เล่าประสบกาารณ์สาวต่างชาติ (จีน) EP.3 สุดท้าย
สวัสดีครับเพื่อนๆ ขอโทษที่ทำให้รอครับ เนื่องจากเครียดมากๆผลตรวจเพิ่งมาออกเมื่อวานตรวจไปตั้ง 3 วัน เพิ่งมาออกประสาทจะกินไม่ได้ทำไรเลยครับ ตอนแรกจะโพสต์ตั้งแต่เมื่่อวานแต่เพลียๆ ด้วยอากาศฝนตกเกือบทั้งวัันเลยนอนไป วันนี้ก็ตกทั้งวันแต่ไม่อยากผลัดวันประกันพรุ่งเลยมาต่อให้จบครับ
สำหรับใครไม่ทัน
อันนี้คือ Ep.1
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2024473/1
อันนี้ Ep.2
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2024832/1/#45490864
สำหรับสาวจีนคนนี้มีแค่ 3 ตอนนะครับ
Spoil
โอเคครับ มาต่อ ตอน 3 ตอนสุดท้ายครับ
ต้องบอกว่าหลังจากที่เธอกลับจีนไป ก็มี Whatapp คุยกันบ้างสัปดาห์ละครั้ง 2 ครั้ง แค่ถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไป ไม่มีอะไรครับ
คือก็ต้องบอกว่าช่วงที่เธอมาเที่ยวที่ไทยเนี่ยมันคือช่วงตุลาคมครับ คราวนี้ก็เริ่มจะเข้าปลายปี แต่ละคนก็เริ่มวางแผนเที่ยวปีหน้า
ด้านผมเองก็มีแพลนไปญี่ปุ่นคนเดียวครับจองไว้ 9วัน 8คืน (ช่วงเดือนกุมภาพันธ์) ซึ่งตอนนั้นไปคนเดียวเลยครับเอามัน เนื่องจากตอนนั้นตั๋วมันถูกมาก ผมจองเวียดนามแอร์ไลน์ไป ราคาประมาณ 86xx เองเวลาก็ดีครับ ออกจากไทย 19.15 ไปถึงเวียดนามประมาณ 4 ทุ่ม รอต่อเครื่อง แปปเดียวก็ไปต่อละ ไปถึงญี่ปุ่นเช้าพอดี เสียแค่ช่วงกลับมาจากญี่ปุ่นมันเช้ามาก 10 โมง ซึ่งคืนสุดท้ายเลยไปนอนสนามบินครับ
หลังจากจัดกาารจองวางแผนอะไรเรียบร้อยเสร็จ ก็คุยกันเล่นๆว่าเนี่ยผมไปญี่ปุ่น เรามาเจอกันมั้ยอะไรงี้ เธอก็บอกว่าเนี่ยจะไปเหมือนกันพอดี แต่เ้ป็นแฟมิลี่ทริปนะ ไปโอซาก้ากับที่บ้าน (ผมไปโตเกียว) เลยถามประมาณว่าเราจะได้เจอกันมั้ย ไรยังไง เธอก็บอกเดี๋ยวๆๆขอดูหาวิธีไป 5555
ตัดมาที่ญี่ปุ่นเลยนะครับ คุยๆไปมาๆ เธอบอกพ่อแม่ว่าจะมาโตเกียวคืนนึง เพราะเธอบอกว่าอยากมาโตเกียว เคยมาญี่ปุ่นรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 มาแค่ 2 ที่คือโอซาก้า กับ โอกินาว่า พ่อแม่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอบอกว่าเดี๋ยวนั่งชินคันเซ็นไปหาให้ผมรออูเอโนะ จำไม่ได้ว่าเธอมาถึงกี่โมงน่าจะประมาณบ่ายโมงมั้ง
ระหว่างนั้นที่คุยคือเธอจะนอนกับผมคืนนึงให้ผมจัดการที่พักอะไรเลย ผมก็เอาไงดีวะเพราะผมมาหลายคืนผมไม่ได้พักโรงแรมเลยนอนโฮสเทลล้วนๆ จ่ายไปยาวๆ เลยคิดอะไรแผลงๆบอกลองนอน เลิฟโฮเทลดูมั้ย เธอเลยบอกเอาดิน่าสนุก 55555
ทำไปทำมาสรุปผมไม่กล้าจองนอนที่เลิฟโฮเทลหรอกครับ คือเข้าไปแล้วมันเป็นภาษาญี่ปุ่นหมด เลยไม่กล้าบวกกับตอนนั้นยังไม่ค่อยมีใครให้ข้อมูลเกี่ยวกับพวกเลิฟโฮเทลมากนักเลยกลัว เลยจองโรงแรมแถวอาซากุสะที่ชั้นล่างเป็น แฟมิลี่มาร์ทนอนแทน
แต่จนแล้วจนรอดก็ลองดูครับ เข้าไปปุ๊บมันเป็นหน้าจอแสดงผลห้องไหนว่างไม่ว่าง ก็กดดูได้เลยครับ พอปุ่มก็จะมีการ์ดออกมา ให้เรานำการ์ดนั้นไปแลกกับกุญแจห้องที่ฟรอนท์ สังเกตุคือห้องเต็มเกือบหมด พอเดินไปที่ฟร้อนท์จะเป็นกระจกกั้นเราจะมองไม่เห็นเค้าครับ แต่เค้าจะเห็นเราก็บอกว่าไม่ใช่ญี่ปุ่นนะ พูดอังกฤษได้มั้ย เค้าก้อโต้ตอบกลับมาว่าจะพักแบบไหน ค้างคืนหรือชั่วคราว ก็ตอบชั่วคราวไป
ห้องที่ผมเลือก เนื่องจากจำนวนเหลือไม่มาก ก็เป็นเตียงปกติครับ มีอ่างแช่ในห้องเลยไม่ได้อยู่ในห้องน้ำ อุปกรณ์ต่างๆครบมาก 555555
ถึงห้องเลยไม่ทำไรแล้วบอกเวลาน้อยนะ Kiss ไปก่อนเลยครับ แล้วก็ชวนกันไปอาบน้ำ เสร็จก็ทำตามสเต็ปเดิมในอ่างเลยครับ จับยกกินบนขอบอ่างเหมือนเดิม แต่ที่พิเศษไปอย่างที่บอกมีอุปกรณ์พวกเครื่องนวด(มั้ง) เหมือนที่เราเคยเห้นในหนังผู้ใหญ่กันมา ผมก็ลองเอามาใช้บ้างกับเธอ ตอนทำท่าเบสิคอ่ะนะครับ ทำไปทำมาเธอแอบกระตุก 3-4 รอบ เลยถามความรู้สึกเปนไง เธอบอกแค่อย่าหยุดๆทำให้เสร็จก่อน จนเสร็จเลยมาถามเธออีกทีว่า How do you feel? เธอก็บอกมันจั๊กกะจี๊หรือเสียวแปลกๆๆ แต่เธอก็ไม่เคยใช้มาก่อนพอมาเจอใช้ครั้งแรกแล้วชอบเลย 555555
เสร็จกิจไปประมาณ 3 รอบ ใน 2 ชม ก็กลับมาเดินเล่นกันแถวอูเอโนะ เธอบอกที่นี้ขึ้นชื่อไม่เคยมาสักที ก็เดินๆเอาจริงก็ไม่ค่อยมีไรมากนัก เลยบอกพรุ่งนี้เดี๋ยวไปเดินชิบูย่าไรกันดีกว่า วันนี้ไม่อยากทำไรแล้วอยาาก ... อย่างเดียว ผมเลยชวนเธอไปนั่งกิน Isomaru อากาศหนาวๆต้องปิ้งย่างกับเบียร์ครับ ได้บรรยาากาศดีมากๆ กินอิ่มบวกเบียร์คนละประมาณ 3 แก้วได้ กลับไปที่พักที่อาซากุสะ (ขึ้นใต้ดินมาเพิ่งเห็นว่าา อาซากุสะ ก็มี Isomaru ไม่น่าเลยตรู) เสร็จก็เข้าที่พักครับ เริ่มหนาวแล้ว
ไปถึงก็อาบน้ำกันครับ แล้วก็จัดกันอีกรอบเปิดด้วย six nine จบด้วย ท่าอุ้มครับ เสร็จก็นอนแก้ผ้าอยุ่ด้วยกันเนี่ยละครับ เพราะมันไม่หนาวพออยุ่ในห้อง ฮีทเตอร์มันร้อนเลยแหละ สักประมาณตี1กว่าๆเลยชวนกันไปดองกี้ครับ ดูจากแมพมันไม่ไกล ไปถึงโอ้โหเจอแต่คนไทยครับ ตี1 ดองกี้อาสากุซะ คนไทยเสียงแจ้วๆๆเลย 55555555555555
ตัดกลับมาเช้าก่อนจากกัน ก็เลยจัดการทุกท่วงท่าเธอจะได้ไม่ลืมชายไทยคนนี้ 555 เสร็จจากนั้นก็เช็คเอ้าออกมาครับ ทีนี้เธอบอกว่าเดี๋ยวต้องกลับเลยเหมือนพ่อกับแม่จะตามละ ผมยอมรับครับว่าน้ำตาซึมๆเลย เพราะตอนมาเที่ยวไม่ได้คิดจะเจออยู่แล้ว แต่อยู่ดีๆคุยไปทำมาก็ดันมาเจอกันอีก เธอก็ตาแดงๆ บอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องคิดมาก ไว้มาเซี้ยงไฮ้ ก็จะมาผมเที่ยวบ้าง ผมก็ไปส่งเธอที่อูเอโนะครับ แยกย้ายกันไป
จากนั้นจริงๆมันไม่ได้มีกำหนดหรือเกณฑ์ความสัมพันธ์ใดๆอยู่แล้วอ่ะครับ ก็ห่างๆไป มีพูดคุยกันบ้างก็เมื่อตอนโควิดนี่เองที่ถามว่าทางจีนเป็นไงมาไงบ้าง เธอก็บอกเฉยๆ เหมือนเซี้ยงไฮ้มันค่อนข้างจะมีการจัดการที่ดีอะไรทำนองนั้น แล้วก็ถามว่าที่ไทยเป็นไงบ้างโน้นนี้นั้น บอกอยากมาเชียงใหม่อีก ประมานนั้นครับ
ก็ขอบคุณมากครับที่ติดตามครับ อันนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ ไม่ได้เติมแต่งอะไรเข้าไป นึกอันไหนได้ก็นึก คือมันนานมากแล้ว พอดีกักตัว มันว่างทั้งเครียดทั้งฟุ้งซ่านเลยอยากทำอะไรสักอย่างให้มีสมาธิกับตัวเองหน่อยเลยมานั้งแชร์ประสบการณ์ตรงนี้ให้ฟังครับ
ปล.จริงๆที่ญี่ปุ่น ผมมีอีกเรื่องนะครับ เป็นสาวเกาหลีที่โฮสเทลเนี่ยละ ไว้เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ ขอบคุณมากๆครับ