ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: ARSENAL till i die
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2017
ตอบ: 4272
ที่อยู่: YG stan/ITZY/Taeyeon/BIBI/Zico/Jaypark/Sik-k/NewJeans
โพสเมื่อ: Wed May 25, 2022 09:46
#Update IT (Wed May 25, 2022)

update IT ยามเช้า กันค้าบ
\( ̄︶ ̄*\))(*  ̄3)(ε ̄ *)o(* ̄▽ ̄*)o






ต้นแบบคอนแท็กต์เลนส์อัจฉริยะของโมโจวิชัน
พร้อมทดสอบใช้งานจริงในชีวิตประจำวันแล้ว

Spoil

https://www.bbc.com/thai/international-61534337

สตีฟ ซินแคลร์ รองประธานอาวุโสของบริษัทโมโจวิชัน (Mojo Vision) ในสหรัฐฯ แถลงถึงความคืบหน้าในการพัฒนาคอนแท็กต์เลนส์อัจฉริยะ (smart contact lens) หรือจอคอมพิวเตอร์ที่บางและเล็กเป็นพิเศษจนสามารถสวมใส่ไว้ติดกับลูกตาได้ว่า ขณะนี้ต้นแบบรุ่นแรกได้ถูกพัฒนาจนสำเร็จแล้ว และพร้อมที่จะนำออกทดสอบใช้งานจริงในชีวิตประจำวันเร็ว ๆ นี้

นอกจากคอนแท็กต์เลนส์อัจฉริยะดังกล่าวจะแก้ไขความผิดปกติทางสายตาของผู้ใช้แล้ว ยังสามารถแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ปรากฏต่อสายตาขณะที่มองสิ่งรอบตัวด้วย

"ลองจินตนาการดูว่า นักดนตรีสามารถมองเห็นเนื้อเพลงหรือโน้ตดนตรีขณะแสดงคอนเสิร์ต ผู้กล่าวสุนทรพจน์มองเห็นบทพูดของตนเองได้ โดยไม่ต้องก้มหน้าหรือหันเหสายตาไปทางอื่น นักกรีฑามองเห็นข้อมูลชีวภาพของตนเอง รวมทั้งระยะทางที่ยังเหลือข้างหน้าก่อนถึงเส้นชัย" นายซินแคลร์กล่าว

โครงสร้างของคอนแท็กต์เลนส์อัจฉริยะนี้ ประกอบด้วยเลนส์บางเฉียบที่มีขนาดใหญ่ (scleral lens) ครอบคลุมพื้นที่ลูกตาทั้งหมดรวมทั้งส่วนของตาขาว นอกจากนี้ในตัวคอนแท็กต์เลนส์ยังมีจอไมโครแอลอีดี (microLED) เซนเซอร์อัจฉริยะ และแบตเตอรีที่มีสถานะเป็นของแข็งรวมอยู่ด้วย

รองประธานอาวุโสของบริษัทโมโจวิชันบอกว่า "คอนแท็กต์เลนส์อัจฉริยะของเราทำงานได้ดีในห้องปฏิบัติการ ดังนั้นในขั้นตอนต่อไป เราจะทดสอบว่าในชีวิตจริงสามารถใช้งานต่อครั้งได้นานแค่ไหน และต้องใช้งานอย่างไรให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเราตั้งเป้าหมายไว้ให้ใช้งานคอนแท็กต์เลนส์อัจฉริยะได้ตลอดวัน โดยไม่ต้องถอดออกมาชาร์จแบตเตอรี"

"เราคาดว่าผู้สวมคอนแท็กต์เลนส์อัจฉริยะ จะไม่ได้ใช้งานมันอย่างต่อเนื่องตลอดวัน แต่จะเปิดและปิดการใช้งานเป็นระยะหลายครั้ง เหมือนกับการใช้งานโทรศัพท์สมาร์ตโฟนหรือนาฬิกาอัจฉริยะในปัจจุบัน ทำให้แบตเตอรีของคอนแท็กต์เลนส์มีพลังงานเพียงพอที่จะใช้ได้ตลอดทั้งวัน" นายซินแคลร์กล่าวเสริม

ทางบริษัทโมโจวิชันยังยืนยันว่า จะมีการปรึกษาและทดสอบคอนแท็กต์เลนส์นี้ร่วมกับจักษุแพทย์ เพื่อวางแนวทางการดูแลรักษาและสวมใส่อย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้งานคอนแท็กต์เลนส์อัจฉริยะนานเกินไป จนอาจติดเชื้อหรือระคายเคืองจนเกิดความเสียหายกับดวงตาได้

ทางบริษัทยังบอกว่า จะออกแบบระบบที่เตือนผู้ใช้ให้ทำความสะอาดและหยุดพักการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเตือนให้เปลี่ยนคอนแท็กต์เลนส์ใหม่ หลังจากมีอายุการใช้งานครบ 1 ปี

ส่วนปัญหาเรื่องการรั่วไหลของข้อมูลชีวภาพส่วนบุคคล รวมทั้งการใช้อุปกรณ์ลักษณะนี้ในทางที่ผิด เช่นแอบถ่ายภาพหรือเก็บข้อมูลของผู้อื่นอย่างลับ ๆ ซึ่งแว่นตาอัจฉริยะกูเกิลกลาส (Google Glass) เคยพบเจอมาแล้วนั้น แม้ทางโมโจวิชันจะยืนยันว่ามีการวางระบบเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอย่างดี แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายยังคงแสดงความกังวลว่า

"จะทำอย่างไรหากอุปกรณ์แบบนี้ถูกคนนอกดึงเอาข้อมูลชีวภาพ ซึ่งสามารถบ่งชี้ถึงความคิดหรือความรู้สึกของผู้ใช้ ให้รั่วไหลออกไปสู่สาธารณะได้" แดเนียล ลิวเฟอร์ นักวิเคราะห์นโยบายอาวุโสของกลุ่ม Access Now ผู้รณรงค์เพื่อสิทธิพลเมืองในโลกดิจิทัลกล่าว

"หากมีคนล่วงรู้ว่าขณะที่คุณจ้องมองสิ่งหนึ่ง หัวใจของคุณเต้นถี่แรงขึ้นหรือไม่ หรือมีเหงื่อออกมากแค่ไหนตอนที่ถูกถามเรื่องบางอย่าง นั่นเท่ากับว่าคอนแท็กต์เลนส์อัจฉริยะกลายเป็นช่องโหว่ ที่อาจเปิดให้คนร้ายเข้ามาฉกฉวยเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์ได้"
 







สำเร็จ! ทีมนักวิจัย ม.เคมบริดจ์ทดลองใช้ ‘สาหร่าย’
ผลิตพลังงานไฟฟ้าให้คอมพิวเตอร์

Spoil

https://thematter.co/brief/175253/175253?fbclid=IwAR3n650Lh6HnIk2TAyBZLy0QoYdxLNYjDqKAncjuVDQ9KtsA4U6xQG4Cx9c
ไฟฟ้าสามารถผลิตได้หลายวิธี ทั้งจากกระแสน้ำ สายลม แสงอาทิตย์ ชีวมวล และถ่านหิน แต่หลายคนอาจไม่คุ้นชินว่าไฟฟ้าสามารถผลิตจากสาหร่ายได้ ล่าสุด ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เพิ่งประกาศว่า ใช้สาหร่ายผลิตพลังงานไฟฟ้าให้คอมพิวเตอร์ได้แล้ว
สาหร่ายที่ใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า คือ สาหร่าย ‘ซินนิโคซิสทิส’ (Synechocystis) ซึ่งเป็นสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน แถลงการณ์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ระบุว่า สาหร่ายนี้สามารถผลิตพลังงานให้คอมพิวเตอร์ได้ กล่าวคือ สาหร่ายส่งพลังงานให้แก่ ‘ไมโครโพสเซสเซอร์’ ซึ่งเป็นชิปที่ใช้ในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์
ถ้าพูดให้เห็นภาพก็คือ ระบบผลิตพลังงานนี้ สามารถให้พลังงานเทียบเท่ากับแบตเตอร์รี่ขนาด AA โดยผลิตไฟฟ้าจากการเก็บเกี่ยวพลังงานจากดวงอาทิตย์ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงตามธรรมชาติ
นักวิจัยระบุว่า ระบบผลิตพลังงานโดยสาหร่ายที่คิดค้นได้นี้ ทำมาจากวัสดุที่หาได้ทั่วไป ราคาถูก และรีไซเคิลได้ แถมยังเป็นพลังงานหมุนเวียน มีศักยภาพมากพอที่จะให้พลังงานแก่อุปกรณ์ขนาดเล็ก และอาจสร้างประโยชน์อย่างมากในพื้นที่ห่างไกลที่ต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าได้
คริสโตเฟอร์ ฮาว (Christopher Howe) ศาตราจารย์ภาควิชาชีวเคมี มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า “อุปกรณ์สังเคราะห์แสงของเรา ไม่ได้ใช้พลังงานแล้วหมดไปเหมือนอย่างแบตเตอรี่ เพราะว่าอุปกรณ์ของเรามีแสงเป็นแหล่งพลังงานอย่างต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ดี ระบบพลังงานนี้ยังเป็นเพียงการทดสอบความเป็นไปได้เท่านั้น แต่ทางผู้วิจัยมองว่าสิ่งนี้อาจถูกใช้ในอุปกรณ์อื่นๆ ในอนาคตได้ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และมีความสามารถในการให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง
อ้างอิงจาก
https://www.cam.ac.uk/research/news/scientists-create-reliable-biological-photovoltaic-cell-using-algae

https://www.bbc.com/news/uk-england-cambridgeshire-61443073

https://www.theverge.com/2022/5/16/23074715/algae-computer-chip-photosynthesis-arm-cortext-iot-biophotovoltaics
 







งานวิจัยพบ “แพขยะใหญ่ในแปซิฟิก” กลายเป็น ระบบนิเวศใหม่ มีสัตว์อยู่เพียบไปแล้ว
Spoil

https://www.catdumb.com/world-news/78800?fbclid=IwAR1GlOtZ4A1_5QAmgyBmz0ZdLyopONuSi7uLhN7F39n_alQa_dPB7516jcI
ลึกเข้าไปในพื้นที่ 5 แห่งที่ต่างกันของทะเลแปซิฟิก การเคลื่อนที่ของกระแสน้ำและลม ได้พัดพาเอาขยะจากแทบทุกมุมโลกมารวมกันเป็นแพขยะขนาดใหญ่ ซึ่งบางแห่งก็ครอบคลุมพื้นที่ใหญ่กว่าประเทศไทย 2 เท่าเลย

แต่เชื่อกันหรือไม่ว่าอ้างอิงจาก คุณ Rebecca Helm นักชีววิทยาพัฒนาการ จากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา แม้แต่ในดงขยะเช่นนี้ ในปัจจุบันก็ดูจะกลายเป็นระบบนิเวศแบบใหม่ไปแล้ว

และมันก็อาจจะทำให้เราต้องปรับแนวคิดการจัดการขยะในพื้นที่เลยด้วย

อ้างอิงจากรายงาน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเวลามีความพยายามการกำจัดขยะในเขตแพขยะใหญ่ ผู้เกี่ยวข้องจะพบว่ามีสิ่งมีชีวิตติดมากับแหเก็บขยะเสมอ สะท้อนให้เห็นว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในพื้นที่มากกว่าที่เราเคยคิด

โดยในบรรดาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ก็รวมไปถึง “แมงกะพรุนไฟเรือรบ” ที่ได้ชื่อว่าเป็นแมงกะพรุนที่มีพิษร้ายแรงที่สุดกลุ่มหนึ่งในโลก และ “มังกรทะเลสีน้ำเงิน” สิ่งมีชีวิตจำพวกทาก ที่กินสัตว์มีพิษอื่นๆ เพื่อขโมยพิษมาใช้เองด้วย

เมื่อพิจารณาจากจำนวนปลาและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในแพขยะ นักวิทยาศาสตร์จึงเริ่มสงสัยแล้วว่าการทำความสะอาดพื้นที่ดังกล่าวแบบที่เราเคยทำกันอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีอีกต่อไป

กลับกันเราควรจะมุ่งเน้นไปที่การป้องกันไม่ให้แพขยะใหญ่ขึ้นไปอีกด้วยการหยุดมลพิษพลาสติกที่แหล่งกำเนิดมากกว่า

ในขณะที่การค้นพบนี้เองก็นำมาซึ่งความเป็นไปได้ที่น่าจับตามองอีกข้อด้วย

นั่นคือที่แหล่งทิ้งขยะอีกหลายที่ของโลกเอง ก็อาจจะกลายเป็นระบบนิเวศเฉพาะคล้ายเกาะกาลาปากอส

ที่สิ่งมีชีวิตจะวิวัฒนาการมาเพื่ออาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเอกลักษณ์โดยเฉพาะก็เป็นได้

แต่นี่จะถือว่าเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย มันก็คงเป็นเรื่องที่เรายังคงต้องถกเถียงกันต่อไปอีกสักพักเลย

ที่มา

www.biorxiv.org/content/10.1101/2022.04.26.489631v1

futurism.com/great-pacific-garbage-patch-ecosystem-climate-pollution

twitter.com/RebeccaRHelm/status/1520109222154760192
 







Skyroot ของอินเดียทดสอบการยิงท่อนจรวดแบบเต็มช่วงเวลาได้สำเร็จ
Spoil

https://www.beartai.com/brief/sci-news/1055935
สกายรูต (Skyroot) บริษัทเอกชนรายแรกของอินเดียที่ออกแบบ สร้าง และทดสอบจรวดสำหรับปล่อยยานหรือภารกิจทางอวกาศ ล่าสุดได้ประกาศความสำเร็จในการทดสอบยิงจรวดท่อนที่ 3 ของจรวด Vikram-I แบบเต็มช่วงเวลาโดยยึดอยู่กับที่ (Static Fire Test) ที่สนามทดสอบส่วนตัวในเมืองนาคปุระ ประเทศอินเดีย ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญสู่การพัฒนาจรวดในขั้นสูงต่อไป
จรวดท่อนที่ 3 นี้มีชื่อว่า Kalam-100 ซึ่งเป็นการให้เกียรตินักวิทยาศาสตร์ด้านจรวดของอินเดียและอดีตประธานาธิบดี ดร. เอ. พี. เจ. อับดุล คาลาม (A.P.J. Abdul Kalam) และเป็นท่อนหนึ่งของจรวด Vikram-I ซึ่งเป็นจรวดแบบ 3 ขั้นตอนหรือ 3 ท่อนที่ใช้เชื้อเพลิงแบบแข็ง ให้แรงขับสูงสุด vacuum thrust ที่ 100 kN (ประมาณ 10 ตัน) มีช่วงเวลาในการเผาไหม้ 108 วินาที ออกแบบให้สามารถรับน้ำหนักบรรทุกไปยังวงโคจรที่มีความลาดเอียงต่ำได้ 480 กิโลกรัม และเหมาะสำหรับการปล่อยดาวเทียมขนาดเล็ก

สกายรูตมีแผนที่จะพัฒนาจรวด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Vikram-I สำหรับบรรทุกน้ำหนักขนาดเล็ก ส่วนอีก 2 รุ่น คือ Vikram-II และ Vikram-III สำหรับบรรทุกน้ำหนักที่มากกว่า

ขั้นตอนต่อไปสกายรูตจะทำการทดสอบยิงจรวดท่อนที่ 1 และท่อนที่ 2 ซึ่งขณะนี้ได้จัดเตรียมเงินทุนในการทดสอบไว้พร้อมแล้ว และจะระดมทุนเพิ่มเติมสำหรับการปล่อยจรวดไปตามวงโคจรสู่อวกาศในหลายครั้ง ทั้งนี้สกายรูตจะเป็นบริษัทเอกชนรายแรกของอินเดียในการทำภารกิจปล่อยจรวดไปตามวงโคจรสู่อวกาศครั้งแรกจากท่าเรือบนเกาะ Sriharikota ของอินเดียในต้นปี 2023
 







ไวรัสกำจัดมะเร็งระยะลุกลาม เริ่มนำมาใช้รักษาในมนุษย์เป็นครั้งแรกแล้ว !!
Spoil

https://www.tnnthailand.com/news/tech/114754/

นักวิทยาศาสตร์จากบริษัทอิมูจีน (Imugene) จากประเทศออสเตรเลียได้ศึกษาวิธีการกำจัดมะเร็งด้วย "ไวรัส" จนกระทั่งองค์กรวิจัยและรักษาโรคมะเร็งจากสหรัฐอเมริกา “The City of Hope” ได้นำวิธีการรักษาดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ และกำลังเข้าสู่การทดลองในระยะที่ 1 ซึ่งเป็นการนำวิธีการรักษามาใช้กับอาสาสมัครผู้ป่วยโรคมะเร็ง

อย่างไรก็ตาม กลไกการทำงานของไวรัสไม่ได้เข้าไปฆ่าเซลล์มะเร็งโดยตรง หากแต่มันมีหน้าที่ “สร้างสิ่งแปลกปลอม” เข้าไปเกาะติดกับผิวเซลล์มะเร็ง เพื่อให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้ามากำจัดเซลล์มะเร็งที่มีชิ้นส่วนของไวรัสเกาะอยู่บนผิวเซลล์


นักวิทยาศาสตร์นำไวรัสกลุ่มพอกซ์ (Poxvirus) มาปรับแต่งพันธุกรรมเสียใหม่ หลังจากที่พวกมันเข้าไปในร่างกายของผู้ป่วยแล้ว มันจะเข้าไปยึดเซลล์บางส่วนในร่างกายแล้วทำการเพิ่มจำนวนอนุภาคของไวรัส เมื่อเพิ่มจำนวนได้ที่ไวรัสจะทำให้เซลล์แตกและปลดปล่อยอนุภาคเหล่านั้นออกมา ซึ่งอนุภาคนี้เองที่จะล่องลอยไปเกาะติดตามผิวเซลล์มะเร็ง (นั่นหมายความว่าอาจมีเซลล์บางส่วนในร่างกายโดนทำลายไปบ้างเพื่อให้ไวรัสเพิ่มจำนวนขึ้นในร่างกาย ทว่า กระบวนการนี้ไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกายแต่อย่างใด)


อนุภาคที่เข้ามาเกาะติดผิวเซลล์มะเร็งจะทำหน้าที่เสมือนสิ่งแปลกปลอม หรือที่เรียกกันว่า แอนติเจน (Antigen) ซึ่งแอนติเจนนี้จะกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายเข้าใจว่าเซลล์มะเร็ง คือ เชื้อโรคหรือเซลล์แปลกปลอมที่เข้ามารุกรานร่างกายของเรา ภูมิคุ้มกันก็จะเข้าทำลายเซลล์มะเร็งที่มีอนุภาคของไวรัสเกาะติดอยู่ กระบวนการนี้ใช้หลักการเดียวกันกับการกำจัดแบคทีเรียของภูมิคุ้มกัน เพราะผิวเซลล์ของแบคทีเรียเองจะมีโปรตีนหรือแอนติเจนบางอย่างที่เป็นสิ่งแปลกปลอม สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้

แนวคิดในการพัฒนาวิธีการกำจัดเซลล์มะเร็งด้วยอนุภาคไวรัสเกาะผิวเซลล์นี้ เป็นการต่อยอดจากความรู้ที่เดิมร่างกายมีกลไกกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติ หรือเซลล์ที่มีความเสี่ยงเกิดมะเร็งอยู่แล้วด้วยระบบภูมิคุ้มกัน แต่เซลล์มะเร็งที่พัฒนาขึ้นจนกลายเป็นก้อนเนื้อร้ายนี้มีความสามารถในการหลบซ่อนระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ภูมิคุ้มกันไม่สามารถเข้าทำลายเซลล์มะเร็งได้ อีกทั้งมะเร็งในระยะลุกลามยังมีจำนวนมากเกินที่ภูมิคุ้มกันจะค้นหาเจอได้ทั้งหมด การใช้อนุภาคของไวรัสเกาะติดที่ผิวเซลล์จึงเปรียบเสมือนการ “ปักธง” บอกตำแหน่งที่ซ่อนของเซลล์มะเร็ง เพื่อให้ภูมิคุ้มกันเข้าไปกำจัดเนื้อร้ายได้โดยง่ายนั่นเอง


วิธีการรักษามะเร็งด้วยไวรัสจากบริษัทอิมูจีน ได้รับการจดทะเบียนภายใต้ชื่อแวซิเนีย (CF-33-hNIS หรือ Vaxinia) ซึ่งผลการทดลองในสัตว์พบว่ามันสามารถลดขนาดก้อนมะเร็งลำไส้, มะเร็งปอด, มะเร็งเต้านม, มะเร็งรังไข่ และมะเร็งตับอ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยเมื่อเทียบกับการให้ยาเคมีบำบัดที่อาจออกฤทธิ์ต่อเซลล์ในร่างกายด้วย

การทดลองรักษาผู้ป่วยมะเร็งในขั้นที่ 1 มีผู้เข้าร่วมการทดลองกว่า 100 ราย ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะที่ 3 และ 4 (ระยะลุกลาม) ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัดและการฉายรังสี ซึ่งในระหว่างการรักษานี้ผู้ป่วยจะได้รับยาที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดมะเร็งด้วย

หากการรักษาครั้งนี้สามารถกำจัดมะเร็งได้จริงโดยไม่มีผลข้างเคียงที่อันตรายต่อผู้ป่วยแล้ว จึงจะเข้าสู่การทดลองในขั้นถัดไปในผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกราว 2 ปี จึงจะสามารถยื่นขออนุมัติจากองค์การอาหารและยาจากสหรัฐอเมริกา (FDA) เพื่อนำมาใช้รักษาในโรงพยาบาลได้


 







Akinci โดรนเจ้าเวหาแห่งตุรกี บินข้ามได้ 3 ประเทศ ระยะทางกว่า 2,000 กม.
Spoil

https://www.tnnthailand.com/news/tech/114730/
อคินชี (Akinci) อากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV ที่ล้ำสมัยที่สุดของตุรกี ได้เริ่มบินทดสอบครั้งประวัติศาสตร์ จากทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกีไปยังอาเซอร์ไบจาน
เบย์คาร์ (Baykar) บริษัทผู้พัฒนาโดรนอคินชีกล่าวว่า โดรนอคินซีสองลำ บินออกจากเขตคอร์ลู ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกี เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ในตอนเช้าและตอนบ่าย โดยบินผ่านตุรกีและจอร์เจีย ก่อนพวกเขาจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติ เฮย์ดาร์ อาลีเยฟ ในอาเซอร์ไบจาน โดยอาเซอร์ไบจานนั้น ยังเป็นประเทศที่มีข่าวลือว่าจะได้อนุมัติคำสั่งซื้อโดรนยุทธวิธีดังกล่าวเป็นชาติแรก ๆ อีกด้วย
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การบินของตุรกี ที่โดรนทั้งสองลำ ใช้เวลา 5 ชั่วโมงบินผ่านน่านฟ้าของ 3 ประเทศ มีระยะการบินครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,000 กิโลเมตร
การเดินทางครั้งนี้เป็นชัยชนะอีกก้าวของเทคโนโลยีทางอากาศตุรกี หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว โดรนอคินชี ใช้ระเบิด MK-82 ที่นำทางด้วยเลเซอร์ ในการโจมตีเป้าหมายทางทะเลจากระดับความสูง 20,000 ฟุตเป็นครั้งแรก และประสบความสำเร็จไปด้วยดี โดยการทดสอบดังกล่าว เป็นการทดลองเพื่อนำโดรนเข้าประจำการในกองทัพเรือตุรกี
อคินชี เป็น UAV ที่มีเพดานบินสูง และสามารถปฏิบัติการได้ในระยะไกล โดรนดังกล่าว ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อต่อยอดจาก UAV ยุทธวิธีรุ่น TB2 Bayraktar ซึ่งเป็นโดรนยุทธวิธีหลักของกองทัพตุรกีในปัจจุบัน ทั้งนี้ อคินชี ยังใช้ในการโจมตีจากอากาศสู่พื้น หรือการโจมตีอากาศสู่อากาศได้
ในเบื้องต้น เบย์คาร์ ผลิตโดรนอคินชีตัวต้นแบบขึ้นสามลำ โดยลำแรกเริ่มออกบินในเดือนธันวาคม 2019 จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม 2021 การทดสอบการบินโดรนอคินชีรุ่นพร้อมวางจำหน่ายก็เสร็จสิ้น หลังจากนั้นกองทัพตุรกีก็ได้รับมอบโดรนพร้อมระบบปฏิบัติการในเดือนสิงหาคม 2021 .
โดรนดังกล่าวมีความยาว 12.2 เมตร สูง 4.1 เมตร และปีกกว้าง 20 เมตร สามารถบินได้ที่ระดับความสูง 40,000 ฟุต (12,192 เมตร) มีน้ำหนักเครื่องบินเปล่า 5,500 กิโลกรัม และรองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1,350 กิโลกรัม

เซ็นเซอร์ในโดรนประกอบด้วยระบบชี้เป้าแบบอิเล็กโทรออปติก,อินฟราเรด และเลเซอร์ (EO/IR/LD) ทั้งยังมีเรดาร์อาเรย์สแกนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (AESA) รวมถึงระบบสัญญาณอัจฉริยะ (SIGINT) และยังใช้ระบบ AI ขั้นสูงเพื่อรวบรวมและประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจากเซ็นเซอร์และกล้องในตัว
ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธยังกล่าวว่า ความสามารถในการบรรทุกสัมภาระของโดรนอคินชี ที่เหนือกว่าโดรน Bayraktar TB2 ทำให้มันสามารถบรรทุกอาวุธร้ายแรงเพิ่มขึ้น และตอบโจทย์ในปฏิบัติการยืดเยื้อได้มากขึ้น
ทั้งนี้ โดรนอคินชีสามารถติดตั้งอาวุธได้หลากหลาย เช่น อาวุธยุทโธปกรณ์อัจฉริยะที่นำทางด้วยเลเซอร์ ขีปนาวุธ และอาวุธต่อสู้ระยะไกล ทำให้ความเป็นเจ้าเวหาของตุรกีในพื้นที่ช่องแคบบอสฟอรัสมีเพิ่มขึ้น
 







เปิดดูคลิปจากเว็บเฟสบุค 
Meta พัฒนา 'MyoSuite' แพลตฟอร์มจำลองการเคลื่อนไหวของมนุษย์เสมือนจริง
Spoil

https://www.tnnthailand.com/news/tech/114687/

เมตา (Meta) เปิดตัวแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ใหม่ที่มีชื่อว่า MyoSuite โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้สร้างแบบจำลองการเคลื่อนไหวของมนุษย์ที่ซับซ้อน เพื่อช่วยพัฒนาการสร้างอวัยวะเทียม และการสร้างตัวอวทาร์บนโลกเสมือนจริง Metaverse

MyoSuite สร้างขึ้นโดยใช้ความสามารถของแมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning) และการเรียนรู้ของระบบปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยศึกษาปัญหาการควบคุมทางชีวกลศาสตร์ (biomechanical) หรือการศึกษาการเคลื่อนไหวของสิ่งที่มีชีวิต โดยเมตา (Meta) เคลมว่าโปรแกรมบนแพลตฟอร์มสามารถประมวลผลและสร้างแบบจำลองกล้ามเนื้อและกระดูกได้เร็วกว่าโปรแกรมก่อน ๆ ถึง 4,000 เท่า ทำให้บริษัทสามารถจำลองการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน เช่น มือที่หมุนกุญแจหรือปากกา ได้สำเร็จ

นอกจากนี้ตัวซอฟต์แวร์ ยังสามารถจำลองภาพตามข้อมูลของสภาวะร่างกายต่าง ๆ เช่น ความล้าของกล้ามเนื้อ หรือจำลองตามการสูญเสียมวลกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็วตามอายุ โดยภาพที่ได้จะแสดงให้เห็นเส้นใยของกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น ช่วยให้มองเห็นได้อย่างครอบคลุมว่ากล้ามเนื้อตอบสนองต่อกิจกรรมต่าง ๆ และการผ่าตัดอย่างไร

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กล่าวบนเฟซบุ๊กของเขาว่างานวิจัยชิ้นนี้ จะช่วยเร่งความสำเร็จในการพัฒนาอวัยวะเทียม การใช้งานเพื่อการกายภาพบำบัด และเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาเทคนิคการผ่าตัดได้ โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะสามารถต่อยอดไปใช้งานด้านการสร้างอวัยวะเทียม หรือการฟื้นฟูสมรรถภาพทางกาย และยังช่วยให้บริษัทพัฒนาอวทาร์ หรือตัวแทนของผู้ใช้งานบนโลกเสมือนจริง metaverse ที่สมจริงยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
 







เปิดตัว Snapdragon 8+ Gen 1 พร้อม Snapdragon 7 Gen 1
ซีพียูกับจีพียูแรงขึ้น และประหยัดแบตกว่าเดิม

Spoil

https://droidsans.com/snapdragon-8-plus-gen-1-snapdragon-7-gen-1-launch/


SNAPDRAGON 8+ GEN 1

ซีพียูของ Snapdragon 8+ Gen 1 มีความเร็วมากเพิ่มขึ้นทั้ง 8 คอร์ เรียงตามลำดับ ดังนี้

Cortex-X2 ความเร็ว 3.0 → 3.2 GHz จำนวน 1 แกน
Cortex A710 ความเร็ว 2.5 → 2.8 GHz จำนวน 3 แกน
Cortex A510 ความเร็ว 1.8 → 2.0 GHz จำนวน 4 แกน
นอกจากนี้ Qualcomm ยังเคลมว่า ภาค AI Engine ใน Snapdragon 8+ Gen 1 ก็มีการปรับปรุงในแง่ของประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่ดีขึ้น 20% ส่วนอื่น ๆ ที่เหลือโดยรวมยังเหมือนเดิม เพราะมีโครงสร้างเดียวกับ Snapdragon 8 Gen 1

สำหรับรายชื่อพาร์ตเนอร์กลุ่มแรกที่เตรียมนำ Snapdragon 8+ Gen 1 ไปใช้งานกับมือถือของตัวเอง มีการประกาศรายชื่อออกมาแล้ว โดยจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้เป็นต้นไป ได้แก่

ASUS
Black Shark
HONOR
iQOO
Lenovo
motorola
nubia
OnePlus
OPPO
OSOM
realme
RedMagic
Redmi
vivo
Xiaomi
ZTE

SNAPDRAGON 7 GEN 1

ทางด้าน Snapdragon 7 Gen 1 ถือเป็นชิปเซตในกลุ่มมิดเรนจ์ตัวแรกสุดภายหลังจากการรีแบรนด์ Snapdragon ของ Qualcomm เมื่อปลายปีที่แล้ว ขยับกระบวนการผลิตจาก 6 มาเป็น 4 นาโนเมตร ไส้ในอัปเกรดมาหลายส่วน เช่น หน่วยประมวลผลภาพ โมเดมการเชื่อมต่อ การรองรับการใช้งานร่วมกับฮาร์ดแวร์ที่เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับชิปเซตเรือธงมากขึ้น และได้ AI Engine เจเนอเรชันใหม่ ตัวเดียวกับใน Snapdragon 8+ Gen 1

โครงสร้างซีพียู Snapdragon 7 Gen 1 ประกอบด้วย

Cortex-A710 ความเร็ว 2.4 GHz จำนวน 1 แกน
Cortex-A710 ความเร็ว 2.36 GHz จำนวน 3 แกน
Cortex-A510 ความเร็ว 1.8 GHz จำนวน 4 แกน
ส่วนจีพียูเป็น Adreno ไม่ระบุรุ่น (ตามแนวทางในช่วงหลังของ Qualcomm ที่เลิกบอกชื่อรุ่นแล้ว) โดยบอกเพียงแค่ว่า ทรงพลังกว่าเดิม 20% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 778G

คาดว่า Reno8 Pro ของ OPPO จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 7 Gen 1 ซึ่งอาจเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
 







Tesla เตรียมสร้างโรงหนังแบบ Drive-in
พร้อมร้านอาหาร และตู้ Supercharger ที่ Hollywood

Spoil

https://www.blognone.com/node/128616
esla อยู่ระหว่างยื่นแบบเพื่ออนุญาตสร้างโรงภาพยนตร์ที่ขับรถเข้าไปชมได้ หรือ Drive-in Theater ที่ภายในนั้นมีร้านอาหาร และตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าความเร็วสูง Supercharger ในย่าน Hollywood สหรัฐอเมริกา ให้บริการ 24 ชม. พร้อมตั้งชื่อโครงการนี้ว่า Supercharger Diner & Drive-in

โครงการดังกล่าวกินพื้นที่ 0.565 เอเคอร์ หรือราว 1.37 ไร่ โดยจะแบ่งเป็น 2 โซนคือ โซนภายในอาคาร กับโซนนอกอาคาร มี 34 ช่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดย 29 ช่องใช้ตู้ชาร์จ Supercharger ส่วนที่เหลือเป็นตู้ชาร์จแบบ Level 2 (เทียบเท่ากับตู้ชาร์จที่ติดตั้งในบ้าน)

จุดเด่นของโครงการนี้คือมีหน้าจอฉายภาพยนตร์ 2 หน้าจอ ติดตั้งไว้ทางเหนือ และตะวันตกของโครงการ โดยจะฉายภาพยนตร์ หรือรายการต่าง ๆ ความยาวประมาณ 30 นาที เทียบเท่ากับการชาร์จเต็มด้วยตู้ Supercharger และหน้าจอนี้รับชมได้ทั้งจากในรถยนต์ และจากร้านอาหารของโครงการ

อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างขออนุญาตหน่วยงานราชการของพื้นที่นี้ ดังนั้นรายละเอียดต่าง ๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้เมื่อไร แต่ถือเป็นมิติใหม่ของบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ในที่สุดก็มีคอมเพล็กซ์แบบย่อม ๆ มาให้ใช้บริการระหว่างรอแบตเตอรี่เต็ม
 







Apple Music แบบนักศึกษา มีการปรับราคาขึ้นในบางประเทศ
Spoil

https://www.flashfly.net/wp/390009
Apple ประกาศเพิ่มอัตราค่าบริการ Apple Music แบบนักศึกษาในบางประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ซาอุดีอาระเบีย, นิวซีแลนด์, อินเดีย, แอฟริกาใต้, อินโดนีเซีย, อิสราเอล และ เคนยา
บริการ Apple Music แบบนักศึกษา ในแอฟริกาใต้ จะถูกปรับขึ้นเป็น 1.99 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 69 บาท จากปกติเรียกเก็บในอัตราเดือนละ 1.49 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 59 บาท
สำหรับบริการ Apple Music แบบนักศึกษา ในประเทศไทย คิดค่าบริการ 79 บาทต่อเดือน ซึ่งประหยัดกว่าแบบบุคคลทั่วไปที่คิดในอัตรา 129 บาทต่อเดือน


 







BOE ผู้ผลิตจอของ Apple อาจเสียออเดอร์หลักล้านชิ้น
เพราะไปเปลี่ยนดีไซน์วงจรโดยไม่บอก Apple

Spoil

https://droidsans.com/apple-boe-iphone-14-display/
https://www.beartai.com/news/itnews/1055870
Beijing Oriental Electronics (BOE) บริษัทผู้ผลิตหน้าจอจากประเทศจีนได้เซ็นสัญญากับ Apple เพื่อผลิตหน้าจอ OLED ให้กับ iPhone 14 แต่รายงานล่าสุดเผยว่า บริษัทยังไม่ได้รับการอนุมัติจาก Apple และอาจต้องสูญเสียยอดสั่งซื้อจอ OLED ถึง 30 ล้านชิ้น

สาเหุตของปัญหาเกิดขึ้นหลังจาก BOE ตัดสินใจเปลี่ยนดีไซน์ความกว้างของวงจรของหน้าจอ OLED สำหรับ iPhone 13 เพื่อเพิ่มอัตราการสำเร็จในการผลิต โดยไม่ได้รับการอนุญาตจาก Apple ทำให้บริษัทถูกให้หยุดการผลิตตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา

หลังถูกให้หยุดการผลิตหน้าจอ OLED สำหรับ iPhone 13 ทาง BOE ก็พยายามแก้ปัญหาโดยส่งผู้บริหารร่วมกับทีมพนักงานไปที่สำนักงานใหญ่ของ Apple เพื่ออธิบายเหตุผลในการแก้ไขดีไซน์ของแผงวงจร รวมถึงพยายามขอให้ Apple อนุมัติการผลิตหน้าจอ OLED สำหรับ iPhone 14 แต่ก็ยังไม่ได้รับการยินยอมจาก Apple

แม้ว่า Apple จะต้องการลดการพึ่งพาการผลิตหน้าจอจาก Samsung Display และ LG Display โดยหันมาทำสัญญากับซัปพลายเออร์รายอื่น แต่หลังจาก Apple ขอให้ BOE หยุดการผลิตหน้าจอ บริษัทอาจต้องกลับมาพึ่งพา LG หรือ Samsung ในการผลิตหน้าจอ OLED จำนวน 30 ล้านชิ้นที่ถูกหยุดไปแทน
 







ข้ามไปตอนสนุกเลย! YouTube ปล่อยฟีเจอร์ Heatseeker
โชว์ว่าช่วงไหนของวีดีโอมีคนดูมากที่สุด

Spoil

https://droidsans.com/youtube-launch-most-played-feature/
หลายคนคงติดนิสัยการกด Skip Video บน YouTube เพื่อข้ามช่วงต้นคลิปที่น่ามักจะมีการเกริ่นยืดยาวเบื่อแล้วไปดูช่วงที่น่าสนใจเลย หรือคลิปไหนยาว ๆ ก็กดแบบความเร็วคูณ 2 เพื่อเร่งไปหาช่วงที่น่าดูด้วย…แต่ล่าสุด YouTube เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกทั้งคนดูและผู้อัปโหลดวีดีโอ ให้ทราบว่าช่วงไหนของคลิปวิดีโอที่มีคนดูซ้ำมากที่สุด

สำหรับการทำงานของฟีเจอร์นี้ (มีชื่อว่า Heatseeker) คือเมื่อเราเลื่อนแถบแสดง Timeline ของวีดีโอถึงช่วงที่มีคนกดเล่นซ้ำบ่อยที่สุด ก็จะมีสัญลักษณ์รูปดาวและคำว่า Most Replayed ปรากฏขึ้นมา ทำให้เราสามารถรู้ได้ทันทีว่า ส่วนนี้แหละที่คนดูอื่น ๆ ชอบที่สุดและมีการเล่นซ้ำในส่วนนี้มากที่สุดด้วย

นอกจากนี้บน Time Line ยังมีกราฟโชว์ขึ้นมาให้เห็นได้แบบชัด ๆ เลยว่าช่วงไหนที่กราฟขึ้นสูงก็แสดงว่ามีคนดูช่วงนั้นเยอะนั่นเอง

ซึ่งคนดูก็จะได้ประโยชน์ตรงที่สามารถหาส่วนที่น่าสนใจดูได้เลย ในขณะที่เจ้าของวีดีโอนั้นก็สามารถนำไปพัฒนาคอนเทนต์เพื่อให้ตอบโจทย์คนดูได้มากขึ้นด้วย ว่าทำไมคนถึงชอบดูเฉพาะตรงส่วนนั้น และทำไมถึงข้ามส่วนอื่น ๆ ไป

ฟีเจอร์ Most Replayed นี้เปิดให้ทดลองใช้โดยผู้ที่สมัคร Youtube Premium มาก่อนหน้านี้สักพักหนึ่งแล้ว ซึ่งล่าสุดทาง Youtube ตัดสินใจนำฟีเจอร์นี้มาเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้ใช้งานกันบ้าง ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งบนแอปมือถือ และบนเบราว์เซอร์สำหรับ PC ครับ

แต่จากที่ทดลองใช้แล้ว เหมือนว่าฟีเจอร์นี้จะยังมาไม่ถึงผู้ใช้งานในบ้านเรานะครับ เพราะเช็คจากทั้งแอปมือถือและเบราว์เซอร์เรียบร้อยแล้วก็ไม่เจอ…คาดว่าน่าจะต้องรอกันไปอีกหน่อยฟีเจอร์ Heatseeker ถึงจะมาให้ใช้กันแบบครบ ๆ ทุกประเทศ


 







เปิดตัวหูฟังไร้สาย Sony LinkBuds S
มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC และรองรับ LDAC

Spoil

https://droidsans.com/sony-linkbuds-s-ultralight-tws/
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว กับหูฟังไร้สายรุ่นล่าสุด LinkBuds S จากค่ายอารยธรรมอย่าง Sony เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจากรุ่น LinkBuds ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2022 ที่ผ่านมา รุ่นนี้ที่เด่นๆสะดุดตาเราเป็นอย่างเเรกกันเลย จะเป็นเรื่องดีไซน์ใหม่มาพร้อมสี สไตล์ Earthtone สามสีให้เลือก และยังมาพร้อมระบบ ตัดเสียงรบกวน ANC และรองรับ LDAC ส่วนค่าตัวก็เปิดราคามาที่ 199.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7,000+ บาท (รุ่น LinkBuds เปิดมาที่ 179.99 ดอลลาร์ ราคาขายที่ไทย 6,900 บาท)

LinkBuds S เป็น In Ear ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Never Off” ชูจุดเด่นเรื่องการใส่สบายได้ทั้งวันแบบไม่ต้องถอด เรื่องดีไซน์ต่างจากรุ่นเดิมมาในขนาดที่เล็ก เน้นการใส่สบายตัวหูฟังมาในน้ำหนักที่เบา เพียงข้างละ 4.8 กรัม ตามคอนเซ็ปต์ ที่ช่วยให้ใส่ได้สบายและยาวนาน มีการปรับมาเป็นตัวหูฟังเดี่ยวๆพร้อมจุกยางไม่แยกส่วนหูฟังเป็นวงแหวนเหมือนรุ่นก่อนหน้า เพื่อจะใส่ระบบ ANC ตัดเสียงรบกวนภายนอกเสริมเข้ามา


จุดเด่นเรื่องเสียงของหูฟังรุ่นนี้คือมาพร้อม การเปิดโหมด Ambient Sound เพื่อฟังเสียงรอบๆ หรือตัดเสียงรบกวนด้วย Noise Cancelling เสริมด้วย Adaptive sound Control เป็นเทคโลโลยีสุดล้ำจาก Sony ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงและสามารถตรวจจับเสียงภายนอกได้ แถมยังมีระบบจดจำพฤติกรรมของเรา และสถานที่ๆเราไปบ่อยๆ เพื่อปรับการได้ยินเสียงภายนอกหรือ Ambient Sound ให้เราเองแบบอัติโนมัติให้เหมาะกับกิจกรรมที่เราทำหรือสถานที่ๆเราอยู่ในตอนนั้น แบบที่เราไม่ต้องปรับเองเลย และ Immersive sound ที่เข้ามาช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก ทำให้เสียงเวลาเราคุยโทรศัพท์ปลายทางได้ยินชัดแจ๋ว ส่วนฝั่งเราก็ได้ยินเสียงรบกวนน้อยลงมาก


เล่นเพลงเองได้แบบอัตโนมัติ เมื่อเรา ใส่หูฟัง, หลังจากวางสาย หรือ ตอนที่เรากำลังเดิน หูฟังตัวนี้จะสามารถรู้ได้ว่าเราเดินอยู่ และเล่นเพลงเองอัตโนมัติ


ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะใช้เพื่อประชุม LinkBuds S รองรับ Microsoft Soundscape app ที่จะทำให้เสียง Surround แบบ 3มิติดียิ่งขึ้นเหมือนได้ยินเสียงคนพูดจากรอบๆในที่ประชุมจริงๆ จะใช้ใส่ฟังเพลงตอนเดินทาง ต้องการใช้คำสั่งเสียง ตัว Alexa และ OK google ก็มีมาให้พร้อมใช้งาน หรือใส่ออกกำลังกาย ก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะมาพร้อม มาตรฐานกันน้ำ IPX4 สามารถป้องกันละอองน้ำ จากเหงื่อ หรือฝน จากทุกทิศทางได้


การใช้งานแบตเตอรี่ของหูฟังรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ยาวสูงสุดถึง 6 ชั่วโมง และใช้งานได้ 14 ชั่วโมงผ่านตัวเคสชาร์จ รวมเป็นใช้งานต่อเนื่องได้ 20 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่รุ่นนี้จะผ่านพอร์ต USB-C รองรับระบบ Fast Charge ชาร์จแค่ 5 นาที ก็สามารถใช้งานต่อได้ถึง 1 ชั่วโมง

Sony LinkBuds S มีราคาเปิดตัวมาที่ 199.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7,000+ บาท มีให้เลือก 3 สี คือสีขาว สีดำ และสีครีม ส่วนจะเริ่มวางจำหน่ายเมื่อไหร่ ต้องรอทาง Sony อัปเดตกันอีกทีครับ
 







โน้ตบุ๊คในฝัน…Framework Laptop ถอดชิ้นส่วนเปลี่ยนเอง หรือจะอัปเกรดเอง
จาก Intel 11th Gen เป็น 12th Gen ก็ได้

Spoil

https://droidsans.com/framework-modular-laptop-intel-12th-gen-upgrade/
เมื่อปีที่แล้วค่าย Framework Computer ได้เปิดตัวโน้ตบุ๊คในฝันของใครหลาย ๆ คน ชื่อว่า Framework Laptop ซึ่งมีความพิเศษอยู่ตรงที่สามารถอัปเกรดหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้เองทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นเมนบอร์ด หน้าจอ พอร์ต CPU RAM และอื่น ๆ โดยล่าสุดได้เปิดตัวชิ้นส่วนใหม่ที่สามารถอัปเกรดให้ Framework Laptop รุ่นแรกสามารถใช้งานชิป Intel 12th Gen ได้แล้ว


Framwork Laptop เป็นโน้ตบุ๊คที่มีรูปร่างหน้าตาไม่ได้แตกต่างไปจากโน้ตบุ๊คทั่วไปเลย โดยรุ่นแรกที่เปิดตัวและวางจำหน่ายไปเมื่อปีที่แล้ว ใช้วัสดุที่ทำจากอลูมิเนียม มีความหนาอยู่ที่ 15.8 มม. น้ำหนัก 1.3 กก. สเปคอื่น ๆ ที่ติดมากับเครื่องเดิมก็มีทั้งหน้าจอขนาด 13.5 นิ้ว ความละเอียด 2256 x 1504, แบตเตอรี่ 55Wh, ชิป Intel Core i5-1135G7 / i7-1165G7 / i7-1185G7 และ GPU intel Xe



ที่พิเศษกว่าใครก็คือ Framwork Laptop สามารถอัปเกรด หรือสลับสับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ได้ตามใจ เนื่องจากตัวเมนบอร์ดถูกออกแบบมาเป็นพิเศษนั่นเอง ทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ถอดออกและประกอบเข้าไปได้ง่าย ๆ โดยตัวผู้ใช้เอง อย่างเช่นเหล่าพอร์ตหลากหลายชนิดทั้ง USB-A, USB-C, HDMI, DisplayPort, MicroSD, SSD, รูหูฟัง 3.5 มม. ฯลฯ



ซึ่งในปี 2022 นี้ หากว่าเจ้าของ Framework Laptop ต้องการเปลี่ยน CPU ตัวเก่าจาก Intel 11th Gen ให้กลายเป็น Intel 12th Gen ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะล่าสุดทาง Framework ได้เปิดตัวชิ้นส่วนใหม่ (Upgrade Kit) ที่สามารถอัปเกรดให้โน้ตบุ๊ครุ่นนี้สามารถใช้งาน Intel 12th Gen ที่กินไฟ 28W ได้ จากเดิมที่ใช้ Intel 11th Gen ซึ่งกินไฟ 15W นอกจากนี้ตัว Upgrade Kit ดังกล่าวยังมากับตัวระบายความร้อนใหม่และฝาครอบเครื่องที่สามารถใช้งานร่วมกับ CPU รุ่นใหม่ด้วยเลย

Framework Laptop จะมีให้เลือกซื้อได้ทั้งโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ที่มากับ Intel 12th Gen เลย หรือจะเลือกซื้อเฉพาะตัว Upgrade Kit ที่บอกไปด้านบน เพื่อเอามาเปลี่ยนให้กับ Framework Laptop ตัวเก่าก็ได้เหมือนกัน โดยมีทั้ง Intel Core i5-1240P, Core i7-1260P และ Core i7-1280P

Upgrade Kit

ทาง Framework ยังได้ประกาศด้วยว่าในอีกไม่นานนี้จะปล่อยชิ้นส่วนอัปเกรดเป็นพอร์ต Ethernet 2.5Gb (เสียบกับ USB-C) โดยมีราคาอยู่ที่ 39 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,345 บาท (ไม่รวมภาษี)



Framework Laptop รุ่น Intel 12th Gen แบบประกอบแล้วมีราคาเร่มต้นอยู่ที่ 1049 ดอลลาร์ หรือประมาณ 36,000 บาท, Framework Laptop แบบที่มาเป็นชิ้นส่วนยังไม่ประกอบ (DIY Edition) มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 819 ดอลลาร์ หรือประมาณ 28,150 บาท

Framework Laptop DIY Edition

ส่วนชุด Upgrade Kit จาก Intel 11th Gen เป็น Intel 12th Gen มีราคาเริ่มต้นที่ 538 ดอลลาร์ หรือประมาณ 18,500 บาท ครับ (ราคาทั้งหมดยังไม่รวมภาษีนะ)


 




เปิดตัวสมาร์ทวอทช์พรีเมี่ยม HUAWEI WATCH GT 3 Pro
Spoil

https://droidsans.com/huawei-launch-watch-gt-3-pro-watch-fit-2-watch-d-thailand/
HUAWEI WATCH GT 3 PRO
HUAWEI Watch Gt 3 Pro มีการออกแบบโดดเด่นทางด้านดีไซน์แต่ก็จัดเต็มกับฟีเจอร์ วัดอัตราการเต้นหัวใจ วัดระบบอ๊อกซิเจนในเลือดหรือ SpO2 โหมดออกกำลังกายกว่า 100 รูปแบบ มีคุณสมบัติทนน้ำ 5ATM กันน้ำได้ลึกถึง 30 เมตร และอื่น ๆ อีกเพียบ มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น
รุ่นแรกมีหน้าปัดขนาด 43 มม. ตัวเรือนทำจากเซรามิกสีขาวขัดเงา ล้อมรอบด้วยกรอบสเตนเลสที่ขดเป็นคลื่นคล้ายกับเปลือกหอย ส่วนหน้าตัดของเม็ดมะยมจะมีเซรามิกอยู่เหนือสเตนเลสอีกที ส่วนสายรัดข้อมือก็ทำจากวัสดุเซรามิคเช่นเดียวกับตัวเรือน
ส่วนอีกรุ่นมีหน้าปัดขนาด 46 มม. ตัวเรือนทำจากไทเทเนียมให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่ยังดูดุดัน มีความจุแบตเตอรี่มากกว่ารุ่นแรกเนื่องจากขนาดที่ใหญ่กว่า มากับสายรัดข้อมือแบบหนังเพิ่มความหรูหรา

ราคา
รุ่นเซรามิก 43 มม. : ราคา 19,990 บาท
รุ่นไทเทเนียม 46 มม. : ราคา 11,990 บาท
HUAWEI Watch GT 3 Pro ทั้ง 2 รุ่น เริ่มเปิดจองตั้งแต่ 28 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2565 โดยผู้ที่สั่งจองในช่วงดังกล่าวจะได้รับหุฟังไร้สาย FreeBuds 4i มูลค่า 2,799 บาทไปเลย ฟรี ๆ
 







เปิดตัวสมาร์ทวอทช์สายสุขภาพ Watch Fit 2
Spoil

https://droidsans.com/huawei-launch-watch-gt-3-pro-watch-fit-2-watch-d-thailand/
HUAWEI WATCH FIT 2
ต่อด้วยสมาร์ทวอทช์สำหรับสายสุขภาพอย่าง Watch Fit 2 ที่มากับหน้าจอแบบ HUAWEI FullView Display ขนาด 1.74 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์สำหรับการออกกำลังกายครบครัน และมีเซนเซอร์ SpO2 สำหรับวัดค่าอ๊อกซิเจนในเลือด แถมยังสามารถเชื่อมต่อกับมือถือเพื่อรับสายผ่านหน้าจอของ Watch Fit 2 ได้เลย
ราคา
HUAWEI Watch Fit 2 มีราคาอยู่ที่ 4,990 บาท หากสั่งจองภายในวันที่ 28 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2565 จะได้รับเครื่องชั่งน้ำหนัก HUAWEI Scale 3 มูลค่า 799 บาทไปด้วย
 







เปิดตัวสมาร์ทวอทช์สายวัดความดันเลือดด้วย Watch D
Spoil

https://droidsans.com/huawei-launch-watch-gt-3-pro-watch-fit-2-watch-d-thailand/
HUAWEI WATCH D
สุดท้ายกับ HUAWEI Watch D ที่ออกแบบมาสำหรับการวัดความดันเลือดโดยเฉพาะ แต่ก็จัดฟีเจอร์ด้านอื่น ๆ มาให้ไม่น้อยหน้ากัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.64 นิ้ว ความละเอียด 456 x 280 พิกเซล รองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 70 ชนิด มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68

มีฟีเจอร์วัดความดันโลหิตที่เคลมว่า HUAWEI Watch D มีการบีบอัดสูงสุด 40kPa สามารถวัดความดันได้ 40 mmHg ถึง 230 mmHg ได้อย่างแม่นยำ (ความแม่นยำบวกลบไม่เกิน 3 mmHg)

นอกจากนี้ HUAWEI Watch D ยังมาพร้อมกับความสามารถในการวัดคลื่นหัวใจไฟฟ้า ECG และตรวจจับ Sleep Apnea หรือโรคหยุดหายใจขณะหลับได้อีกด้วย โดยในส่วนของเรื่องแบตเตอรี่ ตรงนี้ HUAWEI บอกว่า สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 7 วัน แม้ว่าจะวัดค่าความดันโลหิต 6 ครั้ง และวัดค่า ECG 5 ครั้งต่อวันก็ตาม

ราคา
HUAWEI Watch D มีราคาอยู่ที่ 14,990 บาท เริ่มเปิดจองวันที่ 24 มิถุนายน – 7 กรกฎาคม 2565 โดยจะได้รับเครื่องชั่งน้ำหนัก HUAWEI Scale 3 มูลค่า 799 บาทไปด้วยครับ
 






https://www.reddit.com/r/IAmA/comments/ut7yj0/im_bill_gates_cochair_of_the_bill_and_melinda/
Bill Gates ตอบคำถามทาง Reddit:
ตอนนี้ใช้มือถือ Galaxy Z Fold3 อยู่, ไม่ถือคริปโตเลย

Spoil

https://www.blognone.com/node/128592
เมื่อคืน Bill Gates ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft ที่อุทิศตนให้กับงานการกุศลมาเกือบ 15 ปี ได้ตั้งกระทู้ Ask Me Anything หรือถามอะไรก็ได้ บนเว็บบอร์ด Reddit ซึ่งนี่เป็นครั้งที่ 10 แล้วที่เขาทำกิจกรรมนี้

ระหว่างการถามตอบดังกล่าว ได้มีผู้ใช้คนหนึ่งถามว่าขณะนี้ Gates ใช้โทรศัพท์มือถืออะไรอยู่ โดย Gates ตอบว่าเขาใช้มือถือแอนดรอยด์จอพับ Samsung Galaxy Z Fold3 อยู่ พร้อมระบุว่าเขาชอบทดลองใช้หลายๆ รุ่น แต่หน้าจอของ Z Fold ทำให้คล้ายกับการใช้คอมพิวเตอร์ PC ขนาดพกพาที่โทรศัพท์ได้ด้วยเลยทีเดียว

อีกคำถามคือ Gates คิดอย่างไรกับบิทคอยน์และคริปโต ซึ่งเขาตอบชัดเจนว่าเขาไม่ถือคริปโตเลยแม้แต่สกุลเดียว เขาชอบลงทุนกับสิ่งที่ให้ผลตอบแทนที่มีมูลค่า เช่นมูลค่าของบริษัทก็ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทนั้นมีผลิตภัณฑ์ที่เยี่ยมยอดหรือไม่ แต่มูลค่าของคริปโตคือการที่มีคนไปให้ค่าและยอมจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ได้มีอะไรกลับสู่สังคมเหมือนการลงทุนอื่นๆ

ยังมีผู้ใช้อีกคนถามว่าเขาเคยจ่ายเงินซื้ออะไรที่นำความสุขมาให้เขามากที่สุด โดย Gates ตอบว่าหากขจัดโรคโปลิโอให้หมดไปสำเร็จเขาจะมีความสุขอย่างมาก (พูดอีกนัยหนึ่งคือเขาบริจาคเงินไปเยอะมากกับเรื่องนี้) แต่หากเป็นสิ่งของ เขาก็บอกว่าชอบกินเบอร์เกอร์, ซื้อไม้เทนนิสดีๆ และจ่ายเงินเป็นสมาชิกบริการสตรีมมิงดีๆ

คำถามสุดท้ายที่น่าสนใจคือมีคนถามว่า Gates คิดว่าประเทศกำลังพัฒนาประเทศใดบ้างที่เขาคิดว่ามีอนาคตที่สดใส ซึ่งเขาตอบว่าเวียดนาม, อินเดีย, ปากีสถาน และอินโดนีเซีย (ไม่มีไทย) และหากเป็นประเทศในทวีปแอฟริกา เขาให้ชื่อเคนยา, ไนจีเรีย และเอธิโอเปีย

นอกจากนี้ยังมีคำถามเกี่ยวกับ COVID-19, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเรื่องการทำฟาร์มด้วย หากสนใจสามารถอ่านได้จากที่มา
 







ทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองจากการแข่งขัน RoV ในงาน SEA Games ครั้งที่ 31
Spoil

https://www.beartai.com/news/game-news/1056064
จากไลฟ์สตรีมงานแข่งเกม RoV (Arena of Valor) ของงาน ‘SEA Games eSports ครั้งที่ 31’ ทีมชาติไทยสามารถคว้าเหรียญทองอันดับ 1 หลังจากชนะรอบชิงแชมป์ระหว่างประเทศไทยกับเวียดนามด้วยคะแนน 4 ต่อ 1 ได้เป็นที่เรียบร้อย โดยในรอบแรกทางเวียดนามได้ทำแต้มนำไป 1 คะแนน ตามมาด้วยประเทศไทยที่สามารถแซงเวียดนามด้วยชัยชนะ 4 รอบติดต่อกันและคว้าชัยชนะได้เป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งหลังจากที่ประเทศไทยชนะ ในตอนนี้ SEA Games กำลังเตรียมจัดงานฉลองให้กับทีมชนะเลิศ โดยผู้ที่สนใจสามารถรับชมได้ผ่านทางแชนแนลของ Garena RoV Thailand ในตอนนี้ครับ
 







เปิดตัว Xiaomi Band 7 หน้าจอใหม่ ใหญ่ขึ้น ราคาถูกเหมือนเดิม
Spoil

https://www.beartai.com/news/itnews/1058286
Xiaomi Band 7 มีหน้าจอ AMOLED ที่ใหญ่ขึ้น ขนาด 1.62 นิ้ว ความละเอียด 192 x 490 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 326 PPI ความสว่างหน้าจอสูงสุด 500nits รองรับฟีเจอร์ Always on Display และ dynamic Mars wallpaper แบบเดียวกับที่มีใน MIUI 13 ด้านดีไซน์โดยรวมไม่ได้แตกต่างไปจาก Mi Band 6 ครับ

คุณสมบัติ

รองรับผู้ช่วยอัจฉริยะ Xiao AI
รองรับโหมดกีฬาทั้งหมด 120 โหมด
รองรับ SpO2 แบบอัตโนมัติ ทำงานได้ทั้งวัน พร้อมกับแจ้งเตือนหากออกซิเจนต่ำกว่า 90%
รองรับฟีเจอร์พื้นฐานครบครัน ได้แก่ ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ ตรวจจับการนอนหลับ ตรวจจับความเครียด สุขภาพผู้หญิง และ PAI แต่ยังไม่รองรับ ECG
ตัวเรือนมีแบตเตอรี่ขนาด 180mAh ใช้งานได้นาน 9 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
สำหรับราคาของ Xiaomi Band 7 มีราคาอยู่ที่ 249 หยวน หรือราว 1,290 บาท และ Xiaomi Band 7 NFC ราคา 299 หยวน หรือราว 1,550 บาท เปิดให้พรีออเดอร์แล้ว และจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนวันที่ 31 พฤษภาคมนี้
 







Starlink ปล่อยจานรับสัญญาณแบบพกพาสำหรับรถแคมปิง
Spoil

https://www.beartai.com/news/itnews/1057543
สตาร์ลิงก์ (Starlink) ของสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ปล่อยจานรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมที่มีความหน่วงแฝงต่ำสำหรับพกพานำไปใช้ในทุกที่ที่เปิดให้บริการได้อย่างสะดวก ซึ่งเป็นการเอาใจสำหรับรถแคมปิงโดยเฉพาะและตั้งชื่อบนหน้าเว็บไซต์ว่า “STARLINK FOR RVs” ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ที่อินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึงหรือไม่เสถียร ด้วยค่าบริการรายเดือน 135 เหรียญ (4,617 บาท)

สตาร์ลิงก์สำหรับรถแคมปิงจะมีความเร็วเน็ตที่ช้าลงในช่วงที่มีผู้ใช้จำนวนมากภายในพื้นที่ที่มีเครื่องหมายบอกว่า “Waitlist” โดยจะจัดลำดับความสำคัญทรัพยากรของเครือข่ายให้กับผู้ใช้ตามที่อยู่ที่ได้ลงทะเบียนไว้ และไม่สามารถใช้งานในขณะที่รถกำลังวิ่งได้

ส่วนค่าใช้จ่ายจะมีค่าแรกเข้าสำหรับอุปกรณ์จานรับสัญญาณแบบจ่ายครั้งเดียว 599 เหรียญ (20,034 บาท) ค่าขนส่งและดำเนินการ เช่น ในแคลิฟอร์เนียจะอยู่ที่ 50 เหรียญ (1,712 บาท) และค่าบริการรายเดือน 135 เหรียญ (4,622 บาท) คือจ่ายเพิ่มเติมเดือนละ 25 เหรียญ (858 บาท) จากค่าบริการรายเดือนตามปกติ 110 เหรียญ (3,678 บาท) และสามารถแจ้งขอหยุดใช้ชั่วคราวในช่วงที่ไม่ออกทริปได้ ซึ่งจะถูกเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเฉพาะเดือนนั้น (คิดเต็มเดือน)

ใครที่สนใจสามารถเปิดดูแผนที่เพื่อตรวจดูว่าพื้นที่พร้อมใช้งานหรือไม่ จากนั้นบริษัทจะจัดส่งอุปกรณ์ให้ทันที (มีของพร้อมส่ง) และติดตั้งใช้งานได้ง่าย เพียงดาวน์โหลดแอปจะมีข้อมูลบอกทิศทางในการปรับจานเพื่อเชื่อมต่อสัญญาณได้ดีที่สุด และที่สำคัญสามารถทดลองใช้งานได้ คือภายใน 30 วันหากไม่พอใจขอคืนค่าอุปกรณ์ได้เต็มจำนวน
 







Tesla จดทะเบียน "บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด" แล้ว
ระบุจำหน่ายรถยนต์ ไม่มีประกอบ

Spoil

https://www.blognone.com/node/128649
วันนี้มีผู้พบว่าในเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ได้มีข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทของ "บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด" หรือก็คือ Tesla บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกาที่หลายคนกำลังรอให้เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกันอยู่

จากข้อมูลบนเว็บไซต์ระบุว่าบริษัทจดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 ด้วยทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท ส่วนกรรมการบริษัทมี 3 คน คือ

David Jon Feinstein ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงฝ่ายบุกเบิกตลาดใหม่ รวมถึงเป็นผู้บริหารระดับสูงของ Tesla อินเดียด้วย
Vaibhav Taneja ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชี (Chief Accounting Officer)
Yaron Klein ผู้บริหารทรัพย์สิน (Treasurer) ของ Tesla และซีเอฟโอของ Tesla Energy Operations (เป็นบริษัทลูกของ Tesla รับผิดชอบผลิตภัณฑ์ด้านโซลาร์, Powerwall แบตเตอรี่สำหรับบ้านและโรงงาน)
วัตถุประสงค์ของบริษัทระบุไว้ว่าประกอบกิจการขายรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้ง ระบบผลิตพลังงาน แปลว่าหาก Tesla เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยจริง น่าจะเป็นการนำเข้ารถยนต์ทั้งคัน ไม่มีการประกอบในประเทศ รวมถึงมีโอกาสที่จะทำตลาดด้านแผงโซลาร์สำหรับบ้านเรือนและ Powerwall ด้วย

ส่วนที่อยู่สำนักงานคือชั้น 23 อาคารเอ็มไทย ทาวเวอร์ ออล ซีซั่นส์ เพลส ส่วนอีเมลติดต่อเป็นโดเมน tilleke.com ซึ่งเป็นของ Tilleke & Gibbins บริษัทกฏหมายชื่อดัง น่าจะรับงานจดทะเบียนบริษัทและดำเนินการอื่นๆ สำหรับการเข้ามาในประเทศไทย

อย่างไรก็ตามการจดทะเบียนบริษัทไม่ได้แปลว่า Tesla จะเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเสมอไป เพราะอาจเป็นการจดทะเบียนบริษัทไว้เฉยๆ ก่อนก็ได้ ตัวอย่างเช่น Tesla Motors Singapore จดทะเบียนในสิงคโปร์ตั้งแต่กลางปี 2010 แต่กว่าจะเริ่มขายรถจริงๆ ก็เมื่อต้นปี 2021 นี่เอง ใช้เวลาเกือบ 11 ปีกว่าจะเริ่มขายรถ แต่นี่ก็เป็นขั้นแรกที่เห็นว่า Tesla อาจสนใจเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยแล้ว

ที่มา - กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ต้องใส่ CAPTCHA ก่อน แล้วค้นด้วยเลขทะเบียนนิติบุคคล 0105565069229)
 







Google เปิดตัว Imagen งานวิจัยใช้ AI
สร้างรูปภาพเสมือนจริงจาก text captions

Spoil

https://www.blognone.com/node/128653
กูเกิลเปิดตัว Imagen งานวิจัย AI สร้างรูปภาพเสมือนจริงที่ใช้ input เป็นคำบรรยาย แบบเดียวกับ DALL·E ของ OpenAI โดยมีขั้นตอนการทำงานคือแปลงข้อมูล text ออกมาเป็นภาพความละเอียดต่ำ จากนั้นใช้เครื่องมือแปลงให้เป็นภาพที่มีความละเอียดมากขึ้น

จุดเด่นที่กูเกิลระบุว่า Imagen เหนือกว่าเครื่องมือประเภทเดียวกัน คือการพัฒนาเครื่องมือวัดผลที่ชื่อ DrawBench ซึ่งใช้การเทียบข้อมูล text แบบเดียวกัน สร้างรูปภาพจากเครื่องมือหรือโมเดลอื่นมาเปรียบเทียบได้แก่ VQ-GAN+CLIP, Latent Diffusion Models และ DALL-E 2 ซึ่งประเมินคุณภาพของรูปโดยใช้คนตัดสิน พบว่า Imagen มีคะแนนที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตามงานวิจัยและเครื่องมือนี้ กูเกิลบอกว่ายังไม่เหมาะสมที่จะเปิดรายละเอียดทั้งหมดต่อสาธารณะ (เช่นเดียวกับ DALL·E) เนื่องจากชุดข้อมูลรูปภาพตั้งต้นที่ใช้ ต้องประมวลผลและตรวจสอบอีกมาก ว่าไม่มีความลำเอียงของข้อมูล หรือประเด็นที่อ่อนไหว
 







Instagram ประกาศรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ เพิ่มฟอนต์ Instagram Sans
Spoil

https://www.blognone.com/node/128630
Instagram ประกาศรีเฟรชแบรนด์ โดยปรับทั้งสีโลโก้ ที่มีคนสังเกตเห็นก่อนหน้านี้ ตลอดจน visual identity ในด้านอื่น ซึ่ง Instagram บอกว่าการปรับปรุงนี้เพื่อให้สะท้อนแบรนด์และชุมชนผู้ใช้งานมากขึ้น

เริ่มจากสีพื้นของโลโก้ใหม่ Instagram ที่ทำให้สว่างขึ้น ตัวเฉดสีจัดเรียงผ่านกระบวนการ 3D Modeling ทำให้มีมิติด้านลึกด้วย เฉดสีใหม่นี้จะถูกนำไปใช้สำหรับงานประชาสัมพันธ์แบรนด์ทั้งหมด

อีกการเปลี่ยนแปลงคือฟอนต์ โดย Instagram ออกแบบฟอนต์ใหม่ชื่อ Instagram Sans เป็นการออกแบบใช้งานรวมกันมากกว่า 40 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย รูปแบบฟอนต์ระบุว่าสะท้อนจากโลโก้ของ Instagram อีกที มีเน้นองค์ประกอบที่เป็นลูปและเส้นตรง เฉพาะอักษรไทย จะเน้นลูปให้ชัดขึ้นในหัวของตัวอักษร และออกแบบให้บีบข้อความเข้ามา เพื่อให้ใช้พื้นที่น้อยลง ฟอนต์นี้จะเพิ่มเป็นตัวเลือกใช้งานใน Stories และ Reels
 







แอป Google Street View สำหรับมือถือ
เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ย้อนเวลาดูภาพสถานที่ในอดีตได้

Spoil

https://droidsans.com/google-maps-street-view-new-feature-travel-back-in-time/
วันนี้เป็นวันครบรอบ 15 ปีของ Street View ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของ Google Maps ที่เปิดโอกาสให้เราได้ท่องไปตามถนนหนทางและสถานที่ต่าง ๆ ได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือจากหน้าจอมือถือของเราเอง และเนื่องในวันครบรอบดังกล่าวทาง Google ก็ได้ปล่อยลูกเล่นใหม่ให้กับแอป Street View บนมือถือ Android และ iOS โดยเราสามารถย้อนดูภาพสถานที่ต่าง ๆ ในอดีตได้ด้วย

น่าจะมีหลาย ๆ คนที่ชอบใช้แอป Street View ในการดูภาพของสถานที่ต่าง ๆ ก่อนเดินทางจริง ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถสำรวจสถานที่บริเวณนั้นได้จากแอป ก่อน ตอนไปจริง ๆ จะได้ไม่หลง หรือจะเอาไว้ดูภาพของสถานที่ที่เราอยากจะไปเยี่ยมเยีนแต่ยังไม่มีโอกาสไปก็ได้เหมือนกัน

ซึ่งแน่นอนว่าทาง Google จะมีการอัปเดตภาพของถนนหนทางรวมถึงสถานที่ต่าง ๆ ให้เป็นไปตามช่วงเวลาปัจจุบันเอาไว้ตลอดช่วงเวลา 15 ปี ที่ผ่านมา และล่าสุด Google ก็ได้ปล่อยลูกเล่นใหม่ออกมาให้ได้ใช้กันแล้วสำหรับแอป Street View โดยเราสามารถจิ้มไปตรงสถานที่ที่เราต้องการ จะมีตัวเลือกใหม่ “See more dates” ขึ้นมาให้เลือก

เมื่อกดเข้าไปแล้วเราจะสามารถย้อนเวลากลับไปดูได้เลยว่าสถานที่ตรงนั้น ในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบันมีรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง (ช่วงเวลาที่สามารถย้อนไปดูได้จะขึ้นอยู่กับว่าทาง Google เคยมาเก็บภาพไว้ตั้งแต่ปีไหน)

สำหรับฟีเจอร์ใหม่นี้ Google บอกว่าเริ่มปล่อยอัปเดตให้กับผู้ใช้แอป Google Street View แล้วทั้ง Android และ iOS ทั่วโลก…แต่จากที่ทดลองแล้วทั้ง 2 ระบบ พบว่าตอนนี้ยังใช้ไม่ได้นะครับ น่าจะต้องรออัปเดตกันซักพักนึง
 







Xiaomi และ Leica จับมือกันแล้ว พร้อมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Xiaomi
ที่ใช้เทคโนโลยีภาพจาก Leica ในเดือนกรกฎาคมนี้

Spoil

https://www.flashfly.net/wp/389864
หลังจากมีข่าวลือมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ในที่สุด Xiaomi และ Leica ก็ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับโลกอย่างทางการ เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพให้กับสมาร์ทโฟนของ Xiaomi และยืนยันว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Xiaomi ที่ใช้เทคโนโลยีกล้องจาก Leica ภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ถึงแม้ Xiaomi ยังไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของแบรนด์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องจาก Leica แต่มีข่าวลือว่า อาจจะเป็น Xiaomi 12 Ultra ซึ่งถูกลือว่าจะได้รับกล้องหลัง 5 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide ส่วนกล้องอีก 3 ตัว จะมีความละเอียดเท่ากัน 48 ล้านพิกเซล สามารถซูม 2x, 5x และ 10x ตามลำดับ มาพร้อมจอแสดงผล 2K OLED ขนาด 6.6 นิ้ว ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 และรองรับชาร์จเร็ว 120W
 







HUAWEI ยืนยัน ความสัมพันธ์กับ Leica ได้จบลงอย่างเป็นทางการแล้ว
Spoil

https://droidsans.com/huawei-confirm-end-leica-partnership/
HUAWEI ยืนยันกับสื่อต่างประเทศว่า การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Leica ได้ยุติลงแล้วตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม และจะไม่มีการต่อสัญญาออกไปอีก จบความสัมพันธ์และการเดินทางอันยาวนาน 6 ปี นับตั้งแต่ที่ทั้งสองบริษัทได้พัฒนาระบบกล้องร่วมกันเป็นครั้งแรกใน HUAWEI P9 ตั้งแต่ 2559 เป็นต้นมา

มือถือ HUAWEI รุ่นสุดท้ายที่ร่วมพัฒนากับ LEICA คือรุ่นไหน
ถ้าเพื่อน ๆ ยังจำกันได้ ข่าวเรื่องการแยกทางของ HUAWEI กับ Leica ได้ถูกลืออย่างหนาหูมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว (โดยเฉพาะเมื่อปีกลาย) จนตอนนั้นหลายคนยังลุ้นกันอยู่เลยว่า HUAWEI P50 และ P50 Pro จะเป็นอย่างไร ? แต่สุดท้ายก็ยัง Co-Engineered With Leica อยู่

HUAWEI P50 และ P50 Pro จึงถือเป็นมือถือ HUAWEI สองรุ่นสุดท้ายที่ตีตรา Leica ที่ด้านหลังไปโดยปริยาย เพราะ HUAWEI P50 Pocket ที่เปิดตัวออกมาหลังจากนั้น รวมถึง Mate Xs 2 ที่พึ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ ทาง Leica ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วยแล้ว

ทำไม HUAWEI กับ LEICA ไม่ต่อสัญญากัน
สื่อต่างประเทศให้ความเห็นว่า สาเหตุที่ Leica เลือกไม่ขยายสัญญากับทาง HUAWEI เป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของทางสหรัฐฯ ทำให้ยอดขายมือถือ HUAWEI ตกฮวบแม้แต่ในจีนที่เป็นบ้านเกิด ไหนจะประเด็นเรื่องการไม่รองรับ Google Mobile Service ที่เป็นข้อจำกัดอีก ทาง Leica จึงมองหาพาร์ตเนอร์รายใหม่ที่มีศักยภาพดีและไปต่อได้ หวยเลยไปตกที่ Xiaomi แทน

นอกเหนือจาก Xiaomi แล้ว ปัจจุบัน Leica ก็เป็นพันธมิตรกับ SHARP ในฝั่งญี่ปุ่นด้วย โดยเปิดตัวมือถือที่ช่วยกับพัฒนาออกมาแล้ว 2 รุ่น ได้แก่ AQUOS R6 และ AQUOS R7 นอกจากนี้ Leica ยังได้ออกสมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์ของตัวเองในชื่อ Leitz Phone 1 ซึ่งได้ SHARP เป็นผู้ผลิต และวางขายเฉพาะในญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน

LEICA ไม่อยู่…ไม่เป็นไร HUAWEI ยังมี XD OPTICS กับ XD FUSION PRO
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น HUAWEI ก็ไม่ได้ปล่อยให้ความสัมพันธ์กับ Leica จบลงโดยที่ไม่ทำอะไร ไม่อย่างนั้นอาจโดนครหาได้ว่า พอ Leica ไม่อยู่แล้ว กล้องจะแจ่มเหมือนเดิมอยู่หรือหรือเปล่า ? โดยเราจะเห็นได้ว่า ตอนที่ HUAWEI P50 เปิดตัว สิ่งที่ถูกนำเสนอมากเป็นพิเศษคือ เทคโนโลยี XD Optics กับ XD Fusion Pro ที่ HUAWEI พัฒนาขึ้นมาเอง และมีการนำมาใช้งานใน HUAWEI P50 Pocket กับ Mate Xs 2 หลังจากนั้นด้วย

การถ่ายภาพในระบบดิจิทัลจะมีการสูญเสียข้อมูลไปเป็นจำนวนมากระหว่างทางก่อนที่จะประมวลผลออกมาเป็นภาพ 1 ใบ โดย XD Optics นี่แหละ เป็นตัวที่เข้ามาช่วย “กู้” ข้อมูลเหล่านั้นกลับคืนมา เช่น รายละเอียด สีสัน ความคมชัด จากการผสานการทำงานร่วมกับ ISP ในชิปเซต พร้อม XD Fusion Pro ที่เป็นเอนจินประมวลผลภาพเฉพาะทาง ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใดที่นำเทคโนโลยีลักษณะนี้มาใช้งานแม้แต่เจ้าเดียว ดังนั้นเรื่องกล้องและการถ่ายภาพ HUAWEI ก็ยังคงไว้ลายอยู่ ถึงแม้จะไม่มี Leica แล้วก็ตาม
 







เริ่มยุคสมัยใหม่ AMD เปิดตัวซ็อคเก็ต AM5 อย่างเป็นทางการ พร้อมชิปเซ็ต 3 รุ่นแรก
Spoil

https://www.blognone.com/node/128624
AMD เปิดตัวซ็อคเก็ตใหม่ AM5 อย่างเป็นทางการ ถือเป็นจุดสิ้นสุดของซ็อคเก็ต AM4 ที่ใช้กันมายาวนาน

ซ็อคเก็ต AM5 เป็นแบบ 1718 พิน, รองรับค่า TDP สูงสุด 170W, แรม DD5 แบบดูอัลแชนเนล, สล็อต PCIe 5.0 สูงสุด 24 เลน, รองรับ SuperSpeed USB สูงสุด 14 พอร์ต, HDMI 2.1 และ DisplayPort 2 รวมสูงสุด 4 พอร์ต, Wi-Fi 6E และ Bluetooth LE 5.2

ชิปเซ็ต AM5 เจเนเรชันแรกที่เปิดตัวมี 3 รุ่นย่อย ได้แก่

●X670 Extreme ชิปเซ็ตตัวบนสุด โอเวอร์คล็อคได้เยอะที่สุด, PCIe 5.0 รองรับจีพียู 2 สล็อต และสตอเรจ 1 สล็อต
●X670 ชิปเซ็ตตัวรองลงมา โอเวอร์คล็อตได้, PCIe 5.0 รองรับสตอเรจ 1 สล็อต และอาจใส่จีพียูเพิ่มได้
●B650 ชิปเซ็ตใช้งานทั่วไป เน้นประสิทธิภาพสูง PCIe 5.0 รองรับสตอเรจ 1 สล็อต
เบื้องต้นมีพาร์ทเนอร์ร่วมเปิดตัวบอร์ด AM5 แล้ว 5 รายคือ ASRock, ASUS, Biostar, Gigabyte, MSI

นอกจากนี้ AMD ยังร่วมกับพาร์ทเนอร์คือ Crucial, Micron, Phison เปิดตัวสตอเรจความเร็วสูงที่เป็น PCIe 5.0 มีอัตราการอ่านแบบต่อเนื่อง (seq. read) เพิ่มขึ้นกว่า 60%
 







AMD โชว์ซีพียู Ryzen 7000 ใช้แกน Zen 4
, ผลิตที่ 5nm, รองรับ DDR5 และ PCIe 5.0

Spoil

https://www.blognone.com/node/128623
AMD ประกาศข้อมูลเพิ่มเติมของซีพียู Ryzen 7000 ที่หลายคนรอคอย ใช้แกน Zen 4 และการผลิตที่ 5 นาโนเมตร ถือเป็นซีพียูรุ่นแรกที่ใช้การผลิตระดับนี้

ตัวสถาปัตยกรรม Zen 4 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ เพิ่มจำนวนแคช L2 ต่อคอร์เป็น 1MB (มากกว่าเดิมเท่าตัว), บูสต์คล็อคสูงสุดเพิ่มเป็น 5GHz+, มีประสิทธิภาพเธร็ดเดี่ยวเพิ่มขึ้น 15%

ตัวแกนซีพียูใช้การผลิตระดับ 5nm แล้วนำมาประกบคู่กับ I/O die ที่ใช้การผลิตระดับ 6 nm ซึ่งมีจีพียูใหม่ที่เป็นสถาปัตยกรรม RDNA 2 (ยังไม่ระบุรายละเอียด) รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง DDR5 และ PCIe 5.0 ที่ฝั่งอินเทลรองรับไปก่อนแล้วตั้งแต่ต้นปี

ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลรุ่นย่อยและวันวางจำหน่ายของ Ryzen 7000 แต่ซีอีโอ Lisa Su ก็หยิบชิปตัวจริงขึ้นมาโชว์ในงาน และระบุขึ้นว่ามีประสิทธิภาพในการรัน Blender แบบมัลติเธร็ดสูงกว่า Core i9-12900K ราว 30%

ซีพียู Ryzen 7000 จะต้องใช้คู่กับซ็อคเก็ตใหม่ AM5 ซึ่ง AMD เปิดตัวชิปเซ็ตชุดใหม่ออกมาพร้อมกับเมนบอร์ด AM5 จากผู้ผลิตหลายราย
 







ASUS เปิดตัว ROG Zephyrus Duo 16
โน้ตบุ๊คเกมมิ่ง 2 หน้าจอ สเปคแรงที่สุดในโลก

Spoil

https://droidsans.com/asus-zephyrusduo16-2022/

ASUS เปิดตัว ROG Zephyrus Duo 16 โน้ตบุ๊ค 2 หน้าจอแบบ Mini LED ที่รองรับระบบสัมผัสและใช้ปากกาวาดรูปขีดเขียนได้ แถมยังตอบโจทย์คอเกม ด้วยขุมพลังโปรเซสเซอร์ระดับไฮเอนด์ AMD Ryzen™ 9 6980HX และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce RTX™ 3080 Ti ซึ่งทาง ASUS เคลมว่ามันเป็นโน้ตบุ๊คเกมมิ่งแบบ 2 หน้าจอที่มีสเปคแรงสุดในโลกตอนนี้แล้ว

หนึ่งเครื่อง สองหน้าจอ
ROG Zephyrus Duo 16 เสริมความสุดอีกขั้นด้วย ROG ScreenPad Plus™ ซึ่งเป็นหน้าจอที่ 2 มีขนาดอยู่ที่ 14.1 นิ้ว มาพร้อมความละเอียดสูงระดับ 4K รองรับระบบสัมผัส ทำให้เราเล่นเกมไปพร้อมกับใช้โปรแกรมอื่นได้ในเวลาเดียวกันเลย ส่วนเรื่องความลื่นไหลในการใช้งานทั้ง 2 หน้าจอไม่ต้องเป็นกังกลเลยเพราะตอนที่เรายกหน้าจอหลักขึ้น พร้อมกับยกหน้าจอที่ 2 ขึ้นไปด้วย ทั้งสองจะเข้ามาแนบกันชิดติดจนแทบไม่มีขอบหน้าจอเลย และในส่วนของ Software นั้น ROG Zephyrus Duo 16 รองรับ Windows 11 เวอร์ชั่นเต็ม ที่มีการจัดการแอปต่าง ๆ ให้ใช้ระหว่าง จอหลัก และจอที่ 2 ได้แบบลื่นไหลได้อารมณ์แทบจะเหมือนว่าใช้จอเดียวกันอยู่

สำหรับหน้าจอหลัก มีขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2,560 x 1,600) อัตราส่วน 16:10 พร้อมกับขอบหน้าจอที่บางเฉียบทำให้ได้สัดส่วนพื้นที่หน้าจอต่อขนาดตัวเครื่องสูงถึง 91% สามารถแสดงสีสันได้กว้างที่สุดตามมาตรฐานช่วงสี 100% DCI-P3 เกรดเดียวกับการทำภาพยนตร์ Nebula HDR เลือกใช้เทคโนโลยีแบบ Mini LEDs และมี dimming zones มากถึง 512 โซน ที่ให้ความสว่างมาสูงสุดกว่า 500 nits และสว่างได้สูงสุดไปถึง 1100 nits พร้อมเอาใจ Gamer ด้วยหน้าจอ รีเฟรชเรท 165Hz

ประสิทธิภาพแรงสุด
ส่วนเรื่องประสิทธิภาพมาพร้อม โปรเซสเซอร์ (สูงสุด) AMD Ryzen™ 9 6980HX และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce RTX™ 3080 Ti แรงทะลุมิติ มาพร้อม RAM แบบ DDR5 ขนาดสูงสุด 64GB เสริมความแรงอีกขั้นด้วย SSD NVMe PCIe® Gen 4×4 ขนาดความจุสูงสุด 2TB

เครื่องแรงขนาดนี้แค่ความร้อนไม่แรงตามแน่นอน เพราะ ROG Zephyrus Duo 16 มาพร้อมกับชุดระบายความร้อนแบบไฮเอนด์เช่นเดียวกัน เลือกใช้สารนำความร้อนแบบโลหะเหลวที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้นด้วย Thermal Grizzly Conductonaut Extreme สารนำความร้อนแบบพิเศษ นี้มีคุณสมบัติในการนำความร้อนสูงกว่าสารนำความร้อนทั่วๆไปมากถึง 17 เท่า ช่วยให้ Zephyrus Duo 16 มีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าถึง 15°C องศา ทำให้ CPU และ GPU สามารถทำงานที่ความเร็วสูงสุดได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเค้นประสิทธิภาพสูงสุดของโน้ตบุ๊กเครื่องนี้ออกมา

ROG Zephyrus Duo 16 เลขรุ่น (GX650RX-LO145WS) สนนราคาค่าตัวมาที่ 159,990 บาท และพร้อมจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ ใครที่สนใจก็ลองไปสั่งจองกันได้ตามร้านไอทีชั้นนำได้เลย (แต่เท่าที่เช็คมาของหมดไปหลายร้านแล้วนะ)
 







ASUS เปิดตัว ROG Strix SCAR 17 Special Edition และ ROG Flow X16
โน้ตบุ๊กสเปคเทพ พร้อมสินค้าแฟชั่น ROG Slash เอาใจสายเกม

Spoil

https://droidsans.com/asus-announces-rog-strix-scar-17-special-edition-and-rog-flow-x16/


สเปค ROG STRIX SCAR 17 SPECIAL EDITION
หน้าจอ 17.3 นิ้ว แบบ Nebula HDR Display รองรับ Dolby Vision
– ความละเอียด FHD (1920 x 1080) รีเฟรชเรท 360Hz
– ความละเอียด QHD (2560 x 1440) รีเฟรชเรท 240Hz
CPU : 12th Gen Intel® Core™ i9-12950HX
GPU : สูงสุด NVIDIA® GeForce RTX™ 3080 Ti (Laptop GPU GDDR 16GB)
RAM (DDR5) : 64GB Dual Channel
ความจุ (PCIe ® 4.0 SSD) : สูงสุด 4 TB
การเชื่อมต่อ: WiFi 6E (802.11ax) และ Bluetooth 5.2
พอร์ต
– USB 3.2 Gen 1 Type-A จำนวน 2 ช่อง
– USB 3.2 Gen 2 Type-C® with DisplayPort™ 1.4 and Power Delivery จำนวน 1 ช่อง
– USB Type-C with Thunderbolt™ 4 จำนวน 1 ช่อง
– RJ-45 (LAN 2.5 Gbps) จำนวน 1 ช่อง
– HDMI® 2.1 จำนวน 1 ช่อง
– 3.5 mm combo audio jack จำนวน 1 ช่อง
– DC-in จำนวน 1 ช่อง
ระบบเสียง : ลำโพง 4 ตัว, Dolby Atmos, Hi-Res Audio
ระบบ : Windows 11 Pro
แบตเตอรี่ : 90 Wh
ขนาด / น้ำหนัก : 395.0 x 282.1 x 23.4 (กางจอ)~ 28.3 (พับจอ) มม. / 3 กก.


สเปค ROG FLOW X16
หน้าจอสัมผัส 16 นิ้ว แบบ Nebula HDR Display รองรับ Dolby Vision
-พาเนล mini LED ความละเอียด QHD (2560 x 1600) รีเฟรชเรท 165Hz
– พาเนล IPS ความละเอียด QHD (2560 x 1600) รีเฟรชเรท 165Hz
CPU : AMD Ryzen ™ 9 6900HS
GPU : สูงสุด NVIDIA ® GeForce RTX ™ 3070Ti GDDR6 8 GB
RAM (DDR5) : สูงสุด 64GB
ความจุ (SSD PCIe Gen 4 SSD) : สูงสุด 4 TB
การเชื่อมต่อ: WiFi 6E (802.11ax) และ Bluetooth 5.2
พอร์ต
– XG Mobile interface (including 1 x USB 3.2 Gen 2 Type-C® with DisplayPort™ 1.4 and Power Delivery) จำนวน 1 ช่อง
– USB 3.2 Type-C® with support for DisplayPort™ 1.4 and Power Delivery จำนวน 1 ช่อง
– USB 3.2 Gen 2 Type-A จำนวน 2 ช่อง
– HDMI® 2.0b จำนวน 1 ช่อง
– 3.5 mm combo audio jack จำนวน 1 ช่อง
– MicroSD card reader จำนวน 1 ช่อง
ระบบเสียง : ลำโพง 4 ตัว พร้อม Smart Amp Technology, Dolby Atmos,. Hi-Res Audio
ระบบ : Windows 11 Pro
แบตเตอรี่ : 90 Wh
ขนาด / น้ำหนัก : 355 x 243 x 19.4 มม. / 2 – 2.1 กก.



ROG SLASH สินค้าแฟชั่นสายเกม
นอกจาก ROG จะเปิดตัวเกมมิ่งโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่แล้ว ยังมีสินค้าประเภทแฟชั่นไลฟ์สไตล์ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องแต่งการต่าง ๆ มาเอาใจคอเกมอีกด้วย โดยแต่ละชิ้นได้รับการออกแบบมาให้มีความเท่ในสไตล์เกมเมอร์ยุค Cyberpunk ล้ำ ๆ กันไปเลย

สำหรับราคาของ ROG Strix SCAR 17 Special Edition, ROG Flow X16 และสินค้าเท่ ๆ จาก ROG Slash จะเข้ามาวางจำหน่ายในไทยตอนไหน และจะมีราคาเท่าไหร่บ้าง ต้องรอการอัปเดตกันอีกทีนะครับ
 







CORSAIR เปิดตัว VOYAGER a1600 เกมมิ่งโน้ตบุ๊ครุ่นแรกจากทางค่าย
สเปค AMD ล้วน มาพร้อมจอ Touch bar ตั้งคีย์ลัดได้ 10 ปุ่ม

Spoil

https://droidsans.com/corsair-announce-the-first-gaming-laptops-voyager-a1600-with-amd-ryzen-9-6900hs-and-radeon-rx-6800m-and-touch-bar/
แบรนด์ชั้นนำด้านอุปกรณ์ Gadget พีซี เจ้าของแป้นพิมพ์ RGB และแรมตระกูล Vengeance สุดโหดอย่าง CORSAIR ในที่สุดก็ได้ผันตัวเองมาทำโน้ตบุ๊คกับเค้าบ้างแล้ว ซึ่งล่าสุดเปิดตัว CORSAIR VOYAGER a1600 โน้ตบุ๊คเกมมิ่งรุ่นแรกจากทางค่าย ที่มาในดีไซน์สุดโฉบเฉี่ยวปนเรียบหรูดูมีเอกลักษณ์ พร้อมไฟ RGB บนแป้นที่เน้นความมินิมอล บอกเลยว่าใครเป็นสาวกอุปกรณ์ค่ายนี้มาก่อน เห็นแบบนี้มีน้ำลายหกกันแน่ ๆ

สเปคเบื้องต้นของ CORSAIR VOYAGER A1600
ซีพียู Ryzen 9 6900HS (8C/16T) หรือ Ryzen 9 6800HS (8C/16T)
การ์ดจอ Radeon RX 6800M 12 GB GDDR6 (145W)
Ram สูงสุด 64GB DDR5 SO-DIMM (32GB x2)
SSD M.2 PCIe 4.0 สูงสุด 2TB
จอ 16” 2.5K (2,560 x 1,600) IPS 16:10 240Hz
Wi-Fi 6E
Bluetooth 5.2
แบตเตอรี่ 99 Wh หรือ 6,410 mAh
น้ำหนัก 2.4 กิโลกรัม
สัดส่วน 356 มม. x 286.7 มม. x 19.9 มม.
ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อ มาพร้อมกับ Thunderbolt 3 USB 4.0 x2, USB-C 3.2 x1 (รองรับ DP และ PD), USB-A 3.2 x2, SDXC 7.0 Card Reader และ Headset 3.5 คีย์บอร์ดเป็นขนาดมาตรฐาน ไม่มี Numpad พร้อมไฟ RGB แบบ Per-Key ซึ่งทาง CORSAIR ตั้งชื่อว่า Full size, CHERRY MX Ultra-Low Profile mechanical switches

นอกจากนี้ยังมีส่วนของปุ่มสแกนลายนิ้วตรงบริเวณปุ่ม Power, touch bar สำหรับตั้ง S-Key ได้ 10 ปุ่ม (ตามที่กล่าวไป), ไมโครโฟนในตัว, ลำโพง 2 ตัวขนาด 22 mm รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และกล้องเว็บเคม Full HD 1080p30

ระบบระบายความร้อน ทาง CORSAIR เลือกใช้เป็นพัดลม 2 ตัว ภายในมีระบบ vapor chamber cooling ระบายความร้อนด้วยไอน้ำซึ่งเคลมว่าสามารถลดความร้อนได้ดีกว่าระบบระบายความร้อนของโน้ตบุ๊ก Ultra-thin ทั่วไป

ปัจจุบันทาง CORSAIR ยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่าย แต่กล่าวว่าจะประกาศรายละเอียดสเปคทั้งหมดอีกครั้งประมาณช่วงเดือนกรกฎาคม 2022 ทั้งนี้ก็มีข่าวลือชื่อรหัสรุ่นพร้อมราคาหลุดออกมาแล้วบ้างนิดหน่อย แบ่งออกเป็น 2 รุ่นดังนี้

● รหัส CN-9000003-XX สเปค Ryzen 7 6800HS, แรม 32GB, SSD 1TB | ราคาเริ่มต้น 2,699.99 เหรียญ หรือประมาณ 92,360 บาท
● รหัส CN-9000004-XX สเปค Ryzen 9 6900HS, แรม 64GB, SSD 2TB | ราคาเริ่มต้น 2,999.99 เหรียญ หรือประมาณ 102,500 บาท
 







HUAWEI เปิดตัวโน้ตบุ๊ค 3 รุ่น นำโดย MateBook 16s ชิป intel 12th Gen
และมอนิเตอร์ MateView SE

Spoil

https://droidsans.com/huawei-announces-matebook-16s-d16-14-2022-d14-2022-laptops/

สเปค HUAWEI MATEBOOK 16S
Intel Core i5-12500H/ i7-12700H/ i9-12900H
Intel Iris Xe Graphics (ออนบอร์ด)
Ram LPDDR4x 16 GB
SSD NVMe PCIe 512GB/ 1TB
จอ 16″ 2K 2520×1680 IPS LCD อัตราส่วน 3:2 100% sRGB
แบตเตอรี่ขนาด 84 Wh
หัวชาร์จ 135W
ราคา 6,999 หยวน หรือประมาณ 35,900 บาท สำหรับรุ่น i5
ราคา 7,999 หยวน หรือประมาณ 41,000 บาท สำหรับรุ่น i7
ราคา 9,999 หยวน หรือประมาณ 51,300 บาท สำหรับรุ่น i9


สเปค HUAWEI MATEBOOK D16
Intel Core i7-12700H/ i5-12500H
Intel Iris Xe Graphics (ออนบอร์ด)
Ram LPDDR4x 16 GB
SSD NVMe PCIe 512GB
จอ 16″ 1920x1200px อัตราส่วน 16:10 100% sRGB
แบตเตอรี่ขนาด 60 Wh
หัวชาร์จ 65W
ราคา 5,699 หยวน หรือประมาณ 29,000 บาท สำหรับรุ่น i5
ราคา 6,699 หยวน หรือประมาณ 34,000 บาท สำหรับรุ่น i7


สเปค MATEBOOK 14 2022
Intel Core i7-12700H/ i5-1240P
Intel Iris Xe Graphics (ออนบอร์ด)
Ram LPDDR4x 16 GB
SSD NVMe PCIe 512GB
จอ 14″ 2160x1440px อัตราส่วน 3:2 100% sRGB
แบตเตอรี่ขนาด 56 Wh
หัวชาร์จ 65 W
ราคา 6,099 หยวน หรือประมาณ 31,000 บาท สำหรับรุ่น i5
ราคา 6,999 หยวน หรือประมาณ 35,800 บาท สำหรับรุ่น i7


สเปค HUAWEI MATEBOOK D14 2022
Intel Core i7-12700H/ i5-1240P
Intel Iris Xe Graphics (ออนบอร์ด)
Ram LPDDR4x 16 GB
SSD NVMe PCIe 512GB
จอ 14″ 1920x1080px อัตราส่วน 16:9 100% sRGB
แบตเตอรี่ขนาด 56 Wh
หัวชาร์จ 65 W
ราคา 5,299 หยวน หรือประมาณ 27,000 บาท สำหรับรุ่น i5
ราคา 5,999 หยวน หรือประมาณ 30,700 บาท สำหรับรุ่น i7


สเปค HUAWEI MATEVIEW SE
จอ 23.8″ 2K 1920 x 1080px อัตราส่วน 16:9 100% sRGB
รองรับ AMD FreeSync
ปรับเป็นแนวตั้งได้
ปรับขึ้นลงได้สูงสุด 110 มม.
ปรับเอียงและหมุนได้สูงสุด 18 องศา
พอร์ตเชื่อมต่อ HDMI 1 พอร์ต Display 1 พอร์ต ไม่มี USB-C
ราคา 799 หยวน หรือประมาณ 4,000 บาท


สินค้าที่เปิดตัวมาใหม่ของ HUAWEI นี้จะวางขายในประเทศจีนก่อน
แต่ยังไม่ได้ประกาศราคาและวันวางจำหน่ายในประเทศอื่นอย่างเป็นทางการ
แต่ถ้าลองได้เปิดตัวในจีนไปแล้วแบบนรี้คาดว่าคงรอกันอีกไม่นานนี้ครับ
 







Asus เปิดตัวมอนิเตอร์ ROG Swift 500Hz ขยับอัตรารีเฟรชเป็น 500Hz
Spoil

https://www.blognone.com/node/128644
Asus เปิดตัวมอนิเตอร์เกมมิ่งรุ่น ROG Swift ที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 500Hz มากสุดในท้องตลาดตอนนี้ ทำลายสถิติเดิมของ Asus เมื่อปี 2020 ที่ทำไว้ 360Hz

Asus ROG Swift 500Hz เป็นมอนิเตอร์ขนาด 24.1" ความละเอียด Full HD (1920x1080) เพื่อให้จีพียูไม่ต้องประมวลผลภาพละเอียดเกินไป และเอาพลังไปอัดที่เฟรมเรตให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ตัวพาเนลเป็นแบบใหม่ Esports TN (E-TN) ที่ตอบสนองเร็วกว่าพาเนล TN แบบปกติถึง 60%

ฟีเจอร์อย่างอื่นคือรองรับ NVIDIA G-Sync และ NVIDIA Reflex Analyzer ช่วยให้เกมเมอร์ปรับแต่งความหน่วงของอินพุตที่เหมาะสมกับตัวเองได้

ตอนนี้ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางขาย แต่ด้วยฟีเจอร์ที่เน้นกลุ่มอีสปอร์ตก็น่าจะไม่ถูกสักเท่าไร (รุ่น 360Hz ในปัจจุบันขายอยู่ราว 30,000 บาท)
 







Logitech เปิดตัวคีย์บอร์ด MX Mechanical และเมาส์ MX Master 3S
Spoil

https://www.blognone.com/node/128647
Logitech มีเมาส์และคีย์บอร์ดสายทำงานอยู่ในซีรีส์ MX โดยล่าสุดได้เปิดตัวเมาส์และคีย์บอร์ดรุ่นใหม่ในชื่อ MX Master 3S และ MX Mechanical

MX Mechanical เป็นคีย์บอร์ด mechanical ไร้สายแบบเตี้ย (low-profile) ตัวสวิตช์ใช้ Kailh Choc V2 มีระยะกด 3.2 มม. เริ่มทำงานที่ 1.3 มม. และใช้แรงกด 55 กรัม มีปุ่มให้เลือกสามแบบคือ tactile (เงียบ), linear และ clicky เคสด้านบนของคีย์บอร์ดทำจากอะลูมิเนียม ส่วนปุ่ม keycaps ทำจากพลาสติก ABS

ตัวคีย์บอร์ดรองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบเสียบ USB dongle และบลูทูธ เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 3 เครื่อง รองรับการปรับแต่งและ remap ปุ่มผ่านโปรแกรม Logi Options แบตเตอรี่อยู่ได้ 15 วันหากเปิดไฟส่องใต้ปุ่ม หรือ 10 เดือนหากปิดไฟ โดยไฟส่องใต้ปุ่มนี้จะสว่างขึ้นเองเมื่อผู้ใช้นำมือเข้ามาใกล้คีย์บอร์ด รวมถึงปรับความสว่างอัตโนมัติตามความสว่างของห้อง

นอกจากนี้ยังมีรุ่น MX Mechanical Mini ที่เปิดตัวพร้อมกัน สเปกทุกอย่างเหมือนกันแต่ตัด numpad ออก

MX Master 3S ภาคต่อของเมาส์ซีรีส์ MX Master ที่ออกมาแล้วหลายรุ่น โดยดีไซน์ยังคล้ายกับ MX Master 3 อยู่ แต่ไฮไลท์คือเสียงคลิกเงียบลงมากถึง 90% รวมถึงอัพเกรดเซ็นเซอร์เป็น 8000 DPI (เดิม 4000 DPI) อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เมาส์ที่ทำมาเพื่อการเล่นเกม เพราะอัตราความถี่การส่งข้อมูล (polling rate) อยู่ที่ 125Hz เท่านั้น

เมาส์มีอายุแบตเตอรี่ 70 วัน ชาร์จ 1 นาทีใช้งานได้ 3 ชั่วโมง รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 3 เครื่องผ่าน USB dongle และบลูทูธเช่นกัน

คีย์บอร์ด MX Mechanical ราคา 169.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,800 บาท), MX Mechanical Mini ราคา 149.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,100 บาท) และเมาส์ MX Master 3S ราคา 99.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,400 บาท) เริ่มวางจำหน่ายในต่างประเทศแล้ว ส่วนในไทยน่าจะตามมาเร็วๆ นี้
 







เปิดตัว Lenovo Xiaoxin Pad 2022 แท็บเล็ตเน้นบันเทิง
หน้าจอ 2K ลำโพง 4 ตัว พร้อมชิป Snapdragon 680

Spoil

https://droidsans.com/lenovo-xiaoxin-pad-2022-launched-with-10-6-inch-display-snapdragon-680-battery-7700-mah/


สเปค Xiaoxin Pad 2022

หน้าจอ LCD ขนาด 10.6 นิ้ว ความละเอียด 2K (2000×1200) รีเฟรชเรท 60Hz
CPU : Qualcomm Snapdragon 680
RAM : 4GB / 6GB
ความจุ : 64GB / 128GB
กล้องหลัง : 8MP
กล้องหร้า : 8MP
Wi-Fi 802.11ac, Bluetooth 5.1, พอร์ต USB-C
ระบบเสียง : ลำโพง 4 ตัว. Dolby Atmos
แบตเตอรี่ : 7700 mAh รองรับชาร์จเร็ว 20W
ขนาด / น้ำหนัก : 251.2 x 158 x 7.45 มม. / 465 กรัม


Xiaoxin Pad 2022 จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมนี้ในประเทศจีนครับ (ราคายังไม่เผยออกมา)
และอาจวางจำหน่ายตามประเทศอื่น ๆ ในชื่อ Lenovo Tab นั่นเอง ส่วนจะเข้าไทยหรือไม่ต้องรอลุ้นกันอีกทีครับ
 







OPPO Pad Air เปิดตัวแล้วในจีน หน้าจอ 2K ขนาด 10 นิ้ว
ลำโพงฟูลเรนจ์ 4 ตัว ราคาไม่ถึง 1 หมื่นบาท

Spoil

https://droidsans.com/oppo-pad-air-specs/


สเปค OPPO PAD AIR

จอภาพ : LCD ขนาด 10.36 นิ้ว
– ความละเอียด 2K
– อัตรารีเฟรช 60Hz
– ขอบเขตสี 71% ของ NTSC
– ความสว่าง 360 นิต
ชิป : Snapdragon 680
หน่วยความจำ : RAM LPDDR4x 4/6GB, รองรับ microSD card สูงสุด 512GB
สตอเรจ : UFS 2.2 64/128GB
กล้องหลัง : 8MP
กล้องหน้า : 5MP
ลำโพง : สเตอรีโอ 4 ตัว, รองรับ Dolby Atmos
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac
– Bluetooth 5.1
– USB Type-C
แบตเตอรี่ : 7100mAh, รองรับชาร์จไว 18W
ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 12.1 บนพื้นฐาน Android 12
ขนาด : 245.08 x 154.84 x 6.94 มม.
น้ำหนัก : 440 กรัม

ราคาและการวางจำหน่าย
OPPO Pad Air เบื้องต้นจะวางจำหน่ายเฉพาะในจีน มีให้เลือก 2 สี คือ สีเทา และสีเงิน
ราคาแบ่งตามหน่วยความจำและสตอเรจเป็น 3 รุ่นย่อย
เริ่มต้น 1,299 หยวน (ประมาณ 6,699 บาท) ไปจนถึง 1,599 หยวน (ประมาณ 8,299 บาท)
เปิดขายวันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป

ส่วนปากกา OPPO Smart Stylus และคีย์บอร์ด OPPO Bluetooth Keyboard
ต้องซื้อแยก ราคา 299 หยวน (ประมาณ 1,599 บาท )และ 349 หยวน (ประมาณ 1,799 บาท) ตามลำดับ
 







Sony เปิดพรีออร์เดอร์หูฟังรุ่นใหม่ WH-1000XM5 ราคา 14,900 บาท
และ LinkBuds S ราคา 7,490 บาท

Spoil

https://droidsans.com/sony-wh-1000xm5-linkbuds-s-pre-order/

SONY WH-1000XM5
สำหรับ WH-1000XM5 จะเป็นหูฟังแบบครอบหูซึ่งโดดเด่นในเรื่องระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอกทีฟ หรือที่เรียกว่า ANC ซึ่งเป็นซีรีส์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Sony มาอย่างยาวนาน เรื่องสรรพคุณคงไม่ต้องบรรยายให้มากความ แถมรุ่นนี้ก็ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ตัดเสียงได้เฉียบขาดไปอีกระดับ พร้อมอัปเกรดแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานกว่าเดิม และแน่นอน มากับการเปลี่ยนดีไซน์ครั้งใหญ่ในรอบหลายปี ให้มีหน้าตาเรียบง่ายและทันสมัยยิ่งขึ้น

SONY LINKBUDS S
ส่วน WF-LS900N มีชื่อเล่นที่เรียกง่ายกว่าเดิม ไม่เป็นรหัสรุ่นแบบงง ๆ แล้ว คือ LinkBuds S จะเป็นหูฟังแบบอินเอียร์ขนาดกะทัดรัด สำหรับคนเน้นความสะดวกในการพกพาและความคล่องตัว โดย Sony บอกว่า จุดเด่นของรุ่นนี้คือ เป็นหูฟังน้ำหนักเบาและสวมใส่ได้สบายหูตลอดทั้งวัน จากการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ และถึงแม้จะตัวเล็กเท่านี้แต่ก็มีฟังก์ชัน ANC ตัดเสียงรบกวนมาให้เหมือนกัน รวมถึงคุณสมบัติทนน้ำตามมาตรฐาน IPX4 สามารถใส่ออกกำลังกายได้อย่างไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ WH-1000XM5 และ LinkBuds S จะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2565 และทาง Sony จะทยอยจัดส่งสินค้าตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน เป็นต้นไป พร้อมโปรโมชันแถมคูปองส่วนลดสำหรับ Sony Store Online มูลค่า 1,000 บาท ไปเลยฟรี ๆ อีก 1 ใบ สำหรับใช้ซื้อของในครั้งถัดไป
 







เปิดตัว Canon EOS R7
Spoil

https://www.beartai.com/news/photo-news/1057806

สเปกหลัก Canon EOS R7
เซนเซอร์ APS-C 32.5 ล้านพิกเซล
ชิปประมวลผล DIGIC X
กันสั่น 5 แกน ชดเชยชัตเตอร์สปีดได้ 7 สต็อป
ISO 100 – 32,000 (ขยายสูงสุด 51,200)
Dual Pixel CMOS AF II
โฟกัสในที่แสงน้อยได้ -5EV
ความเร็วชัตเตอร์ 1/8000s
ถ่ายภาพต่อเนื่อง 15fps (Mechanical) / 30fps (Electronic)
EVF 2.36 ล้านจุด
LCD พับได้รอบทิศทางขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.62 ล้านจุด
4K 60p, 30p over sampled จาก 7K / FHD 120p
C-LOG / HDR PQ / 10-Bit 4:2:2
ถ่ายวิดีโอไม่จำกัดเวลา
Dual SD card slot (UHS-II)
Wi-Fi / Bluetooth
USB-C, ช่องเสียบไมค์, หูฟัง, micro HDMI
แบตเตอรี่ LP-E6NH
น้ำหนัก 612 กรัม
เมาท์ Canon RF

Canon EOS R7 เปิดราคาเฉพาะ body อยู่ที่ 1,499 เหรียญ (51,000 บาท)
และ body + เลนส์ kit 18-150mm F3.5-6.3 IS STM ที่ 1,899 เหรียญ (65,000 บาท)
 







เปิดตัว Canon EOS R10
Spoil

https://www.beartai.com/news/photo-news/1057806

สเปกหลัก Canon EOS R10
เซนเซอร์ APS-C 24 ล้านพิกเซล
ชิปประมวลผล DIGIC X
Dual Pixel CMOS AF II
ISO 100 – 32,000 (ขยายสูงสุด 51,200)
โฟกัสในที่แสงน้อย -4EV
ความเร็วชัตเตอร์ 1/4000s
ถ่ายภาพต่อเนื่อง 12fps (Mechanical) / 23fps (Electronic)
EVF ความละเอียด 2.36 ล้านจุด
LCD พับได้รอบทิศทางขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านจุด
4K 60p Crop 1.56x / 4K 30p / FHD 120p
10-Bit 4:2:2 / HDR PQ
ถ่ายวิดีโอได้แบบไม่จำกัดเวลา
มีแฟลช pop-up
ช่องเสียบ SD card UHS-II 1 ช่อง
USB-C, ช่องเสียบไมค์, micro HDMI
Wi-Fi / Bluetooth
แบตเตอรี่ LP-E17
น้ำหนัก 426 กรัม
เมาท์ Canon RF

Canon EOS R10 เปิดราคาเฉพาะ body อยู่ที่ 979 เหรียญ (33,000 บาท), body + เลนส์ kit 18–45mm F4.5–6.3 IS STM / 18-150mm F3.5-6.3 IS STM ที่ 1,099 เหรียญ และ 1,379 เหรียญ (47,000 บาท)
 







Canon เปิดตัวเลนส์ kit ‘RF-S 18-45mm F4.5-6.3 IS STM’
และ ‘RF-S 18-150mm F3.5-6.3 IS STM’

Spoil

https://www.beartai.com/news/photo-news/1058040

RF-S 18–45mm F4.5–6.3
RF-S 18–45mm F4.5–6.3 IS STM เป็นเลนส์ซูมช่วง normal ที่มีระยะเทียบเท่ากับเลนส์ 29-72mm บนกล้องฟูลเฟรม เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปในชีวืตประจำวัน โดยประกอบด้วยโครงสร้างชิ้นเลนส์ทั้งหมด 7 ชิ้น จัดเป็น 7 กลุ่ม และมีระบบกันสั่น IS ภายในตัวเลนส์มาให้ด้วย ให้การโฟกัสใกล้สุดที่ระยะ 0.2 เมตร

การโฟกัสจะเป็นแบบ internal หน้าเลนส์ไม่ยืดเข้าออก ซึ่งใช้ stepping motor ในการขับเคลื่อนชิ้นเลนส์ มาพร้อมหน้าเลนส์ขนาด 49mm และมีน้ำหนักตัวเพียง 130 กรัมเท่านั้น


RF-S 18–150mm F3.5–6.3
RF-S 18–150mm F3.5–6.3 เลนส์ที่มีระยะซูมที่ไกลขึ้นอีก มีระยะเทียบเท่า 29–240mm บนกล้องฟูลเฟรม กับโครงสร้างชิ้นเลนส์ทั้งหมด 17 ชิ้น จัดเป็น 13 กลุ่ม พร้อมกับระบบกันสั่น IS ภายในตัวเลนส์เช่นเดียวกับตัว 18-45mm

ซึ่งเลนส์ตัวนี้สามารถโฟกัสได้ใกล้สุดได้ที่ระยะ 0.17 เมตร ใช้หน้าฟิลเตอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นหน้า 55mm โดยในส่วนระบบโฟกัสก็ยังใช้ stepping motor และโฟกัสแบบ internal เช่นเดียวกัน มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 310 กรัม

ราคา
นอกจากจะมาในชุด kit พร้อมกับ EOS R7 และ R10 แล้ว เลนส์ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังมีวางจำหน่ายแยกในราคา
RF-S 18-45mm F4.5-6.3 IS STM – 299.99 เหรียญ (10,000 บาท)
RF-S 18-150mm F3.5-6.3 IS STM – 479 เหรียญ (16,000 บาท)
 







เปิดตัว Meike 7.5mm F2.8 เลนส์มือหมุน fisheye สำหรับกล้องมิเรอร์เลส APS-C
Spoil

https://www.beartai.com/news/photo-news/1058452
ค่ายเลนส์อิสระ Meike ประกาศเปิดตัวเลนส์มือหมุนรุ่นใหม่ ‘7.5mm F2.8 fisheye’ สำหรับกล้องมิเรอร์เลส APS-C ถึง 6 เมาท์ ได้แก่ Canon EF-M, Fujifilm X, Micro Four Thirds, Nikon Z และ Sony E mount เพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้กล้อง APS-C ที่อยากได้มุมภาพแบบ fisheye ดูโดดเด่นแปลกตาไม่ซ้ำใคร

สำหรับ Meike 7.5mm F2.8 fisheye ตัวนี้ประกอบด้วยโครงสร้างชิ้นเลนส์ทั้งหมด 11 ชิ้น จัดเป็น 9 กลุ่มเลนส์ มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ F2.8 – F16 และสามารถโฟกัสได้ใกล้สุดที่ระยะ 0.15 เมตร ซึ่งถ้าเทียบกับกล้องฟูลเฟรมก็จะได้ระยะอยู่ที่ประมาณ 12mm ครับ (15mm เทียบเท่ากล้องฟูลเฟรม เมื่อใช้กับกล้อง Micro Four Thirds) มีน้ำหนักตัวเพียง 260 กรัมเท่านั้น

ราคา
Meike 7.5mm F2.8 fisheye เปิด pre-sale แล้ว ในราคา 149 เหรียญ (5,000 บาท) บนเว็บไซต์

https://meikeglobal.com/products/meike-7-5mm-f2-8-aps-c-manual-focus-fisheye-lens-m43-e-x-z-efm-mount?_pos=1&_sid=e70e3bce9&_ss=r&variant=42932842135780
 







ฮุนไดเตรียมเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ตั้งเป้าผลิต 3 แสนคัน ต่อปี
Spoil

https://www.tnnthailand.com/news/tech/114652/

ฮุนได (Hyundai) อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานเพื่อประกอบรถยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ฮุนได (Hyundai) เป็นแบรนด์รถสัญชาติเกาหลีที่ต้องการทำการตลาดอย่างจริงจังในสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก ทั้งการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่ได้รับกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยมอย่าง IONIQ 5 หรือบริการแท็กซี่ไร้คนขับที่เป็นมิตรกับผู้คนบนท้องถนนอย่าง Robotaxi ที่เราได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ และบริษัทยังรุกคืบด้วยการออกมาประกาศว่ากำลังก่อสร้างโรงงานเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯด้วยมูลค่ากว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 1.8 แสนล้านบาท

และเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ฮุนได (Hyundai) ประกาศสร้างโรงงานเพื่อเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของค่ายรถเองในเมืองสะวันนา มลรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะใช้เงินลงทุนเกือบ 2 แสนล้านบาท สร้างอาชีพให้คนท้องถิ่นกว่า 8,100 ตำแหน่ง โดยตั้งเป้าการผลิตให้มีรถป้อนออกสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาและเป็นฐานให้กับภูมิภาคมากกว่าปีละ 300,000 คัน โดยจะเริ่มเดินเครื่องภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025

ดีลธุรกิจครั้งนี้นับได้ว่าเป็นก้าวสำคัญสำหรับวงการรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาและสำหรับ โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาที่ต้องการผลักดันให้มีผู้ผลิตและยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งประเทศภายในปี 2030

นอกจากนี้ การลงทุนของฮุนไดในครั้งนี้มีการประกาศอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่สัปดาห์ก่อน อันเนื่องมาจากการที่โจ ไบเดน (Joe Biden) เดินทางไปเยี่ยมและพบปะหารือกับรัฐบาลเกาหลีระหว่างวันที่ 20 - 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะโจ ไบเดน (Joe Biden) ถือเรื่องการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเป็นนโยบายหลักของตนในระหว่างการดำรงตำแหน่งนั่นเอง
 









ภาพทีเซอร์ new CR-V
Spoil

https://www.headlightmag.com/2022-05-24-new-cars-worldwide-teaser-honda-cr-v-hybrid/

Honda ตั้งใจเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ CR-V รุ่นที่ 6 นี้ บนพื้นฐานแนวคิด “Rugged and Ready for Life’s Next Big Adventure” พร้อมขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นทุกมิติ

ทางด้านขุมพลังแน่นอนว่าจะมีขุมพลังไฮบริดให้เลือก ที่ Honda เคลมว่ามาพร้อมการปรับปรุงจนเป็น “more advanced hybrid system” เมื่อเทียบกับรุ่นที่ 5 คาดการณ์ว่าจะติดตั้งขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าปรับปรุงใหม่ และให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า พร้อมอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 38 MPG (US)

พร้อมทั้งทางเลือกเครื่องยนต์ เบนซินขนาด 1.5 ลิตร พ่วง Turbocharger ดังเช่นรุ่นปัจจุบันอีกด้วย ซึ่งจับคู่กับเกียร์ CVT และมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า หรือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่คาดว่าจะได้รับการปรับปรุงให้รอรับสภาพทุรกันดารมากยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งไฮไลท์คือการเพิ่มรุ่นย่อยสำหรับผู้รักการผจญภัยและกิจกรรมกลางแจ้ง ตามสมัยนิยม โดยอาจใช้ชื่อ TrailSport ตามรุ่นพี่อย่าง Passport และ Pilot

 






Insider แฉ Elon Musk
ขอมีอะไรกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของ SpaceX

Spoil

https://www.blognone.com/node/128589
สำนักข่าว Insider เปิดเผยข้อมูลว่า ปี 2016 Elon Musk มีการล่วงละเมิดทางเพศพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเพศหญิงของ SpaceX โดย Elon Musk เรียกเธอให้มานวดในขณะที่เขาร่างกายเปลือยเปล่า ทั้งเสนอว่าจะซื้อม้าให้ถ้าเธอยินยอมที่จะทำอะไรมากกว่านั้น แต่สุดท้ายเธอปฏิเสธ และถูก SpaceX ให้ค่าปิดปาก 2.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลนี้ Insider ได้รับจากเพื่อนของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนดังกล่าว มีทั้งเอกสารการฟ้องร้อง, ข้อมูลอีเมลติดต่อระหว่างฝ่ายบุคคลกับเธอ และอื่น ๆ ถือเป็นอีกกรณีอื้อฉาวของ Elon Musk และบริษัทในเครือ เพราะเดือน ธ.ค. 2021 มีพนักงานหญิงของ SpaceX 4 คนออกมาเปิดเผยว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศจากพนักงานชาย เช่นเดียวกับพนักงานหญิงของ Tesla 6 คน ที่ฟ้องเรื่องนี้เช่นกัน

เพื่อนของเธอเล่าให้ฟังว่า ผู้บริหารระดับสูงของ SpaceX มีสวัสดิการนวดบนเครื่องบิน แต่คนที่นวดต้องได้รับใบอนุญาตก่อน ซึ่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินถูกส่งไปเรียนเพื่อสอบใบอนุญาตนวด และเธอคนนั้นถูก Elon Musk เรียกไปนวด และเขาทำการลวนลามเธอด้วยการจับต้นขา และส่วนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต จนเธอรู้สึกไม่สบายใจ และถามตัวเองว่าสรุปจ้างมาเป็นพนักงานบริการบนเครื่องบิน หรือพนักงานนวด

ทั้งนี้ Insider มีการอีเมลสอบถามไปยัง Elon Musk เกี่ยวกับเรื่องนี้ และได้คำตอบกลับมาว่า ขอเวลาในการตอบกลับ พร้อมบอกว่าเรื่องนี้มันมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งสุดท้าย Insider กลับไม่ได้รับคำตอบใด ๆ เพิ่มเติมจาก Elon Musk ส่วนฝั่ง SpaceX เองชี้แจงว่า จะไม่มีการตอบกลับอีเมลทั่วไปที่สื่อส่งมาหา
 







Elon Musk ปฏิเสธข้อกล่าวหาขอมีเซ็กซ์กับพนักงาน
บอกว่านี่เป็นการโจมตีทางการเมือง

Spoil

https://www.blognone.com/node/128594

Elon Musk ออกมาปฏิเสธข่าวที่ว่าขอมีอะไรกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของ SpaceX โดยบอกว่าข้อกล่าวหาที่โจมตีเขา ควรต้องมองเป็นเรื่องการเมือง

เขาบอกว่าการกล่าวหาแบบนี้เป็นท่ามาตรฐานของการโจมตีทางการเมือง แต่เขาก็ยืนยันว่าจะต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการแสดงความเห็น (free speech) ของทุกคนต่อไป ก่อนปิดท้ายด้วยการแซวข้อความของตัวเองในปี 2021 ว่านี่แหละคือ "Elongate"
 








กระทู้เก่า ปี2022



January
Spoil

Febuary
Spoil

March
Spoil

April
Spoil

May
◦ Wed May 04, 2022
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2145786
◦ Wed May 11, 2022
https://www.soccersuck.com/boards/topic/2148633
◦ Wed May 18, 2022
https://www.soccersuck.com/boards/topic/2151665
แก้ไขล่าสุดโดย Hypervenom1998 เมื่อ Wed May 25, 2022 09:50, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 1700
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 25, 2022 09:56
[RE: #Update IT (Wed May 25, 2022)]
ขอบคุณมากครับ มีประโยชน์มากเลย รวมไว้หมดในที่เดียวไม่ต้องไปตามอ่านที่อื่นเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status: #โอตะสายคุณธรรมคนสุดท้ายแห่งศตวรรษ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 7617
ที่อยู่: ร้านขนมหวานของวิว
โพสเมื่อ: Wed May 25, 2022 09:59
[RE: #Update IT (Wed May 25, 2022)]
สุดยอด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status: Married
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2248
ที่อยู่: somewhere I belong
โพสเมื่อ: Wed May 25, 2022 10:00
[RE: #Update IT (Wed May 25, 2022)]
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2021
ตอบ: 1203
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 25, 2022 10:32
[RE: #Update IT (Wed May 25, 2022)]
ขอบคุณครับ ชอบกระทู้แบบนี้มาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4184
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 25, 2022 10:59
[RE: #Update IT (Wed May 25, 2022)]
ชอบครับทำบ่อยๆนะครับ หาอ่านง่ายดี ส่วนคอนแท็กต์เลนส์ของโมโจวิชันนี่น่าสนใจจริงๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: Once A Gooner Always A Gooner
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 8324
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 25, 2022 12:48
[RE: #Update IT (Wed May 25, 2022)]
อีลอน เป็นคนเหงียน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status: จากบ้านมาไกล
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Sep 2005
ตอบ: 1071
ที่อยู่: บางลำพู
โพสเมื่อ: Wed May 25, 2022 13:15
[RE: #Update IT (Wed May 25, 2022)]
มัดรวมมาได้ได้สุดยอดจริงๆครับ

กระทู้คุณภาพ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Jul 2020
ตอบ: 1427
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 25, 2022 13:32
#Update IT (Wed May 25, 2022)
ขอบคุณครับ นาฬิกา Huawei สวยดีนะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status: มนุษย์ค้างคาว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 3368
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 25, 2022 13:46
[RE: #Update IT (Wed May 25, 2022)]
เยี่ยมฮะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
เชียร์ไทย ดูมาดริด,ลิเวอร์พูล เป็นงานรอง งานหลักอยู่สมาคม Reboot 18+
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status: Meawchester United Only
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Jul 2008
ตอบ: 3811
ที่อยู่: CNX
โพสเมื่อ: Fri May 27, 2022 12:55
[RE: #Update IT (Wed May 25, 2022)]
ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 23633
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 27, 2022 15:02
[RE: #Update IT (Wed May 25, 2022)]
ขอบคุณมาก ๆ ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel