กลุ่มแฟนบอลอุลตร้าของ อตาลันต้า ได้แขวนป้ายผ้าประท้วงการบริหารทีมของ อันโตนิโอ แปร์กาสซี่ โดยกล่าวหาว่ามุ่งแต่ทำเงินเข้ากระเป๋า ท่ามกลางกระแสข่าวว่าพวกเขาจะปล่อยตัวกองหลังคนสำคัญอย่าง คริสเตียน โรเมโร่

อตาลันต้า กลายเป็นชื่อที่สนใจของแฟนบอลต่างลีกมากขึ้น จากผลงานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดพวกเขาเพิ่งคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

ผลงานในตลาดซื้อขายนักเตะของพวกเขาก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยใช้นโยบาย "มันนี่บอล" ซื้อถูกขายแพง ทำให้การบริหารด้านการเงินก็เป็นไปอย่างราบรื่น แม้มีแผนปรับปรุงสนามแข่งก็ตาม

ทีมดังจากแบร์กาโม่เพิ่งปล่อยตัวนายด่านอย่าง ปิแอร์ลุยจิ กอลลินี่ ให้ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ยืมตัว พร้อมอ็อปชั่นซื้อขาดที่ราคา 15 ล้านยูโร

นอกจากนี้พวกเขายังตกเป็นข่าวว่ากำลังจะขาย โรเมโร่ ให้ "ไก่เดือยทอง" ด้วยค่าตัวราว 3 เท่าของราคาที่คว้ามาจาก ยูเวนตุส

แม้แนวทางการบริหารดังกล่าวจะทำให้สโมสรเติบโตอย่างมั่นคง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ถูกใจแฟนบอลสักเท่าไหร่ เมื่อล่าสุดมีป้ายผ้าจากแฟนบอลอุลตร้าแขวนไว้หน้าสนามซ้อม ซิงโกเนีย เพื่อประท้วงสไตล์การบริหารของ แปร์กาสซี่ โดยกล่าวหาว่าสนใจแต่เรื่องทำกำไร

"ตั๋วรายปี, เกมอุ่นเครื่อง และตลาดซื้อขายนักเตะ, อย่าเข้าใจผิดนะ แปร์กาสซี่ (Perca$$i), แกยังมีเมืองนี้ที่ต้องเคารพ"

ถ้าขายโรเมโร่ได้ 60 ล้าน ก็ขาย ๆ ไปเหอะ

ผมเห็นเล่นหลายนัดอยู่ คือเก่ง แต่ไม่ใช่ว่าเทพอะไรมากมาย

ไปหาตัวอื่นมาแทนถูก ๆ ดีกว่าเยอะ

ทำยังกะทีมใหญ่พอที่จะรั้งนักเตะ ขายตอนนี้ได้เงินแต่ถ้ารอต่อไปคงต้องรอสัญญาใกล้หมดแล้วโดนกดราคา หรือต้องเสียฟรี ดูชาเก้เป็นตัวอย่าง นักเตะดี ๆ เต็มทีม แต่ไม่ค่อยจะขายได้เงินเข้ากระเป๋า เสียนักเตะฟรี ๆ

บางครั้งแฟนบอลก็ดูเอาแต่ใจนะครับ

ก็เป็นธรรมดาของแฟนบอลล่ะ อย่างเราเห็นทีมรักมีลุ้นกับเค้าขึ้นมา แล้วทีมต้องมาขายนักเตะออกไป ก็เหมือนต้องกลับไปนับ 1 กันใหม่ เป็นแบบนี้ทุกปี ก็คงเบื่อ

ต้องถามแฟนบอลพวกอาแจก ปอโต้ เบนฟิก้าดูว่าทำใจยังไงกัน

กลไกตลาดธรรมดาเลย
ทีมไม่ได้ใหญ่พอจะรั้งนักเตะ เเบบนี้เเฟนดอร์ทมุนด์ อาเเจ็กซ์ เบนฟิก้า งี้ไม่อกเเตกตายเหรอ
ถ้าผลงานยังน่าพอใจในมาตรฐานทีม น่าจะเข้าใจได้นะครับ
มันไม่ใช่ว่าขายหากินจนฝืนวัฏจักรสโมสรฟุตบอล หรือจนทีมผลงานตกต่ำซะหน่อย

ขายโรเมโร่ ถ้าได้บ็อตแมน มาทดแทน ราคา ไม่สูงถือว่าคุ้มค่า

เศรษฐกิจแบบนี้ขายได้ราคานี้ ขายเถอะครับ

สำหรับผม ถ้าทีมขายแล้วเอามา พัฒนาสโมสร ค่อยๆ สร้างความแข็งแกร่งขึ้นไป เรื่อยๆ ผมเป็นกองเชียร์ผมไม่ว่าอะไรมากเลยนะ ยกเว้นขายตัวสำคัญจริงๆๆๆๆๆๆ หรือ ไม่ค่อยพยายามที่จะ รั้งนักเตะหรืออะไรเลย พอมีข้อเสนอ ดีๆแล้วขายหมด ไม่มีรั้งเลย อันนั้นแหละ ผมจะรู้สึกไม่ดีกับสโมสร

ยกแบบ เลสเตอร์ เค้าขายจริง แต่ขายแล้วมาทำสโมสรดีขึ้นเรื่อยๆ

หรือ นาโปลีในยุคที่พึ่งฟื้นจาก ส้มละลาย เค้าก็ทำแบบนี้ ทำจนมาถึงจุดนี้ได้

ขายได้กำไร3เท่า เป็นผมก็ขายนะแต่ต้องนำเงินที่ขายได้มาบริหารทีมให้ดีๆ

ก็ด้วยแนวทางนี้มาตลอดไม่ใช่หรอทีมถึงทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับตามขั้นตอน
เชื่อว่าระยะยาวยังไงมันก็มีแต่ดีขึ้นนะกราฟของทีมยังขึ้นเรื่อยๆด้วยแนวทางนี้ไม่เห็นจะต้องไปยึดติดตัวนักเตะ
ระบบการเล่นดีโค็ชมีแนวทางชัดเจนสอดคล้องกับบอร์ดบริหารยังไงก็ไปได้ยาวๆโปรเจคนี้

ถ้าได้ราคากำไรงามขาย1ไปงอกได้2-3ตัวยังไงก็ดีกว่า นักเตะสำรองจะได้แข็งแกร่งขึ้นพอทดแทนสลับลงถ้าจะสู้ทีมใหญ่ยืนระยะในลีค+เล่นหลายถ้วยจุดนี้คือข้อแตกต่างของทีมใหญ่กับเล็ก ยิ่งยุคนี้เปลี่ยนได้เกมละ5คนมันส่งผลกับแทคติคท้ายเกมมาก

ถึงจุดนึงที่ทีมการเงินแข็งแรงมั่นคงฟอไปฟัดทีมใหญ่ได้คงเลือกเก็บไว้สู้บ้างเองแหละสภาพทีมตอนนี้ยังไม่เหมาะเก็บสตาร์ไว้นานๆหรอก ก่อร่างสร้างตัวไปก่อนไม่เสียหายเลย

ทำทีมอย่างดีแต่โดนเหมือนกันเหรอเนี่ย เอาเถอะ ผมก็ไม่ใช่แฟนอตาลันต้าซะด้วย แต่จากผลงานและการบริหารผมให้ 9/10 เลย

คงต้องเรียกกลุ่มพวกนี้มาประชุมบ้าง นโยบายสโมสรจะได้รู้ด้วย เหมือนที่ดอร์ทมุนต์ก็ทำ

Moneyball ไม่ใช่เรื่องของการ "ซื้อถูกขายแพง" นะครับ

มันคือแนวทางการประเมินคุณค่าและมูลค่าของผู้เล่นจากตัวเลขสถิติยิบย่อย ที่ใช้คนละศาสตร์กับแนวทางการประเมินของแมวมองและทีมโค้ชแบบดั้งเดิมต่างหาก

FSG เอาแนวทางนี้บริหารทีมเบสบอล Boston Red Sox จนกลับมารุ่งเรืองได้ และเอามาใช้กับ Liverpool เพื่อช่วยในการประเมินนักเตะ ทำให้เห็นคุณค่าของนักเตะดี ๆ หลา่ยคนที่ราคาตลาดไม่สูง เลยทำให้หลายเคสดูเหมือนซื้อถูกก็จริง

แต่นักเตะอย่าง Salah, VvD, Alisson นี่ซื้อด้วยราคาแรงมากนะครับ แต่คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เพราะแนวทาง Moneyball คงประเมินมูลค่าไว้สูงกว่าราคาที่จ่ายอีก

ขณะเดียวกันก็ใช้ตัวเลขสิถิติต่าง ๆ ที่คนมองข้าม ในการจูงใจหว่านล้อมให้ผู้ซื้อเห็นข้อเท็จจริง และยอมจ่ายค่าตัวนักเตะของทีมแพงกว่าที่คนทั่วไปประเมิน เลยดูเหมือนบางเคสขายได้แพงเท่านั้นเอง