โทนี เล่าเบื้องหลังคาร์บอมบ์ ก่อนรปห.ปี 49 เขาว่า ถ้าผมไม่ตายก็ปฏิวัติ
เมื่อเวลา 20.04 น. วันที่ 31 สิงหาคม โทนี วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์ของกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย เป็นครั้งที่ 14 ในตอน “ขอไม่ไว้วางใจประยุทธ์ด้วยอีกคน” คู่ขนานกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภา เป็นวันที่ 1

ช่วงตอนต้น โทนี ได้กล่าวว่า ไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยยกเหตุผลว่า ประสบการณ์แคบกับโลกปัจจุบัน อยู่ในตำแหน่งที่เกินขีดความสามารถ และ ไม่มีความสามารถในการกระจายงาน โดยแนะให้ประชาชน รวมตัวกันที่บ้านส.ส. ว่าไม่เอานายกฯคนนี้ ขอให้ยกมือไม่ไว้วางใจ เป็นการกดดันและให้อำนาจส.ส.ทางอ้อม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงตอนหนึ่ง โทนี ได้เล่าถึงกรณีเหตุ คาร์บอมบ์ เมื่อ 24 สิงหาคม 15 ปีที่แล้ว โดยว่า วันนี้เป็น oral history เป็นประวัติศาสตร์ทางวาจา คือ มีนายทหารคนหนึ่ง 1 ในทหารที่เกี่ยวข้องกับการจัดการคาร์บอมบ์ ความจริงถูกถูกออกจากราชการ 2 หรือ 3 คน แต่คนหนึ่งถูกออกจากราชการ พอปฏิวัติปุ๊ป คณะปฏิวัติไม่ดูแล แกถูกออกจากราชการ ก็ไม่มีเงินให้ลูกไปเรียนหนังสือ คนที่จะฆ่าผมนี้ ผมให้คนไปหา และให้เงินลูกเขาไปโรงเรียนให้ ให้อภัยเขา เขาก็สำนึก เลยเล่าให้ฟังหมด ว่าเขาไปทำอะไร ยังไง ใครสั่ง มีใครทำ ผมก็อัดเทปไว้ด้วย แต่ไม่เคยเปิด เพราะบ้านเมืองแตกแยกกันพอแล้ว บางครั้ง ผมก็ยอมกัดลิ้น กลืนเลือดตัวเอง

โทนี กล่าวว่า วันนั้น เดิมทีเดียว รถคันนี้ เป็นรถที่จอดใน กอ.รมน. ไปดักผมที่ผม นายตำรวจที่ดูแลผม วิ่งมาบอกว่า วันนี้จะไม่ออกทางเดิม เพราะมีรถต้องสงสัยจอดอยู่ปากทาง น่าจะเป็นรถที่จะทำร้ายท่าน ก็โอเค ตอนหลังมานี่ ผมไปดูวงจรปิด ที่ บน.6 ที่ขึ้นลงเครื่องบิน มีวงจรปิด มีนายทหารยศ พันเอก และ พลตรี ได้เข้าไปสำรวจดู และรถคันนี้ก็หายไป 10 กว่าวัน

ผมก็ถามว่า รถคันนี้ทำไมหาไม่เจอ ตอนหลังมา 24 สิงหาคม รถคันนี้ก็ไปจอดใต้สะพานข้ามซังฮี้ ปกติ ผมออกจากบ้าน 9 โมงเช้า วันนั้นผมจะไปต่างประเทศ ก็ห่วงน้ำท่วมน่าน เลยเดี๋ยวไปสั่งการแก้ปัญหาน้ำท่วมก่อนดีกว่า เลย 5 โมงเย็นสั่งการ รีบเรียกประชุม 8.30 น. ก็ไม่มีในหมายที่ผู้สื่อข่าวรู้ ก็เลยไม่มีใครรู้

“ร.ท. ธวัชชัย เป็นคนขับ พอผมขับ ตำรวจหน้ารถ จำรถได้ ก็เรียกตำรวจหน้าบ้านผมมาจับ ก็เจอระเบิด ซีโฟร์ และ ทีเอ็นที เต็มท้ายรถ ที่ไม่ระเบิดก็มี 2 สาเหตุ 1. อาจจะต่อไม่ดีพอ กดแล้วไม่ระเบิด 2.ผมออกจากบ้านเร็ว เขาเลยไปกินอาหารอยู่ในตลาด แล้ววิ่งมาไม่ทัน และกลัวเวลากดระเบิดเนี่ย เป็นระเบิดเครื่องบินบังคับ แล้วไปหลบอยู่เสาเหล็ก การไปกดอยู่เสาเหล็ก ไม่ผ่าน ผมเลยไม่ตาย หลังจากนั้นสื่อเลือกข้างก็มารับลูก บอกคาร์บอมบ์ คาร์บอมบ์พ่อ.. ไอ.. ผมเกือบตาย”

“ถ้าผมตาย ไม่ได้ตายคนเดียวนะ ซีโฟร์ กับ ทีเอ็นที รัศมีครึ่งกิโล เด็กเขมะฯ ตายกันหมดทั้งโรงเรียน ชาวบ้านอีก เหี้ยมมาก”

โทนี ยังเล่าต่อว่า พยานคนหนึ่งเป็นจ่า เด็กเสิร์ฟกาแฟ บอกว่า ถ้าฆ่าไม่ตายจะปฏิวัติ ถ้าปฏิวัติสำเร็จ จะให้ใครเป็นนายกฯ บอกหมด วันหลังมีคนมาบอกผม ผมก็บันทึกไว้ เขาเป็นทหาร ซีโฟร์ก็ไม่อยาก ตอนหลังโดน 4 ปีครึ่ง แต่ไม่โดนเรื่องลอบฆ่าผม เพราะผมโดนปฏิวัติแล้ว ถ้าผมอยู่ก็เสร็จ ผมนั่งสอบเองเลย

“มีผู้อยู่เบื้องหลัง ระดับพลเอกทั้งนั้น มันจบกันไปแล้ว ก็มีการไปตามว่าเมื่อไหร่จะฆ่าผมสักที มีการไปตามคนสั่งการ ก็มีค่าจ้างจากพ่อค้าที่โกรธผม ทั้งที่ผมไม่ได้อะไรเลย”



โทนี ยังกล่าวด้วยว่า ผมโดนลอบสังหารหลายครั้ง ตอนรับตำแหน่งใหม่ๆ ก็มีเครื่องบินที่เชียงใหม่ที่ถูกวางระเบิด แต่ถูกปฏิเสธไปเป็นความบกพร่องเรื่องอื่น แต่ฟังไม่ขึ้น เพราะมีสจ๊วตคนหนึ่งตาย เก้าอี้ที่ผมจะนั่ง มีซองเอกสารที่มี ทริกเกอร์ระเบิด สจ๊วตไม่รู้ ไปหยิบมา สจ๊วตคนนั้นตาย ให้แน่ใจว่าถ้าระเบิดผมตายแน่ เพราะนี่ระเบิดซ้ำ เผอิญวันนั้นโอ๊คมาช้า ตื่นสาย เลยช่วยชีวิตพ่อไว้ ผมก็แล้วไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

และยังกล่าวอีกว่า ตอนหลังผมโดนลอบยิง ด้วยสไนเปอร์อีก 2 ครั้ง ครั้งแรกที่ลำปาง ครั้งที่ 2 ที่สนามหลวง แต่ดวงเฮง ที่ลำปาง เขากะลอบยิงข้างหลัง เพราะข้างหน้าโพเดียมกันกระสุน พอดีส.ส.ทะเลาะกัน ผมเลยไม่ไปแล้ว อีกครั้งที่สนามหลวง เขาตั้งปืนที่ รัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ วันนั้น ทีมปราศรัยดี เลยขึ้นก่อนกำหนด นักศึกษายังไม่ออกจากตึก ควักปืนมาไม่ได้ เลยโชคดีไป

ส่วนคำถามที่ว่า ระเบิดดังกล่าว เป็นอาวุธที่จะมีแต่กองทัพหรือเปล่า ต้องมีการควบคุมหรือไม่ โทนีกล่าวว่า ต่อไป ทหาร อาวุธทุกอัน ต้องมีคิวอาร์โค้ดให้หมด จะได้ควบคุมว่าใครเอาไปไหน อย่างไร ผมให้เขาทำแล้วเขาไม่ทำ

โทนี ยังกล่าวว่าแม้จะถูกลอบฆ่าหลายครั้ง แต่ก็อยากกลับเมืองไทย และว่า เดิมทีเดียว ผมพร้อมจะกลับ คนเราเกิดเดียวตายหนเดียว ผมห้อยหลวงพ่อหนัง ผมสวดมนต์ไม่เก่ง อาจจะท่องคาถาไม่เก่ง บางทีสวดเป็นบาลี ไม่รู้ความหมาย ฟังธรรมะบ้าง จิตปล่อยวางสูง

โดยมีคำถามว่า โทนี เหมือนจะมีปัญหากับกอ.รมน.หลายครั้งหรือไม่ โทนี กล่าวว่า เรามีความรู้สึกว่า กอ.รมน. มันไม่มีความจำเป็น กำลังจะยุบทิ้ง มันจะยุบเราเสียก่อน คงมีสาเหตุเยอะกว่านั้น เรื่องการปฏิวัติ ผมไม่เคยกลัวทหารอยู่แล้ว ผมเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน ความกลัวทหารมันไม่มี แต่ก็มีหลายอย่าง ซับซ้อน ก็ช่วยกันแก้ ไม่มีอะไรแก้ได้โอเวอร์ไนท์

https://www.matichon.co.th/politics/news_2915985

ฮาสุด คา บอง พ่อ ง เมิงดิ ไอ้ha ผมเกือบตาย

ตอนนี้คงไม่กลัวตายแล้วสินะ

โทนี่แกผ่านการโดนลอบสังหารมาหลายรอบเลยนะ
แต่แกก็ดวงแข็งรอดมาได้ทุกที

โทนี่โดนบ่อยจริงนะ แต่รอดทุกครั้ง ทีมงานดีด้วยแหละมั้ง


ส่วนอันนี้ทำไมรู้สึกว่ามันต่างกับคนปัจจุบันจังวะ ด่วนที่ไม่ด่วน ด่วนแต่ประชุมวันจันทร์ ด่วนแต่แถลงบ่ายสาม งงสุด

แกเป็นคนอยากทำอะไรก็ทำ ชอบเปลี่ยนกำหนดการณ์เองตลอดด้วยมั้ง
ทำให้หลายๆครั้งแผนลอบสังหารมันล้มเหลวเพราะแกไม่ทำอะไรตามตามกำหนดเนี่ยละ

กอ.รมน. เมื่อก่อนตั้งขึ้นไว้ต่อต้านคอมมิวนิสต์
ปัจจุบัน กลายเป็น IO สร้างความแตกแยก รึปล่าว
สมควรถูกยุบทิ้ง แต่มันไม่ยอมหรอกเพราะงบเยอะ

นี่น่าจะเป็นคนเดียวเลยไหมครับที่กองทัพไทยไม่ส่งคนไปตามฆ่าที่ต่างประเทศ

เอาไม่อยู่หรือไม่คุ้มที่จะฆ่า หรือจงใจปั้นให้เป็นคนร้ายในดงสลิ่ม

ครั้งหนึ่ง เป็นรถ6ล้อ ขนแมกนีเชียมเต็มคันรถ ไปจอดใกล้บ้านแก กะเอาให้ตายทั้งซอยเลยมั้ง โหดจริงๆ

ผมว่าอำมาตย์เก็บแกไว้เป็นข้ออ้าง ได้ประโยชน์มากกว่าฆ่าทิ้ง

เครื่องบินโดยสารอีกลำนึง ระเบิดคาสนามบิน ดีวันนั้นไปช้า

ผมกลับมองว่าพวกมันเข้าไม่ถึงนะ จริงอยูอาจจะรู้แหล่ะว่าพักที่ไหนประเทศอะไร

แต่โทนี่คงพำนักในระดับ vip เชื่อว่าหน่วยข่าวกรองประเทศต้นทางคอยคุมอยู่ จะให้ทหารไทยเข้าประเทศดุ่มๆแล้วถึงตัวแกคงยากอยู่

แล้วผมไม่เชื่อน้ำยาทหารไทยด้วย ที่ลอบฆ่าได้ก็มีแต่ประเทศใกล้เคียงกันนี่แหล่ะ เพราะอันนี้พวกเดียวกันเผด็จการเหมือนๆกัน มันหลับตา

ข้างหนึ่งอยู่หล่ะ