดถนนใหม่ เราก็จำเป็นต้องทำตามที่เขาบังคับ แต่ละเดือนมีเป้าหมาย ว่า 10,000-20,000 ดอลลาร์ หากทำยอดไม่ได้ตามเป้ามันก็จะทรมานเราอย่างโหดร้าย เราทำงานมันก็ทำร้ายเรา ช๊อตเรา บางทีเราทุกข์ทรมานจนคิดจะฆ่าตัวตายเพราะทนไม่ไหว ไม่มีทางออก ติดต่อครอบครัวก็ไม่ได้ ไม่มีโทรศัพท์ หากแอบติดต่อก็จะโดนทำร้าย
"มีหนหนึ่งบอสจีนเขาเอาโทรศัพท์ให้ใช้ทำงาน อารียัน มีอาจารย์ที่อังกฤษ จึงแจ้งอาจารย์ ก็เอาเบอร์เอ็นจีโอให้ อารียัน ก็พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือ ระหว่างนั้นก็เห็นมีคนเข้ามาเพิ่มตลอด แอฟริกัน อัฟกัน ตุรกี รัสเซีย เข้ามาที่แหล่งอาชญากรรมนี้ มีพวกนายหน้าพามาขาย ครั้งสุดท้ายผมเห็นคนที่มาใหม่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น ก็โดยทำร้ายทรมาน จนเจ็บมาก หัวใจวายตาย"
อารียัน บอกว่าเขารู้ตัวว่าถูกหลอก เมื่อถูกขายให้มาเฟียจีน และทำให้รู้ว่า ที่นั่นเป็นตลาดขายมนุษย์
"ผมได้กลับบ้านแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 คุณเจช่วยพาไปหาตำรวจ พาไปศูนย์ช่วยเหลือผู้ถูกค้ามนุษย์ เข้ากระบวนการ NRM แล้วส่งมาที่ศูนย์ที่ จ.เชียงราย ได้ติดต่อสถานทูต ออกหนังสือเดินทางใหม่ให้และก็เดินทางกลับบ้าน ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่ผมได้กลับมาอย่างปลอดภัย"
อารียัน เปิดเผยว่ายังมีชาวบังคลาเทศ ไม่ต่ำกว่า 70 คน ที่ยังติดอยู่ในแหล่งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ เขาอยากช่วยเพื่อนๆให้กลับมา ตอนนี้ในบังคลาเทศ ก็ตื่นตัวเรื่องนี้ มีการยื่นหนังสือถึงรัฐบาลบังคลาเทศให้ช่วยประชาชน และเรียกร้องมายังรัฐบาลไทย ให้ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ ซึ่งมีชาติอื่นๆด้วย เฉพาะที่ อารียัน พบในที่ทำงานของเขา ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา รัสเซีย แอฟริกา อาเซอร์ไบจัน ตุรกี ศรีลังกา มีคนอีกจำนวนมากติดอยู่ที่นั่น
"ตอนนี้ผมอยากช่วยเหยื่อรายอื่นๆ ที่ยังติดอยู่ในนั้น ทุกอย่างผ่านประเทศไทย ทุกคนหวังกับรัฐบาลไทยว่าโปรดช่วย ทุกคนต่างตัดสินใจผิดพลาด ขอให้ช่วยเราด้วยเราผิดไปแล้ว ขอร้องด้วยใจจริงว่าเราต่างเป็นเหยื่อ แม้ว่าผมเองจะปลอดภัยแล้วยังมีคนอื่นๆ อีกมาก นอกจากรัฐบาลไทยแล้วอยากขอร้องรัฐบาลจีนด้วยเช่นกัน ที่ประเทศของเรา บ้านของเราเศรษฐกิจไม่ดีไม่มีอาชีพ ไม่เหมือนเมืองไทย หรือมาเลเซีย เราเพียงอยากหางานทำ แต่ก็ผิดพลาดถูกหลอกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์"
อารียัน กล่าวย้ำ เพื่อขอร้องไปยังรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน ให้หยุดกการค้ามนุษย์ของมาเฟียจีนกลุ่มนี้ โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรง
รายงาน : ฐปณีย์ เอียดศรีไชย
โคตรน่ากลัวเลย อยากรู้ผู้มีอำนาจในประเทศไทยจะแอคชั่นยังไง
หรือ ทำเบลอเหมือนที่ผ่านๆมา