อาร์เตต้า ก็ใช้ความพยายามแบบเดิมอีกหน เพลสซิ้่ง วิ่งใส่ (ซึ่งแก้เพลส ดีๆ เล่นชิ่ง หรือพลิกดีๆ บอลน่อยมีได้หลุด) แบบเดิมซึ่งก็ยังเอาชนะไม่ได้

และสถิติการคุมทีม สู้กับทีมบิ๊ก TOP 8 ยังชนะยาก ไม่ได้เหนือกว่า กระท่อนกระแท่น และมีสูสี 50:50 ไม่กี่ทีม แต่ที่ชนะขาดคือเวสต์แฮมทีมเดียว

แน่นอนว่า ความฟิตบางตัวอาจจะแย่ แต่ต้องอย่างลืมว่า ปืนเล่นขนต้องจริงไปแบบยกทีม (เว้น ชาก้า กับ ปาร์เตย์) ก็อ้างไม่ได้เท่าใด (หงส์ ไม่มี มาเน่ ธิเอโก้ ซาลาห์นังส่งดาวรุ่งมาผสม)

- จะเห็นได้ว่า ถ้าเกมไหนปืนแย่ๆ การเล่นแบบนี้จะโผล่มา คือการขึ้นเกมไม่ได้ และจะขึ้นเกมจากแดนหลังมากขึ้น โดยใช้จะเกือบทั้งเกม

แม้นว่าตอนแรก ปืนไล่เพลสซิ่งมาดี ไล่บดใส่ด้วยการใช้พละกำลัง แต่ฟุตบอลมันต้องใช้มากกว่าพละกำลัง ซิ่ง ลิเวอร์ มีระบบการเล่น มันสมอง ความนิ่ง และรับมือกับความกดดันได้ดี ค่อยๆ แก้มาจนตั้งเกมได้ ไม่เกินนาทีที่ 10+

- ผลของการใช้บอล Direct โยนยาวแบบมากเกินความจำเป็น จากทั้ง ไวท์ และมากัลเญส ที่ไม่มีความแม่นยำเอาเสียเลย ส่งผลให้เสียบอลแบบไม่จำเป็น บอลกลับไปที่หงส์มากเกิน จนทำให้ลิเวอร์พูลกลับมาตั้งเกมได้อย่างเร็วนาทีที่ 10+ ก็เริ่มประคองตัว จุดเริ่มของหายนะ

คล็อป ใช้การแพ็คเกมในแดนกลาง และจะเข้าเพลสบอลในจังหวะ สองมากกว่า กล่าวคือ รอให้ ปืนออกบอลก่อน เมื่อออกบอลแล้ว เป็นสัญญาณให้นักเตะหงส์ไล่บีบ
ผลจากการ เซ็ตบอลไม่ได้ ทำให้เข้าลูปเดิม ปืนจะใช้นักเตะ 3-4 คน ถอยเข้าในแดนหลัง เพื่อทำการเช็ตบอลขึ้นมาหน้า ผลคือ ปืนก็เสียนักไปเตะ 3-4 คนแล้ว พื้นที่ในแดนกลางลิเวอร์มีมากขึ้น และหงส์ใช้ นักเตะไปไล่บอลน้อย 1-2 พอ แต่จะเน้นในจังหวะสองที่ พอปืนออกบอลเท่านั้นแหละ หงส์จะไล่เพลส ปืนเพราะเหลือตัวน้อยกว่า (ถอยไปเซ็ตบอล) หงส์มีตัวมากกว่า จึงตัวเอาไปแพ็คในแดนกลาง และล้อมเป็นบล็อค รูปเกือบหกเหลี่ยม ศูนย์กลางคือ บอลในเท้าของนักเตะปืน บล็อคจะเคลื่อนตามบอลปืนไป พันธนาการปืนให้ไปต่อไม่ได้ และสามารถดัก สกัด ได้ง่าย เพราะ ปืนไม่ได้ใช้ไหวพริบ เล่นแบบทื่อๆ ที่พอจะคาดเดาได้ โดยเฉพาะจังหวะที่ช้าทำให้หงส์ มีเวลามาพอที่จะแพ็คนักเตะมาล้อม เพลสซิ่งในเวลาไม่นาน เพราะรู้ว่า ปืนจะเล่นบอล Direct แบบสั้นๆ ส่วนจะโยนยาว ก็มีตัวตามรับมือไว้แล้ว เพราะมีตัวเล่นลูกกลางอากาศดีหลายตัวและเร็ว ซึ่งบูคาโย่ ซาก้า โดน ประกบติด 2-3 ตัวเป็นอย่างน้อย เกมรุกก็ตัน เมื่อหงส์ได้บุก ปืนก็ถอยลงต่ำ เกือบจะทั้งแดนลงไปรับไม่มีตัวอยู่แดนศัตรูเลย จะไปสวนขึ้นอย่างไร และสวนก็คอยๆ ทำอย่างช้าๆ วนๆ ทั้งเลี้ยง ทั้งส่งบอล วนไปวนกลับ

- ระบบการเล่นของลิเวอร์พูล มีประสิทธิภาพกว่ามาก โดยเฉพาะการเคลื่อนที่ของนักเตะตอนไม่มีบอล แม้นจะไม่ใช่ชุดใหญ่จ๋าแต่ก็ได้ลุ้นได้อันตราย รู้ว่าเพื่อนจะจ่ายตอนไหน จะวิ่งตอนไหน จะส่งตอนไหน จะเลี้ยงมื่อใด ส่วนปืนเล่นตอนไม่มีบอลแบบงง บางคนวิ่งทับไลน์กันเฉพาะ บางคนไม่วิ่ง บางคนเลี้ยง

จะเห็นว่า การเลี้ยงก็มีส่วนสำคัญ เพราะชิงพื้นที่และให้ปืนถอยร่น ดูเหมือนลิเวอร์พูลจะรู้ว่า ควรจะเลี้ยงบอลตอนไหน เมื่อใดควรจะเลี้ยง เมื่อใดเคาะบอล เมื่อใดควรจะบุก ไม่ได้พร่ำเพรื่อ และก็รู้ว่าเพื่อนจะเล่นยังไงมันคาดเดาต่อได้อย่างไหลลื่น ส่วนปืนเล่นไว้ก่อนค่อยไปคิด บางตัวก็ต้องส่งแน่ๆ ส่งไปก็ไม่รู้ทำอะไรต่อ เลี้ยงไปก็ไม่รู้ทำอะไรต่อ ไปไม่ได้ ก็วนๆ กลับ ไม่ก็เสียบอล ในตอนนี้ถ้าเสียบอล หงส์จะมีพื้นที่สวนกลับไปอันตรายเพราะปืนดันมาสูง เพราะต้องใช้ตัวมาเล่นบอลเยอะ

- ยังขาดทักษะเฉพาะตัวในเกมรับ ส่วนหนึ่งเพราะยังเด็ก รอพัฒนาต่อไป
นักเตะในเกมรับ อย่าง ไวท์ มากัลเญส ไม่มีใครที่เล่นเกมรับได้ดีๆ สุดทาง สักราย เมื่อเทียบกับพรีเมียร์ทีมอื่นๆ ในทีมท็อป มองว่ายังอ่อนเกมรับกว่าทีมบิ๊กๆ มาก อย่าง ไวท์ แน่นอนว่าเกมรับไม่เด่น ได้การขึ้นเกมมาแทน แต่มากัลเญส มีดีที่ร่างกายด้านฟิสิกส์ แต่ขาดความนิ่งอย่างมาก ชอบลก ดูจากการสกัดหรือจังหวะเคลียร์ หรือเล่นบอลไม่ได้เปรียบ ซึ่งเหลี่ยมบอล และ I.Q. บอลชั้นเชิงในด้านการอ่านเกมรับ ไม่ดี โดยรวมเกมรับเฉยๆ ยังไม่เก่ง ส่วนโทมิ แม้นจะหายกลับมาต้องดูยาวๆ วันนี้เล่นไม่ได้ โทมิ Tackling ที่โดดเด่นพอจะสู้ตัวท็อปในลีกได้ แต่การ Man marking ประกบตัวๆ ยังไม่ดี นับเป็นเกมที่สองที่ห่วย เกมแรกประกบมาร์ก กูกูเรย่า ของไบรท์ตันไม่อยู่ เอาแบบเสียคน ส่วนเทียร์นีย์ ไม่ได้เข้าโอเวอร์แลป เล่นการเล่นบอลที่ชัวส์ ทำให้ เหมือนเคีลยร์บอลทิ้งอย่างเดียว ฝั่งซ้ายแทบไม่ได้พาบอลขึ้นไปเอง มีแต่คนอื่นโยนให้มาร์ตี้

------------------------------------------------------------
โจทย์หนักสุด ใน TOP 8 ของต้าคือ
1. Manchester City แม้นเกมล่าสุดได้ลุ้นสู้ได้แต่แพ้อยู่ดี
เฉลี่ยจะได้ -0 คะแนน ต่อเกมที่พบกัน
แพ้ 0-5, 0-1, 0-1, 0-3 คือโดนไป 10 ประตู ไม่เคยยิงเป๊ปได้สักประตู และเก็บได้สักแต้ม
-แทคติคที่ใช้ก็ใช้ทั้ง 5-4-1 โดนไป 5 เม็ด / 4-2-3-1/ 4-3-3 ATK

2. Everton
เฉลี่ยจะได้ +0.75 คะแนน ชนะ 1 แพ้ 4

3. Liverpool
เฉลี่ยจะได้ +1.3 คะแนน ต่อเกมที่พบกัน
ชนะเกมแรกฮันนี่มูน 2-1 (3-4-3) ต่อมาแพ้ 0-4, 0-3, 1-3 โดนไป 12 ประตูยิงได้ 2 ประตู
-แทคติคก็ลองมาหมดแล้วทั้ง 4-4-2 / 4-2-3-1/ 5-4-1/ 3-4-3 เอาไม่ลง

รองๆมา ที่พอสูสี (แต่ไม่ได้เปิดมาเหนือกว่า คือวันไหนเล่นดีก็วินไปแล้วแต่วัน) ผี=เลสเตอร์ ชนะ 2 แพ้ 1 เสมอ 1 (โอกาสไม่แพ้ 75%) , ส่วนเชลซี=ไก่ เสมอตัว 50:50 ชนะ 2 แพ้ 2 เสมอ 1 ไก่ชนะ 2 แพ้ 2

ที่ต้าคุมทีมชนะทางขาดๆมี แค่เวสต์แฮม ทีมเดียว ชนะ 3 เสมอ 1 เฉลี่ย +2.5 แต้มต่อนัด

Winrate ต้า: หลังจากนัดนี้ลดลง 53.09% > 52.63% (114 เกม)
ต้าได้รับใบแดงมากเทียบในสโมสรพรีเมียร์ 14 ใบทุกรายการ รองมานักบุญ 8 เรือ 7

เกมนี้อ้างไม่ได้เลยครับ (จัดตัวจริงลงเต็มๆ) และ ไม่ว่ายังไงไม่ใช่แค่คล็อปป์ แต่สุดท้ายยามเจอทีมใหญ่ ต้า ก็ยังเอาชนะไม่ค่อยได้อีกแล้ว

เอาจริงๆอารมณ์แฟนปืนสำหรับต้าไม่รู้จะว่ายังไงดี บุกไม่สุด (เล่นสนุก 2 นัด, อึดอัด 3 นัด) เรื่องแท็คติกจะว่าดีขึ้นมันก็ดี แต่ยังขาดกึ๋น+ความเก๋าพอสมควรถ้าเทียบกับผู้จัดการทีมชั้นนำ เกมไหนเปิดหัวมาทรงมาแย่ เจอเพรสหนักๆ หรือ บอลชิ่งโหดๆแล้วสลัดไม่หลุดนี่ ครึ่งหลังมาแก้เกมไม่ค่อยได้เลย

สำหรับผมก่อนเปิดฤดูกาลอาจจะแค่ท็อป 6 ก็หรูแล้ว แต่ดูไปดูมาปีนี้ยังไงต้าก็ต้องท็อป 4 เท่านั้นเพราะโอกาสดีที่สุดแล้ว ในสายตาผมคือมีแค่ สเปอร์ส ที่เป็นคู่แข่ง ถ้าไม่ได้ปีนี้ปีหน้าหินกว่าเดิมเยอะ (ผีเตรียมกลับมา, เวสต์แฮม, เลสเตอร์, วิลล่า ปรับปรุงทีมอีกน่าจะโหดขึ้น, สเปอร์ส คอนเต้จูนเครื่องติด + ได้งบเสริมอีกโหดกว่าปีนี้อีกเท่าตัวแน่ๆ ขนาดแค่นี้ก็โหดจัดแล้ว)

โอกาสอยากกลับไปท็อป 4 และเปลี่ยนชะตาไป ชปล. มีแค่ฤดูกาลนี้เท่านั้น สำคัญคือปีนี้โปรแกรมเตะก็น้อยกว่าคนอื่น เพราะ ไม่ได้ไปบอลยุโรป, บอลถ้วยก็ตกรอบหมดแล้ว ถ้าไม่ได้ไปบอลยุโรปถือว่าล้มเหลวมากๆครับ

กลับกันถ้าสุดท้ายปืนจบอันดับ 6 ลงไป ว่าตามหน้างานที่คาดหวังตอนต้นซีซั่นถือว่าน่าพอใจนะ แต่ในแง่ความรู้สึกด้วยสไตล์การเล่นที่ขึ้นๆลงๆ+ แข่งขันน้อยกว่าชาวบ้าน ผมว่า ต้าควรทำได้ดีกว่านี้จริงๆ (อันดับ 4-5 เท่านั้นที่คิดว่าสมเหตุสมผล ถึง 5 จะไม่ได้ไปเล่น ชปล. ก็ตาม)

ผมว่าทำได้ดีมากนะ แนวๆซิตี้เลย ทำเอาหงส์ขึ้นเกมส์ไม่ได้ อนาคตผมว่าน่อลทำได้ดีแน่ๆหากได้นักเตะดีๆมากกว่านี้

สถิติเจอทีมใหญ่พังมาก เก็บแต้มแทบไม่ได้เลย ดูจากรูปเกมบางนัดมันก็พอมีทรงพอสู้ได้หรอกแต่ทำแต้มกับทีมใหญ่ไม่ได้เลยก็ไม่ไหวนะ ต้องพัฒนาตรงจุดนี้โดยด่วนอ่ะ ไม่งั้นที่4ก็แย่ ทีมบนๆตารางพัฒนากันขึ้นทุกทีม

เอาใจช่วยครับ น่อลปีนี้ต้องคว้าตั๋วuclให้ได้ถ้าได้กลับไปเล่นถ้วยใหญ่อะไรๆคงดีขึ้นเยอะ

หานักเตะมาคุมแดนกลางหรือฝากความหวังไว้ได้สักคน แบบวอร์ดพร้าว หรือรูเบน สักคนน่าจะดี

ผมเชื่อในทีมนี้ครับ และเชื่อพี่ต้า กับ เอดู ด้วย ตอนนี้เหมือนต้องใช้เวลาโละของเก่า ยุคป๋าเวง กับ อูไน

Klopp อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2015 พี่ต้า อยู่กับทีมเราปี 2019 และพึ่งเคยมาจับงานคุมทีม

คนอื่นรอไม่ได้ไม่เป็นไร ผมรอได้ Pep กับ Klopp ที่คนยกว่าเก่งตอนนี้เค้ามีทีมของตัวเองแล้วครับ

พี่ต้ายังไม่ได้มีทีมของตัวเอง เพราะมีมรดกเก่าที่ต้องโละอยู่ ดูกันอีกยาวๆ ครับ

ฤดูกาลนี้ เหลือแต่บอลลีค คงไม่ต้องอ้างว่า เตะถี่เกินไป TOP4คือเป้าหมายหลัก ถ้าพลาดบอลยุโรป

งบเสริมทัพ + แรงดึงดูดนักเตะเก่งๆ คงยาก ตัวอย่างวลาโฮวิช โลคาเตลี่ ชัดมาก

ปีหน้าเสียนักเตะหลายคน โคล่า(ไปแล้ว) เอเนนี่ ลากา เอ็นเคเทียร์ แชมเบอ (หมดสัญญา) ตอเรล่า (ฟิออ99%)

เสี่ยไนล์(50/50) เบเยอริน(ใจไปแล้ว) เนลสัน(ปั้นไม่ขึ้น) เลโน่(ระดับนี้ต้องหาทีมลงตัวจริง)

แต่จะได้ ซาลิบากับ เกนดูซี่ มาแบบฟลุคๆ ถ้าไปบอลยุโรป งบเสริมทัพมาแน่นอน

อนาคตต้า สัญญาถึง 2023 ดูว่าจะโดนปลดก่อน หรือ โชคดีอยู่จนครบ

บางที โอกาสได้รับมาพอสมควรแล้ว ถ้ามีโค้ชที่เหมาะสม เช่น เทนฮาก ผมก็อยากได้โค้ชคนใหม่

ดูแบบ สเปอได้คอนเต้ ทีมชุดเดิม งบเสริมทัพก็ไม่ค่อยมี แต่พลิกมาลุ้น TOP4 เต็มตัว เล่นกับหงส์ก็เสมอ เกือบชนะด้วย