สมาชิกหมายเลข 6485819
24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14:01:00 น.

ผมเข้าใจที่ จขกท พยายามจะสื่อ และเช่นเดียวกันผมก็เข้าใจคนที่มาอธิบายเรื่องงานเอกชนด้วย
กรณีแบบนี้มันเคยมีการถามตอบในพันทิปไว้หลายครั้งจนได้ข้อสรุปออกมาแล้ว

สรุป เรื่องรายได้ผลตอบแทนระหว่างราชการเอกชน (ไม่คิดเรื่องการทำงาน หนักหนาสาหัสบรรยากาศการทำงาน อื่น ๆ )
1. ถ้าทำงานเอกชน มนุษย์เงินเดือนควรมีรายได้สูงตั้งแต่เริ่มต้น อายุ 30 ควรมีรายได้สูงใกล้แสนหรือมากกว่า อย่างน้อยก็ควรจะ 50,000 + - คนแบบนี้อยู่เอกชนดีกว่าราชการมาก
2. ถ้าทำงานเอกชนตอนเกษียณควรมีเงินสดไม่รวมทรัพย์สินอื่นประมาณ 10 ล้าน + - จึงจะได้ผลตอบแทนยามเกษียณเท่าราชการ
3. บริษัทเกรด A ดีกว่าทำงานราชการ
3.1 บริษัทเกรด B+ เทียบเท่าราชการ
3.2 บริษัทต่ำกว่าเกรด B ลงไป สู้ราชการไม่ได้ทุกด้าน
4. ทำงานโดยที่ตำแหน่งและผลตอบแทนไม่ก้าวกระโดด ผลตอบแทนโดยรวม สู้งานราชการไม่ได้

ราชการเงินเดือนน้อยกว่าเอกชน โดยเฉพาะยุคก่อน ๆ 30-40 ปี
แต่ในระยะ 20ปีให้หลังมานี้ บริษัทเอกชนในไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับค่าตอบแทนของงานราชการไป เพราะในไทยติดกับดักค่าแรงปานกลางมานานแล้ว บริษัทส่วนใหญ่จะจ้างงานในราคาสูงเฉพาะบางตำแหน่ง ค่าตอบแทนไม่ได้ขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ บริษัทส่วนใหญ่กดค่าแรงและต้นทุนเพื่อให้ธุรกิจมีกำไรแข่งขันได้ ในขณะที่ค่าตอบแทนเงินเดือนข้าราชการถูกปรับขึ้นไปแล้วแต่งานเอกชนค่าจ้างงานแทบไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลย สมัย 20 กว่าปีก่อนผมทำงานแรกจบตรีโดนกดค่าแรง 9,000-13,000 บาท สมัยนี้จ้าง ป.ตรี 1x,xxx บาท ค่าจ้างไม่ได้ขึ้นตามเงินเฟ้อไปเลย แถมโควิดมายิ่งทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าเอกชนหลาย ๆ แห่งสูญเสียความสามารถในการแข่งขันด้านผลตอบแทนเมื่อเทียบกับงานราชการไปโดยปริยาย

นอกจากนี้ถ้าเป็น ตจว ที่ไม่ใช่นิคมอุตสาหกรรมที่มีรายได้สูง ๆ เช่นระยอง ชลบุรี อื่น ๆ งานโรงงาน งานบริษัทแทบไม่มีหรือมีน้อยมาก ตำแหน่งงานน้อยการจ้างงานน้อย ไม่มีงานรองรับที่ตรงสาขา ค่าแรงต่ำมาก รายได้ไม่มีทางสู้คนทำงานราชการในจังหวัดนั้น ๆ ได้เลย