ปัญหาที่แก้ไม่ตกของแมนยู คือ การที่ไม่สามารถเจาะทีมรับลึกได้
แม้จะเพิ่มอาวุธสงครามแบบโรนัลโด้เข้ามา แต่สถานการไม่ได้ดีขึ้น
มิหนำซ้ำ โรนัลโด้ดันมากลายเป็นแพะให้ติ่งอมยิ้มตามเฟสเชือดอีก
อย่างแรกเลย
อมยิ้มขี้กลัวไม่ไว้ใจการขึ้นบอลจาก CB
อมยิ้มไม่ไว้ใจการขึ้นบอลจาก CB ทั้งที่ฟุตบอลสมัยใหม่มองกองกลางเป็นตัวดึงตัวประกบ
แต่อมยิ้มมองว่าต้องใช้กลางขึ้นเกม เพราะพลาดขึ้นมา ยังวิ่งไล่ตัดเกมได้
ซึ่งค่อนข้างล้าหลัง
มองไปที่ขุมกำลังกองหลังอย่างแฮรี่ แมกไกว
ถือว่าเป็นหนึ่งในกองหลังเรือเกลือที่มีทักษะการลำเลียงบอลไปข้างหน้าได้เอกอุคนนึง
วิคเตอร์ลินเดเลิฟ ก็ได้ชื่อว่าเป็นปราการหลังที่เล่นกับบอลได้ดีคนนึง
วารานก็เป็นหลังที่เล่นกับบอลได้ดี และมีลูกเปิดให้แนวรุกได้เยี่ยม
แต่ทำไมเรายังต้องพยามขึ้นบอลจากแดนกลาง หรือ FB
จากภาพจะเห็นเซตอัพเพลของโค้ชขี้ขลาด/หรืออาจจะโง่
ในสถานการณ์ที่ต้องแม้จะการประตูเนื่องจากโดนคู่แข่งชั้นต่ำกว่าตีเสมอในบ้าน
แต่Build up play ของกุนซืออมยิ้มกลับเลือกจะเล่นแบบเดิม
โดย ระบบ 4-3-3 คิดง่ายๆ เมื่อบอลอยู่ที่กองกลาง แมนยูจะมีตัวเลือกในการจ่ายไปข้างหน้าเพียง3คน
ขณะเดียวกันเรามองดูแนวทางเล่นของกวาดิโอล่า
Build up play เมื่อ Set up เกมขึ้นเกมรุกต่อหน้าทีมที่ขึ้นชื่อว่าเกมรุกดุดัน
และรวดเร็วสุดๆอย่างลิเวอร์พูล
โดย ขึ้นบอลในระบบ 4-1-5 มองในที่นี้ตัวเลือกในการจ่ายขึ้นหน้าของลูกทีมแป็ปมีถึง 5-6คน
(เทียบกันแล้วCB ของแมนซิทำหน้าที่ออกบอลแบบเดียวMFของผีแดง)
หรือทีมอย่างคล็อปที่เผชิญกับคู่แข่งอย่างซิตี้
เวลา Build up play ยังกล้าที่จะใช้แผน
3-3-4 (ในภาพอาจจะเป็น2-4-4หรือไม่จำไม่ได้ว่า WBขวาดันสูงหรือไม่)
แสดงออกให้เห็นว่า ลูกทีมของทั้งสองต้องการมาเก็บผลการแข่งขัน
หาได้เพียงจัดแผนเพื่อหวังเซฟเก้าอี้กุนซือไปวันๆ
ปัญหาข้อถัดมา
รุกแบบกล้าๆกลัวๆ
บ่อยครั้งที่ลูกทีมโอเล่ได้จังหวะเล่นเกมรุกอย่างมีพื้นที่
นักเตะผีแดงจะอาศัยการเข้าทำจากนักเตะไม่เกิน3คน
ขณะที่คนที่เหลือ วิ่งเหมือนเพียงถูกสั่งให้ดันไลน์ขึ้นมา
เหมือนไม่ได้สั่งให้ไปมีส่วนร่วมกับเกมรุกแต่อย่างใด
ส่วนตัวคิดว่าน่าจะถูกใบสั่งมาไม่ให้เข้าไปลึกมาก เพราะจะเบรคเกมสวนไม่ทัน
เริ่มด้วยขึ้นบอลง่ายๆจากวารานมาให้โด้ที่ลงมาล้วงบอล
โด้ลากมา ไม่มีใครไปทดแทนตำแหน่ง ทุกคนวิ่งอย่างสบายใจอย่างกับนำอยู่5เม็ด
อีกเหตุการณ์ ที่สะท้อนว่าอมยิ้มขี้ขลาดกลัวแพ้ เล่นเซฟตัวเองไปวันๆ
และอีกหลายๆเหตุการณ์
แน่นอนเราจะยังเจอเหตุการแบบนี้ซ้ำๆไปแม้เราจะปลดโอเล่ได้
เพราะระบบโบราณแบบยูไนเต็ดนั้นหยั่งรากฝังลึกลงไปในDNA
ล่าสุดการต่อสัญญาเหล่าโค้ชหัวโบราณที่สืบทอดวัฒนธรรม
ยิ่งจะทำให้วัฒนธรรมนี้หยั่งรากลึกลงไปอีกนานไปนับหลายปี
เขียนโดย ลุงกาวเกลียดอมยิ้มมาก
discredit : อมยิ้ม กากๆ
"Congratulations on signing the best coach in the world."LVG
จงเชื่อในปรัชญา