.

หงส์อยู่แล้ว

บาซ่า ยังมีเด็กจากลามาเซีย หงส์นี่หายากมากเด็กที่จะรุ่งขึ้นมา

เอาจริงนะผมว่ายากคนละแบบ หงส์ต้องบอกว่าแต่เดิมความคาดหวังสูงก็จริง แต่ก่อนคลอปมาก็ถือว่าตกต่ำอยู่พอตัว คือมันมีความชินชาบ้าง แต่สุดท้ายผลงานพี่แกก็พาหงส์กลับมาคว้าทุกแชมป์ที่เป็นไปได้ไปหมดแล้ว ในแง่นี้ฟลิกซ์ต้องพิสูจน์กับบาร์ซ่าเช่นกัน

ส่วนกับบาร์ซ่าผมว่าความซับซ้อนและเข้มข้นมันดูซับซ้อนกว่าบอกไม่ถูก คืออย่างที่ทราบกันบาร์ซ่ามันไม่ใข่แค่เรื่องฟุตบอล มันเป็นทีมที่เป็นสัฐลักษณ์ทางการเมืองเลย ไหนจะเรื่องวัฒนธรรมองค์กรไม่พอ เอาภาพในสนามฟุตบอลที่แฟนบอลติดตาTotal Footballจากครัฟฟ์สู่เป๊บ ยันโค้ชอื่นๆก็ไม่สามารถละทิ้งสไตล์นี้ไปได้ แล้วการเรียกร้องจากแฟนบอล คือมาตรฐานบอลสเปนผมว่ามันสูงสุดในโลกแล้วนะ ลองดูสิ เล่นกากไม่กี่นัด จะบาร์ซ่าหรือมาดริดมีโดนโห่ละ แล้วมีคนพร้อมแทนทุกเมื่อ ไม่ว่าจะนักเตะหรือโค้ช ยิ่งในยุคนี้ด้วยนะ ใช้นักเตะเองอย่างกับขุนศึก ไม่ผ่านคือบ๊ายบาย เวลาไม่เยอะด้วย โค้ชก็เช่นกัน

ผมว่าวัดกันหัวต่อหัวยาก แต่มันก็ซับซ้อนไปคนละแบบ

หงส์ตอนคลอปป์มาคุม สภาพมันไม่ใช่ top4 แบบประจำ

อารมณ์ประมาณ spurs ตอนนี้

บวกกับความสูสีของ epl + liverpool ไม่ได้แชมป์มานานมาก

คล๊อปยากกว่าเยอะมากกกกกก
งานคล๊อปยากพอๆกันกันคนที่จะมาต่อเทนฮากนี่แหละ

หงส์ตอนคล็อปเข้ามาหลังบ้านก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างละ บวกกับผู้บริหารไม่กดดัน ความคาดหวังน้อย + แฟนบอลตอนนั้นขอแค่ดูบอลสนุก มีความสุขก็พอ สื่อก็ไม่ค่อยโจมตีหงส์เท่าไรด้วยเพราะหงส์แย่มานานมาก คล็อปมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี (ไม่ใช่ทีมดีนะ หมายถึงเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน ทีมงานดี)

ฟลิคกดดันกว่าเยอะมากๆ ถ้าผลงานแบบคล็อปปีแรก มีสิทธิ์ปลิวได้เลยนะ ยิ่งถ้าสัมภาษณ์ไม่เข้าหูผู้บริหาร อาจโดนตะเพิดวันถัดไปได้เลย บาร์ซ่ามีปัญหาภายในเยอะมาก และสื่อเพ่งเล็งมากถึงที่สุด เป็นองค์กรที่มีวัฒนธรรมภายในที่แข็ง ไม่ค่อยยอมรับคนนอก ที่ฟลิคยังไม่โดนแตะต้องอะไรเพราะผลงานมันดีตั้งแต่เข้ามา

คล็อปดูเป็นคนชอบทำงานแบบมี passion อะ คนแบบนี้ถ้าทำงานไม่มีความสุข มีแต่คนคอยจับผิด มักจะหมดไฟ หมด passion ไว

ไปดูสตาร์ตเตอร์ชุดแรกของคล็อปป์
ตอนที่มาทำทีมใหม่ๆจะได้คำตอบครับว่างานใครยากกว่า
นักเตะบาร์ซ่าไม่ใช่ไม่ดีนะ สองปีก่อนก็แชมป์เก่า
แต่เหมือนปีที่แล้วชาบีธาตุไฟเข้าแทรกไงไม่รู้ จัดตัวแปลกๆบ่อยมาก
แต่ถ้าพูดถึงความกดดันงานฟลิคน่าจะกดดันกว่า เพราะบาร์ซ่าตัวยังดีอยู่
ยังลุ้นความสำเร็จได้อยู่ ยังโตต่อไปได้ แต่ของคล็อปป์ตอนเข้ามานี่
น่าจะบอททอมไลน์ละ ไม่ต้องรีบต้องกดดันอะไรมากมาย

ลิเวอร์มีหนี้พันล้านกับ FFP แปลกๆที่ไม่ให้ลงทะเบียนนักเตะปะครับ
แค่การเงินก็ต่างกันแล้ว

ยากทั้งคู่

แต่คุมทีมแบบบาซ่ากับมาดริดมันกดดันกว่าพอสมควร

แค่ชนะยังเสมอตัวเลย ไหนจะไม่มีเวลามารอความสำเร็จอีก

ว่าวแชมป์สักปีก็บินแล้ว ขนาดได้แชมป์ยังบินเลยก็มี

ปัจจัยนอกสนามเยอะกว่าพอสมควร

ผมให้มองแบบนี้ การคุมบาร์ซ่า แค
่ชนะไม่พอครับ ต้องมีสไตล์ด้วย แบบยุคบัลเบเด้ ชนะเยอะแช
มป์แต่ยังปลิวอยุ่ดี

ส่วนหงส์ความคาดหวังจากแฟนบอลเยอะ ประวัติศาสตร์ดี มันมีfactorต่างกัน

แต่ยากทั้งคู่แหละ

ความยากคิดว่าเท่ากันครับ
JK ยากตรงที่ต้องพาทีมประสบความสำเร็จแต่อาจจะไม่ได้คาดหวังมาก โดยดูจากทีมคู่แข่ง อีกที่ไม่ยากคือมีระยะเวลาให้เพราะเข้าใจว่าตัวต้องสร้างใหม่เกือบหมด
ฟลิค ยากตรงที่ต้องสำเร็จแบบรวดเร็วเพราะที่ 2 คือความล้มเหลว แต่ตัวก็ถือว่าพร้อมอยู่

ฟริคซ์ ไม่มีเพดานค่าเหนื่อยเสริมทัพเลยนะครับ ดันเด็กรัวๆเลย ผลงานยังออกมาดีขนาดนี้ เกินคาดไปมากแล้ว เสริมมามีแค่โอโม่ตัวเดียว โคตรสุด