เทียบกับ คล็อป ที่ดอร์ทมุนด์ ผมพอใจแล้ว (ผลงานก่อนมา)

เทียบกับ ผจก.คนก่อนๆ ของลิเวอร์พูล ก็พอใจมากๆๆ แล้ว

ขอรูปปั้น ให้แกหน้าสนามเถอะ สำหรับ ผจก.ที่เป็นที่รักมากๆ ของแฟนๆ (ส่วนตัว ผมให้ที่สุด)

เชื่อว่าทีมของคล๊อปไปเตะลีกอื่นต้องได้แชมป์ลีกมากกว่า 1 แน่นอนอ่ะ

น้อย จะหาว่าแซะก็แล้วแต่ แต่น้อยจริงถ้าเทียบกับฟอร์มการเล่น

ฟ้าส่งคล็อปป์มา ใยส่งเป๊ปมาด้วย

น้อยไปครับ แต่มีความสุขมากที่ได้ดูบอลยุคคล็อป ได้เห็นทีมรักลุ้นแชมป์บ้าง ไม่ได้ลุ้นบ้าง แต่มีการดันนักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมีขึ้นทีมชุดใหญ่ บางคนอยู่กับสโมสรมาตั้งแต่เด็กจนถึงขั้นยิงประตูในทีมชุดใหญ่ได้ ความรู้สึกเหมือนเห็นคนในครอบครัวมาเล่นให้ลิเวอร์พูล มันมีความผูกพันแบบบอกไม่ถูกครับ

พระรองอย่างแท้จริง

อารมแมนยูกับแชมป์ ucl ที่พอเหมาะไปเจอบาซ่ายุคต่างดาว

ก็น้อยไปในความคิดของแฟนบอลที่ทำมาขนาดนี้แล้ว

แต่ทีมที่ได้ไปแทนก็ไม่ใช่ว่าไม่สมควรได้ซะหน่อย

ในเมื่อเล่นกันในกติกา ในลีคใครแต้มเยอะกว่าก็ได้ไป

บอลถ้วยใครชนะก็ได้ไป

คนเรามันก็มีเส้นทางชีวิตของตัวเอง ความสำเร็จของJKไม่ใช่ถ้วยแต่เป็นการยกระดับทีมแบบหลังเท้าเป็นหน้ามือ

สิ่งเดียวที่ JK มีแต่โค้ชอื่นๆไม่มีคือ กระโดดเข้าหางานยากกว่า งานหินกว่า งานที่สร้างจากความเชื่อ ซื้อนักเตะคีย์แมนได้แค่ปีละ1ตัว สร้างกรุงโรมในปีเดียวไม่มีทางสำหรับการคุมลิเวอร์พูล


ถ้า JK กระโดดเข้ารับงาน อย่างบาเยิร์น แมนซิตี้ เชลซี แมดริด เงินถุงเงินถังนักเตะรายล้อม ถ้วยก็ย่อมจะเยอะกว่าอยู่ลิเวอร์พูลแน่นอน

เขาเลือกได้ แต่เขามาลิเวอร์พูล เพราะการสร้างลิเวอร์พูลให้ทัดเทียมทีมพวกคุณมันเป็นตำนานมากกว่าไงครับ

ได้น้อยครับ ยิ่งเทียบกับฟอร์มการเล่นยังไงก็น้อย ถ้าบอกว่าได้เยอะก็แปลกละ 555+

เพียงแต่ในเรื่องรายละเอียด ทำไมถึงได้น้อยมันเข้าใจได้อ่ะครับ คือมันมีทีมที่ดีกว่า
ไม่ใช่ว่าเราไม่ดีพอจนไม่ได้่ลุ้นอะไรเลยในแต่ละปี ทีมเรามาดีมากแล้ว เพียงแต่เราไปได้ไม่ถึงเป้าหมาย
เพราะมีคู่แข่งที่ดีกว่า
สุดท้ายผู้ชนะมีได้แค่หนึ่งทีม ในแต่ละรายการ และทีมๆนั้นไม่ใช่ลิเวอร์พูล และ JK แค่นั้น
แต่ 9 ปีที่แกอยู่กับทีมมา 1EPL 1UCL ผลงานแกดีที่สุดอยู่แล้ว สำหรับลิเวอร์พูล

เทียบกับคู่แข่งตอนนี้ ซิตี้ มาดริด ก็ไม่ถือว่าน้อย มาตรฐานเค้าสูง
แต่ปั้นทีมจนมาเทียบเคียงได้ก็เก่งมากแล้ว

จากทีมกลางคารางเกือบล้มละลาย โดนเหยียดหยามจากแก้งค์รู ได้ถ่มถุย ขากถุยคืนพวกมันได้ ก็สะใจล่ะ

ผมเคยคิดแบบนี้เลยครับว่าคลอปปได้แชมป์น้อยเกินไป ยิ่งปีที่มีลุ้น 4 แชมป์แต่ได้แค่ถ้วยเล็กมาสอง รู้สึกว่าระดับลิเวอร์พูลมันต้องสุดกว่านี้สิ นึกในใจตอนนั้นคือโทษไปหมด โทษคลอปที่เลือกจะไว้ใจลูกรัก โทษบอร์ดที่ไม่ทุ่มซื้อตัวดีๆ เพื่อต่อยอดซักที

ทีนี้คลอปประกาศจะลาออก ทำให้ผมลองมาย้อนดู เราผ่านผจก.มาตั้งแต่ยุค คิงเคนนี่, ปู่รอย, รอดเจอร์ ลองถามตัวเองว่าตอนนั้นว่าเชื่อมั้ยว่าลิเวอร์จะกลายเป็นทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลุ้นถ้วย UCL มันเป็นอะไรที่ดูเลื่อนลอย เกินเอื้อมมากๆ

แต่พอคลอปป์เข้ามากับการทำทีมแบบคลาสสิกแบบนี้ แล้วเทียบกับผลตอบแทนที่ได้ ถึงแม้ถ้วยแชมป์จะไม่ได้เยอะแต่ทุกถ้วยที่ได้มาอย่างภาคภูมิใจ มันมีโมเมนท์ปาฏิหารย์ มันมีความทรงจำ ที่เป็นองค์ประกอบของถ้วยนั้นๆ

ผมนึกถึงลูกโหม่งของอลิซงในทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายในสนามที่ไม่มีคนดูเวลาในถ้วยพรีเมียร์ลึกที่เราได้ นึกถึงค่ำคืนที่พลิกชนะบาร์ซ่า 4-0 ที่แอนฟิลด์ในถ้วย UCL ที่เราได้ มันมีความพ่ายแพ้ในปีก่อนหน้าหรืออะไรหลายๆ อย่างอัดแน่นอยู่ สำหรับผมการได้ไม่กี่ถ้วยแต่เรามีความทรงจำพิเศษให้นึกถึงได้แบบนี้ก็ถือเป็นอะไรที่ดีมากๆ แล้วครับ

ลูปนรกของบอสก็คือ จะได้แชมป์ไหน ต้องว่าวแชมป์นั้นก่อนครั้งนึง

ใครชนะแมนซิตี้กับมาดริดได้ทีมนั้นก็เหมาะสมกับการเป็นแชมป์ แค่นั้นแหละ ผมยอมรับเลยว่าต่อให้ jk ทำทีมหงส์ดีแค่ไหนก็ยังไปไม่สุดเพราะเป๊ปกับมาดริดนี้แหละ

จะเทียบแบบไหนล่ะ 1. เทียบกับเงินที่ใช้ไปตั้งแต่ปี 2015 ที่คล็อปเริ่มได้ชื้อตัวกับยอดทีมแบบ น่อล เชลชี แมน ยู สเปอร์ นี่ก็ไม่น้อยนะ ทีมพวกนี้มีได้แชมป์กี่ทีกันถ้าเทียบกับเม็ดเงินที่ลงทุนไป แถมตอนนี้จะติด fair play ด้วยซ้ำ ส่วน liv ก็ชิลๆ
้่้

2. ถ้าวัดจากระยะเวลาก็น้อยจริงๆล่ะ

ปล. อยากรู้ว่าทีมไหนมันจะสู้เป้บได้ในลีค มันสม่ำเสมอขนาดนั้น แถมนับ% ชนะของ jkตอนคุมliv นี่มากกว่าป๋าตอนคุม manu อีกนะ ป่า 59% jk 60%