ก็มีทดสอบความรู้ทั่วๆไป ด้านวิชาการ เป็นวิชาที่ได้เรียนในปี 2 ปี 3

เท่าที่ดู ไม่มีใครทำถูกเลย (น้องๆ ส่วนมากจะพูดว่า ลืมไปแล้ว)

>> อันนี้ถือว่าแย่ อย่างน้อยน่าจะทำถูกๆผิดๆหรือเข้าแก๊ปบ้าง เข้าใจว่าหลักสูตรการเรียนการสอนมันเอามาApplyกับของจริงยากสำหรับเด็กจบใหม่ แต่อย่างน้อยต้องมีพื้นฐานบ้าง


อีกอย่างคือ ทุกคนที่มา ไม่มี resume แนะนำตัวอะไรมาเลย มาตัวเปล่า

>> อันนี้แย่จริง ไม่รู้ทางม.ได้มีการแนะแนวนศ.ก่อนจบไหม แต่อย่างน้อยน่าจะเตรียมตัวมาเองบ้าง แต่อีกมุมไม่รู้บ.ท่านเรียกสัมยังไง ถ้าไม่มีCVผมว่าHRน่าจะไม่screenมาแต่แรกแล้วนะ นี่ยังไปเรียกมาอีก


ก็คาดหวังว่า จะถามเรื่องที่แบบ culture องค์กร เป็นยังไง การทำงานมีเป้าหมายที่ซีเรียสอะไรมั้ย

แต่ไม่มีใครถามเลยซักคน

>> พอเข้าใจได้ เพราะนศ.จบใหม่environmentในมหาลัยกับการทำงานมันคนละเรื่อง น้องๆคงไม่รู้อะไรเรื่องenvironmentการทำงานในองค์กรจึงยังไม่ได้คิดในเรื่องนี้

เป็นสักพักแล้วครับ สัมภาษณ์งานช่วงหลังๆ ไม่รู้ข้อมูลของบริษัทที่ตัวเองมายื่นเอกสารเลย

เคยครับ หาตำแหน่ง สถาปนิก, ดราฟแมน, 3dvisualizer, admin

แต่ส่วนมาก ถ้า resume กับ portfolio ไม่โอเค ไม่เรียกสัมภาษณ์ ตั้งแต่แรก

ก็เลยไม่เคยเจอเพี้ยนๆเลย เพราะคัดตั้งแต่ เอกสารที่ส่งมาเลย

ตอนจบใหม่ผมไม่รู้จะถามอะไรจริงๆนะ

แต่ตอนย้ายงานล่าสุด ผมถามจนเขาน่าจะรำคาญอะ 555

ในมุมคนที่จบ Engineer มาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน

คือแม่มแทบไม่ได้ใช้วิชาที่เรียนมากับงานที่ทำ (ผมมาทำสาขายานยนต์) จริงๆนะ..ไม่คือไม่เลยอ่ะ

สิ่งที่ได้มาจากมหาลัยและคณะที่สอน คือการคิดอย่างเป็นระบบ เป็นตรรกะ แล้วก็ engineering sense เท่านั้นจริงๆ

แคลคูลัส, fluid, dynamic, static, thermo บลาๆๆๆๆๆ ถึงเอามาจากอาจารย์ยบ้าง สุดท้ายก็หายไปตามกาลเวลา

เรื่ององค์กรผมว่าจริงๆเดี๋ยวนี้เด็กใหม่มันไม่อินอะท่านผมบอกตามตรง

สมัยผมหางาน (ผมจบปี 59) ท่องแม่งทุกสำนักเลยมั้ง สุดท้ายแล้วไม่เห็นถามอะไรสักคน บางทีบอกเขาว่ามีแพลนท์ที่ตรงนี้ผมไปลงได้นะ ตรงสายอยู่ เขาก็บอก ตูยังไม่รู้เลยว่ามีแพลนท์ตรงนั้นอ้ะ

ส่วนเรื่องพื้นฐานเบสิก 2-3 ไม่ได้ อันนี้ต้องเจาะลงไปหน่อยอะท่าน
อย่างผมจบวิศวะเคมีมางี้ ขึ้นปี 4 มันเหมือนเอา 2-3 มาประกอบลงเป็นเลโก้แล้ว คือเรียนเอาไปใช้ทำงานเลย
เช่น วิชาออกแบบกระบวนการ เซฟตี้ สิ่งแวดล้อม ออกแบบระบบไฟทั้งโรงงาน (Process Dynamic & Control อะ พวกเรียนภาคไฟฟ้าน่าจะเรียนเหมือนกัน จำได้ว่าพวกมันงงๆทำไมมาเรียนเอาตอนปี 4 ผมก็ถามว่าพวกมุงไปเรียนอะไรตั้งแต่ปี 2 วะ )

ขณะที่วิชาปี 2 ปี 3 มันคือเป็นวิชาโคตรจะทฤษฎีจ๋าๆ เช่น Thermodynamic 1-2 (อันแรกซัด D เกือบแดกปลาเพราะไม่รู้เรื่องพวกหัวฉีดกับเครื่องยนต์เลย ส่วน 2 เรียนพวก phase สสาร ซัดไป B+ อาจารย์ยิ้มแป้น)
Unit Ops 1-3 (พวกอุปกรณ์แต่ละอย่างในแพลนท์ ตั้งแต่ปั้ม Compressor หอกลั่น ถังเก็บสาร ฯลฯ) แล้วก็วิชาจิปาถะนู่นนี่นั่นกับแลป (คือถ้าไม่มีแลปผมว่าก็ไม่รู้เรื่องอะ Unit Ops)

ถ้าถามผมพวกวิชาพวกนี้ตอนนี้แล้วลงลึกอะผมแตกนะ จำไม่ได้ อธิบายได้ไม่ถูกหมดด้วย
แต่ถ้าให้ผมออกแบบแพลนท์อะไรพวกนี้แบบ basic concept ผ่านมาจะ 10 ปีผมยังอธิบายได้หมด
มีเซฟตี้ต้องระวัง HAZOP อะไรพวกนี้ก็ยังพอได้ถ้าให้เวลาค้นหาสักนิดหน่อย

ปล. เหมือนได้ยินว่าฝั่ง Eng หาเด็กทำงานยากมากด้วย สมัยนี้เจอแต่เด็กแปลกๆ

อันนี้ผมเห็นด้วนนะ อยากได้งานก็ต้องเตรียมตัว พอไม่รับมาหาว่าไม่รับเด็กจบใหม่ แล้วแบบนี้จะมีประสบการณ์ได้ไง

แล้วถ้าเป็น จขพ. ไม่มีความจำเป็นต้องสอนเด็กพวกนั้นครับ สอนไปก็ไม่ฟังยุดี จากประการตรง แล้วเรื่องพวก

นี้มันมีในการฝึกงานปี4 คุณต้องรู้เอง ผมเคยเจอถามว่าทำไมออกจากที่เก่า ตอบว่า "ก็ยังไม่รู้ว่าตอนนี้ชอบอะไร

ก็เลยลาออกมาก่่อน แล้วมาลองหางานใหม่ดูว่าชอบอะไร" ตอบแบบนี้ไปที่ไหนก็ไม่มีใครรับ

ตลกตรงเลือกมาสัมภาษณ์แต่ไม่มี cv มาได้ยังไงก่อน ตอน hr นัดสัมฯอย่างน้อยๆก็ต้องขอมาให้คนสัมฯได้ดูก่อน
อีกอย่างคำถามบางคำถามต่อให้ผู้สมัครถามมา มันก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะได้งานแน่ๆ เสียเวลา
คหสต มองว่าคำถามพวกนี้เอาไว้ถามตอนสัมฯรอบ 2 ก็ยังไม่สาย

สมัยผมสมัครงานใหม่ๆ นี่อย่างน้อยต้องรู้ข้อมูลพื้นฐานบริษัทนะว่ามีพื้นเพอย่างไร ข้อมูลมันก็อยู่ในเว็บไซด์บริษัทแหละ อย่างน้อยควรเตรียมตัวในจุดนี้มา แต่บางบริษัทก็ไม่มี อันนี้ก็ตอบผู้สัมภาษณ์ว่าไม่มีตรงๆไป

สัมภาษณ์มาก็เยอะ ไม่เคยเจอสไตล์นี้เลยนะ ที่มาตัวเปล่า แบบเปล่าจริงๆ


ผมทำธุรกิจ 2 อย่างที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แบบนึง คงคล้ายๆกับ จขท ที่สัมคน จะต้องมีอะไรติดไม้ติดมือมาหน่อย ไม่เคยเจอแบบตัวเปล่าจริงๆนะ


(แต่อีกธุรกิจนึง หาคนแบบที่ใช้แรงงานนิดๆ เลยมีบ้างที่มาแล้วไม่มีอะไร นอกจากบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน อันนี้พอเข้าใจได้)

ห๊ะ ไม่มี resume นี้สมัครได้ไง เรียกสัมโดยที่เขาไม่มี resume ก็แปลว่าเรารับได้ยุแล้วไหมนะ

แต่ผมก็พึ้งทำงานได้ 3 ปีตอนสัมงานครั้งแรกก็ไม่เจอคำถามยากอะไร แต่ก็ไม่เคยบอกว่าลืมนะ เพราะต่อให้ลืมจริงผมก็ไม่ตอบว่าลืม แต่อย่างว่าเด็กจบใหม่ 2-3 ปีหลังคือพวกรุ่นโควิทน่าจะเน้นออนไลน์กันมาน่าจะหนักอยู่

คนไม่ตั้งใจก็ไม่เอาอะ หาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอ บางคนจัดเต็มมาเลย ความรู้แน่นเอี๊ยด

สุดท้ายเลือกคนกลางๆ ไม่เก่งมากแบบเปะเกิน ไม่แย่มากแบบไม่รู้อะไรเลย เพราะคนกลางๆ มันเข้ากันได้ง่ายกว่า

เรื่องไม่ถามอ่ะไม่แปลกหรอก เพิ่งเด็กในหัวยังไม่ค่อยมีอะไร ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าควรจะต้องรู้อะไรเลยไม่ถาม
แต่ที่แปลกอ่ะ ทำไมไม่มีcv แล้วเรียกมาสัมภาษณ์ได้ยังไงหว่า ปกติcvมันต้องส่งมาก่อนไม่ใช่รึ

1. ความรู้พื้นฐาน
- เด็กจบใหม่ ควรจะต้องทำได้ อย่างน้อยๆถ้ายังไม่ถามเรื่องประสบการณ์ แต่ความรู้พื้นฐานควรจะมี

2. Resume
- อันนี้ต้องไปดูตามเทรนด์ของงานช่วงนี้ครับ บางสายไม่มีเรซูเม่ถือมาด้วยอาจจะไม่แปลก
หลายๆที่ไม่ต้องให้ผู้สมัครถือมา เดี๋ยวนี้มีการส่ง Resume ออนไลน์ HR ปริ๊นต์หรือเรียกจากระบบมาได้เลย
ยิ่งบริษัทไหนยังขอรูปถ่าย 1 นิ้ว 2 นิ้ว ยิ่งเชย โอกาสจะได้คนรุ่นใหม่ๆยิ่งน้อยลง

3. culture องค์กร
- อย่าหวังว่าคนรุ่นใหม่จะถาม culture องค์กร เพราะว่า culture องค์กร มันเป็นวิธีที่นายจ้างจะพยายามครอบงำลูกจ้าง
เรื่องพวกนี้คนสมัครจะหวังว่ายิ่งน้อยยิ่งดี ต่างจากองค์กรที่พยายามจะสร้างวัฒนธรรม เพราะงั้นไม่ใช่เรื่องที่คนสมัครอยากจะถามอยู่แล้ว
ถ้าคำถามว่ามีอะไรจะถามหรือเปล่า สิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการจะถามจริงๆ คือ สวัสดิการมากกว่า ที่เขาไม่ถามอาจจะเกรงใจ

ไอ้คำถามที่ว่า มีอะไรจะสอบถามทางเรามั้ยนี่ ผมก็ไม่ค่อยถามครับ ไม่รู้จะถามอะไร (บางทีก็ไม่กล้าถาม555)