✹✹ ปลาหมอสีคางดำระบาดไปทั่ว
























✹✹ ตัวอย่าง comment ที่เชื่อว่าคนไทย, คนอีสาน, น้ำจิ้ม seafood เอาอยู่




เห็นตอนนี้ไปถึงต้องใช้คนอีสานจัดการแล้ว

ไอพวก เลเวล 1 ถ้าพวกมุงชอบแดรกกันมาก ก็ช่วยไปตลาดหรือไปเหมา กันเยอะๆ ดันราคา ให้มันขึ้นจากโลละ 7-8 บาท เป็นโลละ 30-50 บาทที

ขาวบ้าน ที่ปกติ จับปลา มาขาย ได้แพงๆ หรือเลี้ยงกุ้ง โลละ 200 ไว้ในบ่อ โดนปลาห่าน นี้แดรก จนหายหมด

จากโลละ 200 เหลือ โลก ละ 7 บาท กับไอปลาห่านนี้ ไม่เจ๊งให้มันรู้ไป ตอนนี้หลายทีทอดแห แทบไม่เจอปลาเจาถิ่นราคาดีแล้ว ได้แต่ปลากากๆ ที่พวกมึงบอกว่าแซ่บ แต่ไม่ช่วยกันแดรกให้ราคาแพง อะ

มันกินได้จริง และอร่อยไหม ถ้าพอได้ น่าจะจัดการได้จริงแหละ
ถ้าไม่แซ่บ ก้บ้ายบาย

แหม่ หอยเชอรี่กว่าจะหมดก็กิรกัน 20กว่าปี

เหมือนเป็ฯความภูมิใจแบบถูกปลูกฝัีงผ่านเรื่องราวของตั๊กแตนปาทังก้าหรือหอยเชอรี่ที่ระบาดในไทย ที่ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันระบาดเยอะแค่ไหนเหมือนกัน (ผมเกิดพอดี) แต่เรื่องกินบ้านเราก็ไม่เบียวหรอก ผมว่าเรื่องแมลงบ้านเรากินจริงจังอะ

โดยเฉพาะปาทังก้านะ

แต่อย่างอื่นผมว่าเบียว ปลาซักเกอร์ รณรงค์แทบตาย ถามว่าใครจะจับมากิน? มีแต่จับทิ้งบกทั้งนั้นแหละ ไปตลาดเห็นปลาซักเกอร์ซักตัวบนแผงไหมล่ะ ไม่มีหรอก รัฐก็ได้แต่รณรงค์ ไปงั้นๆ

หมอคางดำ เดี๋ยวก็เจอปัญหา ว่ามันระบาดเยอะจนปลาท้องถิ่นไม่มีที่อาศัย ถึงเวลาัน้นเดียวก็เบื่อจะกินกันเองนี่แหละ เพราะไปทีไ่หนก็เจอแต่หมอคางดำ 5555

อีกอย่างถ้าเนื้อมันอร่อยจริง ผมเชื่อว่ามันจะไม่มีทางเป็นข่าวระบาดแบบนี้หรอก
อันนี้ตั้งแต่ ซีงเพียว นำเข้ามา เอามาวิจัยเพื่อขายเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดใหม่ ยังทิ้งไม่ทำต่อ
คิดว่ามันจะอร่อยจนถึงขนาดใครๆก็อยากจับเหรอ

ถ้ามีวิธีกินและราคาถูกอะ ยังไงก็หมด
เงินกรมประชาสัมพันธ์ที่จ้างพวก VOICE อะ
เอาไปจ้าง Youtuber หรือ เชฟกระทะเหล็กมาสอนวิธีทำอาหารยังได้
ถามจริง ถ้าปลาโลละ 30-40 บาท กินได้ปลอดภัย คนจะไม่กินหรอ

มันมีตัวเลือกอื่นที่ง่ายและอร่อยกว่าครับ อีกอย่างมันเป็นสัตว์น้ำเล็งเป้าเฉพาะเจาะจงยาก แถมปลาหมอคางดำนี่ถึกจัดเป็นปลา 3 น้ำ อยู่ได้ทุกสภาพคือ น้ำเค็ม น้ำกร่อย น้ำจืด

ปล.สมุทรสาครบ้านผมมีโครงการเอาศัตรูตามธรรมชาติมาปล่อยละ ให้ปลากระพงขาวไปไล่ล่าปลาหมอคางดำ แต่ก็กังวลว่าปลากระพงจะโดนชาวบ้านล่าไปขายกินซะมากกว่าเพราะกินอร่อย

ตัวใหญ่มันก็พอกินได้

หมอคางดำมันสืบพันธุ์ได้ตั้งแต่ตัวยังเล็ก

จะกินไม่ทันอ่ะสิ ตัวเล็กก้างใหญ่เนื้อน้อย

ส่วนเรื่องกินก็รำคาญจิง พวกเบียวก็ไม่ได้ไปกินกะเค้านะ ขยันเม้น โพสต์

ไอพวก เลเวล 1 ถ้าพวกมุงชอบแดรกกันมาก ก็ช่วยไปตลาดหรือไปเหมา กันเยอะๆ ดันราคา ให้มันขึ้นจากโลละ 7-8 บาท เป็นโลละ 30-50 บาทที

ขาวบ้าน ที่ปกติ จับปลา มาขาย ได้แพงๆ หรือเลี้ยงกุ้ง โลละ 200 ไว้ในบ่อ โดนปลาห่าน นี้แดรก จนหายหมด

จากโลละ 200 เหลือ โลก ละ 7 บาท กับไอปลาห่านนี้ ไม่เจ๊งให้มันรู้ไป ตอนนี้หลายทีทอดแห แทบไม่เจอปลาเจาถิ่นราคาดีแล้ว ได้แต่ปลากากๆ ที่พวกมึงบอกว่าแซ่บ แต่ไม่ช่วยกันแดรกให้ราคาแพง อะ

มันก็ต้องมีความอร่อยด้วยนะ ไม่งั้นก็กินไม่ลงหรอก

เอาไปทอดกรอบๆทั้งตัว กินกับ น้ำปลา พริกสด กะเทียม อร่อยดีนะ

ประเด็นคือปลามันไม่มีมูลค่าครับ (ฟีลลิ่งเป็นปลาธรรมชาติ) และมันถูกห้ามเพาะเลี้ยง

ปัจจุบันโรงงานหลายๆโรงงานเลือกที่จะรับซื้อเพราะอยากช่วยบรรเทาการระบาดก็นยังรับกันแค่ 5-10 บาท/กก. แล้วไมไ่ด้รับซื้อเพราะจะสร้างมูลค่านะ ซื้อมาเฉยๆ เอามาป่นเป็นอาหารสัตว์อย่างเดียว

แล้วเป็นแบบนี้ก็เหมือนกับการจับขึ้นมาก็ไม่มีคนซื้อ ไม่มีแหล่งขาย (แหล่งขายที่ Stable พอที่จะจับแล้วมาขายได้ตลอด) แล้วเค้าจะจับมาขายใครล่ะครับ
ต่อมาจากที่เคยจับปลาได้ กก ละ 80-200 กลายเป็นต้องมาจับปลา กก. ละ 5-10 บาทขายแทน ใครจะอยากทำต่อ

ฉะนั้นที่ท่านบอกว่าปลา โลละ 30-40 มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นยากมากครับ เพราะความต้องการในตลาดมันแทบไม่มี(ตลาดบริโภค) จะหวังให้เอกชนมาคิดวิธีการแปรรูปจากมัน ก็ยากเพราะปลามันไม่ใช่ปลาเพาะเลี้ยง มันก็ยากที่จะทำให้มันเกิดการบริโภคอย่างยั่งยืนได้

ต่อให้กระตุ้นให้เกิดการบริโภคในหมู่ประชาชน นำเสนอวิธีการทำอาหาร แต่ใครจะทำหล่ะครับ ปลาซัคเกอร์สอนวิธีทำกันแทบตาย สุดท้ายก็โยนบกทิ้งง่ายกว่า 555+ เพราะหาวิธีทำไปสุดท้ายก็ไม่อร่อยเท่าปลานิล ปลากะพง ปลาสลิด ที่หาซือ-ขาย ได้ง่ายกว่าอยู่ดีครับ นี่แหละปัญหาของหมอคางดำ

romanticize

ต้องมาพร้อม ภาพคนอีสานสมัยก่อน ที่ยังกินดินกันอยุ่

พาออกรายการทำอาหารเลยครับ

ผมเชื่อว่าถ้ามันทำอร่อย เดี๋ยวก็มีคนกิน

อาหารสัตว์แพงนัก ก็จับมาทำมาแปรรูปอาหารสัตว์ต่างๆก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องจะให้คนกินอย่างเดียว แปรรูปไปทำอย่างอื่นก็ได้พวกเนื้อปลาเนี่ย