โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าให้เลือกได้แทบไม่มีทีมไหนอยากเปิดสนามด้วยการเจอทีมน้องใหม่ในฐานะ “ทีมเยือน”

ดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีม ลิเวอร์พูล ที่ คราเวน ค็อตเทจ คุณจะได้ว่ามีครบทุกสูตรของความเป็น “น้องใหม่” ในเกมแรกของซีซั่น

คะนองลีก, คลั่งเสียงเชียร์และแรงจูงใจในการล้มรองแชมป์ “วินิจคัพ”

จะอย่างไรก็ตามส่วนผสมดังกล่าวจะไม่ “ทริกเกอร์” เลยหากขาดคุณภาพที่จะเอาไว้ต่อกรให้ครบ 90 นาที

นั่นคือสิ่งที่เราต้องยกย่องให้เครดิต ฟูแล่ม มากกว่าให้น้ำหนักว่า “หงส์แดง” ทำอะไรในเกมนี้บ้าง

แท็คติกส์ของ มาร์โก ซิลวา อาจจะไม่ได้แปลกประหลาดกว่าทีมอื่นๆที่ใช้การ “เพรส” ใส่ทีมใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล

แต่ที่ทำให้ลูกทีม เยอร์เก้น คล็อปป์ เล่นไม่ออกเลยไม่ว่าจะตั้งเกมจากแดนหลังหรือแม้กระทั่งการวางยาวคือการเข้าบอลถึงเนื้อถึงตัวที่หนักหน่วงจนนักเตะทีมเยือนถูกบังคับให้เล่นอยู่แต่ในแดนตัวเองเป็นส่วนใหญ่

“หงส์แดง” มักใช้ทีเด็ดการวางยาวของ เวอร์กิจ ฟาน ไดจค์ และเทคนิคการเอาบอลลงเนียนๆของ โม ซาลาห์ ในสถานการณ์ที่ถูกเพรสหนักๆซึ่งเป็นทางลัดที่เวิร์คเสมอ

แต่วันนี้กลับไม่ได้ผลครับเพราะต้องบอกว่า “เจ้าสัวน้อย” เล่นลูกกลางอากาศได้ดีทุกตัวตั้งแต่หน้ายันหลัง

ทำให้ทุกๆการแย่งบอลด้วยลูกหัวและตามเก็บจังหวะ 2 แทบจะเป็นเจ้าถิ่นที่เอาชนะได้แทบหมด

การเสีย ธิอาโก้ ทำให้เสียคุณภาพการเล่นไป 2 จุดคือ 1. การเอาตัวรอดในการถูกเพรสและ 2 การวางยาว

ซึ่งที่กล่าวมา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ดูมีปัญหาค่อนหนักกับการถูกเพรส แม้จะพูดสรุปรวมๆว่าก็แทบทั้งทีมที่ต้องหันหลังเล่นบอลและถูกอัดจนน่วม

สภาพสนามที่ค่อนข้างเล็ก (100x65 เมตร) เล็กกว่า แอนฟิลด์ ที่ว่าเล็กจนไม่สามารถจัดแข่งบอลทัวร์นาเมนท์ใหญ่ๆได้ (101x68) ยิ่งทำให้นักเตะทีมเยือนหนีไปทางไหนก็ไม่พ้น

อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กลายเป็นตัวทีเด็ดของ ฟูแล่ม จาก 2 ประตูในเกมนี้ การพักบอลเก็บบอลสู้กับพี่แกจำเป็นต้องดึงทั้ง Vvd และ โจเอล มาติ๊ป นักเตะเชื้อสาย กัมพูชา มาช่วยกันคอมโบ้ เปิดทางให้มีช่องและที่ว่างของผู้เล่นคนอื่นๆไปในตัวด้วย

รูปเกมของ ลิเวอร์พูล มาดีขึ้นหลังการลงสนามของ ฮาร์วี่ย์ เอเลียตต์ และ ดาร์วิน นูนเญซ

และดีขึ้นไปอีกเมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาแทน ฟาบินโญ่

เราจะเห็นได้ว่าหลังจากนั้นทีมเยือนบุกขึ้นฝั่งขวารัวๆโดยใช้ “ท่านรอง” และ เอเลียตต์ วิ่งเลาะช่องช่วย ซาลาห์ จนสลับกันเปิดบอล

ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล มีปัญหากับการหาโอกาสทำประตูเพราะลูกไขว้ของ นูนเญซ ที่ทำให้ทีมตีเสมอ 1-1 เป็นการยิงเข้ากรอบหนที่ 2 ทั้งๆที่เล่นมา 1 ชั่วโมงกับอีก 4 นาที

ทันทีที่ประตูนี้มา เราจะเห็นทันทีว่านักเตะ ฟูแล่ม เลิกเพรสและพยายามรักษา 1 แต้มของตัวเองทันที พื้นที่ว่างที่แทบจะเหมือนขุมทองหายากหาเย็นกลับมีขึ้นมาทันที

แต่ “หงส์แดง” กลับมีช่วงเวลาที่ว่านี้แค่ 8 นาที จากการจ่ายพลาดหนเดียวของ มาติ๊ป ทำให้ท้ายที่สุดต้องมาเสียจุดโทษแบบไม่น่าเสีย

กลายเป็นว่าประตูของ ซาลาห์ ที่ทำสถิติยิงเปิดสนาม 6 ปีรวดกลายเป็นประตูช่วยชีวิตแบ่งแต้มไม่ให้ถูกล้อตั้งแต่นัดเปิดสนาม

ดูจากฟอร์มของ ฟูแล่ม วันนี้แล้วเกิดคำถามที่ว่า ซิลวา ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมว่าทีมของเขาไม่พร้อมสำหรับ พรีเมียร์ลีก จากการที่มีนักเตะซีเนียร์อยู่แค่ 16 คน

ถ้าไม่ใช่การยอมรับความจริงก็เป็นการแอบสร้างแรงกระตุ้นให้ลูกทีมทางอ้อมแต่จะอย่างไรก็แล้วแต่การเล่นของ ฟูแล่ม การได้แค่แต้มเดียวแน่นอนครับผิดหวังชัวร์ๆ

ตรงข้ามกับ ลิเวอร์พูล ที่ไม่สามารถแก้ลำเจ้าถิ่นและปล่อยให้ตัวเองเล่นต่ำกว่ามาตรฐานย่อมรู้สึกว่า 1 แต้มที่ได้มาดีกว่าไม่ได้อะไรกลับจากลอนดอน

ซิลวา กับ คล็อปป์ ต่างคนต่างมีการบ้านให้กลับไปขบคิด ฝ่ายแรกคือจะยืนระยะถึงแค่นัดไหนเพราะทั้งแกและพวกเรารู้กันอยู่แล้วว่าการสู้ถวายหัวในลักษณะนี้มันทำไม่ได้ทุกนัดกับทุกทีม (ไม่เช่นนั้นคงตกชั้นเลื่อนชั้นสลับไปมาแบบนี้)

ส่วน JK การเสีย ธิอาโก้ ที่ฟอร์มดีที่สุดในแดนกลางตั้งแต่นัดแรก (และน่าจะยาวเพราะแฮมสตริงด้วย) คนที่จะเสียบไม่ว่าใครเป็นการทิ้งช่องว่างของ class บอลเอาไว้อย่างมโหราฬแน่นอน

การจะหาตัวรุกที่มาช่วยเวลาทีมตันๆและเป๋กันทั้งทีม ถ้าไม่ใช่ “บังโม” ณ เวลานี้ก็น่าจะเหลือ “หนูน” เรียกว่ายังน้อยไปเมื่อเทียบกับทีมในระดับเดียวกันอย่าง แมนฯซิตี้ หรือ เชลซี

วันนี้เปิดหัว พรีเมียร์ ขอแค่เบาๆเป็นการแย้บๆแสดงตัวโผล่มา welcome คอลัมน์ของคนแก่ขี้หลงขี้ลืมคนเดิมคนนี้ เจอกันอีกยาวๆ 9 เดือนครับ...

สถิติ สถิติ สถิติ

ลิเวอร์พูล กด 115 แต้มใน พรีเมียร์ลีกจากการตามหลังคู่แข่งภายใต้การทำทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ นับเป็นทีมที่ได้แต้มมากที่สุดนับตั้งแต่ JK เข้ามาคุมทีมเมื่อเดือนตุลาคม 2015

ดาร์วิน นูนเญซ เป็นนักเตะแค่รายที่ 3 ที่ลงสนามเกม debut ทั้งยิงและจ่ายในฐานะนักเตะตัวสำรองโดยคนแรกเป็น แซร์จิโอ อเกวโร่ (2011-12) และ อัลวาโร่ โมราต้า (2017-18)

“หงส์แดง” จอดป้ายแค่ 51 เกมในลีกที่ไม่เสียจุดโทษให้ทีมไหนซึ่งนับเป็นสถิติที่ยืนยาวที่สุดในรายการนี้โดย Vvd ทำเสียจุดโทษครั้งแรกนับตั้งแต่ทำไว้ในเกมที่พบ แมนฯซิตี้ ในปี 2018

อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ยิง 44 ประตูใน 45 เกมในลีกนับตั้งแต่ออกสตาร์ตเมื่อซีซั่นก่อนโดยยิงมากกว่านักเตะคนอื่นๆใน 4 ลีกผู้ดีถึง 15 ประตู

รองแชมป์วินิจ คัพ มีนักเตะอายุ 30+ มากถึง 6 คนใน 11 ตัวจริงที่ คราเวน ค็อตเทจ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พบ เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อปี 1994 นู่นเลย

มาติปจ่ายพลาดเยอะมาก นัดหน้าอาจได้เห็นโจ โกดิน

นายกก็เน้นจัง รองแชมป์วินิจคัพ ทำเอาอยากเห็นฟอร์มของแชมป์วินิจคัพขึ้นมาเลย

เอาจริงๆอยากมองในแง่ดีอยู่หรอกจากเกมที่ควรแพ้แต่มี1แต้มถ้ามองแค่ติดท็อป4คือโอเคไม่แย่ แต่ถ้ามองถึงแชมป์ไม่โอเคเพราะทีมอย่างซิตี้ทำให้เห็นคือเกมที่เกือบแพ้มันกลับมาเอา3แต้มได้ ชัดๆก็เกมสุดท้ายของซีซั่นที่มันทำนั่นแหละ ถ้าลิเวอร์พูลโดนแบบนั้นกลับมาเสมอก็เก่งแล้ว จริงๆก็หลายเกมเลยที่ซิตี้จากเกือบแพ้แต่กลับมาเอาได้ถึง3แต้ม

เล่นดีฟูแลมวันนี้

เล่นแบบรอให้เค้ายิงก่อนแล้วค่อยบุกเอาจริงเอาจัง สมควรล่ะ เล่นเหมือนขอแค่เสมออ่ะครึ่งแรก ขาดความกระหาย ความุ่งมั่นชัดเจน ต้องรอให้พวกเด็กๆลงมากันรึไงถึงจะลุยกัน แบบนี้ไม่ไหวจริงๆอ่ะ ต้องบอกว่าเล่นให้รุ่นพี่มันดู

ก็เหมาะแล้วที่ติดแค่ทีมชาติกัมพูชา

ลั่นกับ รองแชมป์วินิจคัพ

จากที่ผมดูมายุคเป็บโดนนำก่อนส่วนใหญ่แพ้นะครับ

ถ้าติอาโก้เจ็บยาวๆ​ หงส์ต้องลงตลาดใหม่แล้วมั้งครับเนี่ยยย​ จัดกลางดีๆอีกซักตัวนะครับท่านวอร์ด

มองเหมือนผมเลย

ด้วยสภาพสนามที่เล็ก ฟูแล่มยืนตำแหน่งดี เต็มทั่วสนาม
วิ่งเพรส วิ่งบีบ วิ่งไล่ วิ่งสุด เข้าปะทะเร็วและหนัก(แต่ไม่นอกเกมส์)
กองกลางลิ้วพูลถ่ายบอลออกไปพื้นที่ว่างไม่ได้ ทำให้ลนลานเหมือนตื่นสนาม
พอถ่ายบอล ครองบอลไม่ได้ก็ต้องเน้นใช้ความสามารถเฉพาะตัว
แต่พอโดนวิ่งบีบก็ไม่สามารถเอาตัวรอดได้
ทำให้ประสิทธิภาพของกองกลางหมดไปทันที

ยิ่ง TAA ดันขึ้นมาแล้วหุบเข้าข้างในเพื่อสร้างพื้นที่สามเหลี่ยมร่วมกับซาล่าห์และเฮนโด้(เอลเลียต)
ทำให้พื้นที่ตรงแบ็คขวาเปิดโล่ง เซ็นเตอร์แบคตัวขวาต้องถ่างออกมาเพื่อเตรียมประคอง ชะลอเกมส์
แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปตัดบอลได้ในจังหวะโดนสวนกลับ เพราะถ้าพลาดจะอันตรายถึงขั้นหลุดเดี่ยว
ทำให้เป็นช่องโจมตีของคู่ต่อสู้ได้สบายๆๆๆ

นอกเหนือจากความที่ไม่สามารถปรับระบบเพื่อสู้กับคู่แข่งแล้ว
ต้องให้เครดิตฟูแล่มและมาร์โก ซิลวา ที่ใช้ความได้เปรียบของขนาดสนามและวางแผนเพื่อปิดเกมส์ของลิ้วพูลจนหมดจด นักเตะฟูแล่มเล่นได้ดีตามแผน วิ่งสุดทุกคน ถ้าดูแค่สกอร์ก็เสียดายที่ทำได้แค่เสมอ แต่ถ้าดูเกมส์ทั้งเกมส์ บอกได้เลยว่า ได้ 1 คะแนนก็บุญหัวแล้ว

นูนเญซ นี่ต้องเพิ่มความแข็งแรงขึ้นไปอีก แรงเบียดแรงปะทะยังสู้ไม่ได้เลย
ยังมีเวลาให้แก้ไขในนัดหน้า เพราะเจคู่แข่งที่ไม่หนักมากเท่าไหร่
แต่เชื่อว่าจะกลับมาได้ เพราะปัจจัยรอบด้านเปลี่ยนไปจากเกมส์นี้
และนูนเญซน่าจะได้ลงตัวจริง เพราะแสดงให้เห็นว่า การเล่นรูปแบบที่มีหน้าเป้า สามารถใช้งานได้เลย
ไม่ต้องกังวลเรื่องแผนการเล่นที่กังวลว่านักเตะจะไม่เข้าใจ

ไม่เป็นไรๆ

เล่นสมควรได้ 0 แต่กลับออกมา 1

อุบัติเหตุลูกหนังก็หยั่งงี้แหล่ะ

เสียติอาโก้เรื่องใหญ่มากปวดหัวเลย แล้วเกอิต้าก็หายจากทีมบ่อยเหลือเกิน