2018-19 : เข้ามาคุมแบบขัดตาทัพกลางเดือนธันวาคม ปี 2018 ผลงาน 19 นัด (พรีเมียร์, เอฟเอ, ชปล.)







บอร์ดเห็นแววเลยให้สัญญาถาวร 3 ปี เซ็นช่วงปลายเดือนมีนาคม ปี 2019 แต่หลังจากนั้นถือว่าเละเลย




______________________________

2020-21 :





จบที่ 2 ในลีกนี่รับได้นะ แต่ตกรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. แถมวืด ยูโรปา อันนี้น่าผิดหวัง แต่บอร์ดมองลึกยังเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์
ขยายสัญญาอีก 3 ปี + ออปชั่น 1 ปี (สิ้นสุดปี 2025) ตอนเดือนกรกฎาคม
______________________________

เอาจริง ๆ ไทม์มิ่งในการต่อสัญญาแต่ละทีนี่แปลก ๆ ตลอดเลยนะ ให้มาคุมขัดตาทัพอันนี้เข้าใจ แต่กล้าให้คุมเต็มตัวมีแอบเอ๊ะ
เพราะไม่มีความสำเร็จระดับเมเจอร์มาการันตีเลย

2013-14 : เข้ามาคุม คาร์ดิฟฟ์ เต็มตัวช่วงต้นเดือนมกราคม ปี 2014



สุดท้ายจมบ๊วย กระเด็นตกชั้นไปเล่น แชมเปียนชิพ เพราะเก็บได้แค่ 30 แต้ม

2014-15 :



ขนาดลีกรองยังไม่รอด คุมได้แค่ 7 นัดก็ปลิวแล้ว จากนั้นคัมแบ็ก โมลด์ รอบ 2 แบบยิงยาวจนมาคุม แมนยู แทน มูรินโญ่
ที่น่าแปลกคือหลังออกจากอังกฤษ ก็ไม่มีทีมดัง ๆ สนใจเลย มันแปลว่าดูไม่มีแววเก่งตั้งแต่แรกละปะ

ผมไปอ่านมา คุมคาร์ดิฟแกยัง งงๆเลย เห็นบอกว่าโรเตชั่นทุกนัด
ไม่เคยจัดผู้เล่นชุดเดียวกันซ้ำเกิน2นัด นี่ขนาดไม่มีบอลถ้วยเตะนะ 55555
ละเค้าบอกว่าแผนการเล่นเปลี่ยนตลอด ลองนู่นลองนี่ จนมั่วซั่ว
ผลงานเลยออกมาเละแบบนั้นอะ

กระเด็นจากคาร์ดิฟฟ์ไป ก็ใช่ว่าจะมีแชมป์นะครับ จากนั้นก็ไม่สามารถเพิ่มแชมป์ให้ตัวเองอีกเลย

แค่นี้ก็น่าจะเห็นฝีมือแล้วนะ ยังมีแต่คนมาอวยว่าคงมีดีแหละ ทำทีมได้แชมป์ลีกนอร์เวย์

กุนซือกู้ซากปรักหักพังที่กำลังจะทำพังให้คนอื่นมากู้ซาก

ปลดโซลซา แล้วให้ โซลชา คุมแบบขัดตาทัพ