การเหยียดคืออะไร?
เหยียด: เหยียดหยาม,ดูหมิ่นเหยียดหยาม,เหยียด,ดูถูก
ในพจนานุกรมไทย-อังกฤษ Lexitron dictionary ใช้คำภาษาอังกฤษว่า insult แต่คิดส่าน่าจะเป็นความหมายแบบกว้าง

คำภาษาอังกฤษที่ตรงกับคำว่า เหยียด ที่จำเพาะจริง ๆ น่าจะเป็น name-calling
name-calling: the act of insulting someone by calling them rude names
คือการเรียกชื่อเฉพาะที่มีความหมายในเชิงลบ เพื่อดูถูก หรือเพื่อแฝงความหมายในการดูถูก

เช่น ดำ/เผือก(เหยียดสีผิว), ลิง/นิโกร(เหยียดเชื้อชาติ), ลาว/อีสาน(เหยียดเชื้อชาติ), อ้วน/หมู/ไม่เสียบผี(เหยียดรูปลักษณ์), สลัม/ขอทาน/ทาส(เหยียดชนชั้น), ตุ๊ด(เหยียดเพศ)

อธิบายเรื่อง Political Correctness (pc) และการเหยียด

ประวัติศาสตร์การเหยียดคนอีสานในไทย


ผมออกตัวเสมอว่า anti-pc คือในสเกลไทยเนี่ยยังก้ำกึ่ง แล้วแต่เรื่อง เพราะมันมีปัญหาทับซ้อนเรื่องโครงสร้างอำนาจ แต่สเกลโลกนี้ชัดเจนว่าผม anti-pc เพราะทุกวันนี้แนวคิด pc มันล้ำมารุกล้ำขอบเขตของ free speech แล้ว แน่นอนว่าผมไม่ไปด่าและไม่สนับสนุนให้ใครเรียกใครว่า ไอ้หมู ไอ้ลิงหรอก ไม่ใช่วิสัยที่คนที่รู้จักคิดเขาทำกัน ผม anti แนวคิด pc ที่มันล้นเกินจนคุกคามกรอบของ free speech ที่ควรมี แต่ไม่ได้หมายความว่าผมสนับสนุนการเหยียดหรือ hate speech

แต่ทุกวันนี้อิทธิพลของแนวคิด pc มันทำให้หลายคนหรือทั้งสังคมไม่สบายใจ (uncomfortable) ที่จะพูดถึงข้อเท็จจริง (fact) หรือข้อมูล (information) แค่เพราะมัน "อาจจะ" ทำให้คนบางกลุ่มไม่สบายใจ แม้แต่การพูดที่ไม่ได้มีเจตนาเหยียด เป็นเพียง fact check ถ้าใช้คำที่ทำให้คนบางกลุ่มไม่สบายใจก็นับว่าเป็น non-pc และรับไม่ได้

ป.ล. ฝากถึง content creator ทั้งหลาย เบา ๆ เรื่อง BGM บิ้วบางเหอะ นึกว่าดูหนัง avengers จะบิ้วอะไรกูหนักหนา

รู้สึกว่าปัจจุบัน Woke เริ่มเกินความพอดีไป เหมือนพยายามให้สังคมเป็น Utopia แต่สุดท้ายก็แอบด่ากันข้างหลัง

แต่ผมชอบ pc นะความรู้สึกส่วนตัวมันแรงกว่า nb

อ่ะล้อเล่ง จริงๆมันควรจบตรง free แต่ไม่ hate จะดีกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น มันคือต่างคนต่างอยู่จะดีที่สุด

สิ่งที่แบ่งแยกคือชอบไปตัดสินคนอื่น

ในมุมของคำนิยามของการเหยียดผมคงไม่กล่าวถึงแล้ว เพราะมันเป็น fact ที่พยายามหาขอบเขตการใช้ตามหลักภาษาศาสตร์มาอ้างอิง

แต่ในบริบททางสังคมแล้ว การเหยียดหรือไม่บางที มันอยู่ที่มุมมองของผู้ได้รับผลกระทบหรือความเสียหายเสียมากกว่า จนบางครั้งมันก็หาคำจำกัดความหรือขอบเขตไม่ได้หรอก เพราะแต่ละบุคคลนั้นมันมีคำบางคำหรือบริบทบางบริบทที่ทำให้เกิดผลกระทบทางจิตใจขึ้นแตกต่างกันไป

สำหรับผมแล้วจากคนที่เคยโดยเหยียดด้วยปมด้อยบางอย่างของตัวเองตั้งแต่เด็ก จนดูเป็นเรื่องตลกของคนรอบข้างนั้น ความรู้สึกของเราใครเล่าจะรู้ว่าเขากำลังเหยียดเรา แม้เราพูดไปว่าเขาเหยียดเราอยู่นะ แต่คนส่วนใหญ่กับมองว่ามันเป็นคำปกติ ณ เวลาหนึ่งทางสังคม เหมือนคนไทยบางคนที่ชอบพูดว่า "ไอ้ลาวเอ้ย ไอ้คนอีสาน" เมื่อก่อนคงไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่เดี๋ยวนี้คือคำเหยียดเชื้อชาติไปแล้วในบางบริบท เพราะคนที่โดนด่าโดนเหยียดรู้สึกไม่ดีต่อพฤติกรรมการพูดหรือกิริยาตอบสนองของผู้กระทำต่อตนเอง

เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญสำหรับการเหยียดจริงๆแล้วควรมองจากมุมผู้ถูกกระทำมากกว่าผู้กระทำ

ซึ่งการโต้แย้งในทุกๆเรื่องผมเชื่อว่าเราไม่จำเป็นต้องเหยียดหรือด่าหรือใช้คำพูดรุนแรงต่อฝ่ายตรงข้ามหรือเห็นต่างหรือกับใครก็แล้วแต่แน่นอน

เชื่อว่าเราสามารถแสดงข้อมูลโดยที่เคารพและพยายามเปิดใจเข้าใจคนอื่น ไม่ต้องเหยียดคนอื่นได้แน่นอน

ส่วนตัวผมเหยียดคนโง่ครับ อยากจะ woke ความรู้พื้นฐานในเรื่องนั้น ๆ ต้องมี ไม่งั้นโดนอีกฝั่งจี้ประเด็นเสียผู้เสียคนหมด

อะไรที่มากไปก็ไม่ดีจริงๆครับ

ทุกอย่างมันจึงต้องพอดีๆ แต่ก็เป็น issue ต่ออีกแล้วคำว่าพอดีของเรา มันคือพอดีของเขาอีกรึเปล่า

ผมเลยคิดว่า ก็ใส่ความเห็นอกเห็นใจลงไปในความคิด ว่าแม้เรามองว่าที่เราพูดไม่ได้เหยียด แต่ถ้าเป็นเราโดนล่ะ เราจะรู้สึกยังไง

พยายามเห็นอกเห็นใจคนอื่นให้มากๆ มองคนให้เท่ากัน

มันเป็นแนวคิดที่ดีในเชิงทฤษฎีครับ แต่ในทางปฏิบัติเส้นแบ่งแต่ละคนมันหลากหลายเกินไปครับ จะพูดอะไรก็มีความเสี่ยงจะทำให้ใครสักคนในสังคมไม่สบายใจทั้งนั้น แต่ละคนรู้สึก offend กับคำหรือสถานการณ์แตกต่างกันมากเกินไป

เช่น ถ้าผมเรียกมุสลิมว่าพวกหลายเมีย (ยกตัวอย่างเฉย ๆ นะ ผมรู้ว่าไม่ใช่) กับบอกว่าอัลเลาะห์ไม่มีจริง เป็นเพียงแค่การตีความปรากฏการณ์ธรรมชาติของผู้เผยแพร่ศาสนา ท่านว่าประโยคไหนที่จะทำให้ผมมีโอกาสโดนลากไปฆ่าปาดคอมากกว่ากัน

ผมเห็นด้วยกับ อ.ดร.กรพินธุ์ พัวพันสวัสดิ์ ในคลิปครับว่า ก็ต้องดูหน่อยแหละว่าสังคมที่เราพูดอยู่เขาผ่านจุดที่ชำระล้างบาดแผลทางประวัติศาสตร์มาแล้วรึยัง

ถ้าเป็นอย่างเรื่องศาสนา ว่าด้วยเรื่องไหนจะโดนลากไปฆ่ามากกว่า ผมมองว่าเป็น "ความเชื่อ" ส่วนบุคคล มันไม่ได้อยู่ที่คำพูดเราครับ หากไปพูดกับคนคลั่งมากๆ ในสังคมที่เขาคลั่งมากๆ พูดอะไรก็ตุยได้ครับ

ผมเฉยๆนะจะ PC จะ Cancel จะนิดหน่อยก็ offend อะไรยังไงก็ได้ผมว่ามันไม่ขัด free speech ถ้าประชาชนคนอื่นเป็นคนท้วงกันเองเถียงกันเองหรือเอกชนห้ามกันเอง ban กันเอง ตราบใดที่ไม่ใข่การใช้กฎหมายเข้ามาแทรงแซงอ่ะ
ถ้าอยากพูดอะไรก็พูดไปเลย แต่ถ้ารู้สึกว่าพูดไปกลัวจะไป offend คนอื่นก็ชั่งน้ำหนักเอาเองว่าจะพูดไม่พูด

มู้เมื่อวานมีคน ที่ไปว่าเขาเหยียดทั้งที่พูดFact

แล้วถ้าการยกตัวอย่างแบบนี้คือเหยียดรึเปล่าครับอยากทราบ
เพราะมีหมายศาสนาให้ยกตัวอย่าง

เหยียดครับ และการลดทอนคุณค่าความเชื่อทางศาสนาก็เป็น non-pc ทั้ง 2 ประโยคที่ผมยกตัวอย่างเป็น offensive sentence ทั้งคู่

ในฝรั่งเศส ปัญหาการเลือกปฏิบัติและการกลั่นแกล้งในโรงเรียนต่อกลุ่มมุสลิมเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่าเป็นปัญหาครับ แต่ไม่มี case study ว่ามีเด็กมุสลิมหรือพ่อแม่มุสลิมทำร้ายร่างกายเด็กที่มีพฤติกรรม bullying คนมุสลิม ส่วน ซามูเอล ปาที ถูกคนคลั่งศาสนาเดินทางข้ามรัฐมาฆ่าตัดคอเพราะรูปการ์ตูนของมูฮัมหมัดที่ใช้ประกอบการเรียนการสอนเรื่องเสรีภาพและการหมิ่นศาสนา

ต่อให้ไม่ต้องยกตัวอย่างสุดโต่งแบบนี้ ทุกวันนี้การพูดเชื่องโยงการก่อการร้ายกับความเชื่อทางศาสนาของกลุ่มมุสลิมก็นับเป็นการพูดที่ non-pc และเหยียดศาสนา