บทความนี้เขียนโดย Swiss Ramble
เป็น Account ชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่วิเคราะห์ฟุตบอลในเชิงธุรกิจ
บทความจริงยาวมาก หลายสิบ Threads เลย
อันนี้ผมจับใจความและมาย่อยให้อ่านกันแบบง่ายๆครับ
ใครอ่านบทความเต็มๆ อย่าลืมหากาฟง กาแฟ มาจิบด้วยนะครับ ยาวจัด
เริ่มเลย
เชลซีใช้จ่ายเงินมากกว่า 200 ล้านปอนด์ได้อย่างไร โดยยังอยู่ในกฏทางการเงิน
เชลซีใช้เงินก้อนโตในช่วงตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ โดยรายจ่ายของพวกเขาน่าจะมากกว่า 200 ล้านปอนด์ก่อนปิดตลาด หัวข้อนี้จะพิจารณาผลกระทบทางการเงินและอธิบายว่า Chelsea ยังคงควบคุมระดับการใช้จ่ายให้อยู่ในกฏของ Financial Fair Play (FFP) ได้อย่างไร
TL; DR - ยาวไปไม่อ่าน ชอบอ่านสั้นๆ
สรุป Part I : Background ทางการเงินของ Chelsea
1. มีกฏทางการเงิน 2 ข้อที่ควรรู้คือกฏ Premier League Profitability and Sustainability (P&S) และ Financial Fair Play ของ Uefa
2. กฏ P&S ยอมให้มีการขาดทุนไม่เกิน 5 ล้านปอนด์ต่อปี รวมอัดฉีดอีก 35 ล้านปอนด์ หมายความว่ากฏนี้ยอมรับการขาดทุนสูงสุดต่อปีไม่เกิน -35ล้านปอนด์
3. กฏ P&S นี้จะทำการประเมินย้อนหลัง 3 รอบตลาดล่าสุด (Summer-Winter-Summer) ซึ่งหมายความว่าห้ามขาดทุนรวมกันเกิน -105 ล้านปอนด์ (-35ล้าน*3ปี)
4. Chelsea ขาดทุน 222 ล้านปอนด์ใน 3 ปีบัญบัญชีล่าสุด เป็นอันดับ 2 รองจาก Everton
5. แต่พรีเมียร์ลีกได้ออกมาตรการผ่อนคลายเนื่องจากผลกระทบโควิด ให้นำเอารายรับรายจ่ายของ 2 ปีมาเฉลี่ยรวมกันได้ อันได้แก่ปี 2019/2020 และ 2020/2021
6. ข้อสำคัญ* เนื่องจากมีการผ่อนคลายกฏ จึงทำให้ Chelsea สามารถรวมกำไร 67 ล้านปอนด์จากปี 2017/18 ได้ ด้วยหลักการนี้ ทำให้ Chelsea ขาดทุนก่อนหักภาษีในช่วง 3 ปี (แบบกฏใหม่) จนถึงปี 2020/21 อยู่ที่เพียง -£94m ซึ่ง เหนือกว่าเส้นแดงอยู่ 11 ล้านปอนด์
(เส้นแดงหมายถึงการอนุญาตให้ขาดทุนได้ -£105m ตลอดระยะเวลา 3 ปี ซึ่ง Chelsea ขาดทุน -£94m หมายถึงยังเหลือโควต้าอีก -£11m : ผู้แปล)
7. ยังไม่พอ หากรวมค่าลดหย่อนทางบัญชีอีก 85 ล้านปอนด์ ทำให้ขาดทุนบนกฏ P&S แค่ -£10m ซึ่งนั่นคืออยู่เหนือเส้นแดงถึง 95 ล้านปอนด์เลย
8. ยังมีอีก เชลซีสามารถบวกค่าชดเชยที่ได้รับผลกระทบจากโควิดได้อีก 35 ล้านปอนด์ จึงส่งผลให้ตัวเลขทางบัญชีนั้นกำไรบนกฏ P&S ที่ 25 ล้านปอนด์ กล่าวอีกนัยหนึ่งเชลซีดีกว่าเส้นแดง (-£105m) ที่ £130m ซึ่งตัวเลขนี้ทำให้ Chelsea หายใจโล่งขึ้นมาก
สรุป Part II: บัญชีตลาดรอบปัจจุบัน
1. ข้อนี้คือตัวเลขจริงผสมการคาดการณ์เพราะตลาดยังไม่ปิด และ ยังไม่ถึงรอบบัญชี
2. Chelsea ใช้เงินไป 160 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์นี้เพื่อซื้อ Marc Cucurella, Raheem Sterling, Kalidou Koulibaly, Carney Chukwuemeka และ Gabriel Slonina ในขณะที่ปี 2021/22 รวมการซื้อ Romelu Lukaku ด้วยเงินเกือบ 100 ล้านปอนด์ สโมสรยังได้รับผลกระทบจากผู้เล่นยืมตัวทั้งกลับมาและปล่อยยืม (ค่าเหนื่อยเพิ่ม)
3. เพื่อความสนุก สมมติว่า Chelsea ประสบความสำเร็จในการไล่ตาม De Jong, Fofana และ Aubameyang นั่นจะเป็นการใช้จ่ายอีก 180 ล้านปอนด์ ทำให้ยอดรวมในช่วงซัมเมอร์นี้สูงถึง 340 ล้านปอนด์ ในทางบัญชีหมายถึง 437 ล้านปอนด์ที่จ่ายออกไปสำหรับค่าตัวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (3 ตลาด)
4. ในทางกลับ กัน Chelsea ได้ขายผู้เล่นในราคา 181 ล้านปอนด์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รวมถึง Tammy Abraham, Kurt Zouma, Fikayo Tomori, Timo Werner, Marc Guéhi และ Eden Hazard (add-on) พร้อมค่าธรรมเนียมเงินกู้ 12 ล้านปอนด์ สร้างกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ 164 ล้านปอนด์ เนื่องจากผู้เล่นที่ออกจากทีมส่วนใหญ่ต้องเสียค่าเสื่อมราคาทั้งหมด (Hazard อีกแล้วโว้ยยยย ได้มาอีก 15m ไม่ให้รักได้ไง: ผู้แปล)
5. นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากการลดค่าแรงและค่าเสื่อมราคาของผู้เล่นขาออก แม้จะเป็นการย้ายแบบ Free-Agent เช่น Antonio Rüdiger, Andreas Christensen & Danny Drinkwater ช่วยประหยัดค่าเหนื่อยได้ถึง ค่าจ้าง 77 ล้านปอนด์ต่อปี และค่าเสื่อมสภาพอีก 19 ล้านปอนด์ต่อปี โดยรวมแล้ว ประหยัดได้ถึง 96 ล้านปอนด์ต่อปี
คั่นด้วยเกร็ดน่ารู้: รายได้หลักของเชลซีในยุคเสี่ยหมีคือการขายผู้เล่น และ 5 ปีที่ผ่านมาคือทีมที่ขายนักเตะได้เยอะที่สุดในอังกฤษที่ 413 ล้านปอนด์ ลิ้งห่างอันดับสองอย่าง Liverpool ที่ทำได้ 274 ล้านปอนด์
สรุป Part III: บัญชีตลาดรอบอนาคต ที่จะเป็นตัวตัดสิน
1. ตอนนี้เรามาลองประมาณการ บัญชีกำไรขาดทุนของ Chelsea ในอีกสองปีข้างหน้า เพื่อให้เราสามารถดูว่าการใช้จ่ายในตลาดนักเตะล่าสุดของพวกเขามีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดปัญหาใดๆ จากมุมมอง Financial Fair Play หรือไม่
2. คาดการณ์รายได้ในอนาคต โดยอิงจากสถิติเดิมของปีก่อนๆ อาทิ รายได้ของเกมส์ในบ้านคือ 2.4 ล้านปอนด์ต่อเกมส์, ค่าขายสินค้า เป็นต้น
3. รวมรายรับที่คงที่ ที่ยังคงเท่ากับปีที่แล้ว คือรายรับจาก Sponser, Nike, Three UK, Trivago
4. รวมรายรับที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ เช่นลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดจะแพงขึ้น 14–33%
5. สมมติตกรอบ 8 ทีม UCL และตัดรายได้แชมป์ Super cup & สโมสรโลกออก
6. ตัดรายรับที่เกิดขึ้นไม่บ่อยออกเช่น การเคลมประกัน ค่าธรรมเนียมพิเศษ การได้โบนัสพิเศษใดๆ
7. สมมติว่าเพิ่มรายจ่ายค่าเหนื่อย 8 ล้านปอนด์ต่อปี จากการนำเข้าผู้เล่นใหม่และการต่อสัญญา
8. รวมการประมาณการทั้งหมดนี้
* จะทำให้กำไรก่อนหักภาษี 42 ล้านปอนด์สำหรับในปี 2021/22
* ได้แรงหนุนจากกำไรมหาศาล 160 ล้านปอนด์จากการขายผู้เล่น (3 ตลาดล่าสุด)
* นี่จะเป็นผลกำไรสูงสุดจากการซื้อขายของผู้เล่นในเกาะอังกฤษ โดยแซงหน้าเจ้าของสถิติเก่าก็คือเชลซีที่มีรายได้ถึง 143 ล้านปอนด์ในปี 2019/20
นั่นจะหมายถึงกำไรบนกฏ P&S ที่ 3 ล้านปอนด์ในช่วงการตรวจสอบ 3 ปี
ดังนั้นดีกว่าเส้นแดงอยู่ 108 ล้านปอนด์
(เส้นแดงคืออนุญาตให้ขาดทุนได้ -105 ล้านปอนด์: ผู้แปล)
9. แม้จะขาดทุนมหาศาล (-185 ล้านปอนด์)ในปี 2022/23 แต่ Chelsea ก็ยังสบายดีภายใต้กฎ P&S ของพรีเมียร์ลีก แม้ว่าส่วนต่างความปลอดภัยจะลดลงเหลือ 26 ล้านปอนด์
(เดิมมีส่วนต่างความปลอดภัย 108 ล้านปอนด์: ผู้แปล)
10. ส่วน FFP ของยูฟ่านั้นเข้มงวดกว่าพรีเมียร์ลีกโดยมีการขาดทุนที่ยอมรับได้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเพียงปีละ -30 ล้านยูโร (รวมอัดฉีดทุน 25 ล้านยูโร) แม้ว่ากฏใหม่จะขยายให้เป็น -90 ล้านยูโรจากปี 2024 (ครอบคลุมย้อนหลังถึงปี 2022/23 เป็นปีที่ 3)
สรุป Part IV: ภาษาคน
1. หากประมาณการรายได้ทางบัญชีของซีซั่น 2022/23 แบบต่ำๆไว้ก่อน
2. และหากประมาณการรายจ่ายโดยสมมติว่าได้ เดอยอง โฟฟาน่า และโอบาเมยัง ตัวเลขของเชลซีจะยังอยู่เหนือโซนปลอดภัยที่ 26 ล้านปอนด์ หากเคลียค่าเหนื่อย เคลียร์นักเตะที่ไม่ได้ใช้ออกไปก่อนจบ summer นี้ ก็ยิ่งจะทำให้ปลอดภัยกว่าเดิมยิ่งขึ้น
3. สรุปว่าจะจ่าย 300–400 ก็ยังได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะปล่อยใครได้อีกบ้าง
สรุปปิดท้าย : Boehly เขาจ้องจะเล่นคุณนะ PL
Boehly กล่าวว่า
“เราคิดว่ารอยเท้าทั่วโลกของกีฬาฟุตบอลยังไม่ได้รับการพัฒนาจริงๆ
ทีมฟุตบอลยุโรปมีแฟนๆ 4 พันล้านคนทั่วโลก มีแฟนเอ็นเอฟแอล 170 ล้านคน
สโมสรฟุตบอลอื่นๆทั่วโลกเป็นเพียงเศษเสี้ยวของเงินใน NFL”
เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด Chelsea ต้องอยู่ Top ของตาราง
หาข้อมูลเพิ่มเติมมาให้
NFL เป็นกีฬาทำเงินสูงสุดที่ 17 พันล้านดอลล่าห์ ทั้งที่ฐานแฟนๆ 170 ล้านคน
English Premier League มีฐานแฟนๆระดับพันล้านคน แต่กลับสร้างเม็ดเงินเพียง 11 พันล้านดอลล่าห์
มาดูกันว่า Todd Boehly จะมีแผนเพิ่มรายได้ และมูลค่าให้กับ Chelsea และ PL ได้อย่างไร
* ผู้แปล
ความเห็นส่วนตัว
Spoil
หลังจากได้อ่านถึงได้รู้ว่าทำไมให้สัญญาแต่ละคนยาวจังเลย 4-6 ปี แถมมี option เพิ่มอีก
ปรากฏว่าอ๋อ ถ้าเราซื้อ 60 ล้าน และสัญญา 6 ปี
มันจะลงบัญชีปีละ 10 ล้าน เป็นระยะเวลา 6 ปี
แต่พอขายจะนำไปลงบัญชีปีนั้นเต็มๆ (หลังจากหักลบค่าเสื่อมสภาพ)
ทีหลังแฟนเชลซีเห็นเซ็นคนไหนมาแพงๆ และให้สัญญายาวๆ ให้ทราบไว้ว่านี่เป็นอีกเหตุผลนึงครับ
ทำให้งบทางบัญชีดีขึ้น
หมายเหตุ:
ใครอยากอ่านบทความเต็มรบกวนเม้นให้หน่อยครับ จะแตกกระทู้ให้ ผมเขียนเสร็จแล้ว แต่เผยแพร่ไว้ในที่ส่วนตัว
เพราะมันมีภาพประกอบเยอะ และละเอียดมากๆ เกรงว่าจะยาวไป
หากคนสนใจอ่านระดับรายละเอียดเยอะๆ ผมจะเอามาโพสไว้ให้ครับ
หรือหากอยากทราบรายละเอียดด้านไหน เม้นถามไว้ได้เลยครับ หากพอทราบเดี๋ยวมาตอบให้ครับผม