อาร์มานด์ ดูพลานทิส ยอดนักโดดค้ำวัย 21ปี
อันที่จริงการต่อสู้นั้นจบลงไปก่อนแล้ว
.
เมื่อความพยายามครั้งที่ 3 ของคริสโตเฟอร์ นีลเซน ในการกระโดดระยะ 6.02 เมตรไม่เป็นผล ทำให้เหรียญทองนั้นตกเป็นของไอ้หนุ่มน้อย อาร์มานด์ ดูพลานทิส นักค้ำถ่อที่กระโดดระยะ 6.02 เมตรสำเร็จไปตั้งแต่ความพยายามครั้งแรก
.
แต่การแข่งขันยังไม่จบ เพราะสำหรับดูพลานทิสเขามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ด้วยการเรียกระยะความสูง 6.19 เมตร หรือมากกว่าการกระโดดครั้งก่อนที่ทำให้เขาคว้าเหรียญทองมาครองถึง 17 เซนติเมตร
.
ผู้บรรยายภาษาอังกฤษบอกว่า “เด็กคนนี้ไม่รู้จักความกลัว”
.
ก็จริง - เพราะเขาคือคนที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ ฟ้าส่งมาเพื่อเป็นตำนานนักค้ำถ่อตัวจริง
.
อาร์มานด์ กุสตาฟ ดูพลานทิส หรือ “มอนโด” เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการกรีฑาเมื่อปีกลายด้วยการทำลายสถิติโลกถึง 2 ครั้งในระยะเวลาห่างกันไม่นาน
.
แต่หากย้อนกลับไปไกลกว่านั้น เส้นทางของเขาดูเหมือนจะถูกขีดมาให้ล่วงหน้าแล้วว่าต้องมาทางนี้ เพราะเขาเกิดในครอบครัวนักกีฬา (จะสังเกตว่านักกีฬาระดับโลกในรุ่นหลังจำนวนไม่น้อยจะเกิดในครอบครัวนักกีฬา)
.
เกร็กคุณพ่อของเขาเป็นชาวอเมริกัน และเป็นนักค้ำถ่อเหมือนกัน แถมสถิติไม่ธรรมดาเพราะเคยกระโดดได้ถึง 5.80 เมตร ขณะที่พี่ชาวของเขาอันเดรียส ก็เป็นนักค้ำถ่อที่เคยแข่งขันระดับเยาวชนทีมชาติเหมือนกัน ส่วนอองตวนพี่ชายคนรอง และโยฮันนาน้องสาวก็รักในเกมกีฬา
.
ดูพลานทิสจึงเหมือนเกิดมาเพื่อเป็นนักค้ำถ่อ และพรสวรรค์ของเขาก็เปล่งประกายตั้งแต่เด็กถึงขั้นที่ทีมชาติสวีเดนโทรมาจีบเช้าจีบเย็นขอให้เล่นให้พวกเขา - เพราะเลือดอีกครึ่งนึงในตัวของมอนโด เป็นเลือดสวีดิชของคุณแม่ และพี่ชายของเขาเองก็เล่นให้สวีเดนเหมือนกัน
.
ในวัย 15 ปี มอนโดพิชิตเหรียญทองการแข่งยุวชนชิงแชมป์โลกในปี 2015
.
พออายุ 18 ปี เขาคว้าเหรียญทองในการแข่งชิงแชมป์ยุโรป ทำสถิติ 6.05 เมตร ที่ไม่เคยมีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีคนไหนเคยทำได้มาก่อน
.
ต่อด้วยเหรียญเงินในการชิงแชมป์โลกในปี 2019 แชมป์ไดมอนด์ลีกในปี 2020 และแชมป์อินดอร์ยุโรปในปีเดียวกัน
.
คนเริ่มพูดกันว่าหากจะมีซูเปอร์สตาร์คนไหนที่จะก้าวขึ้นมาแทนยูเซน โบลต์ได้ในการแข่งขันกรีฑาที่โตเกียวเกมส์ ก็คงจะต้องเป็นไอ้หนูหน้ามนคนนี้แหละ
.
คนที่สุดท้ายเลือกเล่นให้สวีเดน ถูกแม่ปลูกฝังให้พูดภาษาสวีดิชมาตั้งแต่เด็ก แม้จะเขินอายแต่ก็พยายามหัดพูดมาเรื่อยๆ ซึ่งภาษาของเขาก็ค่อยๆดีขึ้นพร้อมๆกับความรักที่ได้รับจากชาวสวีเดนที่ยอมรับเขามากขึ้นเรื่อยๆ
.
จนวันนี้กลายเป็นที่หนึ่งในใจของชาวไวกิ้ง ได้รางวัลทรงคุณค่า Jerringpriset หรือนักกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดของสวีเดนด้วย
.
ทีนี้ย้อนกลับมาที่สนามโอลิมปิก สเตเดียมในกรุงโตเกียว
.
ดูพลานทิส เตรียมที่จะกระโดดครั้งแรกที่ระยะ 6.19 เมตร ซึ่งแม้จะไม่มีแฟนกีฬาในสนามเลยแม้แต่คนเดียว แต่นักกีฬาทุกคนในสนามที่เสร็จสิ้นภารกิจของตัวเองแล้ว (ก่อนหน้าการโดด การแข่งวิ่ง 200 เมตรหญิงเพิ่งจบลง) ต่างก็รอดูการกระโดดครั้งนี้
.
เพราะมันไม่ใช่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นทุกวัน มันคือโมเมนต์ประวัติศาสตร์ที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นตรงหน้า
.
หนึ่งในคนที่นั่งรอชมอยู่เงียบๆข้างสนามคือเรอโนด์ ลาวิลนี เจ้าของเหรียญทองในลอนดอนเกมส์เมื่อปี 2012 ที่เป็นดั่งครูของมอนโด ดูพลานทิส
.
ไอ้หนุ่มมอนโด สีหน้าท่าทางผ่อนคลาย เขาไม่ได้เรียกเสียงเชียร์จากคนในสนามเหมือนนักกีฬาอีกหลายคน แต่เสียงปรบมือก็ดังขึ้นเป็นกำลังใจ
.
เด็กหนุ่มที่เกิดในหลุยส์เซียนาวิ่งออกไปด้วยความมั่นใจ ก่อนที่เขาจะดีดตัวข้ามราวได้อย่างสวยงาม
.
วินาทีนั้นทุกคนคิดว่าเราได้เห็นประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่แล้ว แต่ราวกลับร่วงลงมาโดยที่มอนโดเองก็แทบไม่เชื่อเพราะเขาคิดว่าทุกอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
.
ไม่เป็นไรยังเหลือโอกาสอีกตั้ง 2 ครั้ง
.
แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มที่ไม่รู้จักความกลัวเมื่อสักครู่ จะเริ่มรู้จักความกลัวแล้ว
.
สีหน้า แววตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ความกดดันเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ได้เกิดจากใครแต่เป็นตัวของเขาเอง
.
การกระโดดครั้งที่ 2 ก็พลาดอีก ทุกอย่างมันดูผิดที่ผิดทางไปหมด
.
มาถึงการกระโดดครั้งสุดท้าย - ถ้าทำได้ในครั้งนี้ ทุกอย่างก็จะยิ่งสวยงาม เป็นการสร้างตำนานของตัวเองขึ้นมาในการแข่งขันโอลิมปิกที่น่าจดจำที่สุดครั้งหนึ่ง
.
แต่เขายังดูกังวล มาเหลือบมองนาฬิกาของตัวเองเพื่อเช็คร่างกาย แต่ข้อมูลมันไม่สามารถบอกสิ่งที่อยู่ในใจได้
.
เขาวิ่งออกไปกระโดดครั้งที่ 3
.
คราวนี้ดีกว่าครั้งที่ 2 แต่มันก็ยังไม่ดีพอเท่าครั้งที่ 1 และราวก็ร่วงลงมาอีกครั้ง
.
สถิติโลก 6.18 เมตรยังไม่ถูกทำลาย และเราไม่ได้เห็นฉากในตำนานที่คาดหวัง
.
แต่ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้ ไม่ใช่จะสมหวังทุกอย่างง่ายดายไปเสียหมด
.
สิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นคือการที่ดูพลานทิสกล้าที่จะท้าทายตัวเองในเวทีที่ใหญ่ที่สุด สถานการณ์ที่ยากและกดดันที่สุด
.
และเขาไม่หยุดที่จะพยายาม
.
วันนี้สถิติยังทำลายไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เหรียญทองก็เป็นของเขา และคู่แข่งคนเดียวของมอนโด ก็คือตัวของเขาเอง
.
เขาซึ่งยืนยันว่าเป็นคนติดดินกินข้าวแกงและคิดว่าตัวเองก็เหมือนคนอื่นๆ มีนักกีฬาที่ชื่นชอบคือโชเฮ โอตานิ นักเบสบอลชาวญี่ปุ่น และเหตุผลนั้นคือ “ผมชอบคนที่พยายามทลายกำแพงในสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่ามันจะทำลายได้มาก่อน”
.
ฟังแบบนี้รู้ได้เลยว่าดูพลานทิสจะทำ และทำ ต่อไป
.
ในวัย 21 ปีชีวิตของเขายังมีเวลาให้ “ลอง” อีกมาก
.
บางที 6.19 เมตรอาจจะไม่พอด้วยซ้ำไป (เซอร์เก บุบกา ผู้ยิ่งใหญ่บอกว่าเขาอาจจะโดดได้ถึง 6.25 เมตร!)
Fact
- ดูพลานทิสเกือบไม่ได้แข่งโอลิมปิกแล้วเพราะเขามีนัดกินกาแฟกับแซม เคนดริกส์ คู่แข่งจากอเมริกาในหมู่บ้านนักกีฬา แต่พอดีโทรศัพท์คุยกับแฟนสาวนานเกินไปเลยไม่ได้ไปเจอกัน ปรากฏเคนดริกส์ถูกตรวจพบว่าติดโควิดอดแข่ง…
- เขาไม่อยากให้คนอื่นเปรียบกับโบลต์ “ผมเป็นโบลต์ให้คุณไม่ได้ แต่ผมเป็นนักค้ำถ่อที่เก่งที่สุดตลอดกาลให้คุณได้”
- สถิติ 6.18 เมตร เจ้าของเดิมก็คือเขาเอง
Credit : Sockr
อนาคตจะโดดสูงแค่ไหนนะ น่าจับตามองจริงๆ